ตอนที่แล้วChapter 290 : ศิลามังกรสวรรค์ครึ่งก้อน – ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเมืองบาดาล! (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 292 : การเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย – องค์กรผู้กู้โลกเคลื่อทัพเต็มอัตราศึก (1)

Chapter 291 : ศิลาวิญญาณมังกรสวรรค์ครึ่งก้อน – ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเมืองบาดาล! (3) (ฟรี)


จี้รู่เยว่กวาดสายตามองไปเบื้องหน้า “ย้อนไปเมื่อครานั้นท่านอาจารย์ได้บอกให้ข้าลองมองดูหากแต่อีกฝ่ายนั้นกลับเอ่ยว่าของสิ่งนั้นมันล้ำค่าเกินไปจึงไม่ยอมให้ข้าดู”

“ตาแก่ลาเฒ่าหัวล้านนั่นแค่ให้มองคงไม่หายหรอกกระมัง” เธอแค่นเสียงเย็นออกมา

หลินเซวียนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ “แล้วพวกเราจะหามันยังไง?”

“เดินไปรอบๆไง! เดินสุ่มๆไปแบบนี้แหละ!”

“ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตการรับรู้ข้าก็ควรจะสัมผัสถึงมันได้ ยังไงเสียพลังปราณวิญญาณที่อัดแน่นอยู่ในสิ่งๆนั้นก็มหาศาลยิ่ง” จี้รู่เยว่เอ่ยอย่างมั่นใจ

“และเมื่อมีเจ้าอยู่ด้วยเจ้าที่ครอบครองห้าสัมผัสก็ควรจะสัมผัสถึงมันได้เช่นกัน”

หลินเซวียนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกแล้วตอนนี้ “เข้าใจแล้วถ้างั้นก็เริ่มเดินทางกันเถอะ”

คนทั้งสองบินไปบินมารอบๆเขาหลิงซาน บางครั้งก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าและบางครั้งก็ล่อนลงมาบนผืนดิน

บางคราก็บินผ่านโคโลนี่ต่างๆและบางครั้งก็มาโผล่อยู่ที่ถ้ำใต้ดิน

ห้าวันให้หลังพวกเขาก็พบกับมันเข้าจริงๆและไม่ใช่จี้รู่เยว่ที่เป็นคนพบด้วยหากแต่เป็นหลินเซวียนที่ครอบครองห้าสัมผัสที่สัมผัสถึงมันได้!

เจ้าสิ่งนั้นมันเรียกหาเขาราวกับมีชะตาต้องกันกับเขา

เรื่องนี้ทำให้หลินเซวียนประหลาดใจยิ่งนัก

ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์ของเขานั้นเห็นๆกันอยู่ว่าเป็นสกิลแท้ๆ

หากแต่สิ่งที่พวกเขาพบนั้นหาใช่ศิลาวิญญาณมังกรสวรรค์แบบสมบูรณ์หากแต่เหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นและอีกครึ่งหนึ่งนั้นหายไป

“แตกงั้นรึ?” จี้รู่เยว่พึมพำ

“แตกไปแล้วแบบนี้เจ้าสิ่งนี้มันจะยังใช้การได้อยู่ไหมเนี่ย?”

“นอกจากนี้มันยังดูไม่ได้ดีเด่อะไรนักด้วย พวกลาหัวโล้นพวกนั้นชอบคุยโวว่าเจ้าสิ่งนี้แข็งแกร่งเพียงใดแท้ๆ ฮึ..ช่างน่าอับอายยิ่งนัก”

หลินเซวียนลองโยนสกิลตรวจสอบขั้นสูงออกไปแล้วก็เป็นดังคาด

นอกจากชื่อของมันแล้วเขามองไม่เห็นอย่างอื่นเลย

จี้รู่เยว่กระชับศิลาวิญญาณมังกรสวรรค์เอาไว้และลองสัมผัสมันอย่างตั้งใจ

ทันใดนั้นท่าทีของเธอก็ดูจะดีขึ้นมาเล็กน้อย

“เยี่ยม! มันยังใช้การได้ พลังปราณที่รั่วไหลออกไปของข้าลดน้อยลงมากทีเดียว”

หลินเซวียนกำลังจะเอ่ยปากแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายหากแต่จู่ๆเสียงแจ้งเตือนกลับดังกึกก้องไปทั่วทั้งแดนลับเขาหลิงซาน

“เมืองบาดาลได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง! โปรดรวบรวมนักสู้ขอบเขตที่8ทุกคนและมุ่งหน้าไปยังเมืองหลงไห่เดี๋ยวนี้! พวกเราจะใช้การขนส่งทางทะเลในการมุ่งหน้าไปยังเมืองบาดาล!”

หัวใจของหลินเซวียนจมลงทันควัน

จี้รู่เยว่เองก็ชะงักไปเช่นกันเมื่อได้ยินน้ำเสียงร้อนรนที่ดังขึ้นนี้

ก่อนที่จี้รู่เยว่จะทันได้เอ่ยปากถามสิ่งใดเครื่องมือสื่อสารของหลินเซวียนก็พลันสั่นไหวขึ้นมาเสียก่อน

[หลินเซวียนข้อความนี้ถูกส่งจากฉัน – เย่หลี่เจียง โปรดนำเธอผู้นั้นไปยังเมืองหลงไห่ หายนะที่เกิดขึ้นที่เมืองบาดาลนั้นไม่ใช่หายนะทั่วไปหากแต่เป็นหายนะที่มีคนอยู่เบื้องหลัง!]

[พวกเรามั่นใจว่าคนขององค์กรผู้กู้โลกคิดจะทำลายล้างคนของพวกเราในเมืองบาดาลทั้งหมดและช่วงชิงมันไปเป็นของตน]

[นอกจากนี้หว่านโหยวซียังส่งข้อความมาบอกฉันด้วยว่าที่เมืองบาดาลนั้นเกิดสถานการณ์แปลกประหลาดอย่างยิ่งเกิดขึ้น ดูเหมือนจะมีอะไรทะแม่งๆ]

“ผู้นำเย่ส่งข้อความมาเองแบบนี้นั่นก็หมายความว่าสถานการณ์มันค่อนข้างเร่งด่วนจริง...” สีหน้าของหลินเซวียนยิ่งมาก็ยิ่งเปลี่ยนไป

ไม่นานหลังจากที่เขาข้ามมิติมายังโลกใบนี้ ในตอนที่เขายังเป็นคนกู้ซากขององค์กรเจอร์มินัลอยู่นั้นเขาเคยได้สัมผัสกับความน่าสะพรึงของอสูรจากเมืองบาดาลที่เข้าโจมตีเมืองจากทางแม่น้ำมาแล้ว

ในครานั้นเขาสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงของอสูรจากเมืองบาดาลอย่างเต็มรัก

และหลังจากที่กลายเป็นเจ้าหน้าที่ของกองพลก่อสร้างเขาก็ได้รับรู้ว่าขุมพลังส่วนใหญ่ของกองพลก่อสร้างนั้นถูกจัดวางเอาไว้ที่เมืองบาดาล

ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องมีนักสู้ขอบเขตที่9คอยเฝ้าคุ้มกันตลอดปี

ไม่ว่าที่อื่นจะเกิดเรื่องร้ายแรงเพียงใด...นักสู้ขอบเขตที่9ก็จะไม่อาจออกจากเมืองบาดาลได้

หลินเซวียนคิดว่าเขาจะมีโอกาสได้ไปยังเมืองบาดาลหลังจากกลายเป็นนักสู้ขอบเขตที่9ไปแล้ว

ยังไงซะที่แห่งนั้นก็อันตรายอย่างยิ่ง

แล้วทำไมวันนี้ถึงได้...ความคิดของหลินเซวียนสับสนบ้าคลั่ง

เขาหวนนึกไปถึงคำถามที่เย่หลี่เจียงถามจี้รู่เยว่เมื่อไม่นานมานี้

เทพแห่งความจริงจากภาคีอัศวินแห่งความจริงและผู้ปกครองห้วงลึกแห่งมหาสมุทรจากองค์กรผู้กู้โลก

ทั้งสองตัวตนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นตัวตนกล้าแกร่งเฉกเช่นจี้รู่เยว่

มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากว่าตัวตนเหล่านี้จากทั้งสององค์กรหมายจะลงมือ

จี้รู่เยว่เองก็สังเกตเห็นเนื้อความในเครื่องมือสื่อสารเช่นกันแต่เธอไม่มั่นใจนักว่ามันเขียนเอาไว้ว่าอะไร

“แม้ข้าจะไม่เข้าใจแต่ก็พอจะอนุมานได้ว่ามีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นสินะ”

“ตัวตนกล้าแกร่งปรากฏตัวรึ? จะมีการต่อสู้เกิดขึ้นรึเปล่า?” ดวงตาของจี้รู่เยว่เปล่งประกาย

หลินเซวียนชะงักค้างไปเล็กน้อย “ดูเหมือนจู่ๆคุณก็อยากจะสู้ขึ้นมาเลยนะ”

จี้รู่เยว่ฉีกยิ้มอย่างมั่นใจ “ด้วยศิลาวิญญาณมังกรสวรรค์ในมือ ความแข็งแกร่งของข้าย่อมก้าวกระโดดดังนั้นย่อมแน่นอนว่าข้าอยากจะหาคนมาประมือเพื่อดูว่าข้าแข็งแกร่งขึ้นเพียงใด”

“ท่านอาจารย์กล่าวว่าหลังจากที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นข้าต้องหาคนมาลองสู้ดูเพื่อทดสอบขีดจำกัด”

“ที่หมายอยู่ที่ใดเล่า? บินตรงไปกันเลยเถอะ!”

หลินเซวียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ที่หมายคือเมืองหลงไห่!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด