บทที่ 681 บัตรเชิญ
พิธีเฉลิมฉลองดำเนินไปเกือบสามชั่วโมง จนกระทั่งนกพิราบสันติภาพจำนวน 70,000 ตัวบินขึ้นท้องฟ้า และบอลลูนสีสันสดใสจำนวนเท่ากันลอยขึ้นสู่ฟ้า พิธีก็จบลงอย่างสมบูรณ์
หลังจากบรรดาผู้นำออกจากสถานที่ ก็เข้าสู่ช่วงการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างคึกคัก ถังหยวนในฐานะผู้นำขบวน *ชาวจีน* ได้ถ่ายรูปกับคนในขบวนของเขาก่อน จากนั้นเขาก็ถ่ายรูปร่วมกับโฮ่วเจิ้งกังและเพื่อนๆ
เดิมทีเขาต้องการถ่ายรูปกับขบวนสวนสนามทหารด้วย แต่หลังจากพิธีจบลง ขบวนสวนสนามเหล่านั้นก็ทยอยออกจากสถานที่อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ถังหยวนพลาดโอกาสในการถ่ายรูปกับพวกเขา ซึ่งเขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เวลาก็ล่วงเข้าสองโมงเย็นแล้ว เขาจึงกลับไปที่โรงแรม พักผ่อนกับซูฉู่ฉู่สักสองสามชั่วโมง ก่อนจะออกไปทานอาหารค่ำร่วมกัน และเตรียมตัวออกไปข้างนอกอีกครั้งในชุดทางการ
ก่อนออกจากโรงแรม ถังหยวนเห็นเซียวหยาเยว่ยืนรออยู่ที่ล็อบบี้
“นี่ไง...”
“ตามที่คุณขอ ฉันเตรียมบัตรเชิญให้แล้ว”
เซียวหยาเยว่ยื่นบัตรเชิญจำนวนมากที่ทำขึ้นอย่างปราณีตมาให้ถังหยวน ซึ่งมีประมาณยี่สิบใบได้
ถังหยวนรับบัตรเชิญมา และเปิดตรวจสอบหนึ่งใบ หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อผิดพลาด เขาพยักหน้าเบาๆ “เรื่องอื่นชะลอไปก่อน สองสามวันนี้จัดการเรื่องนี้เป็นสำคัญ”
“รับทราบค่ะ”
เซียวหยาเยว่ยพยักหน้า เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ถังหยวนจะไม่บอก เธอก็จะไม่ปล่อยให้มีอะไรผิดพลาด
“อืม...”
“ฉันไปก่อนนะ”
ถังหยวนดูเวลาแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินขึ้นรถที่มีสยงไคและหยวนเหมิงคอยดูแล และออกเดินทางไปยังเทียนอันเหมินอีกครั้ง
...
ยี่สิบนาทีต่อมา
ถังหยวนผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดหลายชั้น และในที่สุดก็ได้ขึ้นไปบนระเบียงของประตูเทียนอันเหมิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเขาไปยังพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับเขา
ที่นั่นเขาเห็นหลายคนที่คุ้นเคย ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำที่เคยร่วมโต๊ะกับเขาในงานเลี้ยงต้อนรับเมื่อวันก่อน เช่น เหรินแห่ง Huawei, เล่ยแห่ง Xiaomi, หลี่แห่ง Baidu และจางแห่ง ByteDance
ถังหยวนมองไปรอบๆ จนสายตาไปหยุดที่หม่าแห่ง Tencent และหลิวเจิ้งเฉียงแห่ง JD ที่กำลังพูดคุยกัน
ทั้งคู่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ใกล้ชิดกัน และถังหยวนเคยมีโอกาสคุยกับคุณหม่ามาก่อนหน้านี้ในงานเลี้ยง เขารู้สึกว่าตนเองพอจะคุ้นเคยกับเขาอยู่บ้าง จึงเดินตรงเข้าไปหาทั้งสองคนพร้อมกับบัตรเชิญในมือ
แน่นอนว่าถังหยวนไม่ใช่คนที่บุ่มบ่าม เขาเลือกช่วงจังหวะที่ทั้งสองคนคุยกันเสร็จและหาจังหวะที่เหมาะสมในการแทรกตัวเข้าไป
“สวัสดีครับ คุณหม่า คุณหลิว เราพบกันอีกแล้ว”
ถังหยวนยิ้มอย่างเป็นกันเองเมื่อเดินเข้าไปทักทายทั้งสอง
“โอ้!”
“คุณถัง?”
“ทำไมมาช้าจังครับ?”
คุณหม่าหันมามองและยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ทักทายคือถังหยวน เขาตอบอย่างคุ้นเคย
“การจราจรติดขัดครับ เสียเวลาไปพอสมควร”
“แถมการตรวจสอบที่นี่เข้มงวดมากจนเกือบให้ถอดเสื้อเลยทีเดียว”
ถังหยวนตอบพลางหัวเราะ
หลิวเจิ้งเฉียงซึ่งเคยเจอถังหยวนเพียงครั้งเดียวในงานเลี้ยงวันก่อน ยิ้มพยักหน้าอย่างสุภาพ ขณะที่ถังหยวนก็ตอบรับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“ก็เป็นเรื่องปกติครับ วันนี้เป็นงานพิเศษ การตรวจสอบก็ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ”
คุณหม่าหัวเราะตอบอย่างเป็นกันเอง
พวกเขาพูดคุยสั้นๆ พอสมควร ก่อนที่ถังหยวนจะเห็นว่าได้เวลาที่เหมาะสม เขาหยิบบัตรเชิญสองใบจากกองในมือแล้วยื่นให้คุณหม่าและหลิวเจิ้งเฉียง พร้อมกับยิ้มพูดว่า “คุณหม่า คุณหลิว วันที่ 3 ตุลาคมนี้ เวลา 1 ทุ่ม ผมจะจัดเลี้ยงที่ Jing Langyuan ถ้าทั้งสองท่านมีเวลา ผมขอเชิญไปร่วมด้วย”
ถังหยวนบอกวันและเวลาชัดเจน แต่ไม่ได้บอกเหตุผลของการเชิญ ซึ่งปกติแล้วการเชิญคนมาร่วมงานจะต้องบอกเหตุผลด้วย แต่ถังหยวนกลับไม่พูดถึงเลย
หรือว่าเขาลืม?
คุณหม่าที่เคยคุยกับถังหยวน และจากสิ่งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับถังหยวน คิดว่าโอกาสที่ถังหยวนจะลืมบอกเหตุผลนั้นน้อยมาก ดังนั้นคำตอบที่เป็นไปได้คือ ถังหยวนตั้งใจที่จะไม่บอกเหตุผล
ในขณะเดียวกัน คุณหม่าและหลิวเจิ้งเฉียงก็สังเกตเห็นว่าถังหยวนยังมีบัตรเชิญอีกหลายใบในมือ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ได้รับเชิญไม่ได้มีแค่พวกเขา แต่ยังรวมถึงนักธุรกิจชั้นนำคนอื่นๆ เช่น เหริน หลี่ และจางด้วย
ถังหยวนต้องการอะไรกันแน่?
เชิญบุคคลสำคัญหลายคนมาพร้อมกัน หรือแค่ต้องการกระชับความสัมพันธ์?
นั่นดูไม่น่าเป็นไปได้
แม้ถังหยวนจะมีฐานะสูงส่งในปัจจุบัน แต่ผู้ที่ได้รับเชิญทุกคนล้วนเป็นนักธุรกิจชั้นนำที่มีอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับพวกเขาเวลาเป็นเงินเป็นทอง หากการจัดงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นเพียงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ อาจมีเพียงไม่กี่คนที่ไปร่วมงาน และหากมีคนไปร่วม พวกเขาก็คงไปเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่าง
คุณหม่าและหลิวเจิ้งเฉียงซึ่งผ่านประสบการณ์มากมายในวงการธุรกิจ สามารถคิดได้รวดเร็วมาก และแม้ในใจจะมีความคิดหลายอย่าง แต่ภายนอกพวกเขาก็ยังคงนิ่งสงบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ตกลงครับ ถ้าผมมีเวลา จะไปร่วมแน่นอน”
คุณหม่าตอบรับด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
“ถ้ามีเวลา ผมจะไปแน่นอน”
หลิวเจิ้งเฉียงก็รับบัตรเชิญและตอบรับเช่นกัน
เมื่อถังหยวนได้ยิน เขายิ้มกว้างขึ้น “ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมจะไม่รบกวนพวกท่านแล้วนะครับ ผมยังต้องไปแจกบัตรเชิญให้ท่านอื่นต่อ”
“เสร็จแล้วมาคุยกันนะ”
“ได้ครับ”
ทั้งสองฝ่ายยิ้มให้กันอีกครั้ง ก่อนที่ถังหยวนจะเดินไปทางคุณเหริน
คุณหม่าและหลิวเจิ้งเฉียงมองตามหลังถังหยวนไป แล้วหันกลับมามองหน้ากัน
“คุณหม่า คิดว่ายังไงกับบัตรเชิญนี้?”
หลิวเจิ้งเฉียงถามอย่างสงสัย
“คุณถังยังหนุ่ม แต่ทำงานรอบคอบเสมอ”
คุณหม่ามองไปทางถังหยวนอีกครั้งขณะที่เขากำลังคุยกับคุณเหริน ก่อนจะเปิดบัตรเชิญพลางหัวเราะเบาๆ “ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเขามีแผนอะไรอยู่ในมือ...”