ตอนที่แล้วตอนที่ 9 คำถามที่อาจไม่ได้รับคำตอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 การมาถึงของอากาศร้อน อุณหภูมิที่สูงขึ้น

ตอนที่ 10 ต้นกล้าไม้ผล


ตอนที่ 10 ต้นกล้าไม้ผล

หลังจากที่เซี่ยซีหลินย้ายเข้าไปอยู่ในห้องเตียงคู่ตามลำพัง เขาก็เริ่มคิดว่าจะหาใครที่จะมาหารค่าห้องได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะหาเพื่อนร่วมห้องได้ เซี่ยซีหลินก็ต้องรบกวนเสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ทุกวัน และออกไปค้นหาสิ่งของเพื่อให้เขาสามารถจ่าย 400 เหรียญทองแดงต่อวันได้

เขานำทุกอย่างที่ขนได้กลับมา ขายให้กับเครื่องแลกเปลี่ยนของโรงแรม และแลกเป็นเหรียญทองแดง

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เสิ่นจื้อกุย และทีมของเขาได้นำผู้รอดชีวิตจำนวนมากกลับมาพร้อมกันด้วย

นั่นทำให้ภารกิจใหม่ของฉู่เจียงเยว่เสร็จสิ้นอย่างเงียบๆ ในเวลาอันรวดเร็ว

ในขณะนี้ เธอกำลังมองดูรางวัลที่ได้รับหลังจากภารกิจเสร็จสิ้น

[ ภารกิจ : รับลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเติมเงินครั้งแรก 20 คน ( 20 / 20 ) ]

[ รางวัล : ปลดล็อคห้องพักบนชั้นสาม ( ห้องสำหรับ 3 คน ) x20 ต้นกล้าไม้ผลแบบสุ่ม x1 ค่าประสบการณ์ +200 ]

[ ระดับโรงแรม : 1 ( 290 / 100) ]

[ ตรงตามเงื่อนไขการอัพเกรดสำหรับโรงแรมระดับสอง ( 290 / 100 ) คุณต้องการอัพเกรดหรือไม่? ]

[ ภารกิจ : ออกบัตรประจำตัวให้ลูกค้าครบ 100 คน ]

[ รางวัล : ปลดล็อค? ]

เมื่อเห็นต้นกล้าไม้ผล ฉู่เจียงเยว่ก็ยืนตัวตรง

หลังจากที่ไวรัสซอมบี้แพร่ระบาด สิ่งที่ตามมาคือ สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานถึงสามเดือน ทำให้ระหว่างช่วงเวลานั้นพืชจำนวนมากก็เหี่ยวเฉา และตายไป

พืชส่วนใหญ่ที่รอดชีวิตมาได้กลายเป็นพืชกลายพันธุ์ หากคนธรรมดาพบพืชกลายพันธุ์ในขณะที่ค้นหาเสบียงอาหาร โดยทั่วไปแล้วจะแทบไม่มีโอกาสรอด

แต่ตอนนี้เธอได้รับต้นกล้าไม้ผลเป็นรางวัล นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถขายผลไม้สดให้คนอื่นได้ในอนาคต?

ชูเจียงเยว่เลือกรับรางวัลทั้งหมดโดยตรง และต้นกล้าก็ปรากฏขึ้นที่ตรงเท้าของเธอ

โชคดีที่ตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่อยู่ในล็อบบี้ของโรงแรมจึงไม่มีใครเห็นสิ่งผิดปกตินี้

“จิ้งจอกน้อย ฉันควรนำต้นกล้านี้ไปปลูกไว้ที่ไหนดี?”

ภายในโรงแรมไม่มีที่ให้ปลูกอย่างแน่นอน และด้านนอกของโรงแรมก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน หลังจากนี้เมื่อวันเวลาผ่านไป อุณหภูมิก็จะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้คนต้องการออกไปข้างหน้า พวกเขาก็ต้องระวังเพราะมีสิทธิ์ถูกแดดเผา สูญเสียน้ำในร่างกาย และอาจเป็นลมแดดได้

“โฮสต์สามารถปลูกมันที่ทางเข้าโรงแรมได้แล้วระบบจะรวมต้นกล้าต้นนี้เข้ามาอยู่ภายในโรงแรมโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณก็ไม่ต้องกังวลว่ามันจะไม่รอด”

จิ้งจอกน้อยมองไปที่ต้นกล้าผลไม้ที่ฉู่เจียงเยว่ถืออยู่ และรู้สึกประหลาดใจจริงๆ

ความน่าจะเป็นที่จะได้รับรางวัลชุดนี้ต่ำมากไม่ใช่เหรอ แปลกจริงๆ

มันเคยได้ยินรุ่นพี่หลายคนบ่นเกี่ยวกับปัญหานี้ มีโฮสต์หลายคนที่ล้มเหลว และตายจากรางวัลภารกิจที่ค่อนข้างต่ำ เรื่องของดวงก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม แม้จิ้งจอกน้อยจะประหลาดใจ แต่มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมา

ด้วยไม้ผลต้นนี้ ฉู่เจียงเยว่จะเห็นค่าในตัวมันมากยิ่งขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องดี

ฉู่เจียงเยว่ไม่รู้ว่าจิ้งจอกน้อยกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเธอจึงแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูดออกมา

“แค่ปลูกลงดินตรงๆ เหรอ? ต้องค่อยรดน้ำมันหรือไม่?”

“รดครั้งหนึ่งหลังปลูก แล้วจากนั้นก็รดน้ำทุกๆ สองวัน โฮสต์ไม่ต้องจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ”

“แน่นอน หากโฮสต์ต้องการ คุณสามารถป้อนพลังวิเศษธาตุไม้ให้กับมันได้ บางทีอาจมีเรื่องน่าสนใจบางอย่างเกิดขึ้น”

รางวัลที่มีอัตราได้รับต่ำเช่นนี้แน่นอนว่าต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และระมัดระวังระดับหนึ่ง!

ต้นกล้าที่ได้รับมาจากโรงแรมวันสิ้นโลกนั้นเต็มไปด้วยพลังอย่างแท้จริง

“เอาล่ะ ฉันจะปลูกตอนนี้ กำลังไม่มีใครอยู่พอดีเลย”

ฉู่เจียงเยว่อุ้มต้นกล้าแล้วเดินออกไปที่ประตูโรงแรม แต่ในระหว่างเดิน จู่ๆ เธอก็จำได้ว่าตนไม่มีเครื่องมือการเกษตรใดๆ เลย

“จิ้งจอกน้อย เธอมีพลั่วอยู่กับตัวไหม?”

เธอจะขุดโดยไม่มีพลั่วได้อย่างไร? ใช้มือขุดเหรอ?

จิ้งจอกน้อยเงียบ เนื่องจากโอกาสได้รับต้นกล้าค่อนข้างต่ำ มันจึงลืมสร้างห้องเครื่องมือสำหรับใช่ในโรงแรม

ฉู่เจียงเยว่ “@#&$%^!”

“เถ้าแก่ คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”

ฉู่เจียงเยว่ที่กำลังหัวเสียกับจิ้งจอกน้อย คิดไม่ถึงว่าเสิ่นจื้อกุยจะเดินออกมาในเวลานี้

พวกเขาไม่ได้กำลังรับประทานอาหารอยู่เหรอ?

“เอ่อ ฉันเจอต้นกล้าต้นหนึ่งเลยอยากปลูกมันไว้หน้าโรงแรมเพื่อเพิ่มความสวยงาม”

“แต่ตอนที่ฉันนำมันกลับมาก็ลืมคิดไปว่าตัวเองไม่มีเครื่องมือที่จะใช้ในการปลูกมันได้เลย”

เสิ่นจื้อกุยมองดูต้นกล้าที่มีชีวิตชีวาที่วางอยู่ข้างเท้าของฉู่เจียงเยว่ และมองดูต้นไม้อื่นๆ โดยรอบที่เหี่ยวเฉา เขาก็คิดว่ามันไม่น่าใช่ต้นกล้าที่จะเก็บมาจากพื้นที่แถวๆ นี้ได้เลย

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เปิดเผยความคิดของฉู่เจียงเยว่ ในเมื่อเขาต้องอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน เขาต้องรู้ว่าควรจะพูดอะไร และไม่ควรพูดอะไร

ผู้ที่รู้สถานการณ์คือ ผู้ที่สามารถอยู่รอดได้นานที่สุด

“ผมจะลองถามคนอื่นๆ ให้เผื่อมีใครช่วยได้”

หลังจากพูดจบ เสิ่นจื้อกุยก็เดินกลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เดินออกมาพร้อมกับพลั่วขนาดใหญ่อันหนึ่ง

พูดตามตรง เมื่อเสิ่นจื้อกุยกำลังถือพลั่วอยู่ในมือ ภาพลักษณ์ของเขาดูแปลกตาไปไม่น้อย

ฉู่เจียงเยว่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นเสียงหัวเราะไวในลำคอ

เจียงเหอซึ่งเดินตามเสิ่นจื้อกุยมา ดันแว่นตาของตนขึ้นอย่างสงบเมื่อเขาเห็นต้นกล้าที่มีชีวิตชีวาที่อยู่ข้างเท้าของฉู่เจียงเยว่

การที่ฉู่เจียงเยว่สามารถเปิดโรงแรมเช่นนี้ในวันสิ้นโลกได้ เมื่อเทียบกับต้นกล้าประหลาดที่จู่ๆ โผล่ขึ้นมา มันก็ไม่ได้ดูแปลกนัก

ฉู่เจียงเยว่รับพลั่วจากมือของเสิ่นจื้อกุย และเตรียมขุดหลุมกว้างประมาณ 1 เมตรทางด้านซ้ายของทางเข้าโรงแรม

"เถ้าแก่ คุณต้องการความช่วยเหลือจากเราหรือไม่?"

เมื่อมองดูแขนและขาอันเรียวยาวของฉู่เจียงเยว่ที่ถือพลั่ว และเตรียมขุดดิน เสิ่นจื้อกุยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์ของเธอ

“โฮสต์ คุณจะให้เขาช่วยไม่ได้ ถ้าคุณไม่พูดมันด้วยตัวเอง มันจะไม่ถูกรวมเข้ากับอาณาเขตของโรงแรม เมื่อถึงตอนนั้นมันคงไม่มีทางรอด”

เดิมทีฉู่เจียงเยว่ต้องการส่งพลั่วให้เสิ่นจื้อกุย แต่เมื่อได้ยินเธอก็หดมือกลับแล้วกล่าวว่า "ขอบคุณ แต่ฉันต้องการจะปลูกมันด้วยตัวเอง"

ฉู่เจียงเยว่พยายามอย่างหนักที่จะกดพลั่วลง พยายามขุดดินออกมาให้ได้มากที่สุดในคราวเดียว

เมื่อขุดลึกเกือบครึ่งเมตร ในที่สุดฉู่เจียงเยว่ก็หยุด วางพลั่วไว้ข้างๆ แล้วเดินไปหาต้นกล้าเพื่อยกมันลงไปในหลุดม กลบดิน และรดน้ำ กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

“เฮ้อ ขอบคุณสำหรับพลั่ว ฉันจะล้างมันแล้วค่อยคืนให้”

ฉู่เจียงเยว่หยิบพลั่ว และกำลังเดินไปห้องน้ำสาธารณะที่ชั้นหนึ่งเพื่อล้างดินที่ปนเปื้อนออก

“ไม่เป็นไร ผมจะเอามันกลับไปให้พวกเขาล้างมันเอง”

เสิ่นจื้อกุยคว้าพลั่วจากมือของฉู่เจียงเยว่ แล้วเดินกลับไปที่ห้องพัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนหันหลังกลับแล้วเดินเข้าไปในโรงแรม พวกเขาก็ไม่ทันสังเกตเห็นว่าตรงที่ฉู่เจียงเยว่เพิ่งปลูกต้นกล้าไปนั้น ดินที่อยู่โดยรอบมีสีเปลี่ยนไป และตัวต้นกล้าเองก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น

สีของที่ดินภายนอกโรงแรมแตกต่างจากสีของภายในอาณาเขตของโรงแรม

จากนั้น ฉู่เจียงเยว่รออยู่ในโรงแรมเหมือนวันก่อนๆ หลังจากถึง 6 โมงเย็น เธอก็ปิดประตูโรงแรม และเริ่มทำอาหารเย็นให้กับตัวเอง

เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ก็ได้กลิ่นหอมจากการปรุงอาหารของฉู่เจียงเยว่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลงไปรบกวนเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด