บทที่ 161  ก้าวสู่เทพเจ้าในหนึ่งวัน! สร้างแท่นบูชา จุดไฟศักดิ์สิทธิ์!

บทที่ 161  ก้าวสู่เทพเจ้าในหนึ่งวัน! สร้างแท่นบูชา จุดไฟศักดิ์สิทธิ์!

สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ผมกลัวว่าจะเบื่อกับการติดเหรียญทุกตอน หลังจากวันนี้ผมจะติดเหรียญ 8 ตอน ฟรี 2 ตอนนะครับ อาจจะเป็น 4 ตอน ฟรี 1 2 รอบ แทนคำขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตผมมาโดยตลอด

ปล.วันนี้ผมมีแถมให้ 5 ตอนนะครับ ตอนที่ 161-165 เเทนคำขอโทษและขอบคุณครับ  ที่เหลือเจอกันใหม่วันพรุ่งนี้ครับ กราบสวัสดีครับ ติชมได้เช่นเคยครับ พร้อมปรับปรุงตลอดเวลา

......................................

"เจ้า... เจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าผนึกงั้นเหรอ!?"

เทพปืนใหญ่ทองคำจ้องมองหลินเซียวอย่างตะลึงงัน ราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด

ประตูขุมนรกนั้น เทพผู้ยิ่งใหญ่เป็นคนสร้างขึ้นมา มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่สามารถทำลาย ผนึก หรือจองจำได้

เว้นแต่ว่า พลังจะเหนือกว่าผู้สร้าง!

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า หลินเซียวจะใช้วิธีพิเศษแบบนี้ในการ 'ผนึก' มัน!

"ผนึกทางกายภาพคือสิ่งที่อันตรายที่สุด!"

หลินเซียวมองผลงานชิ้นเอกของตัวเองด้วยความพึงพอใจ การผนึกเป็นการจำกัดและก่อตัวเป็นค่ายกล

เขาก้าวหน้าเร็วเกินไป และไม่มีวิชาอื่นๆ นอกจากการเล่นแร่แปรธาตุ

ธรรมชาติแล้ว เขาจึงไม่มีวิธีผนึกมัน

แต่การที่เขาไม่รู้วิธีผนึกไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย!

ประตูขุมนรกบานนี้กลืนกินสัตว์ประหลาดจากขุมนรกอยู่ตลอดเวลา มันเป็นสถานที่เก็บเลเวลชั้นยอด

ก่อนหน้านี้ เขามีความคิดที่จะปิดกั้นประตูนี้เอาไว้ และเก็บเลเวล แต่ตอนนี้เขามุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม

หลินเซียวทำสีหน้าจริงจัง เขาคิดในใจ และเคลื่อนย้ายปราการห้าทิศจำนวนมากออกมา

ปกป้องบริเวณโดยรอบประตูขุมนรกอย่างแน่นหนา ล้อมรอบมันไว้ทั้งหมด

แม้แต่มดตัวเดียวก็บินออกมาไม่ได้!

เขาคิดอย่างเรียบง่าย ประตูขุมนรกบานนี้ไม่สามารถทำลายหรือผนึกได้งั้นเหรอ?

งั้นก็แค่ปิดกั้นที่นี่ซะ!

ผนึกมันทางกายภาพ!

ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งสัตว์ประหลาดจากขุมนรกไม่ให้มาที่จักรวาลของเผ่ามนุษย์ได้ งั้นก็มาเลย ฆ่าให้หมด!

ป้อมปราการระดับอีปิกขั้น 7 และป้อมปราการห้าทิศนั้น ค่อนข้างอ่อนแอเกินไปสำหรับผู้ที่มีพลังระดับเทพกึ่งเทพขึ้นไป

เว้นแต่ว่า เขาจะช่วยให้พวกมันก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพกึ่งเทพ หรือแม้แต่เทพเจ้า!

แต่มีป้อมปราการห้าทิศมากถึงห้าถึงหกล้านป้อม... ต่อให้เขามีใจ เขาก็ไม่มีทรัพยากรมากขนาดนั้น

วิธีนี้เป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น

ในกรณีนี้ การนำมันไปใช้ในสนามรบระดับ 5 ก็คงจะไม่มีประโยชน์

เอาไว้ที่นี่ และให้มันคอยเก็บเลเวลไปพลางๆ น่าจะดีกว่า!

เมื่อป้อมปราการธนูขั้น 8 และฮีโร่กลายเป็นเทพเจ้าในอนาคต มันก็คงจะไม่สายเกินไปที่จะกลับมาเอาป้อมปราการห้าทิศไป

มีป้อมปราการห้าทิศเลเวล 7,000 กว่าๆ อยู่ทั้งหมดหกล้านป้อม

แต่ละป้อมเทียบเท่ากับป้อมปราการสำหรับทำสงคราม แต่ประตูขุมนรกนั้นใหญ่โตราวกับดวงอาทิตย์หมื่นดวง

ในเวลานี้ มันถูกป้อมปราการห้าทิศล้อมรอบไว้หมดแล้ว!

แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสียังคงเปล่งประกายออกมา ครอบคลุมดวงดาวหลายสิบดวงที่อยู่ใกล้เคียง

เขาไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะไม่มีสัตว์ประหลาดตัวใดออกมาจากประตูขุมนรกได้ แต่เขาสามารถรับประกันได้ว่า สัตว์ประหลาดที่ออกมาจากประตูขุมนรก จะไม่มีวันรอดชีวิตออกไปได้!

"ผนึกแบบนี้... แจ่มว้าว!"

เทพปืนใหญ่ทองคำมองไปที่หลินเซียวด้วยสีหน้าแปลกๆ และจ้องมองไปที่ป้อมปราการห้าทิศที่ปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ด้วยความตะลึงงัน

ต่อให้เป็นเทพกึ่งเทพ ก็ได้แต่ตะโกนว่าแจ่มว้าว

แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่มานานหลายหมื่นปี และมีความรู้มากมาย

แต่วิธีการแบบนี้ เขาก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

"เจ้าเป็นคนที่กล้าหาญมาก ถ้าเจ้าต้องการขึ้นไปข้างบน เจ้าก็มาหาข้าได้!"

เทพปืนใหญ่ทองคำดูเหมือนจะพอใจกับการกระทำของหลินเซียวมาก เขาพยักหน้า และพูด

เหรียญตราสีทองลอยอยู่ตรงหน้าหลินเซียว

"ไปหาเจ้า? เจ้าไม่ใช่เทพเจ้าแห่งขุมนรกเหรอ?"

หลินเซียวรับเหรียญตราด้วยความประหลาดใจ มันเป็นสีทองอร่าม ราวกับว่า ทำมาจากทองคำ

ด้านหน้าเป็นรูปปีกสีทอง ส่วนด้านหลังว่างเปล่า

"ฮ่าฮ่า ดูแลตัวเองด้วยล่ะ!"

เทพปืนใหญ่ทองคำไม่ตอบ เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้น และหายตัวไปในพริบตา

"ไปแล้วเหรอ?"

"เทพเจ้า ไปแล้วเหรอ?"

"ประตูขุมนรกถูกผนึก และเทพเจ้าก็จากไปแล้ว แบบนี้ พวกเราก็ปลอดภัยแล้วใช่ไหม?"

"เยี่ยมมาก! ท่านหลินเซียวสุดยอด!"

"พวกเราปลอดภัยแล้ว แต่ท่านหลินเซียว..."

ร่างของเทพเจ้าหายไป พลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ก็สลายไป

เหล่าราชันย์แห่งสงครามต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรู้สึกตื่นเต้น

แต่เมื่อพูดถึงหลินเซียว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะเงียบลง

หลายคนแสดงสีหน้ากังวลออกมา เทพเจ้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพวกเขา

พวกเขาทุกคนได้ยินอย่างชัดเจนว่า บนสนามรบระดับห้า

มีเทพเจ้าที่ทรงพลังมากมาย ที่ต้องการจะเอาชีวิตหลินเซียว!

ไม่ว่าหลินเซียวจะแข็งแกร่งแค่ไหนบนสนามรบระดับสี่ แต่เมื่อไปถึงสนามรบระดับห้าแล้ว เขาก็เป็นแค่เทพกึ่งเทพระดับล่างๆ

เมื่อเผชิญหน้ากับเทพชั้นสูง... ผลลัพธ์มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว!

"ทุกคน โชคดีที่พวกเจ้าทำภารกิจสำเร็จ และผนึกประตูขุมนรกได้แล้ว!"

หลินเซียวครุ่นคิด เขามีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่มาของเทพปืนใหญ่ทองคำ

เขามองเทพปืนใหญ่ทองคำจากไป เก็บเหรียญตรา และหันไปมองเหล่าราชันย์

"ข้ากำลังจะเตรียมตัวจากไป พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"

หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่รอให้พวกเขาถาม และหายตัวไปในทันที

ดินแดนต้องห้ามมังกรดำ สถานที่ที่เคยเป็นสำเนาของชิงชาง

หลินเซียววางมือลงบนพื้น นั่งไขว่ห้าง และสูดหายใจเข้าไปลึกๆ

อีกไม่นานก็จะครบสามชั่วโมงแล้ว ในไม่ช้า เขาก็จะถูกบังคับให้ออกจากที่นี่

ก่อนหน้านั้น เขามีสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ!

"ว่ากันว่า ชั้นห้าคือสนามรบ หรือที่เรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์..."

หลินเซียวพึมพำ

สนามรบระดับห้า เป็นเพียงชื่อเรียกที่เผ่ามนุษย์ใช้เรียกสนามรบแห่งความโกลาหล

ชื่อจริงของมันคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังชื่อ

มันคือสถานที่ที่เหล่าเทพเจ้าอาศัยอยู่ ผู้ที่อ่อนแอที่สุด ก็ยังแข็งแกร่งระดับเทพกึ่งเทพ!

มันไม่ใช่แค่สนามรบของเผ่ามนุษย์และขุมนรกเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ผู้ที่มีพลังระดับเทพกึ่งเทพขึ้นไปของทุกเผ่าพันธุ์ในโลก ใช้ชีวิตประจำวัน!

ทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด จะต้องไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่พวกเขาก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพกึ่งเทพ

ที่นั่น มีเมืองขนาดใหญ่

มันคือสถานที่ที่เหล่าเทพกึ่งเทพจะปรากฏตัว และทุกเผ่าพันธุ์ ต่างก็มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองแห่งนี้

เทพกึ่งเทพผู้ทรงพลัง จะคอยต้อนรับเทพกึ่งเทพหน้าใหม่ของเผ่าพันธุ์ตัวเอง

เมื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้าแล้ว พวกเขาก็จะสามารถออกจากเมืองแห่งนี้ได้

และเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง!

สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คนธรรมดาในเผ่ามนุษย์ไม่รู้

หลินเซียวได้เรียนรู้เรื่องนี้จากโม่ ไหวหยวน

เมื่อเขาจากไป เขาจะต้องไปที่เมืองแห่งนั้นอย่างแน่นอน

นั่นเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาทำให้คนใหญ่คนโตในขุมนรกไม่พอใจ

เขากลัวว่า จะมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ที่กำลังรอเขาอยู่ที่นั่น!

แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า เขาจะรอดชีวิตอย่างปลอดภัย!

ตอนนี้ เขามีทางเดียวเท่านั้น!

"นั่นก็คือ... ก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้าซะก่อน แล้วค่อยจากไป!"

ดวงตาของหลินเซียวเป็นประกาย เขาพึมพำออกมา

เขายื่นมือออกไป และหยิบรากไม้เหี่ยวเฉาสีดำออกมา

มันคือรากของแท่นบัว ที่ถูกไฟศักดิ์สิทธิ์แผดเผา หลังจากที่มันกลืนกินดินแดนต้องห้ามมังกรดำ!

นี่คือวัสดุศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง เหมาะสำหรับการสร้างแท่นบูชา!

การที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้าได้นั้น มีสามขั้นตอน คือ สร้างแท่นบูชา จุดไฟศักดิ์สิทธิ์ และหลอมรวมจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!

ขั้นตอนแรกคือการสร้างแท่นบูชา!

หลินเซียวสูดหายใจเข้าไป และปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา เพื่อห่อหุ้มรากไม้เอาไว้

รากไม้ที่เหี่ยวเฉา ค่อยๆ เปล่งประกาย และมีชีวิตชีวาขึ้นมา

กลีบบัวสีดำ ผลิบานออกมาจากรากไม้!

"แท่นบูชาเพลิงสวรรค์งั้นเหรอ?"

หลินเซียวมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ กลีบบัวสีดำค่อยๆ ผลิบานออกมา

ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่หล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง กลีบบัวที่สองก็ค่อยๆ ผลิบานออกมา

ตามด้วยกลีบที่สาม และกลีบที่สี่...

กลีบบัวค่อยๆ ผลิบานออกมา และก่อตัวเป็นแท่นบัวขนาดเล็ก

มันเหมือนกับตอนที่ไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นมา!

สิบนาทีต่อมา แท่นบัวก็ก่อตัวเสร็จสมบูรณ์

แท่นบัวขนาดเท่าฝ่ามือ กำลังหมุนอย่างช้าๆ มันดูเหมือนกับฝักบัวที่เพิ่งจะสุก!

"แท่นบูชาระดับกลาง... มันยังไม่พอ!"

แท่นบูชากำลังก่อตัวขึ้น แต่หลินเซียวกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นเพียงแค่แท่นบูชาระดับกลาง ซึ่งยังห่างไกลจากระดับสูงที่เขาต้องการ!

"เสวี่ยหู เอาไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนต้องห้ามมังกรดำมาให้ข้า!" หลินเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย และเรียกเสวี่ยหู

"ครับ นายท่าน! พวกมันอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วครับ!"

ดวงตาของเสวี่ยหูเป็นประกาย เมื่อเห็นหลินเซียวกำลังสร้างแท่นบูชา เขารีบนำไอเท็มศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากออกมาทันที

เขาเก็บเกี่ยวมาได้มากมาย ในดินแดนต้องห้ามมังกรดำ

มีไอเท็มศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อยหลายพันชิ้น และมีไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางมากกว่าสิบชิ้น!

"แท่นบูชาเพลิงสวรรค์ ดูดซับมันซะ!"

หลินเซียวคิดในใจ และรวบรวมไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางทั้งหมด ไว้ในมือของเขา

รากบัวสีดำดูเหมือนจะถูกดึงดูด มันลอยขึ้น และตรงไปที่ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น!

ในพริบตา ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากก็เริ่มเหี่ยวเฉา ราวกับว่า แก่นแท้ของมันถูกดูดซับไป

ในทางกลับกัน แท่นบูชาเพลิงสวรรค์กลับเริ่มขยายตัว และเติบโตขึ้น รัศมีอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน ก็ยิ่งเข้มข้นและทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะกลายเป็นแท่นบูชาระดับสูง!

"มันกำลังจะกลายเป็นแท่นบูชาระดับสูงแล้ว!"

เสวี่ยหูและพรรคพวก นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ และมองดูด้วยความอิจฉา

การได้เห็นกระบวนการทั้งหมด ของการที่บุคคลหนึ่ง ก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้า เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับเทพกึ่งเทพทุกตน และมันสามารถช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงความผิดพลาดมากมาย เมื่อพวกเขาก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้าในอนาคต!

แท่นบูชาระดับสูง ระดับ 100 คือความฝันของอัจฉริยะมากมายในโลก!

การมีแท่นบูชา ไฟศักดิ์สิทธิ์ และจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง หมายความว่า พวกเขามีศักยภาพที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นเทพเจ้าได้ในอนาคต!

แม้แต่ในโลกใบนี้ เทพเจ้าก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

พวกเขาสามารถปกป้องเผ่าพันธุ์ของพวกเขาได้!

ตูม!

ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทั้งสี่คน ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนก็ถูกดูดซับแก่นแท้ไปจนหมด และกลายเป็นผงธุลี

ในที่สุด แท่นบูชาเทพเพลิงสวรรค์ก็เติบโตจนถึงขีดจำกัด มันคือแท่นบัวสีดำ ที่สามารถรองรับคนได้หนึ่งคน

กลีบบัวสีดำสามสิบหกกลีบ ถูกแบ่งออกเป็นสามชั้น และกระจายตัวอยู่รอบๆ

ตรงกลาง มีเงาของเปลวเพลิงสีดำ!

"สำเร็จแล้ว! แท่นบัวสิบสองชั้น!"

หลินเซียวมองไปที่แท่นบัวขนาดใหญ่ตรงหน้า ด้วยความดีใจ

เขารู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์บางอย่าง ระหว่างเขากับแท่นบัว

แท่นบัวสีดำลอยอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างเงียบๆ พลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา ทำให้ร่างกายของเขาที่อ่อนแอลง หลังจากที่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปกับการสร้างแท่นบูชา กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง! "ต่อไป ก็ถึงเวลาจุดไฟศักดิ์สิทธิ์แล้ว!"

หัวใจของหลินเซียวเต้นแรง เขาหยิบไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ออกมา

ไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ที่ถูกผนึกเอาไว้ ดูเหมือนกับหินแข็งรูปเปลวไฟ มันอยู่ในมือของเขาอย่างเงียบๆ

บางที มันอาจจะสัมผัสได้ถึงรัศมีที่คุ้นเคย แท่นบัวเพลิงสวรรค์จึงสั่นเล็กน้อย หลินเซียวรู้สึกได้ถึงความปรารถนาบางอย่าง

"ใจเย็นๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป!"

หลินเซียวยิ้ม และพูด

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้

วัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ ย่อมเข้ากันได้กับไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์

การหลอมรวมไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ และจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ จะต้องใช้ความพยายามน้อยลงอย่างแน่นอน! โดยทั่วไปแล้ว เทพกึ่งเทพมีสามวิธีในการจุดไฟศักดิ์สิทธิ์

วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การเผยแพร่ศาสนา เพื่อรวบรวมศรัทธา และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังแห่งศรัทธา

เมื่อรวบรวมพลังแห่งศรัทธาได้มากพอ มันก็จะกลายเป็นคบเพลิงแห่งศรัทธา

มันสามารถหล่อเลี้ยงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกวัน

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม มันก็จะกลายเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์! ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ ขั้นตอนชัดเจน

ตราบใดที่ทำตามขั้นตอน ก็จะต้องสำเร็จ

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ จำนวนของผู้ศรัทธา จะเป็นตัวกำหนดระยะเวลา

แต่ข้อเสียก็ชัดเจนเช่นกัน

อย่างแรกเลย ไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา มักจะเป็นระดับต่ำ และศักยภาพในการพัฒนาก็จำกัด

อย่างที่สอง มันขึ้นอยู่กับจำนวนและคุณภาพของผู้ศรัทธา

บ่อยครั้ง สงครามระหว่างเทพเจ้า มักจะเริ่มต้นจากผู้ศรัทธา

เมื่อผู้ศรัทธาพ่ายแพ้ พลังของเทพเจ้าก็จะลดลงอย่างมาก! อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ค่อนข้างได้ผลสำหรับเผ่ามนุษย์ เพราะเผ่ามนุษย์มีข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง

นั่นก็คือ เทพเจ้าของเผ่ามนุษย์ทุกตน ล้วนแต่เคยเป็นราชันย์ที่ทรงพลังมาก่อน! พวกเขาสามารถพัฒนาอาณาเขตของตนเองได้ และทหารในอาณาเขต ก็ภักดีต่อเผ่ามนุษย์อย่างมาก

พวกเขาคือผู้ศรัทธาที่เคร่งครัด และมีคุณภาพสูง! วิธีที่สองคือ การสละร่างกาย

เปลี่ยนร่างกายที่แข็งแกร่ง ให้กลายเป็นคบเพลิง การจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ หมายถึงการเผาผลาญร่างกายของตนเอง!

ข้อดีก็คือ ระดับของไฟศักดิ์สิทธิ์ จะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของร่างกาย ตราบใดที่พวกเขายินดีที่จะใช้เวลาในการฝึกฝนร่างกาย

พวกเขาก็จะสามารถสร้างไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับกลาง หรือแม้แต่ระดับสูงได้!

ข้อดีก็คือ แข็งแกร่ง และมีขีดจำกัดที่สูง ข้อเสียก็คือ วิญญาณที่ไร้ร่างกาย ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ไร้ราก

ตราบใดที่พวกเขาไม่ถูกทำร้าย มันก็จะฟื้นฟูได้ยาก เมื่อพวกเขาถูกทำร้าย

และเมื่อเทียบกับเทพเจ้าคนอื่นๆ แล้ว พวกเขาก็มีข้อเสียอยู่บ้าง

ข้อเสียที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ พลังชีวิตของพวกเขา ต่ำกว่าเทพเจ้าคนอื่นๆ มาก!

แน่นอน การที่พวกเขาไม่ถูกร่างกายจำกัด

พวกเขามักจะมีความสามารถพิเศษ ที่เหนือกว่าเทพเจ้าคนอื่นๆ ในระดับวิญญาณ และพวกเขาก็เป็นเทพเจ้าที่มีพลังโจมตีสูง

มันก็เหมือนกับ ความแตกต่างระหว่างจอมเวทย์ กับนักดาบเวทย์มนตร์ พวกเขามักจะมีพลังโจมตีสูง แต่พลังป้องกันต่ำ

วิธีสุดท้ายคือ การใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

หลอมรวมมันเข้ากับร่างกาย และมันก็จะกลายเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา!

มันค่อนข้างชัดเจนในตัวมันเอง ไม่ต้องพึ่งพาผู้ศรัทธา

ไม่จำเป็นต้องเสียสละร่างกาย แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของไฟศักดิ์สิทธิ์แต่ละชนิด ความแข็งแกร่งของพวกเขา จะเหนือกว่าสองวิธีแรกมาก!

แต่ข้อเสียก็ชัดเจนเช่นกัน นั่นก็คือ มันไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสนี้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา

ไฟศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเผาผลาญเทพเจ้าได้ มันคือสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับเทพเจ้าทุกตน... ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาจะสามารถกลืนกินมันได้สำเร็จหรือไม่

ที่จริงแล้ว เทพเจ้าส่วนใหญ่ที่ต้องการจะกลืนกินไฟศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็ตายในขั้นตอนนี้ พวกเขาถูกไฟศักดิ์สิทธิ์เผาผลาญ และกลายเป็นอาหารของมัน!

หลินเซียวสูดหายใจเข้าไป แม้ว่าเขาจะมีมาตรการป้องกันที่แข็งแกร่งถึงสองอย่าง นั่นก็คือ แท่นบูชาเพลิงสวรรค์ และไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกผนึกเอาไว้

แต่ขั้นตอนนี้ ก็ยังคงอันตรายอย่างมาก!

ไฟศักดิ์สิทธิ์แต่ละชนิด ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พลังและคุณสมบัติของมันคืออะไร?

เขาจะไม่รู้ จนกว่าจะได้ลองด้วยตัวเอง!

ผู้เชี่ยวชาญ หรือเทพเจ้าที่มีความสามารถพิเศษ สามารถวิเคราะห์คุณสมบัติบางอย่างของไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่แค่นั้น

ไม่มีใครรู้ว่า ไฟศักดิ์สิทธิ์นี้ สามารถกลืนกินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ลองด้วยตัวเอง!

"เริ่มกันเลย!"

หลินเซียวหลับตาลงช้าๆ และค่อยๆ ถ่ายเทพลังศักดิ์สิทธิ์ เข้าไปในไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์

ทันใดนั้น!

ตูม!

ไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ก็เหมือนกับเด็กดื้อ มันใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ในการเปลี่ยนจากหินแข็ง กลายเป็นเปลวไฟที่ลุกโชน!

อุณหภูมิที่สูง ทำให้ดาวเคราะห์ทั้งดวง กลายเป็นเถ้าธุลีในทันที!

ในวินาทีต่อมา พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ก็ดึงดูดความสนใจของไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์

เปลวไฟสีดำแผ่กระจายออกไป และปกคลุมร่างของหลินเซียวเอาไว้ในทันที!

"นายท่าน!"

"นายท่าน!?"

เสวี่ยหูและพรรคพวกต่างก็ตกใจ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน และอุทานออกมา

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากมองดู

"แย่แล้ว!"

หัวใจของหลินเซียวเต้นแรง เขารู้สึกถึงความตาย

เขาดูถูกความน่าสะพรึงกลัวของไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์มากเกินไป!

พลังศักดิ์สิทธิ์เพียงเล็กน้อย ก็เหมือนกับน้ำมันเบนซินสำหรับมัน มันจะลุกไหม้ทันที

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังถ่ายเทพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์โดยตรง!

แต่ในไม่ช้า เขาก็รู้ว่า มีบางอย่างผิดปกติ

"หืม? ไม่... ร้อน!?"

หลินเซียวรีบตั้งสติ ตอนที่ไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์เผาผลาญมังกรดำ มันใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที

แม้ว่าตอนนี้ เขาจะถูกล้อมรอบด้วยเปลวไฟ แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ!

ในทางกลับกัน เขากลับรู้สึกอบอุ่น!

"แท่นบัวเพลิงสวรรค์... มันได้ผลจริงๆ ด้วย!"

หลินเซียวรู้สึกดีใจ และรีบเปิดใช้งานแท่นบูชาเพลิงสวรรค์

เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนแท่นบูชา ไฟศักดิ์สิทธิ์เพลิงสวรรค์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

มันออกมาจากร่างกายของเขา และมารวมกันอยู่บนแท่นบัว หลอมรวมเข้ากับเปลวไฟสีดำบนแท่นบัว!

"จุดไฟศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จแล้ว!"

หลินเซียวรู้สึกตื่นเต้น พลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา

พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองในร่างกายของเขา กลายเป็นสีทองเข้ม พลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ มีพลังที่สามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง