ตอนที่ 7 เสแสร้ง
ตอนที่ 7 เสแสร้ง
“คนที่สามารถเปิดโรงแรมในโลกแบบนี้ได้ ย่อมไม่มีท่างอ่อนแอ”
ถัดจากเสิ่นจื้อกุย ชายสวมแว่นพูดอย่างไร้ความปราณี
มีเพียงเสิ่นจื้อกุยเท่านั้นที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดในขณะที่เขามองดูฉู่เจียงเยว่ฆ่าซอมบี้อย่างแม่นยำ
ฉู่เจียงเยว่ฆ่าซอมบี้ และแจกใบปลิวไประหว่างทาง จากเมื่อเริ่มรู้สึกเหนื่อย เธอก็จะเลือกที่จะเดินทางกลับ
แต่ระหว่างกลับไปที่โรงแรมเจียงหลิน เธอก็ได้เจอเรื่องที่ขัดหูขัดตา
“พี่เหวินอัน นั่นเธอ! เธอคือ คนที่เตะฉันเมื่อเช้านี้! พี่ต้องล้างแค้นให้ฉันนะ!”
หลิวอี้อี้ และชายคนหนึ่งขวางทางกลับของฉู่เจียงเยว่เอาไว้
“โฮสต์ คนๆ นี้คือตัวเอกชายตามเรื่องราวในนิยายดั้งเดิม เจิ้งเหวินอัน! คุณช่วยออมมือหน่อยได้ไหม? เขายังจะตายในวันนี้ไม่ได้”
วันสิ้นโลกเพึ่งเริ่มต้นขึ้น หลายๆ สิ่งยังไม่เข้ารูปเข้ารอยดีนัก หากตัวเอกชายตายลงในวันนี้ เรื่องราวก็ไม่อาจดำเนินต่อ และอาจถึงคราวล่มสลาย
“นั่นหมายความว่าวันนี้ฉันไม่อาจฆ่าเขาได้ แต่ในวันหน้าก็ไม่แน่?”
“เอ่อ...นั่นมัน...”
จิ้งจอกน้อยตระหนักว่าตนได้ปล่อยให้ความลับบางอย่างหลุดปากออกไป มันจึงรีบปิดปาก และไม่ตอบอะไรที่ชัดเจนออกมา
ฉู่เจียงเยว่มองดู แม้จะไม่ได้คำตอบ แต่มุมริมฝีปากของเธอก็ยกขึ้นเล็กน้อย
ตัวเอกชาย?
หล่อเหลาดีนี่ แต่ยังเทียบกับเสิ่นจื้อกุยไม่ได้
"หลีกทางไป"
ฉู่เจียงเยว่ กำดาบถังไว้ในมือแน่น ตราบใดที่อีกฝ่ายยอมหลีกทาง เธอก็จะไม่สนใจ
“อี้อี้บอกว่าคุณเตะเธอหลายครั้ง คุณต้องขอโทษเธอ!”
“ขอโทษ ทำไมไม่ถามเธอล่ะว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง?”
เจิ้งเหวินอันขมวดคิ้วเล็กน้อย "อี้อี้ไม่เคยโกหก ถ้าคุณไม่ขอโทษ ก็อย่าหาว่าผมหยาบคาย!"
เจิ้งเหวินอันเป็นคนที่ได้รับคำชมจากคนอื่นมาโดยตลอด วันนี้เขาถูกปฏิเสธเป็นครั้งแรก นั่นทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าเจิ้งเหวินอันทำตัวราวกับเต็มไปด้วยคุณธรรม ฉู่เจียงเยว่ก็สงสัยว่าหลักเกณฑ์ใดในการเลือกตัวเอกนั้นคงจะผิดเพี้ยนไปแล้ว
“ถ้าไม่หลีก...ก็ตายซะ!” หลังจากพูดจบ ฉู่เจียงเยว่ก็ยกดาบถังขึ้นแล้วฟันไปที่คอของเจิ้งเหวินอัน
“โฮสต์ คุณจะฆ่าเขาไม่ได้นะ!”
เจิ้งเหวินอันยังคงมีทักษะอยู่บ้าง เมื่อเขาเห็นฉู่เจียงเยว่เหวี่ยงดาบออกมา เขารู้สึกหวาดกลัว และรีบถอยออกไป
จุดประสงค์ของฉู่เจียงเยว่ไม่ใช่เพื่อฆ่าเจิ้งเหวินอัน แต่เพื่อให้เขาหลีกทาง
ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายถอยออกไป ฉู่เจียงเยว่ก็หยุดมืออย่างรวดเร็ว เดินผ่านเจิ้งเหวินอัน และหลิวอี้อี้ มุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรมอย่างรวดเร็ว
ซอมบี้ตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเธอ และเธอก็ฆ่ามันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในที่สุด เมื่อฉู่เจียงเยว่กลับถึงโรงแรมก็เป็นเวลาเย็นแล้ว
หลังจากกลับมาถึง ฉู่เจียงเยว่ก็ปิดประตูโรงแรมโดยสนใจสิ่งใดอีก ขึ้นไปที่ห้องของตนบนชั้นสอง และเริ่มอาบน้ำ
เนื่องจากวันนี้เธอออกไปฆ่าซอมบี้ ฉู่เจียงเยว่จึงต้องล้างตัวหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกสะอาดในที่สุด
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
“โฮสต์ วันนี้คุณเกือบฆ่าเขาไปแล้ว!”
นั่นคือตัวเอกนะ อาจถึงขนาดต้องรีเมคเรื่องราวเลยก็เป็นได้!
มันเพิ่งเกิด! เพิ่งได้เริ่มงาน แต่ก็เกือบตกงานแล้ว!
“ใครบอกว่าฉันจะฆ่าเขา หากต้องการให้เขายอมจำนนก็ต้องแสดงให้เห็นว่าใครเหนือกว่า? ที่มันเป็นปัญหาก็เพราะตัวเอกที่พวกเธอเป็นคนเลือกไม่ใช่เหรอ คิดยังไงถึงเลือกคนเช่นนั้น เอารายชื่อมากางแล้วจิ้มๆ เอาหรือยังไงกัน”
ดูมีคุณธรรม เฮอะ เสแสร้งมากกว่า...
“ว่าไง มีอะไรจะพูดไหม เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับวิสัยทัศน์ของเธอในการเลือกตัวเอกเช่นนั้น”
ต้องเป็นแบบเสิ่นจื้อกุย ไม่! ผู้ชายที่สวมแว่นตาถัดจากเสิ่นจื้อกุยยังมีความน่าเชื่อถือกว่าเจิ้งเหวินอันคนนี้เลยด้วยซ้ำ!
หลิวอี้อี้แสร้งทำตัวเป็นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ และเขาบอกเธอว่าอีกฝ่ายไม่เคยโกหก! ถ้าไม่เป็นคนแบบเดียวกันก็เป็นพวกโง่แล้ว
แค่คิดก็รู้สึกปวดหัวกับเรื่องอนาคตแล้ว!
“โฮสต์ คุณจะโทษฉันในเรื่องนี้ไม่ได้! ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกเขา ฉันแค่รู้ว่าเขาเป็นตัวเอกชายเท่านั้น”
จิ้งจอกน้อยรู้สึกว่าในอนาคตมีเค้าลางว่าจะต้องหาตัวเอกชายคนใหม่เป็นแน่
“เอาเถอะ คิดมากไปก็ไม่ทำอะไรไม่ได้ ยังเหลือนางเอกอีกนิ หวังว่าเธอจะไม่มีนิสัยแบบเดียวกันนะ”
เธอภาวนาต่อเรื่องนี้อย่างสุดใจ มันจะได้ช่วยปัญหาได้อีกหน่อย
เมื่อเห็นว่าจิตใจของจิ้งจอกน้อยกำลังจะพังทลาย ฉู่เจียงเยว่ก็รีบปลอบใจ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และทุกอย่างยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
“โฮสต์...คุณพูดถูก! เราต้องหานางเอกให้เจอโดยเร็วที่สุด!”
ตัวเอกชายคนนี้...เลือกมาไม่ได้เรื่องจริงๆ!
จิ้งจอกน้อยรู้สึกสั่นไปทั้งตัว
หากได้เจอนางเอก มันอาจสามารถกอบกู้หัวใจที่บาดเจ็บได้
…
วันที่สองหลังวันสิ้นโลกเริ่มต้นขึ้น
ฉู่เจียงเยว่นอนหลับเต็มอิ่ม จนตื่นตามธรรมชาติ เมื่อเธอเห็นเวลาเก้าโมงสามสิบ แสดงว่ายังไม่ถึงเวลาทำงานที่เธอกำหนดไว้ จึงค่อยๆ ลุกขึ้น และอาบน้ำ
พอลงไปชั้นล่างก็เจอผู้คนยืนอยู่ข้างนอกโรงแรมกันหลายคน
นี่……
ฉู่เจียงเยว่เปิดประตูโรงแรม และคนกลุ่มนั้นก็รุมเข้ามา
“มีหมั่นโถว และซาลาเปาจริงๆ เหรอ?”
“ฉันได้ยินจากคนข้างบ้านว่าทุกอย่างในใบปลิวเป็นเรื่องจริง คงไม่ผิดหรอก”
"ฉันมีเงิน! ฉันต้องการซื้อหมั่นโถว และซาลาเปาที่คุณทั้งหมด!"
คนกลุ่มหนึ่งคุยกันเสียงดังจนฉู่เจียงเยว่รู้สึกปวดหัว
“หยุด! หุบปากซะ! เรียงแถวเข้ามาทีละคน ถ้าไม่เข้าแถว พวกคุณจะต้องรับผลที่ตามมาเอาเอง!”
ฉู่เจียงเยว่ใช้คำถามราวกับสิงโต ด้วยความช่วยเหลือพลังวิเศษ และในที่สุดก็ปราบปรามคนกลุ่มนี้ให้เงียบเสียงได้
“ถ้าพวกคุณต้องการซื้อของ ก็เข้ามา และเติมเงิน หากมีเงินพอจะซื้อไปมากเท่าไหร่ ฉันก็จะไม่ห้าม”
ไม่ว่าพวกเขาจะซื้อเท่าไหร่ เธอก็มีขาย และสินค้าก็ไม่มีขาดแคลน
คนแรกที่เป็นชายร่างผอมคนหนึ่ง เขาหยิบ... ชามเหล็กที่แตกหักออกมาด้วยสีหน้าคาดหวังไม่น้อย
ชามที่ขอทานใช้ก่อนวันสิ้นโลกอาจจะใหม่กว่านี้ด้วยซ้ำ
แต่ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้พูดอะไร ใบปลิวของเธอบอกว่าสามารถแลกเปลี่ยนกับทุกอย่างได้ แม้จะเป็นเศษเหล็กหรือทองแดงก็ตาม แต่เธอไม่ได้บอกว่าเธอจะให้ค่ามันเท่ากับเหรียญทองแดงกี่เหรียญ
[ ตรวจพบชามโลหะที่แตกหัก x1 มูลค่าไม่ถึงหนึ่งเหรียญทองแดง 1 เหรียญ ทำการตีราคาใหม่ มีมูลค่า 0.5 เหรียญทองแดง คุณต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่ ]
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เจียงเยว่เห็นว่าเครื่องแลกเปลี่ยนมีความฉลาดกว่าที่คิด มันพูดกับตัวเองได้ด้วย ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว
“0.5 เหรียญทองแดง นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน”
ชายร่างผอมมองไปที่ฉู่เจียงเยว่ด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
“ไม่ได้ยินเหรอว่าชามโลหะนี้แทบจะไม่มีค่าอะไรที่ฉันให้คุณแค่ 0.5 เหรียญก็เพราะถือว่าเป็นลูกค้าใหม่ ไม่งั้นนายจะไม่ได้อะไรเลย”
“เอาล่ะ นายยังต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่? ถ้าไม่ก็ถอยออกไป ยังมีคนอีกมากรออยู่ข้างหลัง”
“ใช่ ใช่ ดูก็รู้ว่านั่นเป็นของที่ไม่มีค่าอะไร เถ้าแก่ไม่ได้โง่นะ!”
"ถูกต้อง เขาอยากจะเอาเปรียบแต่ล้มเหลวเลยโกรธเพราะความอับอาย!"
วันสิ้นโลกเริ่มต้นขึ้น ทำให้ผู้รอดชีวิตยังคงมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง เมื่อเห็นพฤติกรรมของชายร่างผอมนี้ หลายคนจึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์เขา
ชายร่างผอมมองไปที่ฉู่เจียงเยว่ และในที่สุดก็ตอบว่าใช่ แม้จะเป็น 0.5 ก็ถือว่ายังมีค่า และเขาก็ได้รับบัตรประจำตัวใบแรก
เมื่อไม่สามารถเอาเปรียบได้ ชายร่างผอมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากนำของมีค่ามาแลกเปลี่ยนหลังจากรับบัตรประจำตัวแล้ว
[ ตรวจพบแท่งทองคำที่มีความบริสุทธิ์ต่ำ สามารถแลกเปลี่ยนเป็น 200 เหรียญทองแดงได้ คุณต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่ ]
"นี่คือแท่งทองคำ มันคือทองคำ! จะมีราคาเพียง 200 เหรียญทองแดงได้ยังไง! หากขายในตลาดมันจะมีราคาสูงกว่านี้มาก!"
ก่อนวันสิ้นโลก มันเป็นเวลาที่ราคาทองคำกำลังสูงขึ้น หากเขาไม่ต้องการรอราคาสูงๆ สิ่งนี้คงไม่อยู่กับเขามาจนถึงตอนนี้
ตอนนี้เขาถูกบอกว่าทองคำก้อนใหญ่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญทองแดงได้เพียง 200 เหรียญเท่านั้น!
ช่องว่างนั้นใหญ่เกินไป เขาจะยอมรับได้อย่างไร!
"มันเป็นเพียงราคาแลกเปลี่ยนที่ถูกเสนอเท่านั้น หากนายไม่พอใจกับราคานี้ก็เลือกที่จะไม่แลกก็ได้"
ตอนนี้มีคนอีกมากมายรออยู่ ฉู่เจียงเยว่จึงมั่นใจต่อให้ชายร่างผอมปฏิเสธ ก็ยังมีหลายคนที่ยอมแลกเปลี่ยนสิ่งของที่แทบไม่มีค่าหลังวันสิ้นโลกเหล่านี้เป็นอาหารหรือที่พัก