บทที่ 35 : ราชวงศ์เทียนหยุน
บทที่ 35 : ราชวงศ์เทียนหยุน
เวลาห้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ข่าวของนิกายหลางหยาเทียนจงถูกทำลายในที่สุดก็แพร่กระจายออกไป
ในตอนแรก ข่าวนี้สร้างความตกใจในหลายมณฑลใกล้กับนิกายหลางหยาเทียนจงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อศิษย์ที่หลบหนีจากนิกายหลางหยาเทียนจงไปยังที่ต่างๆ ก็ทวีการแพร่กระจายข่าวออกไป
ข่าวการกวาดล้างของนิกายหลางหยาเทียนจง, ในที่สุดก็เป็นที่รู้จักของกองกำลังอื่นๆมากขึ้นเช่นกัน
มีแม้กระทั่งรายละเอียดจากศิษย์ที่หลบหนีไปหลายคน, เเละมันทำให้ชื่อของลู่ชิงซวนกับรายละเอียดของการต่อสู้เป็นที่รู้จักในกองกำลังอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสียงของคฤหาสน์ราชาลู่รวมถึงลู่ชิงซวนก็โด่งดังไปหลายมณฑล
อย่างที่รู้กันว่านิกายหลางหยาเทียนจงก็เป็นนิกายที่ทรงพลังในราชวงศ์เทียนหยุน แต่นิกายที่ทรงพลังเช่นนี้กลับถูกทำลายโดยผู้นำตระกูลจากคฤหาสน์อ๋องธรรมดาๆ…สิ่งนี้จะไม่ทำให้ทุกคนตกใจได้อย่างไร
"ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? ว่ากันว่านิกายหลางหยาเทียนจงมีผู้แข็งแกร่งในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณคอยดูแลอยู่ แล้วผู้นำตระกูลลู่ถึงมีพลังพอที่จะฆ่าพวกเขาได้อย่างไร?"
"ฮ่าฮ่า... ลูกพี่ลูกน้องของข้าหนีรอดมาจากนิกายหลางหยาเทียนจง เขาเห็นกับตาตัวเองว่าผู้นำตระกูลลู่ทรงพลังและเกรียงไกรดุจเทพเจ้า ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณจากนิกายหลางหยาเทียนจงถูกสังหารในพริบตา แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหมดก็ถูกสังหารโดยผู้นำตระกูลผู้นั้น!"
"โอ้โห... ดูเหมือนว่าคฤหาสน์ราชาลู่กำลังข้ามผ่านนิกายหลางหยาเทียนจงเพื่อขึ้นไปอยู่จุดที่สูงกว่าได้เเล้ว!"
"คฤหาสน์ราชาลู่แห่งนี้ก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยในเมืองระดับมณฑล แต่ตอนนี้ข้าเกรงว่ามันจะโด่งดังไปทั่วราชวงศ์เทียนหยุนเสียแล้ว!"
เมื่อมีผู้ฝึกตนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่พูดคุยกันเรื่องนี้
ข่าวการทำลายล้างนิกายหลางหยาเทียนจงก็แพร่กระจายไปทั่วราชวงศ์เทียนหยุนราวกับติดปีก
…
ณ คฤหาสน์นายอำเภอ
หลังจากที่หยางซวนทราบข่าวว่านิกายหลางหยาเทียนจงถูกทำลายโดยลู่ชิงซวน, เขาก็แสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
"ทำลายนิกายหลางหยาเทียนจงด้วยตัวคนเดียว?"
"ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลลู่จะไม่ธรรมดาจริงๆ"
หยางซวนเก็บแผ่นหยกข้อมูลที่เขาได้รับไว้ในมือและหรี่ตาลงเล็กน้อย
"แต่โชคดีที่คฤหาสน์นายอำเภอของข้าไม่เคยมีความแค้นกับคฤหาสน์ราชาลู่ มิฉะนั้นคงต้องถูกชำระแค้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!"
"ตอนนี้, ข้าไม่รู้ว่าคฤหาสน์อ๋องจิงที่มีความบาดหมางกับคฤหาสน์ราชาลู่ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร?"
เมื่อเขานึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาของหยางซวนก็แสดงท่าทีรอดูละครฉากใหม่อย่างนึกสนุก
…
ณ เมืองหลิงหยุน
เมืองหลวงที่เป็นที่พำนักของอ๋องจิง
อ๋องจิง, หลิงซือหยวน ก็ตกใจเช่นกันเมื่อได้ยินข่าวที่บุตรชายเพิ่งรายงานมา
"โอ้ ทำลายนิกายหลางหยาเทียนจงด้วยตัวคนเดียว!?"
"ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลลู่คนใหม่จะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่มา!"
"มิฉะนั้น พลังของลู่ชิงซวนเพียงลำพังจะเพียงพอที่จะทำลายนิกายหลางหยาเทียนจงได้อย่างไร!"
หลังฟังการวิเคราะห์ของบิดา หลิงเฉินยืนที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นว่า
"ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าก่อนที่ตระกูลใหญ่สามตระกูลในมณฑลเป่ยเหอจะถูกทำลายโดยคฤหาสน์ราชาลู่ ลู่ชิงซวนอาจจะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่บางอย่างมา…มิฉะนั้น พลังของเขาจะพัฒนาได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร!"
หลิงซือหยวนพยักหน้าเเละไม่ปฏิเสธความเห็นของบุตรชาย
มิฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายการผงาดขึ้นอย่างรวดเร็วของลู่ชิงซวน
"ท่านพ่อ แม้ว่าคฤหาสน์อ๋องจิงของเราจะไม่ได้ล่วงเกินคฤหาสน์ราชาลู่โดยตรง แต่ตระกูลใหญ่สามตระกูลที่เป็นของคฤหาสน์อ๋องของเราก็ได้สังหารคนในคฤหาสน์ราชาลู่ไปบ้างเเล้ใ…ข้าคิดว่าคฤหาสน์ราชาลู่คงจะผูกใจเจ็บคฤหาสน์อ๋องจิงของเราเข้าแล้ว"
"ตอนนี้คฤหาสน์ราชาลู่กำลังโด่งดัง, เราในฐานะราชวงศ์ควรจะสร้างมิตรภาพที่ดีและส่งคนไปมอบของกำนันหรือไม่..."
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หลิงเฉินจะพูดจบ หลิงซือหยวนก็ขัดจังหวะเสียก่อน
"ฮึ่ม มอบของขวัญให้กับคฤหาสน์ราชาลู่ เขาเป็นแค่คฤหาสน์อ๋องระดับมณฑล, เจ้าจะให้ข้าที่มีฐานะสูงกว่ามอบของขวัญให้เขางั้นรึ!"
"เมื่อคฤหาสน์ราชาลู่สังหารตระกูลใหญ่สามตระกูล ข้าไม่ได้ตำหนิคฤหาสน์ราชาลู่เพราะเห็นแก่แม่นางซีเยว่…นี่ก็ถือว่าข้าเมตตาเขาแล้ว!"
"แล้วต่อให้คฤหาสน์ราชาลู่ของเขาจะเกลียดคฤหาสน์อ๋องจิงของข้า? เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้ากลัวคฤหาสน์ราชาลู่!?"
"ลู่ชิงซวนเติบโตอย่างรวดเร็ว ใครๆ ที่สนใจก็คงจะเดาได้ว่าเขาได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ แม้แต่ผู้เฒ่าที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังวังหลวงก็อาจจะเดาได้"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และถามอย่างสงสัย
"ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดถึงผู้อาวุโสที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาหยินหลงหรือ?"
หลิงซือหยวนพยักหน้ารับ
"ผู้เฒ่าเหล่านั้นคือผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์เทียนหยุน, แม้แต่พี่ชายของข้าก็ไม่สามารถขัดขืนความประสงค์ของพวกเขาได้"
"จากที่ข้ารู้จักเกี่ยวกับผู้เฒ่าเหล่านั้น พวกเขาจะต้องสืบสวนลู่ชิงซวนและคฤหาสน์ราชาลู่ทั้งหมดอย่างละเอียด…เราแค่รอเฉยๆก็พอ"
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนและจากไป
…
ขณะเดียวกันในวังหลวง
ณ อาคารดวงดาว
ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีทองแขนกว้างกำลังเล่นหมากรุกกับชายชราผมขาวไว้หนวดเครา
ชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิงมู่เฟิง จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของราชวงศ์เทียนหยุน(ราชวงศ์เมฆาสวรรค์)
ส่วนชายชราที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาคือ อี้เซวียนจี นักปราชญ์แห่งหอคอยจ๋ายซิง
หลิงมู่เฟิงถือหมากรุกสีดำในมือ ก่อนที่จะวางลงแล้วพูดว่า
"ท่านอี้ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าด้วยดวงดาวสีม่วงสว่างไสวทางเหนือของหลิงหยุน…มันมีโอกาสสูงที่จะเกิดอัจฉริยะมังกรที่แท้จริง ตอนนี้ท่านบอกได้ไหมว่านั่นคือลู่ชิงซวน?"
อี้เซวียนจีบีบหมากขาวด้วยมือของเขาแล้วยิ้มตอบ
"ใช่หรือไม่ใช่... ข้ามิอาจตัดสิน ฝ่าบาทต้องตัดสินด้วยตัวของท่านเอง!"
เมื่อได้ยินชายชราเล่นปริศนาคำทายกับเขาอีกครั้ง หลิงมู่เฟิงก็พอรู้ว่าชายชราจะทำแบบนี้เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่ถามต่อ
ก่อนหน้านี้เขาเคยฟังคำพูดของชายชราผู้นี้, เขาบอกว่ามีอัจฉริยะมังกรที่แท้จริงเกิดทางเหนือของหลิงหยุน
หากราชวงศ์ต้องการเพิ่มโชคลาภ พวกเขาสามารถส่งองค์หญิงไปเเต่งงานยังดินแดนทางเหนือของหลิงหยุนได้
ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่องค์หญิงจะได้รับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ราชวงศ์เทียนหยุนก็จะมีโอกาสได้รับโชคลาภด้วยเช่นกัน
ดังนั้น หลังจากการคัดเลือก...เขาก็ได้ให้หลิงซีเยว่ไปแต่งงานกับผู้นำตระกูลลู่คนใหม่ทางเหนือของหลิงหยุน
เเละเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งทราบข่าวเกี่ยวกับการทำลายล้างนิกายหลางหยาเทียนจงของลู่ชิงซวน ดังนั้นเขาจึงรีบมาที่นี่ทันทีเพื่อยืนยันกับชายชราฃ
ตอนนี้ แม้ว่าชายชราจะไม่พูดอะไรที่ชัดเจน แต่เขาก็ยิ่งมั่นใจในคำตอบที่อยู่ในใจมากขึ้น
ในสายตาของเขา ลู่ชิงซวนน่าจะเป็นอัจฉริยะมังกรที่แท้จริงที่ชายชรากล่าวถึง
เพราะจากข้อมูลมากมาย ลู่ชิงซวนไม่ใช่อัจฉริยะที่ผงาดขึ้นทางเหนือของหลิงหยุนอย่างกะทันหันหรอกหรือ?
เเละสิ่งนี้มันตรงกับคำพูดของชายชราพอดี
อี้เซวียนจีวางหมากขาวลง และถามว่า
"ฝ่าบาท ท่านมาที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ต้องการยืนยันคำตอบใช่หรือไม่?"
เมื่อหลิงมู่เฟิงได้ยินเช่นนี้ คิ้วของเขาก็ขมวดเล็กน้อย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
"ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ข้าได้ไปที่ภูเขาหยินหลงก่อน"
"คนบนภูเขาหยินหลงดูเหมือนจะสนใจลู่ชิงซวนมาก และถามข้าเกี่ยวกับลู่ชิงซวน"
"แต่ข้ามีความรู้สึกอยู่เล็กน้อยว่าพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่ได้ต้องการเป็นมิตรกับลู่ชิงซวน”
“แต่ยังต้องการตรวจสอบอะไรบางอย่างจากลู่ชิงซวนด้วย สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับที่ข้าคิด ท่านคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี?”
หลังจากพูดอย่างนั้น หลิงมู่เฟิงก็วางหมากดำลงอีกตัว
หลังจากได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของอี้เซวียนจีก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลย เขามองไปที่เกมหมากรุกด้วยสายตาที่ลึกซึ้งของเขา จากนั้นก็พูดช้าๆว่า
"ฝ่าบาท ท่านเคยสูญเสียบุตรชายมาก่อน ดังนั้นท่านจึงได้เปรียบเล็กน้อย”
“หากท่านต้องการให้ข้านำราชวงศ์เทียนหยุนไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ข้าหวังเพียงหวังว่าฝ่าบาทจะมองการณ์ไกล”
"ข้าทำได้เพียงส่งดวงชะตาให้ฝ่าบาท, หากท่านได้บางอย่าง ท่านก็ต้องสูญเสียบางอย่างเช่นกัน!"
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็วางหมากขาวลง และกินหมากดำไปจำนวนมาก
หลิงมู่เฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อยและตกอยู่ในภวังค์
……………………