ตอนที่แล้วบทที่ 32 ลุมลามจนใหญ่โต?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 เจ้าคือศิษย์น้องฉางชิง?

บทที่ 33 กล้าหมายหัวศิษย์น้องฉางชิงงั้นหรอ?


เหล่าศิษย์หลายคนต่างพูดพร้อมใจกันว่าจะบุกไปทำลายพรรคพยัคฆ์ดำจนแม้แต่หงจุ้นก็เห็นด้วยและกล่าวว่า

"จริงด้วย! ในเมื่อมีภัยคุกคามแฝงอยู่ ก็ควรจะกำจัดมันตั้งแต่ต้น!"

ในขณะที่ทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เย่ฉางชิงผู้เป็นตัวต้นเหตุกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

คิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจฟังคำพูดของเขา ทุกคนต่างทำการตัดสินใจไปตามที่ตนเห็นควร

หลังจากที่หงจุ้นออกคำสั่ง เหล่าศิษย์ก็พากันลุกขึ้นบินมุ่งหน้าไปยังพรรคพยัคฆ์ดำทันที

"ศิษย์น้องเย่ฉางชิงอย่ากังวลไป คราวนี้ข้าจะกวาดล้างพรรคพยัคฆ์ดำให้สิ้นซากแน่นอน" หลูยูอู และ หลิวซวง กล่าวอย่างมั่นใจ

เย่ฉางชิงอ้าปากพูดขึ้น "พี่สาว ที่จริงแล้ว..."

"ไม่ต้องห่วงพรรคพยัคฆ์ดำแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา ศิษย์น้องแค่ตามมาเถอะ"

พวกเขาไม่ปล่อยให้เย่ฉางชิงพูดต่อ เพียงแค่เร่งเขาให้ตามมา

เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่ฉางชิงก็ได้แต่ถอนหายใจและขี่เจ้าเสี่ยวไป๋ตามกลุ่มใหญ่ไป ระหว่างทางศิษย์จากภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ต่างก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เหล่าศิษย์กำลังมุ่งหน้าไปยังพรรคพยัคฆ์ดำ นักรบอสูรสองตัวที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ก็มาถึงพรรคพยัคฆ์ดำเช่นกัน

พรรคพยัคฆ์ดำ เป็นหุบเขาลึกที่มีหน้าผาสูงชันทั้งสองข้างและในหุบเขานั้นมีถ้ำมากมายที่ถูกขุดเจาะไว้ ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดมีอสูรทั้งสองคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายกำยำผู้นี้คือเจ้าของพรรคพยัคฆ์ดำ

เขาคือพยัคฆ์มาร เป็นอสูรระดับเทพอสูร ซึ่งเทียบเท่ากับผู้บำเพ็ญเพียรระดับแดนเทพของมนุษย์

เมื่อมองเห็นนักรบอสูรทั้งสอง พยัคฆ์มารถามด้วยสีหน้าเย็นชา

"พูดมาเถอะ พวกเจ้าทำงานพลาดใช่ไหม?"

"ขอเมตตาจากท่านเหว ครั้งนี้เป็นเพราะภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่รู้ว่าบ้าคลั่งอะไร จู่ๆก็ออกมาทั้งยอดเขา แม้แต่หงจุ้นก็ปรากฏตัวเอง ข้าสู้ไม่ได้ ชิงเหนี่ยวถูกสังหารทันที ข้าสองคนรอดมาได้ก็เพราะโชคช่วยเท่านั้น"

นักรบอสูรทั้งสองอธิบายด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อได้ยินพยัคฆ์มารนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้นว่า

"ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมากันทั้งยอดเขา? แม้ว่าเรื่องไข่มุกอสูรจะถูกทางสำนักเต๋าอี้รู้ ก็ไม่น่าถึงขั้นนี้ พวกเจ้าทำอะไรไปกันแน่?"

เนื่องจากนักรบอสูรทั้งสองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พวกมันจึงรู้ข้อมูลเพียงเล็กน้อย เมื่อพยัคฆ์มารถามเช่นนี้ ทั้งคู่ก็หันมามองหน้ากันก่อนจะพยายามนึกแล้วส่ายหัว

"พวกข้ามิได้ทำอะไรผิดเลย"

"และเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสำนักเต๋าอี้พบก่อนเวลา พวกข้าจึงไม่เคยออกหน้าให้เห็น แต่ให้พวกครึ่งอสูรไปสำรวจที่ตั้งไข่มุกอสูร"

"ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่หลังจากนั้นสำนักเต๋าอี้ก็ส่งศิษย์ภายในกับศิษย์รับใช้ทั้งหมดสองคน พวกเขาน่าจะมาจัดการกับครึ่งอสูร"

"จากนั้นศิษย์ของภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ก็บุกเข้ามาโดยไม่พูดพร่ำ ทำร้ายชิงเหนี่ยวทันที"

พวกมันไม่สามารถคิดออกได้ว่าทำอะไรผิด ทุกอย่างที่ทำล้วนระมัดระวังอย่างมาก

เมื่อได้ฟังพยัคฆ์มารก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น หากพวกมันไม่ทำอะไรผิดแล้วทำไมพวกภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ถึงตอบสนองรุนแรงขนาดนี้?

หรือจะเป็นเพราะศิษย์ภายในคนนั้น?

ไม่แปลกที่พยัคฆ์มารจะคิดเช่นนี้เพราะนอกจากสาเหตุนี้แล้วก็ดูเหมือนไม่มีคำอธิบายอื่นใด

แต่การสูญเสียสมุนที่เก่งกาจไปถึงสามตัวในคราวเดียวทำให้พยัคฆ์มารรู้สึกปวดร้าว

"สำนักเต๋าอี้ ดีมากๆ ข้าจะจดจำความแค้นนี้ไว้"

พยัคฆ์มารเอ่ยอย่างเย็นชา อันที่จริงพรรคพยัคฆ์ดำไม่อาจเปรียบเทียบกับสำนักเต๋าอี้ได้เลย

แต่เนื่องจากพยัคฆ์มารเป็นสัตว์ตระกูลพยัคฆ์ ซึ่งมีข่าวลือว่ามีความสัมพันธ์กับลัทธิอสูรพยัคฆ์

ประกอบกับพยัคฆ์มารไม่เคยหาเรื่องสำนักเต๋าอี้มาก่อน ทำให้สำนักเต๋าอี้ก็ไม่สนใจพวกมัน

หากไม่ใช่เพราะเรื่องไข่มุกอสูร พยัคฆ์มารคงไม่กล้าเสี่ยงให้คนเข้าไปในอาณาเขตของสำนักเต๋าอี้

แต่อยู่ดีๆก็ต้องเสียสัตว์อสูรขั้นสูงไปถึงสามตัว เรื่องนี้จะไม่ยอมให้ผ่านไปแน่นอน

ถ้าไม่กล้าเล่นงานสำนักเต๋าอี้โดยตรง จะกล้าเล่นงานศิษย์สำนักไม่ได้เชียวหรือ?

โดยเฉพาะศิษย์ภายในคนนั้นกับศิษย์รับใช้ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดเพราะพวกเขา

ในใจของพยัคฆ์มารจึงวางแผนไว้แล้วว่า ถ้ามีโอกาสเขาจะฆ่าทั้งสองคนให้ได้เพื่อแก้แค้นให้แก่สมุนทั้งสามของเขา

แต่ขณะที่พยัคฆ์มารยังคิดเรื่องการแก้แค้นอยู่นั้น ทันใดนั้นสัตว์อสูรหมาป่าตัวหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า

“แย่แล้วขอรับ ศิษย์ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์บุกเข้ามาแล้ว”

เมื่อได้ยินคำนี้พยัคฆ์มารกับนักรบอสูรทั้งสองก็ตกตะลึง ศิษย์ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์บุกมาถึงถิ่นของพวกมันแล้ว?

มนุษย์พวกนี้ต้องการอะไรกันแน่? ไม่พอใจแค่ฆ่านักรบอสูรไปสามตัวหรืออย่างไร ตอนนี้ยังบุกมาถึงที่ ต้องการจะทำลายพรรคพยัคฆ์ดำไปเลยหรือ?

พวกเขามีความแค้นอะไรขนาดนั้น ที่จะต้องตามล้างตามผลาญกันให้สิ้นซาก?

ในทันที สายตาของพยัคฆ์มารก็กลับมามองที่นักรบอสูรทั้งสองอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยกลิ่นอายเย็นเยือกออกมา ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“บอกมาซะ! พวกเจ้าก่อเรื่องอะไรไว้?”

หากไม่ได้ไปก่อเรื่องกับใครที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์คงไม่ตอบสนองรุนแรงเช่นนี้ ไล่ตามไม่ยอมปล่อยมาถึงพรรคพยัคฆ์ดำไปแน่

นักรบอสูรทั้งสองเต็มไปด้วยความขมขื่นใจ

"ท่านพยัคฆ์ ขอให้ฟ้าดินเป็นพยาน พวกข้ามิได้ทำอะไรจริง ๆ"

“หากไม่ได้ทำ ทำไมภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จึงตอบสนองเช่นนี้?”

"ข้าไม่รู้จริงๆนะ แค่เจอศิษย์ภายในกับศิษย์รับใช้คนนั้นส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แล้วพวกภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ยกทัพมา พวกข้าก็หลบหนีออกมาเรื่องทั้งหมดมีเพียงเท่านี้จิง"

นักรบอสูรทั้งสองเองก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ถึงบ้าคลั่งแบบนี้

ระหว่างที่พวกเขาพูดกันนั้น เสียงโห่ร้องต่อสู้ก็ดังมาจากนอกถ้ำ

“ฆ่า! เพื่อน้องฉางชิง!”

“ปกป้องศิษย์น้องฉางชิง ทำลายพรรคพยัคฆ์ดำ!”

“กล้ารังแกน้องฉางชิงของพวกเรา พุ่งเข้าไป ล้างแค้นให้เขา!”

เสียงเหล่านี้มีการพูดถึง"ศิษย์น้องฉางชิง"ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยัคฆ์มารย่อมได้ยินชัดเจน

"ยังไม่ยอมบอกความจริงอีกหรือ เจ้าไปทำอะไรกับฉางชิงกันแน่?"

ต้นเหตุทั้งหมดดูเหมือนจะมาจากศิษย์น้องฉางชิง เพราะเขาทำให้ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์คลุ้มคลั่ง ไล่ตามพวกเขามาถึงพรรคพยัคฆ์ดำ

ท่ามกลางการกดดันจากพยัคฆ์มาร นักรบอสูรทั้งสองแทบจะร้องไห้

“ท่านเหว ข้าไม่รู้จักใครชื่อฉางชิงเลย ไม่เคยไปทำอะไรกับเขาด้วย ข้า...”

“หากไม่ได้ทำ แล้วทำไมพวกเขาถึงมาล้างแค้นเพื่อฉางชิงกันเล่า?”

เสียงโห่ร้องสังหารเหล่านั้น เต็มไปด้วยความแค้นประหนึ่งเหมือนมีแค้นลึกซึ้ง หากพวกเจ้าไม่ทำอะไรกับเขา ศิษย์ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จะบ้าคลั่งขนาดนี้ทำไม?

แม้พยัคฆ์มารจะคาดคั้นถามแค่ไหน นักรบอสูรทั้งสองก็ไม่รู้อะไรเลย พวกเขาไม่รู้จักใครที่ชื่อฉางชิงจริง ๆ

เมื่อถามอะไรไม่ได้ ศิษย์ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ในที่สุดพยัคฆ์มารก็ต้องพานักรบอสูรทั้งสองออกมาสู้

ทันทีที่ออกมานอกถ้ำ พวกเขาก็พบว่าหงจุ้น หลูยูอู หลิวซวง และศิษย์ภายในจำนวนหลายสิบคนกำลังบุกมาถึงหน้าถ้ำ

เมื่อพยัคฆ์มารเห็นหงจุ้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในทันที จากนั้นก็เหลือบมองไปยังศิษย์ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์รอบตัวก่อนจะเอ่ยปาก

"ท่านหงจุ้นและเหล่าศิษย์แห่งภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ทุกท่าน ไม่ทราบว่าพวกข้าไปมีเรื่องใดที่ได้ล่วงเกินพวกท่านไปหรือขอรับ?"

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด