ตอนที่ 12 การมาถึงของหลิวอี้อี้ และเจิ้งเหวินอัน
ตอนที่ 12 การมาถึงของหลิวอี้อี้ และเจิ้งเหวินอัน
ไม่นานหลังจากที่ชายร่างอ้วนสองคนเข้าไปในห้อง พวกเขาก็เดินออกมาอีกครั้ง
เพื่อที่จะได้มาถึงโรงแรมเจียงหลินเร็วขึ้น ทั้งสองคนไม่ได้นำอะไรติดตัวไปด้วยมากนักเมื่อออกเดินทาง ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้นั่งพักสักครู่ พวกเขาเริ่มตัดสินใจที่จะกลับไปเอาสิ่งของจำเป็นบางอย่าง เพื่อที่จะอยู่อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
ฉู่เจียงเยว่จึงแนะนำให้พวกเขารอจนดวงอาทิตย์ตกดินก่อนจะกลับไปเอาของ แต่ทั้งสองปฏิเสธ หากพวกเขากลับไปช้าเกิน ของในวิลล่าของพวกเขาอาจถูกขโมยไปแล้ว
แม้ว่าฉู่เจียงเยว่จะรู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับความเสี่ยงสำหรับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั้น แต่เธอก็เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น สามารถช่วยให้คำแนะนำได้ แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแขกแต่ละคน
เนื่องจากพวกเขายืนกราน เธอจึงได้แต่หวังว่าพวกเขาจะเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย
“โฮสต์ หลิวอี้อี้ และเจิ้งเหวินอันดูเหมือนจะอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”
จู่ๆ จิ้งจอกน้อยก็พูดขึ้น เมื่อฉู่เจียงเยว่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับทั้งสองคนนี้ เธอก็ไม่สนใจที่จะรับฟังอีกต่อไป
ชายกับหญิงจอมเสแสร้ง ถ้าเธอเป็นนางเอก เธอคงอยากทุบตีพวกเขาจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้โชคร้ายคนไหนที่ต้องมาลงเอยกับคนที่มีนิสัยเช่นนี้
“โฮสต์ ดูเหมือนพวกเขากำลังมุ่งหน้ามาที่โรงแรมของเรา”
จิ้งจอกน้อยรู้สึกไม่ค่อยประทับใจในเจิ้งเหวินอัน มันจึงต้องการตามหานางเอกโดยเร็วที่สุด
ฉู่เจียงเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอเตะหลิวอี้อี้หลายครั้งในวันนั้น หลิวอี้อี้ควรจะเกลียดเธอทำไมอีกฝ่ายถึงมาที่โรงแรมอีกครั้ง
จะมาหาเรื่องหรือยังไง?
“พี่เหวินอัน ที่นี่แหละ!”
ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะเดินเข้ามาในประตูโรงแรม ฉู่เจียงเยว่ก็ได้ยินเสียงของหลิวอี้อี้นำมาก่อนแล้ว
เมื่อเสียงหายไป เธอก็ได้เห็นเจิ้งเหวินอัน และหลิวอี้อี้ที่กำลังเดินเข้ามา
ฉู่เจียงเยว่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์และไม่มีความตั้งใจที่จะยืนขึ้นเพื่อทักทายพวกเขา
เธอยินดีให้บริการตามหน้าที่ แต่ระดับบริการล้วนแตกต่างไปตามแต่ละคน ที่นี่เธอไม่จำเป็นต้องง้อใคร
“เฮ้! เธอไม่เห็นพวกเราเข้ามาเหรอ? ทำไมการบริการของโรงแรมนี้จึงย่ำแย่เหลือเกิน?”
หลิวอี้อี้ไม่ชอบฉู่เจียงเยว่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน เพราะเธอเกลียดใบหน้าที่งดงามกว่าของอีกฝ่าย
"โรงแรมนี้เป็นที่แห่งเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อน ถ้าเธอคิดว่าฉันบริการไม่ดี ก็เชิญเดินออกไปได้เลย"
เธอยังไม่ลืมว่าเมื่อพบกันครั้งแรก หลิวอี้อี้ต้องการผลักเธอออกจากประตูโรงแรม
หากจิ้งจอกน้อยไม่ห้ามเธอเอาไว้ หลิวอี้อี้ก็คงจะไม่ได้มีลมหายใจอยู่มาถึงจนวันนี้
“คุณเจียงเยว่…”
“กรุณาเรียกฉันว่าเถ้าแก่ฉู่!”
เมื่อได้ยินคำเรียกของเจิ้งเหวินอัน ฉู่เจียงเยว่ก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว และรู้สึกไม่สบายตัวอย่างยิ่ง
เจิ้งเหวินอันคาดไม่ถึงว่าฉู่เจียงเยว่จะขัดจังหวะคำพูดของเขา
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขาก็ยังยิ้มแย้มเหมือนเดิม และปรับเปลี่ยนความคิดได้อย่างรวดเร็ว
“ก่อนหน้านี้ผมได้ยินมาว่าโรงแรมมีห้องว่าง เปิดห้องพักให้เราสักสองห้องที”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจิ้งเหวินอัน ฉู่เจียงเยว่ก็เลิกคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาด้วยเหตุผลนี้ สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของโครงเรื่องหรอกหรือ?
เมื่อฉู่เจียงเยว่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ถามจิ้งจอกน้อยในใจ
“มันควรจะ...ไม่ส่งผลกระทบมากนัก ตามเนื้อเรื่อง ในเวลานี้พวกเขาจะอยู่ด้วยกันที่เซิงซื่อฮัวตู่ และจะออกจากที่นี่ไปพร้อมกับทีมกู้ภัยในอีกครึ่งเดือนหน้า”
โรงแรมเจียงหลินก็ตั้งอยู่ในอาณาเขตของชุมชนเซิงซื่อฮัวตู่ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากนัก
แต่ไม่ว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ก็ตาม ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยแขกที่ต้องการเข้าพักไป
“ยังมีห้องพักเหลือก็จริง แต่ห้องเดี่ยวเต็มหมดแล้ว เหลือแค่ห้องเตียงคู่ และห้องสามเตียง นายต้องการพักห้องแบบใด?”
ฉู่เจียงเยว่มองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
เมื่อพวกเขาได้ยินว่ามีเพียงห้องเตียงคู่ และห้องสามเตียง ทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าที่แตกต่างกัน
“ผมต้องการห้องเตียงคู่สองห้อง มันไม่เหมาะที่ชายหญิงจะอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง”
ตามเนื้อเรื่องเดิม เจิ้งเหวินอันถูกกำหนดให้เป็นของนางเอกเท่านั้น ก่อนหน้านั้นเขาจึงไม่เคยหลับนอนกับใคร แต่นั่นคือในนิยาย ในโลกความจริง แม้จะมีการวางบทบาทก็ยังยากจะพูด
เขารีบพูดก่อนที่หลิวอี้อี้จะได้พูด เพราะกลัวว่าถ้าเขาพูดช้าเกินไป หลิวอี้อี้จะต้องการพักด้วยกัน และเขาจะไม่อาจแก้ตัวอะไรได้ แม้ว่าจะกระโดดลงแม่น้ำเหลืองก็ตาม
“พี่เหวินอัน อย่าทิ้งฉันนะ! ฉันจะกลัว ถ้าฉันต้องอยู่คนเดียว!”
เห็นได้ชัดว่าหลิวอี้อี้คิดไม่ถึงว่าเจิ้งเหวินอันจะยอมเสียเงินเพิ่มมากกว่าแชร์ห้องร่วมกับเธอ
“อี้อี้ คุณโตแล้ว สิ่งนี้ไม่เหมาะสม คุณต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเองด้วย”
เจิ้งเหวินอันโน้มน้าวอย่างจริงจัง
หลิวอี้อี้ไม่อยากแยกจากกัน แต่ในเมื่อเจิ้งเหวินอันยืนกราน เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปลดกำไลทอง และหยกที่ข้อมือของตนออกด้วยปากบูดบึ้ง ไม่ว่าเครื่องแลกเปลี่ยนจะตีราคาเท่าใด เธอก็ไม่ปฏิเสธ
“ช่วยเปิดห้องให้ฉันเป็นเวลา 5 วัน!”
หลังจากที่หลิวอี้อี้แลกเปลี่ยนเสร็จ เจิ้งเหวินอันก็รีบหยิบจี้หยกรูปเจ้าแม่กวนอิมออกมา พร้อมกับเข็มกลัดเงินที่เขาเตรียมไว้มาวางไว้ในถาดแลกเปลี่ยนเพื่อแลกเป็นเหรียญทองแดง
“เถ้าแก่ ช่วยเปิดอีกห้องหนึ่งให้ผมด้วย”
เจิ้งเหวินอันกลัวว่าฉู่เจียงเยว่จะฟังหลิวอี้อี้ และจัดห้องเตียงคู่ให้พวกเขา เขาจึงรีบพูดออกมา
อย่างไรก็ตาม ตามความสัมพันธ์ของสองครอบครัว หากไม่เกิดวันสิ้นโลก ทั้งสองคงจะแต่งงานกันในที่สุด
ประเพณีของจีนในการเสริมสร้างความใกล้ชิดด้วยการแต่งงานยังคงมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง
ดังนั้น ที่จริงแล้วแม้ทั้งสองจะแชร์ห้องกันก็จะไม่มีใครตั้งคำถาม แต่ดูเมื่อเจิ้งเหวินอันจะไม่คิดเช่นนั้น
“เชิญรูดบัตรตรงนี้”
ฉู่เจียงเยว่ชี้ไปที่เครื่องที่อยู่ตรงหน้าเพื่อแสดงว่าทั้งสองคนสามารถรูดบัตรแยกกันได้
[ เรียนคุณหลิวอี้อี้ ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมเจียงหลิน ระยะเวลาการเข้าพัก 5 วัน ค่าธรรมเนียม 1,000 เหรียญทองแดง ชำระเงินเสร็จสิ้น ขอให้คุณมีความสุข! ]
"ยินดีด้วย"
ฉู่เจียงเยว่มองไปที่หลิวอี้อี้ และกล่าวแสดงความยินดี แต่ในใจเธอกำลังคิดถึงเรื่องซุบซิบนินทา
หลังจากที่หลิวอี้อี้รูดบัตรของตนสำเร็จ เจิ้งเหวินอันก็รูดบัตรของเขาต่อในเวลาไล่เลี่ยกัน
“พี่เหวินอัน…”
หลิวอี้อี้มองไปที่เจิ้งเหวินอัน และยังคงต้องการที่จะอยู่ห้องเดียวกันเพื่อที่จะได้ทำบางสิ่ง
พ่อแม่ของเจิ้งเหวินอัน และพ่อแม่ของหลิวอี้อี้เดินทางไปทำธุรกิจด้วยกัน แต่ก่อนจะออกเดินทาง พ่อแม่ของพวกเขาได้เรียกพวกเขามาพูดคุย และขอให้พวกเขาดูแลซึ่งกันและกัน
หากรวมเป็นทองแผ่นเดียวได้ก็ยิ่งดี
“พี่เหวินอัน ทำไมพี่ถึงไม่อยากอยู่กับฉันล่ะ”
น้ำเสียงของหลิวอี้อี้ฟังดูเจ็บปวดใจ และดวงตาของเธอก็แดงก่ำ
ฉู่เจียงเยว่กลอกตาในใจ ช่างเป็นการแสดงที่ดูเชี่ยวชาญมากจริงๆ
“อี้อี้ ชื่อเสียงของหญิงสาวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
แม้ว่าเขาจะต้องการ แต่เขาก็ยังปฏิเสธอย่างแน่วแน่
“โฮสต์ ชายคนนี้หน้าซื่อใจคดจริงๆ เขาถูกเลือกมาได้ยังไงเนี่ย!!!”
เมื่อได้พบกับเจิ้งเหวินอันเป็นครั้งที่สอง และเห็นท่าทีที่เสแสร้งพอๆ กับหลิวอี้อี้ของเขา จิ้งจอกน้อยก็ยิ่งไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
ใคร? ใครเป็นคนเลือกเขามาเป็นตัวเอก ตาบอดหรือยังไง?
การโวยวายของจิ้งจอกน้อยเกือบจะทำให้ฉู่เจียงเยว่หัวเราะออกมาดังๆ เธอปิดปากตัวเองไม่ทันจริงๆ