บทที่ 151 การต่อสู้เพื่อเพลิงสวรรค์เผาผลาญ! เผ่าพันธุ์มนุษย์ในดินแดนต้องห้ามมังกรดำ!
บทที่ 151 การต่อสู้เพื่อเพลิงสวรรค์เผาผลาญ! เผ่าพันธุ์มนุษย์ในดินแดนต้องห้ามมังกรดำ!
เหล่าเทพกึ่งเทพนับไม่ถ้วนยืนชุมนุมกันเป็นกลุ่ม แบ่งตามเผ่าพันธุ์ ดวงตาเบิกโพลง จ้องมองเพลิงสวรรค์เผาผลาญที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นด้วยแววตาอันร้อนรุ่ม
ดอกบัวดำที่กำลังผลิบานดูราวกับมีมนต์สะกด ดึงดูดความสนใจจากทุกสายตา
ราวกับว่าแม้แต่วิญญาณก็จะถูกดูดกลืนเข้าไป!
“เพลิงสวรรค์เผาผลาญจะไม่ปรากฏออกมาอย่างแท้จริง จนกว่าดอกบัวดำจะบานเต็มที่!”
“ผู้แข็งแกร่งมากมายมารวมตัวกันเช่นนี้... ไม่รู้ว่าจะมีคนตายไปเท่าไหร่!”
“ถ้ากลัวตายก็อย่าฝึกฝนเลย… ของวิเศษแห่งสวรรค์และผืนดิน ย่อมตกเป็นของผู้แข็งแกร่ง ใครบอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลังกัน?”
“ถูกต้อง! ถ้าทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลัง พวกเราจะมาแย่งชิงอะไรกัน? ปล่อยให้โม่ไหวหยวนเป็นคนเอามันไปก็สิ้นเรื่อง!”
“อะไรนะ!? โม่ไหวหยวนก็มาที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ก็... ผู้แข็งแกร่งจากเผ่ามนุษย์สวรรค์คนนั้นยึดครองตำแหน่งที่ดีที่สุดไว้ได้ ในความคิดของข้า โชคชะตาของเพลิงสวรรค์เผาผลาญในตำนานในครั้งนี้น่าจะเป็นของเขา!”
“โม่ไหวหยวน?? เขาเป็นใคร?”
“โม่ไหวหยวน ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเหรอ? อัจฉริยะแห่งเผ่ามนุษย์สวรรค์ไงล่ะ เขาเคยสร้างสถิติสุดยอดด้วยการครอบครองเทพกึ่งเทพ สิบแปดตนจากตระกูลปรากฏการณ์สวรรค์ ถูกสังหารไปถึงสิบสองคน แม้แต่ซ่ง โหยว เองก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว!!”
“ฮึ้ย! แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ!?”
“ฮ่าฮ่า นั่นไม่แน่เสมอไปหรอก... ดูทางนั้นสิ นั่น กุ้ย หลี่ จากเผ่าวิญญาณ! ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะไม่ด้อยไปกว่าโม่ไหวหยวนเลยนะ!”
“และนั่น... หมาป่าอมตะแห่งเผ่าหมาป่าสวรรค์!”
การเบ่งบานของดอกบัวดำนั้นช้าอย่างยิ่ง ผู้ที่รอคอยมาเป็นเวลานานย่อมเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนอิสระที่อยู่รอบนอกสุด ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ก็เหมือนแค่มาเพิ่มจำนวนคนเท่านั้น
พลังและโชคของพวกเขาอาจไม่มากนัก แต่พวกเขากลับรู้ข้อมูลมากมาย
พวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหล่าผู้แข็งแกร่งในแถวหน้า ไม่ว่าจะเป็นที่มาหรือความสำเร็จของพวกเขา
แม้แต่วิสัยทัศน์ตอนที่ถือกำเนิดก็ยังสามารถบรรยายได้อย่างละเอียด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ หลินเซียวก็ฟังอย่างสนใจ
ยกตัวอย่างเช่น มีมนุษย์ครึ่งวัวและมนุษย์ครึ่งม้ายืนทะเลาะกันอยู่ใกล้ๆ ว่าระหว่างโม่ ไหวหยวนกับกุ้ย หลี่ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน
มันดูเหมือนกับฉากที่แฟนคลับของดาราดังต่างเผ่าพันธุ์กำลังดิสเครดิตและทะเลาะกัน
ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง
“นี่ ได้ยินมาว่าแหล่งกำเนิดของเพลิงสวรรค์แบบนี้จะต้องมีวัสดุศักดิ์สิทธิ์และสมบัติล้ำค่ามากมายผุดขึ้นมาแน่ๆ พวกเราอาจจะไม่ได้ส่วนแบ่งจากเพลิงสวรรค์ แต่ถ้าคว้าสมบัติอื่นได้ก็คงจะดี!”
มีคนพูดเบาๆ อยู่ข้างๆ หลินเซียวหันไปมอง พบว่าคนที่พูดคือเทพกึ่งเทพที่มีปากแหลมและแก้มลิง
มันดูคล้ายกับเผ่ามนุษย์ลิง มีหางยาวอยู่ด้านหลัง
“พี่ชาย หมายถึงสมบัติอะไรเหรอ?”
หลินเซียวเบียดตัวเข้าไปถามอย่างอยากรู้อยากเห็น คนอื่นๆ กำลังต่อสู้เพื่อ ‘พี่ชาย’ ของตัวเอง
มีแต่คนๆ นี้ที่พูดความจริง
“นั่นสินะ!”
เมื่อมนุษย์ลิงเห็นว่ามีคนคุยด้วย ก็เกิดมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
“แต่นั่นคือเพลิงสวรรค์ สิ่งที่สามารถให้กำเนิดเพลิงสวรรค์ได้จะเป็นสิ่งของธรรมดาได้อย่างไร?”
หลินเซียวพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว นี่คือความจริง
เพลิงสวรรค์เผาผลาญเป็นสสารที่แม้แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถเผาไหม้ได้อย่างง่ายดาย และสามารถรองรับและเพาะพันธุ์เพลิงสวรรค์ได้
แม้ว่ามันจะไม่มีพลังใดๆ เพียงเพราะมันไม่สามารถถูกเผาไหม้ด้วยเพลิงสวรรค์ได้
การบอกว่ามันคือสมบัติล้ำค่าก็ไม่ใช่ปัญหา!
“การกำเนิดของเพลิงสวรรค์นั้นแปลกประหลาด แต่ครั้งหนึ่งเคยมีเพลิงสวรรค์ชนิดหนึ่งที่ก่อกำเนิดขึ้นในรูปของแท่นดอกบัว!”
มนุษย์ลิงพูดอย่างลึกลับ และมองไปรอบๆ ชั่วครู่ราวกับกลัวว่าจะมีคนแอบฟัง
“ในที่สุดแท่นดอกบัวก็กลายเป็นแท่นบูชาขั้นสูงกึ่งสำเร็จรูป เพียงแค่ปรับแต่งเล็กน้อยก็สามารถกลายเป็นแท่นบูชาขั้นสูงได้!”
“กลีบดอกบัวทั้งหกกลีบล้วนเป็นวัสดุศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง และเมล็ดบัวก็กระจัดกระจายไปทั่ว ว่ากันว่าเมื่อมันสุกงอม มันสามารถเพาะพันธุ์เพลิงสวรรค์ได้ทั้งแปลง!”
“แม้แต่เหง้าของแท่นดอกบัวก็เป็นวัสดุศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง และเป็นวัสดุศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางที่สามารถใช้ได้ทั้งกับแท่นศักดิ์สิทธิ์และเพลิงสวรรค์!”
“ในความคิดของข้า เพลิงสวรรค์เผาผลาญนี้อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะให้กำเนิดวัสดุศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้!”
“ฮ่าฮ่า โม้! วัสดุที่สามารถต้านทานการเผาไหม้ของเพลิงสวรรค์ได้จะเป็นเพียงวัสดุศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้อย่างไร?”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ มีคนข้างๆ ทนไม่ไหวอดเยาะเย้ยและเย้ยหยันไม่ได้
“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเพลิงสวรรค์ถือกำเนิด มันจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ให้กำเนิดมัน เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กินเปลือกไข่หลังจากฟักออกมาจากไข่!
“เจ้า... เจ้าไม่รู้อะไรซะแล้ว!”
มนุษย์ลิงโกรธจัดและอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงต่ำ
เพียงแต่ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ทำให้เขาดูไม่มั่นใจมากนัก
หลินเซียวเบนสายตาไป สิ่งที่ทั้งสองคนนี้พูดนั้นมีเหตุผล
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเทพกึ่งเทพหลายตนคงไม่มีโอกาสได้พบเจอเหตุการณ์อย่างการกำเนิดของเพลิงสวรรค์แม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต
ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าฉากนั้นเป็นอย่างไร
การทะเลาะวิวาทระหว่างพวกเขาดำเนินไปอย่างเต็มที่ และบุคคลที่แข็งแกร่งตรงหน้าพวกเขาซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบของตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก
โดยปกติแล้วแต่ละเผ่าพันธุ์มักจะมีเรื่องขัดแย้งกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พวกเขามารวมตัวกันเพื่อแย่งชิงสมบัติ จึงยิ่งเป็นธรรมดาที่จะต้องเผชิญหน้ากัน
หลินเซียวยังเห็นเผ่ามนุษย์สวรรค์หลายคนภายใต้การนำของโม่ ไหวหยวนและนักรบเผ่าวิญญาณที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังด่าทอกันอยู่
นอกจากนี้ยังมีเผ่าหมาป่าสวรรค์และเผ่าอาร์กาลีที่กำลังพ่นน้ำลายใส่กันอยู่ใกล้ๆ
ชั่วขณะหนึ่ง ฉากนั้นก็ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
“นักรบเทพกึ่งเทพระดับสูงสุด... น่าจะเป็นระดับ 1,000 ทั้งหมดเลยสินะ?”
หลินเซียวเฝ้าดูอย่างสนใจ
“หืม?”
ขณะที่กวาดสายตามองไปทั่ว หลินเซียวก็ต้องชะงักกะทันหัน
เขาหันกลับมามองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งเบียดอยู่ด้วยกันบนก้อนหินที่ยื่นออกมาด้านหลังเผ่ามนุษย์สวรรค์ ใบหน้าซีดเซียว
“มนุษย์!? เผ่าพันธุ์มนุษย์งั้นเหรอ!?”
หลินเซียวเกือบจะร้องออกมา มีเผ่าพันธุ์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์อยู่มากมาย
และยังมีเผ่าพันธุ์ที่มีรูปร่างเหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์เปี๊ยบ เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
แต่รัศมีที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นไม่อาจผิดพลาดได้!
“เจ็ด... เจ็ดคนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์!? และพวกเขาเป็นราชันย์งั้นเหรอ!?”
ดวงตาของหลินเซียวแทบถลนออกมานอกเบ้า แม้ว่าที่นี่จะเป็นดินแดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่ตอนนี้พลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นอ่อนแอลงมาก จักรวาลถูกเจาะจนเป็นรูพรุน
สถานที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนต้องห้ามมังกรดำ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เห็นมังกรดำ
แต่มันก็ไม่ใช่สถานที่ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะสามารถเหยียบย่างเข้ามาได้อย่างแน่นอน!
ทำไมถึงมีเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ที่นี่ได้ล่ะ!?
หลินเซียวมองอย่างพินิจพิเคราะห์ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งมั่นใจ
คนทั้งเจ็ดคนนี้คือเผ่าพันธุ์มนุษย์!
และหนึ่งในนั้นดูคุ้นเคย “ซ่ง...” หลินเซียวขมวดคิ้ว เขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“เทพกึ่งเทพ... เทพกึ่งเทพที่เพิ่งจะทะลวงระดับ และราชันย์สงครามอีกหกคน?”
หลินเซียวตกตะลึง คนทั้งเจ็ดคนนี้ช่างกล้าหาญจริงๆ
พวกเขากล้าที่จะมาที่นี่ทั้งๆ ที่มีพลังเพียงน้อยนิด พวกเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าจะต้องตาย!
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดคือ คนทั้งเจ็ดคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีท่าทางที่ดีนัก แต่กลับยึดครองพื้นที่บนก้อนหิน แม้ว่าพวกเขาจะมีสีหน้าซีดเซียว แต่ในดวงตาของพวกเขากลับไม่มีความหวาดกลัว
“หรือว่าพวกเขาจะเป็นพวกโง่!?”
หลินเซียวคิดอย่างประหลาดใจ ทุกคนเห็นได้ว่ารัศมีของพวกเขานั้นอ่อนแอ
แต่พวกเขากลับกล้ายึดครองพื้นที่บนก้อนหินเพียงลำพัง ซึ่งเป็นการกระทำที่สงวนไว้สำหรับผู้แข็งแกร่งและทรงพลังเท่านั้น
หากไม่มีพลังมากพอ นี่ถือเป็นการยั่วยุต่อผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำแบบนั้น
แน่นอนว่า ก่อนที่หลินเซียวจะตัดสินใจได้ว่าจะจัดการกับคนทั้งเจ็ดคนนี้อย่างไร
มีกองกำลังระดับสองกลุ่มหนึ่งก็ไม่พอใจคนทั้งเจ็ดคนนี้และเข้ามาหาเรื่อง
“พวกอ่อนแอไม่คู่ควรที่จะอยู่ร่วมกับพวกเรา ไสหัวไป!”
ลิ้นของคางคกสามตาพุ่งออกมาเหมือนลูกศรแหลมคม ต้องการจะทุบตีคนทั้งเจ็ดคนนี้ให้แหลกเป็นชิ้นๆ!
มีการโตเถียงกันมากมายใกล้กับดอกบัวดำ แต่ไม่มีการต่อสู้กันจริงๆ ยกเว้นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายในตอนแรก
ในตอนนี้ มีคนหนึ่งฝ่าฝืนกฎที่ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน ทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่นี่ทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นเป้าหมาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะและส่ายหัว ไม่ต้องการที่จะสนใจ
ท้ายที่สุดแล้ว รัศมีของคนทั้งเจ็ดคนนี้ดูอ่อนแอมากในสายตาของพวกเขา และคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็เพิ่งจะทะลวงระดับเทพกึ่งเทพ
แค่คนใดคนหนึ่งในที่นี้ก็เพียงพอที่จะบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามได้ พวกเขาจึงไม่สนใจใยดี
“มดแบบนี้เข้ามาได้อย่างไร?”
“เข้ามาได้ก็ดีแล้ว... ถ้ารู้จักที่ต่ำที่สูงก็คงจะไปหาวัสดุศักดิ์สิทธิ์เพื่อเลื่อนระดับเป็นเทพในอนาคต ทำไมถึงได้โลภมาก อยากได้สิ่งที่เกินเอื้อม?”
“อยากได้เพลิงสวรรค์ก็ไม่ผิด... แต่อย่ามาอยู่ตรงนี้!”
“พลังแค่นั้นน่ะเหรอ? คู่ควรกับข้าหรือ? พวกเขายืนรวมกลุ่มกันได้อย่างไร?”
“เหอะๆ พวกนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งจากเผ่าคางคกทองคำ พวกนี้ตายแน่!”
“ว่าแต่... พวกนั้นมาจากเผ่าไหนกัน?”
การนินทาเป็นเรื่องที่น่าสนใจพอๆ กับการต่อสู้ได้อย่างไร?
ลิ้นของคางคกทองคำพุ่งออกมาเหมือนลูกศร ดึงความสนใจของทุกคนไปที่คนทั้งเจ็ดคนทันที
เมื่อสัมผัสได้ถึงรัศมีของคนทั้งเจ็ดคนนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
พลังเพียงแค่นี้ยังกล้ายืนอยู่คนเดียว มันก็เหมือนกับคนแก่ที่กินสารหนูก่อนตาย!
“ทุกคน การที่พวกเราจะยืนหยัดอยู่ที่นี่ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับครั้งนี้แล้ว!”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ คนทั้งเจ็ดคนนี้ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว
แต่กลับแสดงความตื่นเต้นเล็กๆ ออกมา!
ดวงตาของผู้นำเป็นประกายและพูด
ด้วยพลังของพวกเขา พวกเขากล้าที่จะยืนอยู่ที่นี่
พวกเขาต้องมีไพ่ตายอย่างแน่นอน!
“การต่อสู้กับเทพกึ่งเทพที่แข็งแกร่ง... และเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเทพกึ่งเทพ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพวกเราจะมีโอกาสเช่นนี้!”
ความตื่นเต้นอย่างที่สุดทำให้ใบหน้าของพวกเขาดูซีดเซียว ราวกับว่าทุกเซลล์ในร่างกายกำลังสั่นเทา
ในโลกภายนอก ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลย!
แค่คนใดคนหนึ่งในนี้ก็สามารถฆ่าพวกเขาได้เป็นร้อยคน!
แต่ที่นี่
ไม่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้!
ทุกคนถูกดึงมาสู่จุดเริ่มต้นเดียวกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือปริมาณพลังวิญญาณ!
ตราบใดที่พวกเขามีวิธีการที่พิเศษ พวกเขาก็สามารถชดเชยความแตกต่างของพลังวิญญาณได้
ทำให้พวกเขาสามารถตอบโต้กลับด้วยความอ่อนแอเอาชนะความแข็งแกร่งได้!
“ให้ข้าจัดการเอง!”
ชายวัยกลางคนก้าวออกมาข้างหน้า มองดูลูกศรลิ้นที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
ลิ้นของคางคกทองคำพุ่งออกมาเหมือนลูกศรอาบยาพิษ บรรจุคลื่นพลังวิญญาณที่น่ากลัว
ถ้าโดนเข้าไปล่ะก็ ชีวิตนี้คงจบสิ้นแน่!
แต่เขาไม่กลัว!
“เจ้าคางคกน้อย กล้าดีอย่างไรถึงบังอาจโจมตีข้า?”
ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ถ้ามันเข้ากับรัศมีที่แข็งแกร่งล่ะก็ เขาคงดูสง่างามราวกับผู้กลืนกินภูเขาและแม่น้ำ
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพที่ย่ำแย่ของเขาที่ยังไม่ถึงระดับเทพกึ่งเทพ การพูดแบบนี้ออกมาจึงดูน่าขันเล็กน้อย!
“ตายซะ!”
อย่างไรก็ตาม ชายวัยกลางคนไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรเลย เขามองดูลูกศรลิ้นที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและยิ้มแปลกๆ
เพียงแค่ดีดนิ้ว ประกายไฟสีขาวขุ่นก็ปรากฏขึ้น!
“ฮึ้ย!! เพลิงสวรรค์! เพลิงสวรรค์งั้นเหรอ!?”
ประกายไฟสีขาวขุ่นปรากฏขึ้น ดวงตาของคางคกทองคำที่เพิ่งจะโกรธจัดเมื่อครู่นี้ก็หดเล็กลงทันที
ดวงตากลมโตเบิกกว้างจนลูกตาแทบจะหลุดออกมา!
คางคกทองคำกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว พยายามที่จะดึงลิ้นของมันกลับเข้าไป
แต่มันจะทันได้อย่างไร?
ตูม!
เมื่อเพลิงสวรรค์ปะทะกับพลังวิญญาณ มันก็เหมือนกับเพลิงสวรรค์เผาผลาญที่ปะทะกับพลังศักดิ์สิทธิ์ พลังวิญญาณอันมหาศาลของคางคกทองคำกลับกลายเป็นเครื่องรางของขลังที่ช่วยชีวิตมันไม่ได้ในตอนนี้
เพลิงสวรรค์ลุกโชนทันที เผาไหม้ไปตามลิ้นของคางคกทองคำและเข้าไปในปากของมัน
มันไม่มีแม้แต่เวลาที่จะตัดลิ้นของมันทิ้ง!
“ไม่นะ...”
ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าคางคกทองคำกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง ไส้ของมันแทบจะปลิ้นออกมาเพราะความเสียใจ
พวกเขายืนอยู่เฉยๆ ไม่ได้มาหาเรื่องข้า แล้วทำไมข้าถึงต้องไปหาเรื่องพวกเขาก่อนด้วย!?
เสียงกรีดร้องหยุดลงกะทันหัน เพลิงสวรรค์หายไปอย่างรวดเร็วราวกับตอนที่มันปรากฏขึ้น
เพียงพริบตา เทพกึ่งเทพที่แข็งแกร่งก็ถูกเผาเป็นจุล!
ฉึก!
เหล่าเทพกเทพที่ส่งเสียงดังอยู่รอบๆ ต่างสูดหายใจเข้าไปอย่างเย็นเยียบ
บรรยากาศเงียบสงัด
พวกเขามองไปที่คนกลุ่มนั้นด้วยความประหลาดใจ แม้ว่ารัศมีของพวกเขาจะอ่อนแอ
แต่เพลิงสวรรค์ที่ส่องประกายระยิบระยับที่ลอยอยู่รอบๆ ตัวพวกเขานั้นเป็นภัยคุกคามร้ายแรงถึงชีวิตสำหรับพวกเขา!
เมื่อพวกเขาผ่านเพลิงชั้นที่สี่ของดวงอาทิตย์ พวกเขาทั้งหมดได้รับการปกป้องจากเทพเจ้า นอกจากนี้ พวกเขาไม่ได้จงใจยั่วยุพวกเพลิงสวรรค์ที่ส่องประกายระยิบระยับ จึงสามารถผ่านทะลุเพลิงสวรรค์ไปได้อย่างปลอดภัย
แต่ถ้าหากใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ล่ะก็ ผลลัพธ์ก็คงจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย หากไม่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าพลังวิญญาณจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเผาไหม้ของเพลิงสวรรค์ได้
แม้ว่าพลังของคนกลุ่มนั้นจะต่ำ แต่ในตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าประมาทพวกเขา!
“คุณชาย!? คุณ...”
สมาชิกที่เหลือของเผ่าคางคกทองคำมองไปที่ร่างของนายน้อยที่กลายเป็นเถ้าธุลีด้วยสายตาที่แทบจะทะลุ
พวกเขาจ้องมองไปที่คนทั้งเจ็ดคนนั้น แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ท้ายที่สุดแล้ว เพลิงสวรรค์เซวียนจี้ไม่เลือกหน้า ถ้าทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจขึ้นมา พวกเขาอาจจะถูกโยนเพลิงสวรรค์ใส่
ใครจะทนไหว?
“พวกเราจะยืนอยู่ที่นี่ ใครมีปัญหาอะไรไหม?”
หลังจากแสดงพลังและสังหารคางคกทองคำที่แข็งแกร่งไปหนึ่งตน
คนกลุ่มนั้นก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น พวกเขามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางที่ค่อนข้างที่จะกักขฬะ
สายตาของผู้คนที่อยู่รอบข้างเป็นประกาย พวกเขาไม่กล้ามองหน้าคนกลุ่มนั้น ชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาก็กุมความสนใจจากทุกคนเอาไว้ได้
หลินเซียวซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน สีหน้าของเขายิ่งแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาพอจะเดาได้ว่าคนกลุ่มนี้มาจากไหน เห็นได้ชัดว่าเป็นผลงานของเพลิงสวรรค์อาวุโส…
หลังจากที่คนกลุ่มนั้นสร้างชื่อเสียงได้ในการต่อสู้ครั้งเดียว หุบเขาก็ค่อยๆ เงียบสงบลง
ทุกคนรอคอยให้ดอกบัวดำบานอย่างเงียบๆ ไม่มีใครคิดที่จะหาเรื่องใส่ตัว
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ผ่านไปกว่าสองวัน
ในที่สุดดอกบัวดำก็เคลื่อนไหว!
กลีบดอกบัวชั้นนอกสุดค่อยๆ ยกตัวขึ้น ควันสีดำหนาทึบขึ้นจนบดบังทัศนวิสัยของทุกคน
กลีบดอกบัวค่อยๆ บานออก เผยให้เห็นเพลิงสีดำที่อยู่ด้านในสุดซึ่งกำลังไหวลู่ไปมา
“เพลิงสวรรค์เผาผลาญ!”
“มันถือกำเนิดขึ้นแล้ว มันกำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว!”
“นี่คือเพลิงสวรรค์เผาผลาญงั้นเหรอ?”
“เตรียมตัวให้พร้อม ทุกคนเตรียมลงมือได้ทุกเมื่อ!”
ฝูงชนต่างพากันโกลาหล วงในสุดคือโม่ ไหวหยวน กุ้ย หลี่ และคนอื่นๆ
วงที่สองคือผู้แข็งแกร่งระดับสอง และวงนอกสุดคือผู้ฝึกตนอิสระที่หวังจะมาเสี่ยงโชค
ในเวลานี้ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ดอกบัวดำ พร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ
“เพลิงสวรรค์เผาผลาญกำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้วงั้นเหรอ?”
หลินเซียวเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เขาอดทนรอมาหลายวันแล้ว
แต่ในตอนนี้เขายังไม่รีบร้อนที่จะลงมือ เพลิงสวรรค์เผาผลาญดึงดูดผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้
จะต้องเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!
ที่สำคัญที่สุดคือ นี่ไม่ใช่อุปกรณ์สวมใส่
แต่มันคือเพลิงศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่สามารถเผาผลาญเทพเจ้าได้!
การต่อสู้แย่งชิงสมบัติไม่ใช่เรื่องสำคัญ อันตรายที่แท้จริงต้องเกิดขึ้นในตอนที่รวบรวมเพลิงนี้!
ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้มาที่นี่เพื่อเพลิงสวรรค์เผาผลาญ พวกเขาต้องมีวิธีรวบรวมมันอย่างแน่นอน
จะเป็นการดีกว่าถ้าเขาคอยดูอยู่ห่างๆ
เพลิงลุกไหม้อย่างเงียบๆ เพลิงสีดำกลืนกินทุกสิ่ง
แท่นดอกบัวรวมถึงกลีบดอกบัวต่างละลายหายไป และถูกเพลิงกลืนกิน
ทำให้เปลวเพลิงค่อยๆ ทวีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
หลินเซียวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แท่นศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงกึ่งสำเร็จรูปที่มนุษย์ลิงพูดถึง ไม่ปรากฏขึ้นเลยสักนิด
ไม่เช่นนั้น เขาคงจะประหยัดความพยายามไปได้มาก
"ลงมือ!"
เมื่อดอกบัวดำหายไปอย่างสมบูรณ์ เหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ ณ ที่นั้นก็พุ่งเข้าโจมตีราวกับสายฟ้า!
กลุ่มคนทั้งเจ็ดก็มีแววตาเป็นประกายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำ
ถ้าเขาได้รับเพลิงสวรรค์เผาผลาญ… ใครจะกล้ามาหาเรื่องเขาในสนามรบระดับ 5 กันอีกล่ะ!?
"ไสหัวไป!"
เหล่าผู้แข็งแกร่งจากเผ่าวิญญาณมองไปที่คนกลุ่มนั้นด้วยความดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาไม่คิดจะสนใจคนพวกนี้มาก่อน เพราะไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน
แต่ตอนนี้คนพวกนี้กลับคิดจะมาแย่งชิงเพลิงสวรรค์เผาผลาญด้วยเพียงแค่เพลิงสวรรค์ที่แสนธรรมดา มันช่างเป็นความฝันที่โง่เง่าสิ้นดี!
"พวกเจ้ากำลังหาที่ตาย!"
ด้วยความสามารถในการควบคุมเพลิงสวรรค์ที่ทำให้พวกเขาอยู่ยั้งยืนยงมาได้ ณ ที่แห่งนี้ ทำให้พวกเขามีความเย่อหยิ่งอยู่เต็มเปี่ยม
พวกเขาจะทนได้อย่างไร?
"เพลิงสวรรค์!"
สีหน้าของคนกลุ่มนั้นเปลี่ยนไป พวกเขาโจมตีโดยไม่เกรงกลัว
เพลิงสวรรค์ทั้งเจ็ดล้อมรอบพวกเขาและพุ่งเข้าหากุ้ย หลี่โดยไม่ลังเล!
"พวกเจ้าคิดว่า เพลิงสวรรค์แค่นั้นจะทำให้พวกเจ้าเป็นอมตะได้งั้นรึ?"
กุ้ย หลี่ยิ้มเยาะเย้ยและฟาดฟันดาบออกไป
รัศมีอันแหลมคมของทองคำโบราณปรากฏขึ้น สังหารเพลิงสวรรค์ในทันที
เพลิงถูกดับลง และมันก็พุ่งตรงไปยังคนทั้งเจ็ดโดยไม่ลดความเร็วลง! "ทองคำโบราณ! ไม่! ข้าต้องตายแน่ๆ!!"
เป็นครั้งแรกที่คนทั้งเจ็ดแสดงสีหน้าสิ้นหวัง พวกเขากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว! คนอื่นๆมองพวกเขาอย่างไม่แยแส
ไม่สนใจใยดีเลยแม้แต่น้อย
การที่ไม่มีเพลิงสวรรค์ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีวิธีอื่น
ในฐานะเทพกึ่งเทพระดับสูงสุด พวกเขาคือเพดานของระดับเทพกึ่งเทพ
พวกเขาไม่เคยเห็นเทพเจ้าธรรมดาอยู่ในสายตา
การพยายามที่จะครอบงำเทพกึ่งเทพด้วยเพียงแค่เพลิงสวรรค์ มันช่างเป็นความฝันที่โง่เง่าสิ้นดี!
.................
สวัสดีวันเสาร์ครับบบ นอนอ่านบนเตียงอย่างมีความสุขนะครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมรีบมาให้เลยวันนี้ 10 ตอนฉ่ำๆ
