ตอนที่แล้วเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 14
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 16

เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 15


[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]

<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 15>

***********

เหนือท้องฟ้าเบื้องบน เศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังล่องลอยอยู่

ทันใดนั้นเองไรก็ได้ก็เหลือบไปเห็นเศษแก้วขนาดใหญ่เป็นพิเศษชิ้นหนึ่ง

‘…….’

ภายในเศษแก้วนั้น ฉายภาพชีวิตประจำวันที่แสนสงบสุขของกรุงโซล

กรุงโซลในยามบ่ายที่ปราศจากการก่อการร้าย การประกาศสงครามจากยานอวกาศขนาดยักษ์ หรือแม้แต่การพุ่งชนของอุกกาบาต

รถยนต์ติดขัดบนท้องถนน และผู้คนมากมายกำลังเดินขวักไขว่อยู่ท่ามกลางรถยนต์เหล่านั้น

เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเองก็มีชีวิตแบบนั้น

แต่ตอนนี้ เธอกำลังมองดูภาพนั้นจากสถานที่ที่ไม่รู้จักแห่งนี้

‘น่ากลัวจัง’

วู้มมม!

อีกไม่นานก็จะถึงล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์

ไรก็ได้กำลังจะลองทำสิ่งที่ไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันมาก่อน

เอาเถอะ

ที่ผ่านมาเธอเคยคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้บ้างไหม

โลกใบนี้ให้ความรู้สึกเหมือนภาพลวงตา

ที่นี่ที่ไหนกัน?

ตอนนี้เธอไม่สามารถแม้แต่จะแยกแยะกลางวันและกลางคืนได้

หมอกสีม่วงลอยอยู่แทนก้อนเมฆ และดวงอาทิตย์สีดำทะมึนกำลังลุกโชนอยู่บนท้องฟ้า

แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาจากดวงอาทิตย์นั้นมีสีแดง

ไม่มีผู้คนหรือรถยนต์อยู่เลย

สิ่งเดียวที่สามารถบ่งบอกได้ว่าที่นี่คือกรุงโซลก็มีเพียงแค่รูปทรงของอาคารและท้องถนนเท่านั้น

ไรก็ได้สงบสติอารมณ์และเหยียบคันเร่ง

ริมถนนด้านหน้าล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์

ตั้งแต่ตรงนี้ไป รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้

แต่แบล็กธันเดอร์ก็ยังคงพุ่งเข้าไป

“ฉันไปก่อนนะ!”

เสียงตะโกนของเซริสทำให้ไรก็ได้ต้องพยักหน้ารับ

วู้มมมม!

มอเตอร์ไซค์สีแดงเริ่มเร่งความเร็ว

ในขณะเดียวกัน เซริสที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับก็กางเสื้อคลุมออกไปด้านข้าง เปลวเพลิงอันรุนแรงก็พวยพุ่งออกมาจากเสื้อคลุม ห่อหุ้มตัวรถไว้

เมื่อเปลวเพลิงหายไป ก็ปรากฏรถสปอร์ตหนึ่งคันขึ้นมา

แต่รถคันนั้นมีสีแดงเพลิงลุกโชน

“เรดเฟลม!”

“ชื่ออะไรเนี่ย เชยจัง”

“งั้นก็ชิลลี่แฟร์!”

“……งั้นเอาอันแรกก็แล้วกัน”

เอี๊ยดดด!

ก่อนที่จะพุ่งชนทางเข้าล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ เรดเฟลมก็หมุนอย่างรุนแรงและเลี้ยวกลับเป็นมุม 180 องศา

ที่ฝั่งตรงข้าม แบล็กธันเดอร์กำลังพุ่งเข้ามา

รถซุปเปอร์คาร์สองคันหันหน้าเข้าหากัน

เรดเฟลมเร่งความเร็ว

แบล็กธันเดอร์ของไรก็ได้ก็เร่งความเร็วขึ้นเช่นกันเพื่อไม่ให้เป็นรอง

ในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งสองคันคงจะชนกันและแหลกเป็นชิ้นๆ

และก่อนที่รถยนต์ทั้งสองคันจะชนกัน

“ตอนนี้แหละ!”

เซริสเหยียบเบรกสุดแรง

เรดเฟลมถูกเบรกกะทันหัน ทำให้ส่วนหน้าของตัวรถยุบลง

เอี๊ยดดดดดด!

ในเวลาเดียวกัน ไรก็ได้ก็เหยียบเบรก

และเปลี่ยนเกียร์พร้อมกับบังคับพวงมาลัย

ส่วนหน้าของตัวรถยกขึ้นสูง

แล้วหลังจากนั้น

“อ๊ากกก!”

แบล็กธันเดอร์ที่ขึ้นไปบนตัวถังของเรดเฟลมที่ยุบลงก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ

แบล็กธันเดอร์ใช้เรดเฟลมเป็นแท่นกระโดดเพื่อพุ่งขึ้นไปสูง

‘จากตรงนี้ อีกครั้งสินะ!’

ไรก็ได้เปลี่ยนเกียร์อีกครั้งพร้อมกับจับพวงมาลัย

มือและเท้าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

มันเป็นการแสดงที่น่าจะได้เห็นแค่ในหนังแข่งรถ

‘เป้าหมายคือตรงนั้น……!’

กำแพงแนวตั้งของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์

แบล็กธันเดอร์ลงจอดบนตึกระฟ้าแห่งนั้น

โครม!

แบล็กธันเดอร์ที่พุ่งขึ้นไปเกือบ 4 เมตรชนเข้ากับกระจกของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์

กันชนยุบลงอย่างแรงจากแรงกระแทก

ในทางกลับกัน กระจกนิรภัยของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกในระดับนี้ได้อย่างสบาย

และจากตรงนี้……

ตามกฎฟิสิกส์ทั่วไป มันควรจะถูกแรงโน้มถ่วงดึงลงมาและตกลงไปข้างล่าง

แต่มีคลื่นสีเงินกระจายออกมาจากตัวถังของแบล็กธันเดอร์

พลังที่ทำให้ภาพลวงตาในใจเกิดขึ้นจริง

เวทย์มนตร์ที่สถิตอยู่ในรถได้แสดงพลังออกมาและเปลี่ยนแปลงกฎของโลก

ในไม่ช้า ‘มุมมอง’ ของโลกก็พลิกกลับไปครึ่งรอบ

กึก

แรงกระแทกจากการชนสงบลง และส่วนท้ายของแบล็กธันเดอร์ก็ลดระดับลง

จากนั้น ไรก็ได้ก็เหยียบคันเร่งอีกครั้ง

และแบล็กธันเดอร์ก็เริ่มวิ่งขึ้นไปในแนวดิ่งโดยใช้ด้านข้างของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์เป็นถนน

‘แบบนี้ก็ได้เหรอ’

แม้เธอจะเป็นคนทำเอง แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตา

พระเจ้าช่วย

ขับรถบนกระจกของตึกสูงระฟ้าเนี่ยนะ!!!

แบล็กธันเดอร์ของไรก็ได้กำลังวิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยใช้ด้านข้างของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์เป็นถนน

‘นั่นสินะ’

เพราะที่นี่ไม่ใช่กรุงโซลที่เธอรู้จัก

เพราะที่นี่ไม่ใช่โลกที่เธอรู้จัก

ความเข้มข้นของการกัดกร่อนมิติได้เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่เวทย์มนตร์สามารถใช้งานได้แล้ว

<นายท่านไรก็ได้ได้ยินไหมคะ? นี่ยูเน็ตเองค่ะ>

“ค่ะ ค่ะ!”

<เข้าไปในล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ได้อย่างปลอดภัยสิแล้วนะคะ ตอนนี้เพิ่มความเร็วแล้วขึ้นไปที่ชั้นบนสุดเลยค่ะ>

“แล้วหลังจากนั้นก็มอบกระสุนให้คุณอารอนใช่ไหมคะ?”

<ถูกต้องค่ะ นั่นคืองานของคุณ>

ไรก็ได้มองไปที่อารอนที่เบาะหลัง

ถึงแม้สีหน้าจะไม่ค่อยดี แต่เขาก็ยังมีสติอยู่

‘เขาบอกว่าต้องไปให้ใกล้ฟ้ามากที่สุด’

สถานที่นั้นก็คือชั้นบนสุดของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ในกรุงโซล

จากที่นั่น อารอนจะเจาะทะลุกำแพงมิติ และโยนกระสุนที่บรรจุรูปปั้นม้าศึกผ่านช่องนั้นไป

รูปปั้นในกระสุนจะทำหน้าที่เป็นเหมือนประภาคาร นำทางฮาน อิสรัตมายังโลกนี้

“ที่นี่ที่ไหนกันคะ?”

ไรก็ได้มองไปรอบๆ

เธอเห็นUFOขนาดมหึมาที่หยุดนิ่งอยู่

ตรงกลางของมัน กำลังจะปล่อยอนุภาคแสงออกมา

นอกจากนั้น ยังมีอุกกาบาตที่ตกลงมาจากชั้นบรรยากาศ หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่ สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งหมดนั้นหยุดนิ่งเหมือนเวลาหยุดลง

“คุณทำอะไรกัยมันคะ?”

<ผมทำให้จิตใต้สำนึกของโลกเกิดความสงสัย จนระบบป้องกันมิติทำงานครับ>

“ระบบป้องกันมิติ…… อะไรนะคะ?”

<ถ้าจะอ้างอิงตามคำศัพท์บนอินเทอร์เน็ตที่นี่ ก็คือ ผม ‘เล่นจนพัง’ ครับ>

“ละ เล่นจนพังเหรอคะ?”

<หมายความว่าผมใช้เวทย์มนตร์ดังกล่าวเกินขีดจำกัดที่อนุญาตแล้ว แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการก่อการร้ายปรากฏตัวในกรุงโซลตามความน่าจะเป็น แต่ถ้าเลยเถิดไปมากกว่านั้น โลกก็จะไม่อนุญาตครับ ความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งจนโลกพังทลายมีสูงมาก……>

“เอ่อ พูดอะไรเข้าใจยากจังเลย”

นิฮาคุตะโกนออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส

“ก็แค่ทำให้โลกหัวร้อนไง แค่นั้นเลย!”

<……ใช่ครับ>

“แล้วมันจะเป็นยังไงต่อเหรอคะ?”

<ประวัติศาสตร์ของโลกจะถูกแก้ไขครับ ในทางที่ดี เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะ ‘ไม่เคยเกิดขึ้น’ ครับ>

ไม่เคยเกิดขึ้นงั้นเหรอ?

<พูดง่ายๆ ก็คือ โลกจะย้อนเวลากลับไปก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น จะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ>

ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น…… หมายถึงก่อนที่ไรก็ได้จะถูกลักพาตัว?

<ใช่แล้วค่ะ ก่อนที่ชีวิตประจำวันของนายท่านไรก็ได้จะพังทลายลง>

ยูเน็ตพูดราวกับอ่านใจเธอได้

“ละ แล้วที่นี่ที่ไหนกันแน่คะ?”

<นานมากแล้วนะที่ไม่ได้ใช้คำนี้>

ยูเน็ตตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะเล็กน้อย

<ที่นี่เรียกว่า ‘ช่องว่างแห่งมิติและเวลา’ ค่ะ>

ช่องว่างแห่งมิติและเวลา

ไรก็ได้รู้สึกคุ้นๆกับคำนี้

เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน?

<โลกที่มีอยู่และไม่มีอยู่จริง โลกที่เป็นจุดตัดของมิติที่เวลาและพื้นที่ปั่นป่วนและทับซ้อนกัน ในเกมพิกมีอัพพวกเขาสร้างสถานที่แบบนี้ขึ้นมานับพันล้านแห่งเพื่อย้อนกลับไปแก้ไขโชคชะตาของโมเบียส>

<ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระก็เถอะ>

<นั้นใครน่ะ?>

เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

ไรก็ได้จำเสียงใสๆ ไร้เดียงสาของเจ้าของเสียงนั้นได้

<ว้าว ในที่สุดก็ผ่านมาได้เหรอ?>

<…….>

<ก็แหงละ กับดักแค่นี้ต้องผ่านมาได้ง่ายๆ สิ ไม่งั้นฉันก็ไม่มีค่าพอที่จะถูกสร้างขึ้นมา จริงไหม พี่สาว?>

เสียงนั้นใสบริสุทธิ์ที่ไร้ซึ่งมลทิน

แต่ความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้นทำให้ผู้ฟังรู้สึกขนลุกราวกับถูกควักไส้ออกมา

“ไนอัล…”

<ว้าว! จำชื่อฉันได้ด้วยงั้นเหรอ?>

<แกเป็นคนวางกับดักนี้สินะ>

<อ๊ะ พี่สาวคนนั้นเองงั้นเหรอ? ที่เป็นลูกน้องของโลกิ>

ยูเน็ตไม่ตอบ

แต่ไรก็ได้ก็พอจะเดาได้ว่าเธอที่อยู่อีกฝั่งของหน้าจอคงจะโกรธไม่น้อย

<น่าทึ่งจริงๆ! ทิ้งนายท่านไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วตัวเองก็กลับมาอย่างมีความสุข!>

<เรื่องตอนนั้น…… เป็นความประมาทของพวกเราเอง ฉันจะไม่แก้ตัว>

<ฮ่าฮ่าฮ่า! ได้เลย! เอาเลย!>

เสียงหัวเราะของไนอัลดังก้อง

<รู้อะไรไหม? เมื่อฉันกี้แค่ล้อเล่น แต่ต่อจากนี้ไปฉันจะเอาจริงแล้วนะ>

ไรก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่สนใจเสียงหัวเราะเยาะของเด็กหนุ่ม

ในที่สุดก็ใกล้จะถึงยอดของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์แล้ว

แค่ส่งมอบรูปปั้นม้าศึกให้อารอนที่นั่น ภารกิจก็จะเสร็จสิ้น

ฮาน อิสรัตจะถูกเรียกมายังโลกนี้

‘ถึงจะสูงแค่ไหน ก็แค่ 500 เมตร’

แบล็กธันเดอร์ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาทีก็ถึง

รูปปั้นมาศึกในกระสอบที่อยู่ข้างๆ ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยเข็มขัดนิรภัย

เธอจึงเริ่มเตรียมที่จะหยิบกระสุนออกมาทันที

“เอ๋……?”

เคร้ง!

ไกลออกไป ภาพที่ยอดของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์บิดเบี้ยว

และเมื่อความบิดเบี้ยวสิ้นสุดลง แทนที่จะเป็นชั้นบนสุดของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ กลับกลายเป็นผนังด้านข้างของอาคารแทน

<คิก คิก คิก!>

ไรก็ได้ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กผู้ชายดังขึ้น

<สนามแข่งมีแค่ 500 เมตร มันน่าเบื่อ! อย่างน้อยต้อง 10,000 เมตรสิ!>

ไรก็ได้อ้าปากค้าง

ยอดของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ที่ควรจะอยู่ตรงหน้า กลับห่างไกลออกไปอย่างสุดลูกหูลูกตา

ราวกับว่ามันพุ่งทะลุฟ้าไปแล้ว

‘ไม่สิ ถ้าเป็นแบบนั้น…….’

ความสูงของท้องฟ้าก็ห่างไกลออกไปเช่นเดียวกับตึกนั้น

มันให้ความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับว่าพื้นที่ตรงกลางระหว่างฟ้าและดินถูกยืดออกไป

<ฮ่าฮ่าฮ่า! คิ คิ คิก!>

เด็กชายหัวเราะลั่น

วืด! วืด!

พื้นที่บิดเบี้ยวไปมาหลายครั้ง

จากนั้น รูปทรงของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ที่เคยเป็นเส้นตรง ก็เปลี่ยนเป็นเส้นซิกแซก

และบางช่วงก็ยังโค้งเป็นรูปตัว S อีกด้วย

ตอนนี้ ตึกที่อยู่ตรงหน้าไม่สามารถเรียกว่าตึกได้อีกต่อไป

มันมีรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อนและเข้าใจยากมากมาย

ตอนนี้ แบล็กธันเดอร์ของไรก็ได้ต้องวิ่งไปบนเส้นทางที่ไม่น่าเป็นไปได้นี้

<อ๊ะ พี่สาวก็ต้องวิ่งบนเส้นทางแบบนี้ถึงจะสนุกใช่ไหมล่ะ? เส้นทางตรงๆ มันน่าเบื่อจะตาย!>

ไนอัลหัวเราะอย่างชั่วร้าย

<นาย……ท่าน….. ซ่า… รอสักครู่……นะคะ…..ซ่า!>

เสียงของยูเน็ตถูกกลบด้วยเสียงรบกวนจนไม่ได้ยิน

มีเพียงเสียงหัวเราะของเด็กชายที่ดังไปทั่วลำโพงในรถ

<นี่ พี่สาว วิ่งช้าไม่ได้นะ เพราะเส้นทางมันยาก ถ้าวิ่งแบบเรื่อยเปื่อยเกินไป ฉันจะทำโทษนะ!>

แกร๊ง!

ไรก็ได้ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตก จึงหันไปมองด้านหลัง

ไกลออกไป มีบางสิ่งสีดำทะลักออกมาจากช่องว่างของพื้นที่ที่แตกออก

‘นั่นมัน……!’

นิฮาคุตะโกนขึ้นมาทันที

“เศษชิ้นส่วนแห่งหายนะ!”

เศษชิ้นส่วนแห่งหายนะ….

สิ่งมีชีวิตที่เหมือนฝูงตั๊กแตนที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า

พวกมันแทรกตัวออกมาจากช่องว่างระหว่างพื้นที่ที่แตกออก และเริ่มรวมตัวกันเป็นฝูง

แกร๊กกก! แกร๊ก!

หลายสิบล้านตัว หลายพันล้านตัว จำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันกลายเป็นเมฆสีดำ

จากนั้น เศษชิ้นส่วนแห่งหายนะก็ไล่ตามแบล็กธันเดอร์อย่างรวดเร็ว

<คิก คิก คิก!>

เสียงฟองอากาศเดือดและแตกดังขึ้นจากหลายๆ ที่

อาคารรอบๆ ล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์บิดเบี้ยว

หนวดเหล่านั้นมีรูปร่างที่น่าขยะแขยงจนแทบอาเจียน

หนวดเหล่านั้นงอกออกมาจากบริเวณใกล้เคียงล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์หลายสิบเส้น และเริ่มพันรอบด้านข้างของหอคอย

“นายท่านไรก็ได้ครับ พวกศัตรูเริ่มโจมตีอย่างจริงจังแล้วครับ”

อารอนพูดอย่างเคร่งขรึม

“เนื่องจากที่นี่อยู่นอกเหนือการควบคุมของโลก ศัตรูจึงไม่จำเป็นต้องยั้งมืออีกต่อไป”

“ไม่จำเป็นต้องยั้งมือ?”

“ครับ”

ในไม่ช้า ไรก็ได้ก็เข้าใจความหมายของคำพูดนั้น

‘ที่นี่คือช่องว่างแห่งมิติและเวลา’

ถ้าอย่างนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับโลก

มันกลายเป็นสถานที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

เสียงกระจกแตกที่เธอได้ยินเมื่อครู่ คือเสียงของมิติที่แตกออกจากกัน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ที่นี่คือที่ที่เด็กหนุ่มคนนั้นสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

‘ไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้น…….’

มันจะอันตรายมากไม่ใช่เหรอ?

ไรก็ได้หันกลับไปมองด้านหลัง

ฝูงเมฆสีดำกำลังไล่ตามแบล็กธันเดอร์มาติดๆ

พวกนั้นแตกต่างจากตำรวจอย่างสิ้นเชิง

“ไม่ได้ผลเลย!”

แม้ว่านิฮาคุจะยิงธนูระเบิดไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ระคายผิวพวกมันเลย

พวกมันยังคงไล่ตามมาอย่างไม่สะทกสะท้านต่อแรงระเบิดเล็กๆ น้อยๆ

โครม! โครม!

ตัวถังของแบล็กธันเดอร์สั่นอย่างรุนแรง

ผนังด้านข้างของตึกโค้งงอและบิดเบี้ยว ทำให้การขับรถเป็นไปอย่างยากลำบาก

‘แย่แล้ว!’

เงาขนาดใหญ่ทาบทับลงมา

แอมเค่น่ารีบบังคับพวงมาลัย

แบล็กธันเดอร์หักเลี้ยวไปด้านข้าง

ทันทีหลังจากนั้น หนวดขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาตรงจุดที่รถวิ่งผ่าน

หนวดที่พันรอบตึกเริ่มโจมตีแล้ว

‘ไม่ใช่แค่ทางตรง! ยังมีอะไรแปลกๆ ไล่ตามมาจากข้างหลัง! แล้วหนวดพวกนั้นคืออะไรกัน!’

ทันใดนั้น ทางก็แคบลง และเส้นทางรูปตัว S ก็เริ่มต้นขึ้น

ภาพของตึกที่ควรจะตรงกลับบิดเบี้ยวไปมา ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกหวาดกลัว นอกจากนี้ ยังมีสิ่งกีดขวางคล้ายเนินกระโดดโผล่ขึ้นมาขวางทางอยู่ทั่วไป

‘เส้นทางแบบนี้’

แม้แต่ในเกมแข็งรถเธอก็ไม่เคยเจอ

แม้แต่ในแผนที่ระดับสูงสุดที่ใช้ในการแข่งขันระดับมืออาชีพก็ไม่มีความยากระดับนี้

เอี๊ยด! เอี๊ยด! เอี๊ยดดด!

แบล็กธันเดอร์ดริฟต์ไปตามเส้นทางรูปตัว S

พร้อมกับหลบสิ่งกีดขวางและเนินกระโดดที่โผล่ขึ้นมาเป็นระยะ

<ฮ่าฮ่าฮ่า! พี่สาว! พยายามดิ้นรนให้เต็มที่เลย อีกไม่นานก็จะถูกตามทันและโดนเขมือบอยู่ดี?>

เด็กชายหัวเราะจนท้องแข็ง

ต่อให้ดิ้นรนยังไงก็หนีความตายไม่พ้น

เส้นทางเบื้องหน้าคือเส้นทางแห่งความตาย รูปตัว S ต่อเนื่องกันถึง 6 ครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเศษซากแห่งหายนะจำนวนมหาศาลไล่ตามมาจากด้านหลัง และหนวดที่ฟาดลงมาก็ขัดขวางการขับรถ

และยังมีสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมาทั่วทั้งเส้นทาง

ไม่มีทางรอด

พี่สาวคนสวยจบเห่แน่!

ยังไงก็ต้องถูกตามทันและแหลกเป็นชิ้นๆ!

ต่อให้ยื้อเวลาได้นานที่สุดก็แค่ 30 วินาที

เด็กชายมั่นใจได้เลย

เขาเป็นคนออกแบบเส้นทางนี้ด้วยความยากลำบาก

ของเล่นแบบนั้นไม่มีทางหนีการไล่ล่าได้

ถึงจะผ่านเส้นทางรูปตัว S มาได้อย่างหวุดหวิด แต่การดิ้นรนนั้นก็ใกล้จะจบลงแล้ว

<โอ้? เก่งนี่? แต่ก็ไม่มีทางผ่านไปได้หรอก ฉันตั้งใจออกแบบเส้นทางนี้มาอย่างดี ไม่มีทางผ่านได้แน่นอน>

1 นาทีผ่านไป

<…….>

และอีก 3 นาทีต่อมา

<หือ?>

ครู่หนึ่งต่อมา

มีบางอย่างผิดปกติ

เด็กชายอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

<……ทำไมยังไม่ถูกเขมือบอีกล่ะ?>

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด