บทที่ 230 โมดิฟายมือถือ DragonStar A1 ช่วงวันหยุดตรุษจีนใกล้สิ้นสุด

เสียงประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายสิบวินาที เฉินซิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะกลายเป็นบุคคลที่ถูกแย่งตัวระหว่างหมู่บ้าน

เดิมทีเฉินซิงแค่ตั้งใจจะกลับบ้านแม่กับเหลียงรั่วหลาน แต่เขาก็ถูกผู้ใหญ่บ้านขอให้ไปจุดประทัดที่ศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน และนั่นไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญคือผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านข้างเคียง และหมู่บ้านที่ถัดไปอีกก็เข้ามาขอให้เขาช่วยไปจุดประทัดที่ศาลเจ้าของพวกเขาด้วย

ถ้าปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะพวกเขามาขอถึงหน้าบ้านแล้ว

ถ้าไป… ก็ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่

เฉินซิงก็เหมือนตัวเชื่อมต่อในเกมที่จุดศาลเจ้าแต่ละแห่งจนกระทั่งเย็น ขณะที่เขามาถึงศาลเจ้าของหมู่บ้านแซ่เหลียงในแถบตอนเหนือของมณฑลกวางตุ้ง เฉินซิงรับหน้าที่จุดประทัด ขณะที่เหลียงรั่วหลานและเฉินย่าเผิงก็นั่งคุยกับผู้คน

วันนี้คำที่เฉินซิงได้ยินมากที่สุดคือ "แค่จุดประทัดที่ศาลเจ้านี่เอง ไม่ต้องให้ซองแดงก็ได้" ส่วนคำที่เฉินซิงพูดมากที่สุดคือ "ขอบคุณครับ" เขากลายเป็นเหมือนเครื่องรับซองแดง เคลื่อนไปจุดประทัดแล้วก็ได้รับซองทุกครั้ง

เมื่อถึงช่วงเย็น แม่ของเหลียงรั่วหลาน หรือก็คือยายของเฉินซิง ได้เตรียมอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากตำแหน่ง "ทูตเป่ยโต่ว" เพื่อนบ้านและญาติในละแวกนั้นต่างก็มาร่วมทักทาย

“เป็นเฉินซิงตัวจริงเลย! ปกติเห็นแต่ในทีวีหรืออินเทอร์เน็ต ไม่คิดว่าจะได้เห็นตัวจริง”

“หน้าผากกว้าง ใบหน้าสมส่วน หล่อจริงๆ”

“คุณยายเหลียง พวกเรามาอวยพรปีใหม่ค่ะ”

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ”

บ้านของยายเฉินซิงเป็นบ้านสามชั้นในเมือง อยู่ในหมู่บ้านตัวเมือง และจัดทานอาหารที่ชั้นล่าง ดังนั้นความเป็นส่วนตัวจึงค่อนข้างน้อย แต่ในกวางโจวมีคำกล่าวว่า ความครึกครื้นคือการเฉลิมฉลองปีใหม่ และเพื่อนบ้านที่ดีนั้นก็ไม่ต่างจากญาติพี่น้อง

เหลียงรั่วหลานโตมาในพื้นที่นี้ จึงรู้จักเพื่อนบ้านดี เธอจึงกล่าวเชิญชวนว่า “นั่งตรงนี้เลยค่ะพี่ฟางและลุงคัง เดี๋ยวฉันจะเอาตะเกียบมาเพิ่ม มาร่วมทานอาหารด้วยกันเถอะค่ะ”

“งั้นฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”

“ฉันเอาไก่ต้มแช่เย็นจากภัตตาคารไป่เทียนเอ๋อมาด้วย รสชาติดีมากๆ”

เมื่อเพื่อนบ้านทยอยเข้ามาร่วมงาน อาหารเย็นจากที่มีแค่สิบกว่าคนก็เพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบกว่าคน ใครไม่มีที่นั่งก็หยิบเก้าอี้พลาสติกแดงมานั่งเพิ่ม

หลังจากกินอิ่มแล้ว งานเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปตามธรรมเนียมก็มาถึง

“เฉินซิง ขอฉันถ่ายรูปด้วยได้ไหม? ฉันชอบเธอมากเลย ตอนที่เห็นเธอขึ้นโทรทัศน์เรื่องการส่งจรวด ฉันถึงกับโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อหาแฟนให้เธอเลยนะ นี่ไง เธอดูสิ”

ผู้หญิงวัยห้าสิบกว่าปีที่ผมหยิกและมีรูปร่างสมบูรณ์ยื่นโทรศัพท์ให้เฉินซิงดู พร้อมกับโพสต์ในโซเชียลมีเดียของเธอ

[ยินดีด้วยที่ดาวเทียมเป่ยโต่วถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ! ขอปรบมือให้ความสำเร็จของเฉินซิง ผู้เป็นทูตเป่ยโต่วด้วย! แม่ของเขาเหลียงรั่วหลานก็เป็นคนที่นี่ด้วย เฉินซิงยังโสดนะ มีใครอายุ 18-25 มาลองโชคกันไหม?]

เฉินซิงอ่านโพสต์แล้วก็รู้สึกว่าเธอหาคู่ให้เขาจริงๆ แถมยังมีคนกดไลก์มากมาย

เมื่อเลื่อนลงไปยังมีความคิดเห็นมากมายที่เต็มไปด้วยชื่อโปรไฟล์ดอกบัว ดอกบานชื่น และท้องฟ้าสีคราม

[ดอกบัวบานสะพรั่ง] “ไลก์ให้เฉินซิง!”

[หมาป่าเดียวดาย] “อ้อ ที่แท้ก็เป็นคนแถวนี้เอง หลานสาวฉันเพิ่งอายุ 17 ปีเอง ใกล้จะ 18 แล้ว เดี๋ยวลองแนะนำให้ดูนะ?”

[ความสุขสันติ] “ลุงฟู่ อย่าแย่งเลย เด็กอายุแค่ 17-18 ให้เขาเรียนหนังสือก่อน ฉันมีลูกสาวสวย เป็นนางแบบ เดี๋ยวให้เขามาดูตัวกันดีไหม?”

[กินแล้วเป็นสุข] “ขอไลก์ให้เฉินซิง! ขอไลก์ให้ประเทศเรา!”

“ฉันยังมีรูปของลูกสาวพวกเขาด้วย เดี๋ยวฉันหาให้ดูนะ”

พอจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการจับคู่ เฉินซิงก็รีบพูดขึ้นว่า “เรียกผมว่าอาซิงก็พอครับ ไม่ต้องเรียกเฉินซิงหรอก มันเกินไปหน่อย รูปก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่โสดแล้ว เรามาถ่ายรูปกันดีกว่าครับ”

“มีแฟนแล้วเหรอ?”

“เพิ่งมีไม่นานครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณป้าข้างบ้านก็ไม่ได้แนะนำอะไรอีก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปกับเฉินซิงแทน

ต้องยอมรับว่าบางครั้งการโกหกก็ช่วยได้มากจริงๆ แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก

ขณะถ่ายรูปและอัดวิดีโอให้กับเพื่อนบ้าน เวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

……

ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง

บนแพลตฟอร์ม Weibo

เนื่องจากเป็นวันที่สองของเทศกาลตรุษจีน นักรีวิวหลายคนก็ได้รับเครื่อง DragonStar A1 ที่เฉินซิงส่งมาให้

จากที่เฉินซิงคาดไว้ หลินเสี่ยวหลงน่าจะเป็นคนแรกที่โพสต์รีวิว เพราะเขาได้รับเครื่องตั้งแต่คืนวันส่งท้ายปีเก่า ล่วงหน้ากว่านักรีวิวคนอื่นสองวัน แต่สองวันผ่านไปแล้ว บัญชีส่วนตัวของหลินเสี่ยวหลงยังไม่มีการอัปเดตใดๆ

กลับกัน นักรีวิวชื่อ “เจี้ยนเฟิงเชอผิง” ได้รับเครื่องแล้ว และเปิดไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม Weibo ทันที โดยตั้งหัวข้อว่า “รีวิว DragonStar A1 เจ้าแรกของเน็ต”

เนื่องจากหัวข้อดึงดูดผู้คนที่กำลังว่างและสนใจในเทคโนโลยี ผู้ชมหลายคนจึงกดเข้ามาชมไลฟ์ทันที

“รีวิว? เครื่องถึงมือแล้วเหรอ?”

“นักรีวิวคนนี้มีความสามารถมากนะ แฟนแค่สองแสนแต่กลับทำได้ดีกว่านักรีวิวที่มีแฟนเป็นล้าน เธอไม่ได้ไปขโมยเครื่องจากโรงงาน DragonStar มาใช่ไหม?”

“เธออาจจะขโมยมาก็ได้!”

“นักรีวิวที่มีแฟนเป็นล้านยังไม่ได้เครื่องเลย แต่เธอที่มีแฟนแค่สองแสนกลับได้เครื่องมาก่อน สงสัยมีเส้นสายแน่ๆ”

“ถ้าไม่มีการอนุญาตจาก DragonStar เธออาจจะโดนฟ้องได้นะ ระวังตัวล่ะ”

เมื่อเห็นข้อความในแชท วังเจี้ยนเฟิงก็พูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “อาจจะเพราะหน้าตาผมดีมาก เฉินซิงเลยส่งเครื่องให้ผมก่อน”

“พอแล้วๆ ทุกคน เครื่อง DragonStar A1 อยู่ในมือผมแล้ว เดี๋ยวจะรีวิวให้ชมกันตอนนี้เลยนะครับ”

เขาหยิบกล่องที่ยังไม่ได้แกะซีลของ DragonStar A1 มาอย่างรวดเร็ว แล้วฉีกซีลออกทันที ก่อนจะเปิดกล่องและหยิบมือถือออกมา

“น้ำหนักพอดี ไม่เบาไม่หนักเกินไป ดีไซน์จอแบบรอยบากผมชอบนะ เสียงเวลาคุยน่าจะชัดเจนดี”

“เดี๋ยวผมจะลองเปิดเครื่องดู”

ขณะที่เขากำลังเปิดเครื่อง นักรีวิวอีกหลายคนก็ได้รับเครื่อง DragonStar A1 และเริ่มเปิดไลฟ์ของตนเองเพื่อแย่งกระแสคนดู

ทีละคน

นักรีวิวหลายสิบคนบนแพลตฟอร์มต่างก็เริ่มเปิดไลฟ์สด

เหยาน่าน่า เจรจาล่วงหน้ากับทีมงานของ Weibo ไว้แล้วว่า ถ้ามีใครรีวิว DragonStar A1 ในวันที่สองของปีใหม่ ก็จะได้รับกระแสความสนใจจำนวนมาก

ไม่นานนัก

หัวข้อ “รีวิว DragonStar A1” ก็ขึ้นติดเทรนด์บนแพลตฟอร์ม Weibo

และไลฟ์ของ “เจี้ยนเฟิงเชอผิง” ก็ได้รับความสนใจสูงสุด เมื่อคลิกเข้าไปที่เทรนด์ก็จะพบหน้าเพจและไลฟ์สดของเขา

จากเดิมที่ไลฟ์สดของเขามีผู้ชมแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่พอได้รับความสนใจจากเทรนด์ ขณะที่ผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน จำนวนผู้ชมก็พุ่งสูงขึ้นถึงแสนคน

“DragonStar A1 อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอื่นเลยนะ ขอบอกว่าผมชอบดีไซน์ของมันมาก ขนาดจอประมาณ 6 นิ้ว น่าจะเหมาะกับการเล่นเกมมากๆ”

“อย่าทดสอบกล้องเลย กล้องที่พัฒนาเองสู้กล้องของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ไม่ได้อยู่แล้ว แค่ 999 หยวนก็ดีแล้ว มาลองทดสอบ SOC พระเจ้าดีกว่า”

“ใช่ ทดสอบ SOC หน่อย”

“ลองทดสอบคะแนนหน่อย อยากรู้ว่า SOC พระเจ้ามีของจริงหรือเปล่า”

เมื่อผู้ชมเรียกร้องอย่างมาก เจี้ยนเฟิงเชอผิงก็เข้าไปดาวน์โหลดแอป LuMaster เพื่อทดสอบคะแนนของชิป

หลังจากที่แอนิเมชันทดสอบเสร็จสิ้น คะแนนของชิปเริ่มปรากฏขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งหมื่น

ห้าหมื่น

เจ็ดหมื่น

เมื่อเห็นคะแนนถึงเจ็ดหมื่น ผู้ชมก็รู้แล้วว่าเฉินซิงไม่ได้โกหกพวกเขา นี่คือชิป SOC พระเจ้าอย่างแน่นอน เพราะชิป 20 นาโนเมตร เช่น Exynos 5433 หรือ Snapdragon 810 คะแนนจะอยู่ที่ราวๆ ห้าหมื่นเท่านั้น

แม้คะแนนจะอยู่แค่เจ็ดหมื่น แต่นี่ก็เป็นชิป SOC พระเจ้าของจริง

เมื่อคะแนนสุดท้ายปรากฏ เจี้ยนเฟิงเชอผิงประกาศว่า “92,410 คะแนน นี่คือชิป SOC พระเจ้า DragonStar A1 คุ้มที่จะจ่าย 999 หยวนไหม ทุกคนก็พิจารณากันดูนะครับ แต่ผมแนะนำให้ซื้อแน่นอน”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน การจะซื้อโทรศัพท์ที่ใช้ชิประดับเรือธง ราคาต้องอย่างต่ำ 1,999 หยวน นี่เป็นราคาที่ Xiaomi ตั้งมาตรฐานเอาไว้

แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ชิป SOC พระเจ้าไม่ใช่ชิปที่ใช้กันทั่วไป มันคือชิปที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ต่อให้ Xiaomi ได้ชิปนี้ไป พวกเขาก็คงไม่ขายในราคา 1,999 หยวน

ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ถ้ามีโทรศัพท์ที่ใช้ชิป SOC พระเจ้า แบรนด์ผู้ผลิตก็คงจะตั้งราคาให้สูงสุดๆ อย่างน้อยก็น่าจะ 3,000-4,000 หยวน

แต่ครั้งนี้ DragonStar A1 ขายในราคาเพียง 999 หยวน ใครล่ะที่จะไม่อยากซื้อ?

“หลังดูรีวิวแล้วมีแค่คำเดียวว่า ‘ซื้อ!’”

“ระบบปฏิบัติการ เทียนสวียน ลื่นไหลมาก ปัญหาที่ผมกังวลไม่ได้เกิดขึ้นเลย คุ้มค่าแก่การซื้อ”

“สนับสนุนของจีน!”

“หลังจากดูรีวิวเต็มๆ ผมมีแค่ 4 คำจะพูด: นำหน้าไปไกล!”

“ความได้เปรียบด้านราคานี้ ไม่มีใครสู้ได้เลย!”

ในขณะที่ผู้ชมต่างพากันชื่นชม ยอดจองซื้อบนแพลตฟอร์ม Taowu และ Wangdong ก็เพิ่มขึ้นอีกระลอกจนทะลุเจ็ดล้านคน โดยแต่ละแพลตฟอร์มมียอดจองคนละเจ็ดล้าน

ขณะที่ผู้ชมคิดว่านี่คือทั้งหมดของ DragonStar A1 หลินเสี่ยวหลง ผู้ที่ได้เครื่องเป็นคนแรกก็เริ่มไลฟ์ของตัวเอง

ทันทีที่เข้าไปในไลฟ์ ผู้ชมก็ต้องตกใจเพราะสภาพของหลินเสี่ยวหลง

ในกล้อง เขามีตาแพนด้า หน้าออกซีดๆ ริมฝีปากซีดลงไปด้วย

“พี่เสี่ยวหลง เป็นอะไรไป? วันปีใหม่แบบนี้อย่าตายในโทรศัพท์นะ!”

“ทำไมดูเหมือนคนโดนทรมานมาเลยล่ะ พี่เสี่ยวหลง นายคงไม่ได้เป็นพวกสายลับหรอกใช่ไหม? ไปโดนอะไรจากแฟนมาหรือเปล่า?”

“เจ็กเก๋อ! อย่าเจ็กเก๋อเลย!”

“เห็นใจพี่เสี่ยวหลงจังเลย”

หลังจากที่ข้อความในไลฟ์สดถูกพิมพ์ไม่กี่ประโยค จำนวนผู้ชมออนไลน์ก็พุ่งขึ้นถึงสามหมื่นคน หลินเสี่ยวหลงไม่ได้สนใจข้อความที่บอกว่าเขาโดนทรมานจากเจ็กเก๋อ แต่ประกาศผลงานออกมาแทน:

“พี่น้องทั้งหลาย ช่วงเวลาประวัติศาสตร์มาถึงแล้ว อย่ากระพริบตานะ!”

เขาหยิบโทรศัพท์ DragonStar A1 ออกมาโชว์หน้ากล้อง

“พี่เสี่ยวหลงมาเปิดตัวช้าไปแล้ว นักรีวิวคนอื่นเขาไปถึงขั้นแกะเครื่องกันแล้ว นายเพิ่งจะได้เครื่องมานี่มันช้าไปไหม?”

ขณะที่ผู้ชมเริ่มพิมพ์ข้อความถากถาง หลินเสี่ยวหลงก็ประกาศด้วยท่าทางจริงจังว่า “DragonStar A1 เครื่องนี้ไม่เหมือนเครื่องอื่นๆ นี่คือ DragonStar A1 ที่ผมโมดิฟายแล้ว!”

“โมดิฟาย???”

ผู้ชมต่างงุนงง

DragonStar A1 ยังไม่ได้วางจำหน่ายด้วยซ้ำ หลินเสี่ยวหลงก็เริ่มโมดิฟายแล้วเหรอ?

เขาเพิ่มพลังงานของแบตเตอรี่เหรอ? หรือเพิ่มลำโพงเข้าไป? หรือเปลี่ยนเลนส์กล้อง?

เพราะหลินเสี่ยวหลงเป็นนักรีวิวมือหนึ่งของ หัวเฉียงเป่ย การขยายความจุเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ผู้ชมจึงคาดเดาไปทางเรื่องยากๆ กัน

“ไม่มีอะไรแบบนั้น!”

หลินเสี่ยวหลงยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็เปิดแอป LuMaster เพื่อทดสอบคะแนนชิป

“ชิป SOC พระเจ้าตัวเดียวให้คะแนน 90,000 แต้ม ถ้าเพิ่มชิปที่แยกออกมาได้ คะแนนชิปจะเพิ่มเป็น 170,000 แต้ม แต่เครื่องนี้ที่ผมโมดิฟาย ผมใส่ชิป SOC พระเจ้าไปสองตัว! และคะแนนที่ได้คือ…”

“180,000 คะแนน!”

เมื่อเขาพูดถึง 180,000 คะแนน แอป LuMaster ก็ทดสอบเสร็จพอดี และคะแนนที่หน้าจอก็แสดงออกมาว่าเป็น 184,000 คะแนน

ผู้ชมในไลฟ์ต่างพากันนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง

แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการระเบิดขึ้น ราวกับภูเขาไฟระเบิด

“โว้ย! โมดิฟายชิปได้!”

“พี่เสี่ยวหลง นายไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ นี่นายทำได้จริงๆ!”

“ทำได้ยังไง?”

“ผมไม่เข้าใจนะ ชิป SOC ขนาด 14 นาโนเมตร 10 คอร์สองตัว เครื่อง DragonStar A1 ระบบระบายความร้อนมันรองรับได้เหรอ?”

“น่าจะไหม้บอร์ดนะ!”

ผู้ชมในไลฟ์คลั่งไปแล้ว DragonStar A1 ยังไม่ทันวางจำหน่าย ก็มีการเปิดเผยว่าโมดิฟายได้ นี่ทำให้แฟนๆ สายรีวิวโทรศัพท์ตัดสินใจทันทีว่า ต้องซื้อสองเครื่องมาลองโมดิฟายเล่น

หลินเสี่ยวหลงอ่านคำถามในไลฟ์แล้วก็ยิ้มและพูดว่า “ผมทดสอบแล้ว การใส่ชิป SOC สองตัวมันควบคุมความร้อนไม่ได้ แต่ถ้าใส่ชิป ชิงโจว เพิ่มเข้าไปด้วย มันจะระบายความร้อนได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็ใส่ที่ระบายความร้อนติดด้านหลังเครื่องได้อีก”

เมื่อเขาพูดจบ ก็เสริมต่อว่า “ถ้าใครซื้อ DragonStar A1 มาแล้วอยากโมดิฟาย แต่ไม่รู้วิธี ลองมาหาผมได้ หัวเฉียงเป่ย ของเรามีบริการรับโมดิฟาย มั่นใจได้เลย”

เพราะสามารถโมดิฟายชิปได้ทำให้ประสิทธิภาพของ DragonStar A1 เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาจึงวางแผนใช้โอกาสนี้ทำเงินบ้าง

ผู้ชมในไลฟ์ได้ยินแบบนั้นก็พากันพิมพ์ข้อความออกมา

“โมดิฟาย! โมดิฟายให้เต็มที่!”

“DragonStar A1 นี่ไม่ใช่โทรศัพท์ธรรมดา ยังไม่ทันวางจำหน่ายก็กลายเป็นเครื่องเล่นโมดิฟายแล้ว เฉินซิงคงช็อกแน่ๆ ถ้าได้เห็น”

“ต้องยอมรับเลยว่า DragonStar A1 นี่น่าสนุกมาก โมดิฟายชิปได้ตามใจใช่ไหม? พี่เสี่ยวหลงช่วยใส่ CPU คอมพิวเตอร์ให้ผมหน่อย ผมจะเป็นคนที่ได้คะแนนสูงสุดในโลก!”

“CPU คอมพิวเตอร์จริงๆ เหรอเนี่ย? ทุกคนช่วยเบาๆ หน่อยสิ ถ้าพวกนายเล่นกันแบบนี้ ฉันจะใส่การ์ดจอเข้าไปแล้วนะ!”

“โอเคๆ เล่นแบบนี้ใช่ไหม? งั้นฉันจะใส่ทั้งการ์ดจอและ CPU! พี่เสี่ยวหลงช่วยโมดิฟายให้ที!”

……

บางทีเฉินซิงก็คงไม่คิดว่า DragonStar A1 ที่ใช้ชิป SOC พระเจ้าได้เปิดโอกาสให้คนสามารถโมดิฟายได้ และมีคนคิดจะใส่การ์ดจอเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย

ไม่ว่ามันจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่มันได้สร้างกระแสไปทั่วแน่นอน

หลังจากที่หลินเสี่ยวหลงโพสต์วิดีโอการโมดิฟายเสร็จเรียบร้อย รวมถึงไลฟ์ทบทวนผลการทดลอง วงการรีวิวโทรศัพท์ต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่

DragonStar A1?

พวกเขาคนละร้อยเครื่อง!

อย่าประเมินแฟนๆ สายรีวิวโทรศัพท์ต่ำเกินไป นี่เหมือนกับพวกคนชอบขับรถออฟโรด ที่กล้าทำในสิ่งที่เจ้าของรถปกติไม่กล้าทำ คนที่เล่นกับโทรศัพท์จะทำทุกอย่างที่คุณไม่กล้า

หลังจากการโมดิฟายของหลินเสี่ยวหลง ความนิยมของ DragonStar A1 ก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ยอดจองบนแพลตฟอร์มทั้งสองก็ทะลุ 9 ล้านคนแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่กระแสความนิยมของ DragonStar A1 ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉินซิงก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะเขายังคงยุ่งอยู่กับการดื่มเหล้าและคุยกับญาติๆ

ดื่มในวันปีใหม่แรก

ดื่มในวันปีใหม่ที่สอง

ดื่มในวันปีใหม่ที่สาม

ปีนี้มีญาติๆ ที่มาเยี่ยมบ้านของเฉินซิงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา รวมกันทั้งหมดในสามปีนี้

ช่วงตรุษจีนของเฉินซิงแทบไม่มีช่วงว่างเลย หลังจากดื่มเหล้ากับญาติ ก็ต้องไปงานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนนักเรียน แม้ว่าเฉินซิงจะไม่อยากไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะอาจารย์เก่าของเขาชวนอย่างหนักแน่น

ช่วงตรุษจีนนี้เฉินซิงทำแต่ดื่มเหล้า และดื่มเหล้าอีก โชคดีที่เขาเป็นคนมากประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจ และได้ฝึกฝนความสามารถในการดื่มมาจนเก่ง

จนกระทั่งค่ำของวันปีใหม่ที่หก หลังจากทานอาหารมื้อสุดท้ายของเทศกาลกับลุงใหญ่ ลุงรอง และญาติๆ ใกล้ชิด เฉินซิงกลับบ้านและนอนบนเตียงพร้อมกับคิดว่า “ในที่สุดวันหยุดตรุษจีนก็จะสิ้นสุดลงแล้ว”

แม้เขาจะดื่มได้ไม่รู้จักเมา แต่หลังจากดื่มเหล้าไปมากมายขนาดนี้ เขาก็ต้องคิดถึงสุขภาพตัวเองบ้าง

โชคดีที่มันผ่านไปแล้ว หลังจากวันปีใหม่ที่เจ็ด ทุกคนก็จะกลับไปทำงาน และ DragonStar Technology ก็จะเรียกพนักงานกลับมาเริ่มผลิตอีกครั้ง จะไม่มีการดื่มเหล้าอีกต่อไป