กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 459 ย่อมต้องมีหนทางพลิกสถานการณ์
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 459 ย่อมต้องมีหนทางพลิกสถานการณ์
“มหาเคราะห์หรือ”
ผู้อาวุโสหลายคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปฐมกาล รับรู้ถึงคำพูดนี้ได้อย่างฉับไว
หรือว่า...บรรพบุรุษกลับมา ก็เพราะเรื่องนี้หรือ
ด้วยสายตาของพวกเขา ยากที่จะมองออกว่าตอนนี้ตบะของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ บรรลุถึงระดับใด แต่ในสายตาของอีกฝ่าย เรื่องราวทั้งหมดกลับสามารถเรียกว่ามหาเคราะห์ คงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถต้านทานได้
“ขอถามบรรพบุรุษ มหาเคราะห์ที่ท่านกล่าวนั้นคือสิ่งใด”
เสิ่นฉงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
มหาเคราะห์ที่จะโถมกระหน่ำทั่วโลกหมื่นสวรรค์!
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณ ราวกับมองเห็นภาพอันน่าสะพรึงกลัว ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย เบื้องหลังเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เมื่อมหาเคราะห์มาถึง หมื่นเผ่าพันธุ์จะล้มตาย ไร้ผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงได้”
ผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนมองหน้ากัน
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ อารมณ์ที่เคยตึงเครียดกลับผ่อนคลายลง หากเป็นเคราะห์กรรมอื่น ๆ พวกเขายังคงกังวลใจ แต่เรื่องราวที่น่ากลัวยิ่งเช่นนี้ กลับทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวล
เพราะว่า...โลกสวรรค์ก่อกำเนิด มีเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์คุ้มครอง!
มองไปทั่วโลกหมื่นสวรรค์ หากบุคคลผู้นั้นมาถึง ใครบ้างจะกล้าแข็งข้อ?
พูดตามตรงแล้ว...
หากเป็นเคราะห์กรรมเล็ก ๆ เช่น เป็นเคราะห์กรรมที่มุ่งเป้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปฐมกาล พวกเขายังคงกังวลใจ เพราะเรื่องราวเช่นนี้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นั้นอาจจะไม่สนใจ แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโลกทั้งใบ พวกเขาก็วางใจได้
ลองนึกถึงเรื่องราวของมหาจอมจักรพรรดิฝังสวรรค์ ตอนแรกเขาวางแผนจะทำลายโลก แต่สุดท้ายหลังจากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ลงมือ เขาก็ต้องยอมจำนน ตอนนี้บรรพบุรุษกลับมากล่าวว่ามหาเคราะห์กำลังจะมาถึง
หากไม่มาถึงก็ดีไป หากมาถึง พวกเขามั่นใจว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นั้น ย่อมต้องทำให้คนผู้นั้นต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
“อืม?”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคนรอบข้างดูไม่สนใจ ทำให้เขาไม่พอใจ
เขาเดินทางข้ามปฐมโกลาหลมาไกลหลายหมื่นล้านลี้ ใช้เวลาหลายหมื่นปี เพียงเพื่อจะนำข่าวสารนี้มา บอกให้โลกสวรรค์ก่อกำเนิดเตรียมรับมือ แต่คนเหล่านี้ กลับไม่กังวลใจ
ต้องรู้ว่า...
โลกแสงนิลในอดีตนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก มีผู้ที่บรรลุระดับยืนยงคุ้มครอง แต่สุดท้ายโลกใบนั้นก็ล่มสลาย
“พวกเจ้าช่างประมาทเกินไป!”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ในสายตาของเขา ช่วงเวลาเช่นนี้ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดมีเงื่อนไขที่เหนือกว่าโลกอื่น ทุกคนควรปิดประตูบำเพ็ญเพียร เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต
“บรรพบุรุษ...”
ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งก้าวเท้าออกมา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาว่า “ขอถามบรรพบุรุษ มหาเคราะห์ที่ท่านกล่าวนั้น เป็นบุคคลหรือขุมอำนาจ”
“เจ้าอยากรู้หรือ”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณหันกลับมา มองผู้อาวุโสผู้นั้นแวบหนึ่ง กล่าวอย่างแผ่วเบา
“ขอรับ”
ผู้อาวุโสพยักหน้า
“บอกพวกเจ้าก็ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโลกที่สูงส่งยิ่งกว่า เป็นโลกที่สูงส่งที่สุด พวกเจ้าอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน” จักรพรรดิปฐมกาลโบราณมองทุกคนด้วยความสงสาร บางครั้งพลังอำนาจที่อ่อนแอกลับเป็นความสุข รู้เรื่องราวน้อย ก็ย่อมกังวลใจน้อย เช่นเดียวกับคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปฐมกาลในตอนนี้
“มหาเคราะห์ที่ข้ากล่าวถึง หมายถึงขุมอำนาจหนึ่ง!”
“ขุมอำนาจนี้มีชื่อว่า ยมโลก!”
“ผู้ก่อตั้งขุมอำนาจนี้ เป็นบุคคลต้องห้าม ไม่มีผู้ใดรู้จักชื่อที่แท้จริงของเขา แม้เขาจะจากไปนานแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผู้สืบทอดยมโลก ค้นพบวิธีการที่จะชุบชีวิตเขา!”
“หากเขาฟื้นคืนชีพ โลกหมื่นสวรรค์คงต้องพบเจอกับหายนะ!”
“ยมโลกหรือ”
ผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปฐมกาล ต่างก็มีสีหน้าแปลกประหลาด
“พวกเจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือ”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณมีสีหน้าประหลาดใจ หลายวันมานี้ การแสดงออกของพวกเขา เขาเห็นทั้งหมด บนใบหน้าของพวกเขา ไร้ซึ่งความตกใจ ไร้ซึ่งความหวาดกลัว มีเพียงความแปลกประหลาด ราวกับว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน
เห็นเช่นนี้...หัวใจของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ เต็มไปด้วยความหนักอึ้ง
หรือว่า...ยมโลกได้ยื่นมือเข้ามาที่นี่แล้ว
ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!
เสิ่นฉงไอเบา ๆ ยกมือขึ้นคำนับจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ เอ่ยว่า “เรียนบรรพบุรุษ ข้าน้อยเคยได้ยินชื่อของยมโลกมาก่อน”
ที่จริงแล้ว...ไม่สามารถพูดได้ว่าเคยได้ยิน
แต่เป็นการเห็นยมโลกถูกทำลายด้วยตาตนเอง
จักรพรรดินียมโลกแห่งโลกเซียนปฐพี ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังนาง ไม่ใช่ยมโลกหรือ
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในโลกอินทนิลเร้นลับ ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ต่อสู้กับจักรพรรดิหลายคนเพียงลำพัง แต่ก็ไม่เพลี่ยงพล้ำ ทำให้โลกอินทนิลเร้นลับทำได้เพียงตั้งรับ
หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์บรรลุระดับเซียนแท้ในช่วงเวลาสำคัญ ตอนนี้โลกอินทนิลเร้นลับ คงถูกยมโลกยึดครองไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่สุดท้ายขุมอำนาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นเช่นไรเล่า
...
ก็ถูกเจ้าสัจจะยืนยงแห่งโลกเซียนปฐพี ร่วมมือกับจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์แห่งโลกอินทนิลเร้นลับ ทำลายลง
ตอนนี้ยมโลก ไร้จักรพรรดินียมโลกปกป้อง จากขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ กลายเป็นขุมอำนาจระดับกลาง แม้จะยังไม่ถูกทำลาย แต่สถานการณ์ก็ไม่สู้ดีนัก
เหตุผลที่โลกเซียนปฐพี ไม่ทำลายยมโลก ก็เพราะว่าจักรพรรดินียมโลกเพียงแค่หายสาบสูญไป มิได้เสียชีวิต
หากนางกลับมา อนาคตของยมโลก คงไม่อาจคาดเดา
“โอ้?”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณเลิกคิ้ว ในดวงตาปรากฏประกายเจิดจ้า ราวกับกระบี่เทพสะบั้นฟ้าดิน เขาคิดในใจ ดังคาด
ยมโลกได้ยื่นมือเข้ามาแล้ว
“ตอนนี้ยมโลกอยู่ที่ใด”
คนอื่น ๆ อาจจะไม่รู้ แต่เขารู้ดี
ขุมอำนาจที่อยู่ใต้อาณัติของยมโลก มักจะมีเหรียญตรา สามารถระบุตำแหน่งในโลกหมื่นสวรรค์ ตราบใดที่ยังมีเหรียญตราอยู่ คนของยมโลกก็สามารถระบุตำแหน่งได้
จากนั้น...ก็จะเดินทางมาจากปฐมโกลาหลอันไกลโพ้น
สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้...เขาต้องแย่งชิงเหรียญตรา จากนั้นก็ส่งมันกลับไป
ส่วนเรื่องการทำลาย...
เขาไม่เคยคิด
เหรียญตรานี้ บุคคลระดับสูงของยมโลกเป็นผู้หลอมสร้าง บางทีอาจจะมาจากฝีมือของราชันเซียน เขาเป็นเพียงผู้ที่บรรลุระดับยืนยง ไม่อาจทำลายได้
“ยมโลก...”
เสิ่นฉงมองบรรพบุรุษอย่างอึดอัดใจ ยกมือขึ้นทั้งสองข้าง เอ่ยอย่างจนใจว่า “เรียนบรรพบุรุษ ตอนนี้ยมโลกไม่มีอยู่แล้ว จักรพรรดินียมโลกที่ก่อตั้งยมโลก ตอนนี้หายสาบสูญไปแล้ว”
“ส่วนคนของยมโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ กำลังเดินทางไปยังโลกเซียนปฐพี มีข่าวลือว่าตอนนี้แม้แต่ระดับศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มี”
“หากบรรพบุรุษต้องการตามหาจักรพรรดินียมโลก ก็ลองไปที่หอคอยกลไกสวรรค์ สอบถามเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ในโลกใบนี้ คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าจักรพรรดินียมโลกอยู่ที่ใด”
“ยิ่งไปกว่านั้น...”
กล่าวถึงตรงนี้...เขาไม่พูดต่อ เพียงแค่มองบรรพบุรุษอย่างลับ ๆ
“ยิ่งไปกว่านั้นอะไร”
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณเอ่ยด้วยความไม่พอใจ
“ยิ่งไปกว่านั้น หากบรรพบุรุษกังวลใจเรื่องของโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ก็ลองไปสอบถามเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ว่ามหาเคราะห์จะมาถึงเมื่อใด” เสิ่นฉงเอ่ยอีกครั้ง
“หรือว่าไปถามเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ว่าจะต้านทานยมโลกได้อย่างไร”
“ด้วยพลังอำนาจของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นั้น ย่อมต้องมีหนทางพลิกสถานการณ์”