ตอนที่แล้วบทที่ 676  วีรชนประชาชน นิรันดร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 678 การเริ่มต้นของพิธีเฉลิมฉลอง

บทที่ 677  กลไกการเข้าร่วมใหม่


"อ๋อ นายหมายถึงแบบนี้นี่เอง"

โฮ่วเจิ้งกังรู้สึกเขินเล็กน้อย เพราะรู้ตัวว่าตนเองเข้าใจผิดไปหน่อย จึงถามถังหยวนต่อว่า "แล้วมีวิธีอื่นอะไรอีกที่จะเข้าร่วมคลับของนายได้บ้าง?"

"พี่โฮ่ว เร็วๆ นี้ทางคลับ SSTP ของเรามีแผนจะจัดตั้งมูลนิธิการกุศลขึ้นในนามของ SSTP เพื่อดำเนินกิจกรรมการกุศลทั้งในระดับประเทศและระดับโลก"

"นี่เป็นข้อมูลภายใน ยังไม่ได้เผยแพร่สู่ภายนอก แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอย่างเป็นระเบียบ คาดว่าจะเสร็จสิ้นและเป็นรูปเป็นร่างภายในสิ้นปีนี้"

"ถ้าพี่โฮ่วและพี่สะใภ้อยากเข้าร่วมคลับเพื่อเป็นกรรมการ อาจจะเริ่มต้นจากการเข้าร่วมมูลนิธิการกุศลของเราได้"

ถังหยวนวางตะเกียบลง พร้อมกล่าวอย่างจริงจังกับโฮ่วเจิ้งกังและกัวจิงจิง

"บริจาคเงิน?"

โฮ่วเจิ้งกังคิดครู่หนึ่งแล้วถามอย่างสงสัย

ถังหยวนพยักหน้า "หลังจากที่มูลนิธิการกุศลก่อตั้งเสร็จแล้ว เราจะเปิดกลไกการเข้าร่วมใหม่ 2 แบบ โดยแบบหนึ่งจะเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการสถานะกรรมการของคลับ เงื่อนไขว่าผู้สมัครต้องมีทรัพย์สินรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านหยวนยังคงอยู่ แต่เงื่อนไขเดิมที่ว่าต้องมีซูเปอร์คาร์อย่างน้อย 4 คันมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่าหลายสิบล้าน จะถูกเปลี่ยนเป็นการบริจาคเงิน 8 ล้านหยวนแทน"

"แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ใครก็เข้าร่วมได้ถ้าจ่ายเงิน 8 ล้านหยวน ยังมีเงื่อนไขว่าผู้สมัครต้องได้รับการอนุมัติจากผมและสมาชิกคณะกรรมการครึ่งหนึ่งขึ้นไปก่อน"

การเปิดกลไกการเข้าร่วมใหม่เป็นสิ่งที่ถังหยวนคิดไว้นานแล้ว อีกทั้งข้อเสนอจากเหยาเล่ยและหลินจื่อหยางในการจัดตั้งมูลนิธิการกุศลร่วมกับคลับ SSTP นั้นก็ตรงกับความคิดของเขาพอดี

การสะสมรถซูเปอร์คาร์เป็นงานอดิเรกที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม มักเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นหนุ่มสาวที่อายุต่ำกว่า 35 ปี แต่เมื่อถังหยวนมีอิทธิพลและเครือข่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มคนที่เขามีปฏิสัมพันธ์ด้วยก็มักเป็นผู้สูงอายุเสียมากกว่า

แม้ถังหยวนอยากให้คนเหล่านี้เข้าร่วมคลับ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องซูเปอร์คาร์ และไม่ได้มีความสามารถที่จะสนใจได้อีกแล้ว คนหนุ่มอาจจะขับรถซูเปอร์คาร์ด้วยความตื่นเต้น แต่สำหรับคนที่อายุมากแล้ว คงไม่สามารถทำได้แบบนั้น

เงื่อนไขที่ว่าต้องมีซูเปอร์คาร์สี่คันมูลค่ามหาศาลนั้น ทำให้คนชั้นสูงที่มีอายุมากไม่สามารถเข้าร่วมคลับได้ จึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ถังหยวนรู้สึกลำบากใจ

ด้านหนึ่งเขาต้องการเปิดโอกาสให้คนกลุ่มใหม่ๆ เข้าร่วม แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็ต้องรักษาสิทธิ์ของสมาชิกเดิมไว้ด้วย ตามที่โฮ่วเจิ้งกังกล่าว "กฎก็คือกฎ" หากถังหยวนในฐานะประธานคลับเป็นคนทำลายกฎเอง นั่นจะทำให้กลไกของคลับพังทลาย และความรู้สึกเป็นเกียรติของคณะกรรมการจะหายไปทันที

แต่ปัญหานี้ก็ได้พบทางแก้เมื่อมีการจัดตั้งมูลนิธิการกุศลขึ้น

แม้ว่ามูลนิธินี้จะก่อตั้งขึ้นในนามของคลับ SSTP แต่มันถือเป็นองค์กรใหม่ การบริจาค 8 ล้านหยวนจะทำให้ได้รับสถานะกรรมการของมูลนิธิ ซึ่งโดยทางอ้อมหมายถึงการได้รับสถานะกรรมการของคลับ SSTP ด้วยเช่นกัน

ด้วยวิธีนี้ ปัญหาที่ทำให้ถังหยวนหนักใจก็ได้ถูกแก้ไขไป

ในอนาคต ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมไม่จำเป็นต้องกังวลกับการใช้เงินหลายสิบล้านหยวนเพื่อซื้อรถซูเปอร์คาร์ที่อาจไม่เคยใช้งานอีกต่อไป

แน่นอนว่า การบริจาค 8 ล้านหยวนเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อย และสำหรับคนที่ร่ำรวยทั่วไปอาจจะไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขนาดนี้

แต่การที่ถังหยวนเปิดช่องทางนี้ขึ้นมา ไม่ได้มีไว้สำหรับคนร่ำรวยทั่วไป หากแม้ 8 ล้านหยวนยังไม่กล้าจ่าย เขาก็ไม่คู่ควรที่จะเข้าร่วมคลับนี้

กลไกการเข้าร่วมทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป

สำหรับวิธีแรก ผู้สมัครต้องมีซูเปอร์คาร์สี่คันที่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านหยวน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อาจเพิ่มมูลค่าขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ตามกฎของคลับ ผู้ที่เป็นกรรมการต้องมีรถซูเปอร์คาร์อย่างน้อยสองคันอยู่ที่คลับตลอดเวลา ราวกับเป็นการวางประกัน ถ้าจะขายก็ต้องยอมเสียสถานะกรรมการไปด้วย

เงื่อนไขนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่รักและสะสมซูเปอร์คาร์ แต่สำหรับคนที่ไม่สนใจซูเปอร์คาร์ เช่นโฮ่วเจิ้งกัง เงื่อนไขนี้ถือว่าค่อนข้างเข้มงวด เพราะเท่ากับว่าทรัพย์สินกว่า 20 ล้านหยวนต้องถูกล็อกไว้ที่นี่ตลอดเวลา

ในทางกลับกัน การบริจาค 8 ล้านหยวนเพียงครั้งเดียวทำให้สามารถเข้าร่วมได้ง่ายขึ้น แถมยังได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสังคมอีกด้วย ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาทั้งสองทาง

ถังหยวนอธิบายข้อดีข้อเสียของกลไกการเข้าร่วมทั้งสองแบบให้โฮ่วเจิ้งกังฟัง แต่ไม่ได้กดดันให้เลือกแบบใดแบบหนึ่ง

"อืม..."

"หลังจากคุยกับพี่สะใภ้แล้ว เราคิดว่าวิธีที่สองเหมาะสมกว่า เราจะบริจาค 16 ล้านหยวนเพื่อให้ได้สิทธิ์เป็นกรรมการของคลับ" โฮ่วเจิ้งกังพูดหลังจากปรึกษากับกัวจิงจิง

"ตกลงครับ" ถังหยวนยิ้มและตอบกลับ "ในเมื่อพี่เลือกวิธีที่สอง พี่ก็ไม่ต้องรีบไปจงไห่ เพราะมูลนิธิยังไม่ได้ก่อตั้ง ต้องรออีกประมาณสองเดือนครับ"

"ไม่มีปัญหา งั้นหลังวันชาติเราจะบินกลับฮ่องกง รอจนมูลนิธิก่อตั้งเมื่อไหร่ ผมกับพี่สะใภ้จะไปร่วมงานเปิดตัว"

"พี่โฮ่ว ผมขอแก้ไขนิดนึง"

"จากนี้ไป มันคือ 'คลับของเรา' แล้วนะครับ" ถังหยวนยิ้มอย่างสดใส

โฮ่วเจิ้งกังชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะหัวเราะออกมาดังลั่น...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด