ตอนที่ 36 : สูญหาย
เขตสอง
.
ถนนปิงฉวน
.
สุดปลายถนน บ้านหลังหนึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางเมตรส่งเสียงดังมีชีวิตชีวา คบไฟจำนวนมากกระจัดกระจายทั่วบ้าน ภายใต้คลื่นความร้อน หิมะที่ตกลงมาก็ละลายอย่างเงียบๆ ก่อนที่มันจะแตะถึงพื้นด้วยซ้ำ
ในวันปกติที่นี่ไม่มีใครอาศัยมันจึงเหมือนกับบ้านร้าง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า คฤหาสน์ซึ่งกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของถนนหานซวงในเขตสาม เจ้าของมันคือหม่าจง
และในขณะนี้ บ้านที่เคยมีสภาพเดิมรกร้างและเสื่อมโทรม บัดนี้ได้มีดนตรีบรรเลงขับกล่อมอย่างไร้ที่สิ้นสุด เสียงหัวเราะของหญิงสาวแสนสวยกับชายวัยฉกรรจ์ประสมประสานกันราวกับอยู่บนแดนสรวงสวรรค์
“บ้านของพี่หม่าดีจริงๆ...แต่น่าเสียดายที่ถูกทิ้งร้างมานาน”
เฉียนฝานสวมเครื่องแบบสีดำแดง นั่งแถวหน้า หรี่ตามองผู้หญิงที่กำลังเต้นเปลือยท่อนบนบนเวที เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“น่าเสียดาย บ้านของพี่หม่าในเขตสามใหญ่กว่านี้” ผู้คุมกฎอีกคนนั่งข้างเขา ยกแก้วไวน์ขึ้นชนกับเฉียนฝานและดื่มไวน์ในอึกเดียว
"ฉันอิจฉาจังเลย...บ้านแบบนี้ฉันจะมีปัญญาซื้อได้เมื่อไหร่นะ"
"เมื่อหานเหมิงตายไป จะไม่มีใครขัดขวางธุรกิจของเราได้ อีกไม่กี่ปี พี่น้องของเราจะเป็นเจ้าของบ้านแบบนี้ได้"
"ฮ่าฮา มาดื่มอีกแก้ว!"
“ใช่สิ ว่าแต่พี่หม่ายังไม่มาเหรอ?”
“เขากำลังเดินทางมา เขาบอกว่าให้เราสนุกไปก่อน”
เฉียนฝานพยักหน้าและกำลังจะพูดอย่างอื่น กู่เตายิ้มกอดหญิงสาวที่กำลังเต้นอยู่ด้วยแขนข้างหนึ่ง แล้วเดินไปหาเฉียนฝาน
"มาๆ นี่คือบอสเฉียนของเรา ก่อนหน้านั้นเรามีเรื่องเข้าใจผิดกันบ้าง แต่ในอนาคตเพื่อธุรกิจของเรา โปรดช่วยดูแลพวกเราด้วย...."
"บอสกู่ล้อเล่นแล้ว คราวนี้พี่หม่าเป็นเจ้าภาพ ฉันแค่มาที่นี่เพื่อสนุก“เฉียนฝานพูดด้วยรอยยิ้ม”แต่เรื่องธุรกิจจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมืออย่างจริงใจและวินวินด้วยกันทั้งสองฝ่าย…”
“พูดได้ดี! วินวินทั้งสองฝ่าย!”
ผู้อยู่อาศัยบนถนนปิงฉวนจำนวน 19 คนปรากฏตัวที่นี่ พวกเขาลุกขึ้นทีละคน บางคนอยู่ในธุรกิจค้าอาวุธปืน บางคนอยู่ในธุรกิจค้ายา บ้างก็อยู่ในธุรกิจเนื้อหนัง...ขณะนี้ รอยยิ้มของพวกเขาช่างดูอ่อนโยนและเป็นมิตร หากใครเผลอเดินเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็อาจจะเข้าใจว่านี่คือความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจ
“บอสเฉียน สินค้าชุดนี้เป็นยังไงบ้าง?” ดูเหมือนว่ากู่เตาจะจำอะไรบางอย่างได้จึงหัวเราะด้วยเสียงต่ำ "หัวใจและอวัยวะพวกนั้นคุณภาพดีใช่มั้ย?"
"ไม่เลว" เฉียนฝานพยักหน้าเล็กน้อย "ผู้ซื้อพอใจมาก"
"ไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้ซื้อจะใจกว้างซื้ออวัยวะทั้งหมดในคราวเดียว...สินค้าชุดนั้นเข้าสู่เมืองออโรร่าหรือยัง?"
เมื่อได้ยินคำว่าเมืองออโรร่า เฉียนฝานหรี่ตาลงแล้วพูดขึ้นว่า "บอสกู่ ในธุรกิจนี้อย่าถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่ควรถาม...ระวังจะเกิดปัญหา"
"ฮ่าฮาฮา งั้นฉันจะลงโทษตัวเองด้วยการดื่ม!"
หลังจากดื่มไวน์จนหมดแก้วแล้วเขาก็มองไปที่นักเต้นที่มีเสน่ห์อวบอิ่มบนเวที มือที่วางบนไหล่ของผู้หญิงด้านข้างเลื่อนลงมาโดยอัตโนมัติ เขาเริ่มเล่นกับมันแบบสบายๆ ท่ามกลางเสียงครวญคราง
"ว่าแต่...ทุกครั้งที่เราจัดเลี้ยงก็มีแค่การแสดงไม่กี่รายการ...ไม่มีอะไรนอกจากนี้เหรอ?”
"นายอยากดูอะไรล่ะ?"
"ฉันได้ยินมาว่าการแสดงในเมืองออโรร่า มีทั้งการร้อง การเล่นมายากล การแสดงละคร...
"พอมาถึงเรา...ทำไมมีแค่นักเต้น?"
"นายก็พูดเอง...ว่านั่นอยู่ที่เมืองออโรร่า แต่นี่คือเขตสองจะมีลูกเล่นมากมายได้ยังไง ฉันสามารถหานักเต้นจำนวนมากให้นายได้ ยังดีที่มีผู้หญิงให้นายได้คลอเคลีย"
"...มันน่าเบื่อจริงๆ"
แก้มของกู่เตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากดื่ม เขาผลักผู้หญิงสองคนที่อยู่ในอ้อมแขนออก แล้วตรงไปที่กลางเวที คณะนักเต้นที่กำลังแสดงหยุดชะงัก พวกเขามองหน้ากันด้วยความสับสน
ด้านล่างของเวที เสียงตีกลองและเครื่องสายหยุดกะทันหัน
"อย่าหยุด เต้นต่อไป..."
ร่างกายของกู่เตาโน้มตัวเข้าหาแผ่นหลังนักเต้นคนหนึ่งอย่างอ่อนโยน มือลูบไล้ทั่วเรือนร่างของเธอราวกับงู ในที่สุดเขาก็คว้าข้อมือหญิงสาวและควบคุมจังหวะการเต้นของเธอราวกับเธอเป็นหุ่นเชิด
ใบหน้าของนักเต้นเปลี่ยนเป็นซีดขาวด้วยความหวาดกลัว แต่เธอก็ทำได้เพียงปล่อยให้กู่เตาควบคุม นักเต้นคนอื่นๆ มองไปที่เฉียนฝานในกลุ่มผู้ชม แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเต้นรำต่อไป...
เสียงกลอง เสียงซอเอ้อร์หู ผีผาและขลุ่ยดำเนินต่อไป เสียงประสานกันอย่างไพเราะ
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า กู่เตาการเต้นรำของนายน่าเกลียดมาก!"
"ปล่อยให้ฉันทำดีกว่า! "
“ไม่นะ ฉันคิดว่าเขาเต้นเก่งมาก เต้นต่อไป เต้นต่อไป! ฮ่าๆๆ...”
"ฉันไม่เคยคิดว่านายจะมีพรสวรรค์ในการเต้น มาเลยพวกมาเต้นรูดเสากัน! "
"...."
เมื่อทุกคนด้านล่างเวทีเห็นดังนั้นต่างก็หัวเราะ ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นอะไรสนุกๆ ผลักดันบรรยากาศร้อนแรง อึกทึกครึกโครมขึ้นไปอีก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง คนคนหนึ่งก็ผลักเปิดประตูเข้ามาท่ามกลางหิมะตกหนัก เขาก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้า
“ในที่สุดพี่หม่าก็มา?”
.
ทุกคนมองย้อนกลับไป สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หน้าประตูห้องโถง ก็ต้องตกตะลึง
.
ไม่ใช่หม่าจง แต่เป็นกลับเด็กหนุ่มสวมชุดงิ้วสีแดง เขาเหยียบไปบนพื้นหินในห้องโถงเงียบๆ หิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้าปกคลุมขมับของเขา
ในโลกที่ซีดเซียว สีแดงสดช่างสะดุดตาและร้อนแรง
เมื่อเห็นใบหน้าของชายคนนั้นชัดเจน สีหน้าของคนส่วนใหญ่ในห้องก็เปลี่ยนไปราวกับกำลังจำอะไรบางอย่างได้ ความขุ่นเคืองในดวงตาของพวกเขาก็ปรากฏในเวลาเดียวกัน
เฉียนฝานเองก็สะดุ้งเล็กน้อย มองไปยังผู้คุมกฎที่อยู่ข้างๆ ก่อนเขาจะลุกขึ้นจากที่นั่ง
"น้องเฉินหลิง ทำไมนายถึงมาที่นี่ล่ะ?" รอยยิ้มอันอบอุ่นปรากฏบนใบหน้าของเขา “โชคดีที่นายมา คือเขตสองกับเขตสามยกเลิกคำสั่งปิดเมืองแล้ว เราเลยฉลองกันสักหน่อย ฉันควรจะบอกกับนายตั้งแต่ตอนเช้า...มาๆ ไหนๆ ก็มาแล้วมาดื่มสักหน่อยสิ”
เฉินหลิงไม่ตอบ เขาเดินอย่างสงบผ่านลานซึ่งเต็มไปด้วยหิมะ ก้าวเข้าไปในบ้านด้วยฝ่าเท้าที่เต็มไปด้วยโคลน ทิ้งร่องรอยบนพื้น
"ไม่จำเป็น" เขาพูดอย่างใจเย็น "ผมมาที่นี่เพื่อหาของบางอย่าง..."
"หาของบางอย่าง นายทำของบางอย่างหายเหรอ? "
ในสายตาของทุกคน เฉินหลิงเดินผ่านงานเลี้ยงและก้าวขึ้นไปบนเวทีทีละขั้น...สายตาของเขาจับจ้องไปที่กู่เตาตั้งแต่ต้นจนจบ
"เฮ้ ฉันก็คิดว่าเป็นใคร กลายเป็นว่าผู้คุมกฎเฉินนี่เอง…“กู่เตากำลังเมาหัวเราะเยาะ ปล่อยนักเต้นที่อยู่ในมือของเขาแล้วผลักเธอออกไป”ทำไมนายถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ หรือเพื่อมาแสดงให้ฉันดูเหรอ? "
ตอนนี้หานเหมิงตายแล้ว หม่าจงได้ควบคุมเขตสามทั้งหมดอีกครั้ง กู่เตากับคนอื่นๆ ไม่เชื่อว่าเฉินหลิงกล้าฆ่าตัวตาย...ตอนนี้ เขตสองและเขตสามคือโลกของพวกเขา!
"ฮ่าๆๆๆ! เอาน่า ให้เขาแสดงสักหน่อยสิ!"
“เขาแต่งตัวแบบนี้เพราะอยากร้องเพลงละครเหรอ งั้นร้องเพลงไหนล่ะ?”
"...."
เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนไม่กลัวสิ่งใด พวกเขากำลังถือแก้วไวน์ สายตาที่เขามองเฉินหลิงในชุดสีแดงนั้นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
เฉียนฝานขมวดคิ้วมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกอย่างคลุมเครือว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"เฉินหลิง นายทำของอะไรหายเหรอ แค่บอกฉัน...ฉันจะไปช่วยนายหา"
"หัวใจของผมหาย"
เฉินหลิงจ้องตรงไปที่ใบหน้าของกู่เตา
"ยังมี ชีวิตของน้องชายผม"
วินาทีต่อมา ฝ่ามือข้างเดียวพลันแทงทะลุเข้าที่หน้าอกของกู่เตา!!
.
.