ตอนที่แล้วบทที่ 141 คัมภีร์แมลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 143 ปัญหาการสืบพันธุ์ของนกกระเรียนวิญญาณ

บทที่ 142 นกอ้วนถล่มหัว


“ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่เจ้านี่ระมัดระวังเกินไปแล้ว ก็แค่ผู้ฝึกตนจากตระกูลเล็กๆ เท่านั้นเอง ทำไมต้องใช้ยันต์กระบี่หมื่นศาสตราถึงหลายแผ่นกัน”

เหยาหลี่หัวเราะกล่าว

“ก็ช่วยไม่ได้ ต้องระวังตัวถึงจะอยู่รอดได้ หากเป็นเรื่องรักษาชีวิตล่ะก็ ยันต์แค่นี้ก็ไม่สำคัญหรอก”

“ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ฝึกตนของตระกูลว่านยังควบคุมคางคกประหลาดตัวนั้นได้ ไม่เพียงแค่พิษร้ายแรงเท่านั้น แต่มันยังสามารถกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมได้ด้วย เพราะเหตุนี้ถึงต้องใช้ยันต์กระบี่หมื่นศาสตราที่มีอาณาเขตกว้างแบบนั้น”

ลู่เซวียนยิ้มขมขื่น กล่าวโดยไม่มีทีท่าว่าจะเปิดเผยว่าตนเองยังมียันต์ระดับสองอีกมากในถุงเก็บสมบัติของตนเอง

เขาหยิบของในถุงเก็บสมบัติของผู้ฝึกตนขึ้นมา และเก็บใส่ถุงเก็บสมบัติของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ

เหยาหลี่และเหยียนผิงที่ยืนดูอยู่นั้น ไม่มีความคิดจะขอส่วนแบ่งเลยแม้แต่น้อย

แม้ว่าทั้งสองจะเร่งรีบมาหลังพบสิ่งผิดปกติ แต่ลู่เซวียนกลับจัดการศัตรูได้ด้วยตนเอง นั่นทำให้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างสิทธิ์ในของรางวัลแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนจากตระกูลเล็กๆ ของที่ได้มาก็คงไม่มีค่าเท่าไร พวกเขาจึงไม่สนใจอะไรนัก

หลังจากจัดการเรื่องเล็กน้อยแล้ว ทั้งสามก็กลับไปกำจัดแมลงจำแลงลายในสวนวิญญาณต่อ โดยที่เหยียนผิงรับหน้าที่จับตำแหน่งของแมลงจำแลงลาย ส่วนลู่เซวียนและเหยาหลี่ก็คอยสังหารแมลงที่พบเห็น พร้อมทั้งเฝ้าระวังรอบๆ สวนวิญญาณไปด้วย

หลังจากการลอบโจมตีที่ล้มเหลวในครั้งนั้น ก็ไม่มีผู้ฝึกตนตาไม่ถึงคนใดมารบกวนเพื่อเก็บแมลงจำแลงลายที่เกาะกินอยู่ในลูกท้อวิญญาณน้ำอีก

สองวันต่อมา ลูกท้อวิญญาณน้ำทั้งหมดถูกตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีแมลงจำแลงลายใดๆ แฝงอยู่ในต้นวิญญาณอีกต่อไป

สำหรับตระกูลจาง หลังจากที่ลู่เซวียนบังเอิญช่วยจัดการศัตรูตัวสำคัญได้แล้ว พวกเขาก็บุกไปอย่างรวดเร็ว จัดการกับตระกูลว่านที่อยู่บนเกาะเล็กๆ อีกแห่งได้สำเร็จ ผู้ฝึกตนของตระกูลว่านบ้างตาย บ้างหนี ส่วนทรัพย์สินที่เหลืออยู่ก็ตกเป็นของตระกูลจางทั้งหมด

“ศิษย์พี่เหยา ศิษย์พี่ทั้งสอง ทั้งสามท่านต้องขอขอบคุณที่ช่วยกำจัดแมลงจำแลงลายในลูกท้อวิญญาณน้ำ”

“นี่เป็นของฝากเล็กๆ น้อยๆ มีปลาวิญญาณแช่แข็ง และผลไม้แปรรูปจากลูกท้อวิญญาณน้ำ นำไปฝากพี่น้องศิษย์ในสำนักเทียนเจี้ยนลิ้มลองกันเถิด”

หลังจากเหตุการณ์นั้น หัวหน้าตระกูลจาง จางอวี้ถัง ดูแก่ขึ้นไปอีกมาก แต่จิตใจกลับสดใสอย่างผิดปกติ

เขามอบกล่องของขวัญสุดประณีตให้กับทั้งสามคน ซึ่งพวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้จึงรับไว้

เหยาหลี่นำเอาเรือบินรูปทรงดาบขั้นสามออกมา ลู่เซวียนกระโดดขึ้นเรือบินอย่างคล่องแคล่ว ปราณบางเบาปรากฏขึ้นปกคลุมทั้งสามคน

เสียงแหวกอากาศดังขึ้น เรือบินพุ่งเข้าสู่ท้องฟ้าสูงเสียดฟ้า ผู้คนตระกูลจางเบื้องล่างกลายเป็นจุดดำเล็กๆ

“หัวหน้าตระกูลจางช่างใจกว้างดีจริงๆ”

เหยียนผิงเปิดกล่องของขวัญ พบว่าข้างในมีผลไม้แปรรูปจากลูกท้อวิญญาณน้ำอยู่ถุงหนึ่ง ไม่ทราบว่าทำอย่างไรถึงได้มากมายขนาดนี้

นอกจากนี้ ยังมีกล่องแบนยาวอีกกล่องหนึ่ง มีน้ำแข็งรายล้อมอยู่ ปลาวิญญาณสองตัวที่ทำให้ทั้งสามจำไม่ลืม วางอยู่บนน้ำแข็ง มีไอเย็นลอยขึ้นมาเล็กน้อย

และยังมีถุงผ้าขนาดเล็กอีกใบ ซึ่งบรรจุหินวิญญาณถึงห้าร้อยก้อน ทุกคนต่างมีเหมือนกัน

“ห้าร้อยหินวิญญาณ ซื้อศาสตราวิญญาณระดับสองชั้นเลิศได้สองชิ้นเลยทีเดียว สำหรับตระกูลเล็กอย่างตระกูลจาง ถือว่าทุ่มสุดตัวแล้ว”

ลู่เซวียนแกว่งถุงผ้าเล็กน้อย พลางถอนหายใจ

“ห้าร้อยหินวิญญาณ ส่วนหนึ่งเป็นค่าจ้างกำจัดแมลง ส่วนอีกส่วนหนึ่งเป็นค่าปิดปาก”

“เรื่องแมลงจำแลงลายเป็นความผิดของผู้ฝึกตนในตระกูลจาง แม้ว่าจะเป็นเพียงบางคนเท่านั้น แต่หากถูกอาจารย์อารามรู้เข้า เกรงว่าความโกรธเคืองจะทำให้ตระกูลจางถูกยกเลิกสิทธิ์ในการเพาะปลูกลูกท้อวิญญาณน้ำ ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่ต่างจากหายนะเลย”

“เพราะเช่นนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องทุ่มสุดตัว เพื่อให้พวกเราช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”

เหยาหลี่กล่าวอย่างเรียบๆ อยู่ที่หัวเรือบิน

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งสามคนก็กลับถึงสำนัก

“ศิษย์น้องทั้งสอง เรื่องลูกท้อวิญญาณน้ำครั้งนี้ ต้องขอบคุณศิษย์น้องลู่ที่ค้นพบแมลงจำแลงลายและหาวิธีแก้ปัญหาได้ และศิษย์น้องเหยียนที่ลงมือใช้คาถาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อกำจัดแมลงในหลายวันที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทั้งสองจริงๆ”

“นี่คือรางวัลสี่สิบตรากระบี่ เป็นค่าตอบแทนสำหรับภารกิจครั้งนี้”

ก่อนแยกจากกัน เหยาหลี่หยิบตรากระบี่แปดสิบอันออกมา แบ่งให้ลู่เซวียนกับเหยียนผิงคนละสี่สิบอัน

ลู่เซวียนรับตรากระบี่สี่สิบอันโดยไม่เกรงใจ

แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับห้าร้อยหินวิญญาณจากหัวหน้าตระกูลจางแล้ว จะมีมูลค่าที่ต่ำกว่า แต่การที่ได้ตรากระบี่สี่สิบอันในเวลาไม่กี่วัน ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

ลู่เซวียนขอให้เหยาหลี่จอดเรือบินใกล้ถ้ำพำนักของเขา เพื่อประหยัดหินวิญญาณหนึ่งก้อนจากการเช่าเหยี่ยววิญญาณ

หลังจากกล่าวลาสองคนแล้ว เขาก็เดินไปยังหน้าถ้ำ เปิดค่ายกลพรางหมอก แล้วผลักประตูเข้าไปในลานบ้าน

นกอ้วนตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาเหมือนกับภูเขาไท่ซานถล่ม ลงมาที่หัวของลู่เซวียนทันที

แม้ว่าจะดูมาอย่างรวดเร็วและทรงพลัง แต่กลับไม่หนักหนาอย่างที่คิด เขารู้สึกเพียงความนุ่มนวลที่ถ่ายทอดมาจากหัวของตนเอง

“แค่ไม่กี่วัน เจ้าก็อ้วนขึ้นอีกแล้ว ถ้าอ้วนขนาดนี้ แล้วจะพาข้าไปไหนมาไหนได้อย่างไร”

ลู่เซวียนตะลึงอึ้ง เหยี่ยววายุแม้จะสูงขึ้นอีกมาก จนตอนนี้สูงเกือบสี่ฉื่อแล้ว แต่ส่วนที่ขยายออกข้างกลับชัดเจนยิ่งกว่า จนแทบจะกลมเป็นลูกบอล

“จิ๊บๆ!”

เหยี่ยววายุกรีดร้องแหลม เสียงเหมือนว่ากำลังเถียงคำพูดของลู่เซวียน

“โฮ่ว~~~”

เงาสีดำพุ่งวูบผ่านไป แมวป่าทะยานเมฆตรงเข้ามากระชากเหยี่ยววายุน้อยลงจากหัวของลู่เซวียน ก่อนจะกระโดดขึ้นบนบ่าของเขา เสียงคำรามที่ดูเหมือนยังไม่จางหายดีดังลอดออกมาจากปาก

เหยี่ยววายุไม่ยอมแพ้ง่ายๆ บินวนรอบหัวของลู่เซวียน พยายามหาจังหวะสวนกลับ

แมวป่าทะยานเมฆจ้องด้วยนัยน์ตาสีเขียวหยกอย่างเกียจคร้าน มองดูเหยี่ยววายุที่กำลังทำท่าลวงซ้ายลวงขวา

ทุกครั้งที่เหยี่ยววายุเข้าใกล้ลู่เซวียน มันจะยื่นอุ้งเท้าที่หนาราวกับเมฆสีขาวออกมา และฟาดเหยี่ยววายุน้อยจนร่วงลงพื้นอย่างไม่ออมแรง

“ดูจากผิวมันเงาสะท้อนแสงของเจ้า เจ้าคงกินไม่หยุดเลยใช่ไหม”

ลู่เซวียนถอนหายใจ พร้อมกับรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี เขารีบวิ่งไปยังห้องครัว และก็ไม่ผิดคาด เนื้อสัตว์ปีศาจที่เตรียมไว้สำหรับสองตัวนี้ถูกกินจนหมดเกลี้ยง

ภาพในหัวเขาปรากฏขึ้นมาว่า หลังจากที่เขาจากไป แมวป่าทะยานเมฆและเหยี่ยววายุคงจัดการเนื้อสัตว์ปีศาจทั้งหมดอย่างไม่บันยะบันยัง จนท้องพองกางกันไป

“ข้าจะลงโทษพวกเจ้า ไม่ให้กินอะไรสามวัน!”

ลู่เซวียนพูดเสียงเข้ม

แมวป่าทะยานเมฆตาหยกเขียวหรี่ลงเล็กน้อย ดูไม่สนใจแต่อย่างใด ส่วนเหยี่ยววายุน้อยก็หันหัวกลมเล็กๆ ที่ดูขัดกับตัวกลมของมันไปมา ร้องเสียงแหลมเป็นระยะ

หลังจากที่ลงโทษแมวป่าทะยานเมฆและเหยี่ยววายุน้อยพอเป็นพิธีแล้ว ลู่เซวียนก็กลับเข้าห้อง

เขานำของทั้งหมดที่ได้จากผู้ฝึกตนที่ลอบโจมตีเขามาวางบนโต๊ะ

“ศาสตราวิญญาณระดับหนึ่ง ยาเม็ดระดับหนึ่ง หินวิญญาณไม่ถึงร้อยก้อน ของที่พอจะมีค่าอยู่บ้างก็คงจะเป็นคัมภีร์แมลงนี่แหละ”

ลู่เซวียนลูบคลำปกหนังเก่าของคัมภีร์อย่างแผ่วเบา

บนปกหนังเก่ามีภาพวาดของแมลงประหลาดอยู่ แมลงนั้นมีหลายหัว หลายขา และหลายปีกดูยุ่งเหยิง เหมือนกับแมลงหลายชนิดที่ถูกผสมกัน ดูน่าสะพรึงกลัว

ตัวอักษร “คัมภีร์แมลง” ที่มุมขวาบนนั้น เป็นสีแดงสดราวกับหยดเลือด

ลู่เซวียนค่อยๆ เปิดออก และเริ่มอ่านเนื้อหาของ *คัมภีร์แมลง* อย่างตั้งใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด