ตอนที่ 221 เรื่องเงินเป็นเรื่องเจ็บปวด(ฟรี)
ฮู ฮู~~
ลมหนาวในป่าพัดแรง เกล็ดหิมะปลิวว่อน ร่วงหล่นลงมา ไม่นานนัก ศพทั้งห้าที่อยู่ตรงหน้าศาลาเก่าแก่ก็ถูกหิมะฝังกลบ
เย่อันผิงรอจนกระทั่งร่องรอยสุดท้ายของอวี่สุ่ยถิงหายไปกับสายลม จึงถอดเสื้อคลุมที่ยังดูดี ไม่ค่อยเปื้อนเลือดออกมาจากศพทั้งห้า เดินกลับไปหาเฟิงหยูเตี๋ยที่นั่งสมาธิพิงต้นไม้อยู่ โยนเสื้อคลุมไปให้นาง
"นี่ สวมเข้าไป"
"อ๊ะ! ได้เลย~"
เฟิงหยูเตี๋ยตอบรับอย่างงงๆ คว้าเสื้อคลุมมา เตรียมจะสวม แต่ลืมไปว่าข้อมือขวาเคลื่อน เพิ่งจะถูกเย่อันผิงดึงกลับเข้าที่
พอสะบัดเสื้อคลุม มือขวาจึงจับไม่ทัน ถูกลมพัดปลิวไปบนท้องฟ้า
เฟิงหยูเตี๋ยเงยหน้ามองเสื้อคลุมที่ปลิวไป เม้มปาก ยิ้มแห้งๆ "ท่านเย่ ข้าใช้มือไม่ค่อยถนัด... ก็เลย... ฮ่าๆๆ"
"..."
เย่อันผิงพูดไม่ออก รีบกระโดดขึ้นไปคว้าเสื้อคลุม จากนั้นก็เดินกลับมา กางเสื้อคลุมออก สะบัด "หันหลังมา"
"หือ?"
"หันหลังมา"
"อ๋อ~~"
เฟิงหยูเตี๋ยใช้มือซ้ายยันพื้น หันหลังให้
เย่อันผิงคุกเข่าลงด้านหลัง สวมเสื้อคลุม จากนั้นก็ใช้หน้าอกตัวเองเป็นที่พิง เอื้อมมือไปด้านหน้า ช่วยผูกเชือก
เขาไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกว่าช่วยเฟิงหยูเตี๋ยแบบนี้จะสะดวกกว่า
แต่เฟิงหยูเตี๋ยกลับไม่คิดแบบนั้น
สัมผัสได้ถึงหน้าอกกว้าง เฟิงหยูเตี๋ยก็ขมวดคิ้ว หันกลับมามอง พบว่าใบหน้าของเย่อันผิงอยู่ข้างๆ ไหล่ขวา เกือบจะแนบหู
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้กลิ่นของเย่อันผิงอ่อนๆ
เหมือนกับว่า... กำลังถูกเย่อันผิงกอด แต่เป็นการกอดจากด้านหลัง
"..."
เย่อันผิงช่วยผูกเชือกเสร็จ เงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าของเฟิงหยูเตี๋ยอยู่ใกล้ จ้องมองเขาด้วยดวงตาสีทอง ถึงได้รู้ตัวว่าท่าทางของตัวเองดูจะสนิทสนมกันเกินไป
ลมหนาวพัดผ่านใบหน้า ต่างคนต่างมองหน้ากัน เงียบกริบ
"..."
"..."
หลังจากที่จ้องมองกันอยู่พักหนึ่ง เฟิงหยูเตี๋ยก็เลิกคิ้วขึ้น "นายน้อยเย่ หยางของท่านกำเริบอีกแล้วหรือ ให้ข้าสามหมื่นหินปราณเป็นค่าชดเชย~"
?
เย่อันผิงกระพริบตา ไม่สนใจ ดึงมือกลับ สวมฮู้ดให้ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เอ่ยถาม "บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง"
เฟิงหยูเตี๋ยใช้มือซ้ายจับฮู้ด "อย่าเปลี่ยนเรื่อง!เมื่อครู่นี้เจ้าแอบกอดข้าเพื่อรักษาหยางแล้วไม่จ่ายเงินหรือ? ไม่ได้นะ ข้าฉลาดมาก รีบๆส่งมา สามหมื่นหินปราณ"
เย่อันผิงฝืนยิ้ม "ข้าแค่ช่วยเจ้าสวมเสื้อคลุม"
"ช่างเถอะ ยังไงเจ้าก็กอดข้า! กอดทีละสามหมื่น~ ฮึ่ม"
"ถ้าหากเจ้ามีแรงขนาดนี้ แสดงว่าหายดีแล้วสินะ เก็บผมของเจ้าให้เรียบร้อย พวกเราต้องรีบไปที่ยอดเขาหยกหิมะ"
เฟิงหยูเตี๋ยขมวดคิ้ว รีบลุกขึ้นยืน: "งั้นก็ให้สามหมื่นหินปราณมาก่อนสิ!"
น่าเสียดายที่ขาทั้งสองข้างยังอ่อนแรง พอลุกขึ้นยืนก็เซ
"โอ๊ย~"
เย่อันผิงเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปรับไหล่ ป้องกันไม่ให้นางล้ม แต่พอยื่นมือไปรับแล้วก็เลิกคิ้วขึ้น "เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งจะช่วยเจ้าต่อกระดูก สามหมื่นหินปราณ แล้วก็ยังช่วยสวมเสื้อคลุมอีกสามหมื่น เจ้าติดหนี้ข้าหกหมื่น"
เฟิงหยูเตี๋ยขมวดคิ้ว ทำแก้มป่อง บ่นพึมพำ "เรื่อง... หินปราณ ทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวด~"
"เจ้าย้งกล้าพูดอีกหรือ"
เฟิงหยูเตี๋ยเม้มปาก บ่นพึมพำ "ช่างเถอะ ยังไงเจ้าก็กอดข้า ข้าขาดทุน! สามหมื่น..."
นางยกมือซ้ายขึ้น ชูสามนิ้ว แต่พอเห็นสีหน้าของเย่อันผิงก็ลังเล หดนิ้วกลับไปหนึ่งนิ้ว
"ถ้าอย่างนั้น ลดราคาให้... สองหมื่น!"
"..."
"...หมื่นเดียว?"
เย่อันผิงขี้เกียจเถียงกับนาง จึงทำท่าทางไม่ใส่ใจ โบกมือ เบื่อหน่าย "เอาล่ะๆ หมื่นเดียวก็หมื่นเดียว เฮ้อ---"
เฟิงหยูเตี๋ยเห็นเขาตกลง ท่าทางเหมือนกับภรรยาที่กำลังโกรธก็หายไปในพริบตา รู้สึกว่าตัวเองเอาชนะเย่อันผิงได้ จึงดีใจเป็นพิเศษ ยิ้มออกมา "ฮี่ฮี่--"
เย่อันผิงเบ้ปาก
จากนั้นก็มองท้องฟ้า คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะเช้า ถ้าหากไม่รีบไปยอดเขาหยกหิมะ อาจจะไม่ทัน
เขาพยุงไหล่ของเฟิงหยูเตี๋ย มองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า "บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง"
"ก็... ขาทั้งสองข้างยังอ่อนแรงอยู่ แต่ไม่เจ็บแล้ว"
"อีกครึ่งชั่วโมง หายดีไหม"
"ก็น่าจะ"
เย่อันผิงก้มหน้าครุ่นคิด มองเฟิงหยูเตี๋ยที่สวมเสื้อคลุมสีเทา เห็นผมสีเงินโผล่ออกมา จึงเอื้อมมือไปช่วยเก็บผมเข้าไปในฮู้ด จากนั้นก็หยิบหน้ากากออกมาสวมให้
"จำไว้ ตัวตนของเจ้าคืออวี่สุ่ยถิง คู่บ่มเพาะของเย่อัน"
"หมายความว่าข้าเป็นคู่ของเจ้า?"
"ใช่แล้ว"
เฟิงหยูเตี๋ยเพิ่งจะได้รับผลประโยชน์ กระพริบตา เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ "มีหินปราณเพิ่มไหม"
เย่อันผิงขมวดคิ้ว จ้องมองด้วยความไม่พอใจ
เฟิงหยูเตี๋ยหดคอ ส่ายหน้า "พอแล้ว~ พอแล้ว~"
เย่อันผิงถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง "เฮ้อ -- เดี๋ยวต้องสู้กัน ทำตามคำสั่งข้า อย่าซุ่มซ่าม เข้าใจไหม"
"อืม~"
เย่อันผิงได้รับคำยืนยัน จึงหันหลังกลับ ย่อตัวลง "ขึ้นมา"
"หา? เจ้าจะแบกข้า แต่..."
เย่อันผิงกัดฟัน "ถ้าหากเจ้ายังพูดเรื่องหินปราณอีก เชื่อไหมว่าข้าจะยัดเจ้าใส่กระสอบแล้วแบกไป"
"อ่อ..."
เฟิงหยูเตี๋ยเม้มปาก ส่ายหน้าเล็กน้อย จึงค่อยๆ ขึ้นไปบนหลัง
"ไม่พูดแล้ว ฮี่ฮี่"
เย่อันผิงเรียกกระบี่ออกมาจากถุงมิติ จากนั้นก็จับต้นขาของเฟิงหยูเตี๋ย ลุกขึ้นยืน ส่วนเฟิงหยูเตี๋ยก็รีบโอบคอเอาไว้ เพื่อป้องกันตัวเองตกลงไป
เจ้านี่เบาขนาดนี้เลยเหรอ แม้แต่น้องสาวเขายังหนักกว่า เย่อันผิงคิดพลางเหลือบมองเฟิงหยูเตี๋ยที่วางคางไว้บนไหล่ จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนกระบี่บิน แบกนาง บินขึ้นไปบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังยอดเขาหยกหิมะ
"ถือโอกาสนี้ฟื้นฟูลมปราณไปก่อน เดี๋ยวต้องอาศัยวิชากระบี่เก้าสวรรค์ของเจ้า"
"ได้เลย~"