บทที่ 29 : ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยาเทียนจง
บทที่ 29 : ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยาเทียนจง
ตู้ม!
ฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของซ่งหยานระเบิดแสงสีทอง ปกคลุมในอากาศเเละกรีดร้องกระหึ่มผ่านความว่างเปล่า
ทันใดนั้น แขนเสื้อของลู่ชิงซวนก็พัดผ่าน
ฝ่ามือสีเขียวอมฟ้าราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในยุคดึกดำบรรพ์ก็พุ่งออกไปในอากาศ
ผนึกคลุมพื้นพิภพ!
ลู่ชิงซวนแสดงทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดอันทรงพลังนี้โดยตรง
ตู้ม!
ฝ่ามือสีทองของซ่งหยานระเบิดออกต่อหน้าฝ่ามือใหญ่สีเขียวอมฟ้าของลู่ชิงซวน
มันราวกับแจกันกระเบื้องที่บอบบางเเละถูกทุบเป็นชิ้นๆ
อย่างไรก็ตาม พลังของตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้ายังคงไม่ลดลง
มันบีบอัดความว่างเปล่า และกระแทกซ่งหยานด้วยพลังอันสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
"อะไรกัน!"
สีหน้าของซ่งหยานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวบนตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้า
ทันใดนั้นเขาก็กัดฟัน และสร้างยันต์สีทองสามใบออกมาทันที
ยันต์ทั้งสามนี้สามารถทนต่อการโจมตีเต็มกำลังจากผู้ที่แข็งแกร่งที่จุดสูงสุดในอาณาจักรวังวิญญาณได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาอยู่ต่อหน้าตราประทับฝ่ามือสีเขียวอมฟ้า…พวกมันก็ไม่สามารถต้านทานได้นาน ก่อนที่จะระเบิดพร้อมเสียงดังปัง
เเละในที่สุด ร่างกายของซ่งหยานก็ถูกกระแทกอย่างแรงจากตราประทับขนาดใหญ่จนตกลงไปใต้ผืนดิน…ชีวิตและความตายของเขาไม่มีผู้ใดรับรู้!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง, ปราณดาบของผู้อาวุโสใหญ่และเงาหมัดของผู้อาวุโสสามก็มาถึงเช่นกัน
ลู่ชิงซวนตอบโต้โดยใช้นิ้วดาบและชกเงาหมัดออกไป
เมื่อนิ้วทั้งสองถูกฟาดฟันออกไปเหมือนดาบ มันก็เหมือนกับนิ้วดาบโลหิต รัศมีของมันกว้างใหญ่ไพศาล และกดขี่ข้ามความว่างเปล่า
ตู้ม!
ปราณดาบของผู้อาวุโสใหญ่ระเบิดออกโดยตรง จากนั้นนิ้วดาบโลหิตก็ทะลุผ่านความว่างเปล่า ทำลายการป้องกันทั้งหมดของผู้อาวุโสใหญ่ และพุ่งผ่านเขาไป
ฉึก!
ร่างของผู้อาวุโสใหญ่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกจากหัวจรดเท้า…โลหิตไหลลงสู่ความว่างเปล่าเหมือนน้ำตก
ส่วนเงาหมัดก็หนักหน่วงเหมือนกับท้องฟ้าที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า มันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ครอบครองพลังแห่งสวรรค์และโลกที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
เมื่อเงาหมัดของผู้อาวุโสสามปะทะกับเงาหมัดนี้…ความว่างเปล่าก็ระเบิดจนก่อให้เกิดความปั่นป่วนนับไม่ถ้วน
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เงาหมัดของผู้อาวุโสสามก็แตกสลาย จากนั้นร่างกายทั้งหมดของผู้อาวุโสสามก็ถูกกระแทกอย่างแรงจากหมัดสวรรค์ และตกตายอย่างสมบูรณ์
"ไม่นะ!!"
มีแววตาแห่งความไม่เต็มใจในดวงตาของวิญญาณผู้อาวุโสหก และเขาก็คำรามอย่างบ้าคลั่ง!
เจ้าสำนัก และผู้อาวุโสทั้งสองได้ลงมืออย่างเต็มที่
พลังของพวกเขานั้นเพียงพอที่จะฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุดในอาณาจักรวังวิญญาณ
แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีของลู่ชิงซวนได้เลย
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของลู่ชิงซวนในตอนนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีด้วยซ้ำ
ฉึก!
วิญญาณของผู้อาวุโสหกสั่นสะท้านอย่างกะทันหัน ก่อนจะถูกแทงทะลุด้วยนิ้ว
หลังจากนั้น วิญญาณของเขาก็ระเบิดในความว่างเปล่า และสลายไป
…..
ในขณะนี้ ทุกที่ในสำนักล้วนเงียบสงัด
เจ้าสำนัก ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสสามได้ร่วมกันโจมตีลู่ชิงซวน
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถหยุดการโจมตีของลู่ชิงซวนได้เท่านั้น…ตอนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่เเละผู้อาวุโสสามต่างก็ถูกสังหาร
ส่วนชีวิตและความตายของเจ้าสำนักก็ไม่เป็นที่ทราบเเน่ชัด, ซึ่งนั่นมันทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
ศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดของนิกายหลางหยาเทียนจงต่างตกตะลึง, ความหนาวเหน็บที่วิ่งลงมาตามแนวหลังหนังศีรษะจนรู้สึกชาวาบ
เมื่อเขามองไปที่ลู่ชิงซวน ใบหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ทางด้านลู่เทียนหมิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และจิตใจของเขาก็ตื่นเต้นจนยากที่จะลืมเลือน
….
"เจ้าหนู ผู้นำตระกูลแห่งตระกูลลู่ของเจ้าเป็นมังกรที่แท้จริง คนเช่นนี้หาได้ยากแม้แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาจะไม่มีใครเทียบได้ แต่เขายังสามารถควบคุมศิลปะการต่อสู้ใดๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และพลังของเขาก็ทรงพลังอย่างยิ่ง!"
เสียงชื่นชมของหมิงเหลาดังขึ้นในใจของลู่เทียนหมิง
ลู่เทียนหมิงก็ประหลาดใจกับคำชมของหมิงเหลาเช่นกัน
หลังจากติดต่อกับหมิงเหลามานาน, เขาก็รู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับคำชมจากหมิงเหลา ผู้ซึ่งผ่านพายุฝนฟ้าคะนองมานับไม่ถ้วน
แต่ตอนนี้ หมิงเหลากลับชมผู้นำตระกูลของเขาต่อหน้าเขาโดยไม่คิดเก็บงำใดๆ…เเล้วเเบบนี้เขาจะไม่ประหลาดใจได้อย่างไร?
…..
เมื่อมองจากระยะไกลในตอนนี้
ลู่ชิงซวนยืนอยู่ในความว่างเปล่า สวมชุดคลุมสีม่วง มองไปที่ซ่งหยานที่ล่วงหล่นสู่พื้น
ในการรับรู้ของเขา เขารู้ว่าซ่งหยานยังไม่ตาย
วูบ!
ร่างของซ่งหยานบินขึ้นมาจากพื้น มีโลหิตไหลออกมาจากมุมปากของเขา
ผมของเขายุ่งเหยิง และเสื้อคลุมขาดวิ่น…มันเผยให้เห็นชุดเกราะด้านในที่ลึกลับหลากสีคล้ายดวงดาวที่ลุกโชน
เห็นได้ชัดว่า มันเป็นชุดเกราะสีดำห้าสีที่ป้องกันพลังฝ่ามือของลู่ชิงซวนส่วนใหญ่ไว้ ไม่อย่างนั้นเขาคงพิการหรือตายไปแล้ว!
ในขณะนี้ เมื่อซ่งหยานมองไปที่ลู่ชิงซวนอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว…เขาไม่เคยคาดคิดว่าลู่ชิงซวนจะทะลวงไปถึงอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่เจ็ด
ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทั้งสามคนในอาณาจักรวังวิญญาณขั้นปลาย โจมตีพร้อมกัน…แต่ก็ยังพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่าย
เเล้วเเบบนี้ พวกเขาจะสู้ต่อไปได้อย่างไร?
,ในขณะนี้ เขาก็นึกถึงผู้อาวุโสทั้งสามที่ไล่ล่าลู่เทียนหมิงเมื่อไม่นานมานี้
ก่อนหน้านี้ เขาส่งคนไปสืบหาสาเหตุที่ตะเกียงวิญญาณของผู้อาวุโสทั้งสามดับลง
ตอนนี้ เขามั่นใจแล้วว่าผู้อาวุโสทั้งสามต้องตกตายอยู่ในมือของลู่ชิงซวนอย่างเเน่นอน
ซ่งหยานโกรธจัด เมื่อคิดถึงการสูญเสียผู้อาวุโสหลักหลายคนของนิกายหลางหยาเทียนจง
นิกายหลางหยาเทียนจงของพวกเขาจะถูกทำลายด้วยมือของลู่ชิงซวนจริงๆหรือ?
ในขณะนี้ เขาเริ่มรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
หากนิกายของเขาไม่ได้สังหารคนเหล่านั้นจากคฤหาสน์ราชาลู่ในต่างแดนมาก่อน ความบาดหมางนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้น
น่าเสียดาย ที่ทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
เเละในขณะที่ความคิดของเขากำลังแวบผ่าน…ลู่ชิงซวนก็ลงมืออีกครั้ง
คราวนี้เขาตั้งใจที่จะปราบซ่งหยานให้ได้อย่างสมบูรณ์
ฝ่ามือขนาดใหญ่พาดผ่านท้องฟ้า เเล้วมุ่งหน้าไปยังซ่งหยานอีกครั้ง
แต่ในขณะนี้เอง, เสียงเย้ยหยันอันเย็นชาที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
จากนั้น, มือสีทองก็ยื่นออกมาจากส่วนลึกของนิกาย และโจมตีฝ่ามือของลู่ชิงซวน
ตูมมมมม!
ฝ่ามือทั้งสองระเบิดขึ้นในความว่างเปล่า
ระเบิดพลังวิญญาณที่ลุกโชน, ควันพวยพุ่งจนกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก
เมื่อหมอกควันจางหายไป
ในสายตาของทุกคน ชายชราผมขาวหนวดเคราก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของนิกาย
"เป็นผู้อาวุโสสูงสุด!"
"ผู้อาวุโสสูงสุดออกจากการปลีกวิเวกแล้ว!"
ทันทีที่พวกเขาเห็นชายชราคนนี้ ทุกคนในนิกายหลางหยาเทียนจงก็ดูมีความสุข…ราวกับว่าพวกเขาเห็นรังสีแห่งความหวังในวิสัยทัศน์ที่มืดมนเดิม
เมื่อซ่งหยานเห็นผู้อาวุโสสูงสุดที่ปลีกวิเวกมานานหลายปี ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
เขาก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับทันที
"ขอกราบเรียนผู้อาวุโสสูงสุด ช่วยสังหารศัตรูด้วย!"
นี่คือติ่งไห่เสินเจิน (สมบัติล้ำค่าที่ใช้ป้องกันอันตราย) ของนิกายพวกเขา
เขาชื่อ "ฉู่หลิงเฟิง" และเขาเป็นชายที่แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าสู่ขั้นที่สองของอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณ
ฉู่หลิงเฟิงมองไปรอบๆ และเข้าใจทุกอย่างได้อย่างถ่องแท้
จากนั้นเขาก็มองไปที่ซ่งหยาน และพูดว่า
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า!"
หลังจากพูดจบ เขาก็หันสายตาไปที่ลู่ชิงซวนในระยะไกล ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงเย็นยะเยือก
"หากเจ้ากล้าฆ่าผู้อาวุโสของนิกายข้า, วันนี้เจ้าต้องคุกเข่าอยู่นอกนิกายของข้า และสำนึกผิดซะ!"
ทันทีที่เสียงดังขึ้น ฉู่หลิงเฟิงก็ลงมืออย่างกล้าหาญ
"คุกเข่าลง!"
คำพูดของฉู่หลิงเฟิงระเบิดด้วยเสียงฟ้าร้องในฤดูใบไม้ผลิ
ระดับการฝึกฝนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณกวาดออกมา และแสงวิญญาณสีแดงก็ปรากฏขึ้นจากทั่วร่างกาย เหมือนเปลวไฟที่กำลังลุกโชติช่วงด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
ฝ่ามือสีแดงที่มีพื้นที่ห้าถึงหกฟุต เคลื่อนผ่านความว่างเปล่า และกดลงบนลู่ชิงซวน พยายามที่จะปราบเขา จนคุกเข่าลงบนพื้น
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน และฝ่ามือก็สั่นสะเทือนจักรวาล
เมื่อทุกคนมองไปที่ฝ่ามือนี้ หัวใจของพวกเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับพลังของพระเจ้า
ในขณะนี้ พวกเขาได้เห็นพลังของผู้ฝึกตนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณเเล้ว!
………………