ตอนที่แล้วบทที่​ 28 : มุ่งสู่​นิกาย​หลางหยาเทียนจง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่​ 30 : ทำลาย​ล้าง

บทที่​ 29 : ผู้​อาวุโส​สูงสุด​ของนิกา​ยหลางหยาเทียนจง


บทที่​ 29 : ผู้​อาวุโส​สูงสุด​ของนิกา​ยหลางหยาเทียนจง

ตู้ม!

ฝ่ามือ​อันน่าสะพรึงกลัวของซ่งหยานระเบิดแสงสีทอง ปกคลุมในอากาศเเละกรีดร้องกระหึ่มผ่านความว่างเปล่า

ทันใดนั้น​ แขนเสื้อของลู่ชิงซวนก็พัดผ่าน

ฝ่ามือ​สีเขียวอมฟ้าราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในยุคดึกดำบรรพ์ก็พุ่งออกไปในอากาศ

ผนึกคลุมพื้นพิภพ!

ลู่ชิงซวนแสดงทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดอันทรงพลังนี้โดยตรง

ตู้ม!

ฝ่ามือ​สีทองของซ่งหยานระเบิดออกต่อหน้าฝ่ามือ​ใหญ่สีเขียวอมฟ้าของลู่ชิงซวน

มันราวกับแจกันกระเบื้องที่บอบบางเเละถูกทุบเป็นชิ้นๆ

อย่างไรก็ตาม พลังของตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้ายังคงไม่ลดลง

มันบีบอัดความว่างเปล่า และกระแทกซ่งหยานด้วยพลังอันสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

"อะไรกัน!"

สีหน้าของซ่งหยานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเมื่อสัมผัส​ได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวบนตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้า

ทันใดนั้น​เขาก็กัดฟัน และสร้างยันต์สีทองสามใบออกมาทันที

ยันต์ทั้งสามนี้สามารถทนต่อการโจมตีเต็มกำลังจากผู้ที่แข็งแกร่งที่จุดสูงสุดในอาณาจักรวังวิญญาณได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาอย่​ูต่อหน้าตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้า…พวกมันก็ไม่สามารถต้านทานได้นาน ก่อนที่จะระเบิดพร้อมเสียงดังปัง

เเละในที่สุด ร่างกายของซ่งหยานก็ถูกกระแทกอย่างแรงจากตราประทับขนาดใหญ่จนตกลงไปใต้ผืนดิน…ชีวิตและความตายของเขาไม่มีผู้ใดรับรู้!

ในขณะเดียวกัน​นั้นเอง, ปราณดาบของผู้อาวุโสใหญ่และเงาหมัดของผู้อาวุโสสามก็มาถึงเช่นกัน

ลู่ชิงซวนตอบโต้​โดยใช้นิ้วดาบและชกเงาหมัดออกไป

เมื่อนิ้วทั้งสองถูกฟาดฟันออกไปเหมือนดาบ มันก็เหมือนกับนิ้วดาบโลหิต รัศมีของมันกว้างใหญ่ไพศาล และกดขี่​ข้ามความว่างเปล่า

ตู้ม!

ปราณดาบของผู้อาวุโสใหญ่ระเบิดออกโดยตรง จากนั้นนิ้วดาบโลหิตก็ทะลุผ่านความว่างเปล่า ทำลายการป้องกันทั้งหมดของผู้อาวุโสใหญ่ และพุ่งผ่านเขาไป

ฉึก!

ร่างของผู้อาวุโสใหญ่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกจากหัวจรดเท้า…โลหิตไหลลงสู่ความว่างเปล่าเหมือนน้ำตก

ส่วนเงาหมัดก็หนักหน่วง​เหมือนกับท้องฟ้าที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า มันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ครอบครองพลังแห่งสวรรค์และโลกที่ไม่อาจหยุดยั้งได้

เมื่อเงาหมัดของผู้อาวุโสสามปะทะกับเงาหมัดนี้…ความว่างเปล่าก็ระเบิดจนก่อให้เกิดความปั่นป่วนนับไม่ถ้วน

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เงาหมัดของผู้อาวุโสสามก็แตกสลาย จากนั้นร่างกายทั้งหมดของผู้อาวุโสสามก็ถูกกระแทกอย่างแรงจากหมัดสวรรค์​ และตกตายอย่างสมบูรณ์

"ไม่นะ!!"

มีแววตาแห่งความไม่เต็มใจในดวงตาของวิญญาณ​ผู้อาวุโสหก และเขาก็คำรามอย่างบ้าคลั่ง!

เจ้าสำนัก และผู้อาวุโสทั้งสองได้ลงมืออย่างเต็​มที่

พลังของพวกเขา​นั้นเพียงพอที่จะฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับ​สูงสุด​ในอาณาจักรวังวิญญาณ

แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีของลู่ชิงซวนได้เลย

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของลู่ชิงซวนในตอนนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะหลบหนี​ด้วยซ้ำ​

ฉึก!

วิญญาณของผู้อาวุโสหกสั่นสะท้านอย่างกะทันหัน ก่อนจะถูกแทงทะลุด้วยนิ้ว

หลังจากนั้น วิญญาณของเขาก็ระเบิดในความว่างเปล่า และสลายไป

…..

ในขณะนี้ ทุกที่ในสำนัก​ล้วนเงียบสงัด

เจ้าสำนัก ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสสามได้ร่วมกันโจมตีลู่ชิง​ซวน

อย่าง​ไรก็ตาม ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถหยุดการโจมตีของลู่ชิงซวนได้เท่านั้น…ตอนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่เเละผู้อาวุโสสามต่างก็ถูกสังหาร

ส่วนชีวิตและความตายของเจ้าสำนักก็ไม่เป็นที่ทราบเเน่ชัด, ซึ่งนั่นมันทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด​

ศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดของนิกายหลางหยาเทียนจงต่างตกตะลึง, ความหนาวเหน็บที่วิ่งลงมาตามแนวหลังหนังศีรษะจนรู้สึกชาวาบ

เมื่อเขามองไปที่ลู่ชิงซวน ใบหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ทางด้านลู่เทียนหมิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และจิตใจของเขาก็ตื่นเต้น​จนยากที่จะลืมเลือน

….

"เจ้าหนู ผู้​นำตระกูล​แห่งตระกูลลู่ของเจ้าเป็นมังกรที่แท้จริง คนเช่นนี้หาได้ยากแม้แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาจะไม่มีใครเทียบได้ แต่เขายังสามารถควบคุมศิลปะการต่อสู้ใดๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และพลังของเขาก็ทรงพลังอย่างยิ่ง!"

เสียงชื่นชมของหมิงเหลาดังขึ้นในใจของลู่เทียนหมิง

ลู่เทียนหมิงก็ประหลาดใจกับคำชมของหมิงเหลาเช่นกัน

หลังจากติดต่อกับหมิงเหลามานาน, เขาก็รู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับคำชมจากหมิงเหลา ผู้ซึ่งผ่านพายุฝนฟ้าคะนองมานับไม่ถ้วน

แต่ตอนนี้ หมิงเหลากลับชมผู้​นำตระกูล​ของเขาต่อหน้าเขาโดยไม่คิดเก็บงำใดๆ…เเล้วเเบบนี้​เขาจะไม่ประหลาดใจได้อย่างไร?

…..

เมื่อมองจากระยะไกลในตอนนี้

ลู่ชิงซวนยืนอยู่ในความว่างเปล่า สวมชุดคลุมสีม่วง มองไปที่ซ่งหยานที่ล่วงหล่นสู่พื้น

ในการรับรู้ของเขา เขารู้ว่าซ่งหยานยังไม่ตาย

วูบ!

ร่างของซ่งหยานบินขึ้นมาจากพื้น มีโลหิตไหลออกมาจากมุมปากของเขา

ผมของเขายุ่งเหยิง และเสื้อคลุมขาดวิ่น…มันเผยให้เห็นชุดเกราะด้านในที่ลึกลับหลากสีคล้ายดวงดาวที่ลุกโชน

เห็นได้ชัดว่า มันเป็นชุดเกราะ​สีดำห้าสีที่​ป้องกันพลังฝ่ามือของลู่ชิงซวนส่วนใหญ่ไว้ ไม่อย่างนั้นเขาคงพิการหรือตายไปแล้ว!

ในขณะนี้ เมื่อซ่งหยานมองไปที่ลู่ชิงซวนอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว…เขาไม่เคยคาดคิดว่าลู่ชิงซวนจะทะลวงไปถึงอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่เจ็ด

ยิ่งกว่านั้น พวกเขา​ทั้งสามคนในอาณาจักรวังวิญญาณขั้นปลาย โจมตีพร้อมกัน…แต่ก็ยังพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่าย

เเล้วเเบบนี้​ พวกเขาจะสู้ต่อไปได้อย่างไร?

,ในขณะนี้ เขาก็นึกถึงผู้อาวุโสทั้งสามที่ไล่ล่าลู่เทียนหมิงเมื่อไม่นานมานี้

ก่อนหน้านี้ เขาส่งคนไปสืบหาสาเหตุที่ตะเกียงวิญญาณของผู้อาวุโสทั้งสามดับลง

ตอนนี้ เขามั่นใจแล้วว่าผู้อาวุโสทั้งสามต้องตกตายอยู่ในมือของลู่ชิงซวนอย่างเเน่นอ​น

ซ่งหยานโกรธจัด เมื่อคิดถึงการสูญเสียผู้อาวุโสหลักหลายคนของนิกายหลางหยาเทียนจง

นิกายหลางหยาเทียนจงของพวกเขาจะถูกทำลายด้วยมือของลู่ชิงซวนจริงๆหรือ?

ในขณะนี้ เขาเริ่มรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

หากนิกายของเขาไม่ได้สังหารคนเหล่านั้นจากคฤหาสน์ราชาลู่ในต่างแดนมาก่อน ความบาดหมางนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้น

น่าเสียดาย ที่ทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว

เเละในขณะที่ความคิดของเขากำลังแวบผ่าน…ลู่ชิงซวนก็ลงมืออีกครั้ง

คราวนี้​เขาตั้งใจที่จะปราบซ่งหยานให้ได้​อย่างสมบูรณ์

ฝ่ามือ​ขนาดใหญ่​พาดผ่านท้องฟ้า เเล้วมุ่งหน้าไปยังซ่งหยานอีกครั้​ง

แต่ในขณะนี้เอง, เสียงเย้ยหยันอันเย็นชาที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

จากนั้น, มือสีทองก็ยื่นออกมาจากส่วนลึกของนิกาย และโจมตีฝ่ามือของลู่ชิงซวน

ตูมมมมม!

ฝ่ามือ​ทั้งสองระเบิดขึ้นในความว่างเปล่า

ระเบิดพลังวิญญาณที่ลุกโชน, ควันพวยพุ่งจนกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก

เมื่อหมอกควันจางหายไป

ในสายตาของทุกคน ชายชราผมขาวหนวดเคราก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของนิกาย

"เป็นผู้อาวุโสสูงสุด!"

"ผู้อาวุโสสูงสุดออกจากการปลีกวิเวกแล้ว!"

ทันทีที่พวกเขาเห็นชายชราคนนี้ ทุกคนในนิกายหลางหยาเทียนจงก็ดูมีความสุข…ราวกับว่าพวกเขาเห็นรังสีแห่งความหวังในวิสัยทัศน์ที่มืดมนเดิม

เมื่อซ่งหยานเห็นผู้อาวุโสสูงสุดที่ปลีกวิเวกมานานหลายปี ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น

เขาก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับทันที​

"ขอกราบเรียนผู้อาวุโสสูงสุด ช่วยสังหารศัตรูด้วย!"

นี่คือติ่งไห่เสินเจิน (สมบัติล้ำค่าที่ใช้ป้องกันอันตราย) ของนิกายพวกเขา

เขาชื่อ "ฉู่หลิงเฟิง" และเขาเป็นชายที่แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าสู่ขั้นที่สองของอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณ

ฉู่หลิงเฟิงมองไปรอบๆ และเข้าใจทุกอย่าง​ได้อย่างถ่องแท้

จากนั้นเขาก็มองไปที่ซ่งหยาน และพูดว่า

"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า!"

หลังจากพูดจบ เขาก็หันสายตาไปที่ลู่ชิงซวนในระยะไกล ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงเย็นยะเยือก

"หากเจ้ากล้าฆ่าผู้อาวุโสของนิกายข้า, วันนี้เจ้าต้องคุกเข่าอยู่นอกนิกายของข้า และสำนึกผิดซะ!"

ทันทีที่เสียงดังขึ้น ฉู่หลิงเฟิงก็ลงมืออย่างกล้าหาญ

"คุกเข่าลง!"

คำพูด​ของฉู่หลิงเฟิงระเบิดด้วยเสียงฟ้าร้องในฤดูใบไม้ผลิ

ระดับการฝึกฝนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณกวาดออกมา และแสงวิญญาณสีแดงก็ปรากฏขึ้นจากทั่วร่างกาย เหมือนเปลวไฟที่กำลังลุกโชติช่วงด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

ฝ่ามือ​สีแดงที่มีพื้นที่ห้าถึงหกฟุต เคลื่อนผ่านความว่างเปล่า และกดลงบนลู่ชิงซวน พยายามที่จะปราบเขา จนคุกเข่าลงบนพื้น

ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน และฝ่ามือ​ก็สั่นสะเทือนจักรวาล

เมื่อทุกคนมองไปที่ฝ่ามือนี้ หัวใจของพวกเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับพลังของพระเจ้า

ในขณะนี้ พวกเขาได้เห็นพลังของผู้​ฝึกตนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณเเล้ว!

………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด