ตอนที่แล้วตอนที่ 370 ตัวตนของ เย่เฉิน ถูกเปิดเผย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 372 ใครก็ช่วยตระกูลจ้าวไม่ได้

ตอนที่ 371 เรื่องราวทั้งหมด คลี่คลาย และแผนการ


ในขณะนี้ ความตกใจภายในจิตใจของชายชราตระกูลซู ไม่ได้น้อยไปกว่าลูกชายคนโตของเขา ซู เซิ่งเย่

ในตอนแรกเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย

การมาถึงของตระกูลหนิง, ถัง กรุ๊ป และตระกูลเหยียน..ในซูเฉิง ทำให้เขาสับสนเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดที่ตัวแทนจาก ถัง กรุ๊ป และตระกูลเหยียนพูดกับหลานเขยของเขา มันทำให้เขาตกใจมาก ไม่สิ.. ต้องเรียกว่าตกตะลึงต่างหาก!

แม้ว่าในตอนแรกที่เห็นหลานเขยคนนี้ เขาก็รู้สึกว่า เย่เฉิน คนนี้ ..ไม่ใช่คนธรรมดา

เพียงแต่ในตอนนั้น ชายชราก็แค่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น

เนื่องจากเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับ เย่เฉิน คนนี้มากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อการแต่งงานกับตระกูลจ้าว เขาได้เตรียมตัวที่จะให้ ซู หนิงซวง เลิกกับ เย่เฉิน ไว้แล้ว

แต่หลังจากที่คนของตระกูลใหญ่ทั้งสามตระกูลมาเยือน มัน..เกินความคาดหมายของเขาอย่างมาก

สิ่งสำคัญที่สุดคือ หัวหน้าตระกูลเหล่านี้จะไปเยี่ยมหลานเขยของเขาด้วยตัวเองในช่วงปีใหม่?!

สถานะของหลานเขยคนนี้ สูงส่งถึงเพียงนี้แล้ว!

เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ชายชราตระกูลซู ตกตะลึงตั้งแต่หัวจรดเท้า

แม้กระทั่งในขณะนี้ จิตใจของชายชราตระกูลซูก็ยังไม่อาจสามารถสงบลงได้

ชายชราตระกูลซู พูดขึ้นว่า :

“เธอ...”

แต่เมื่อเพิ่งเริ่มพูด ชายชราก็หยุดชะงักไป

จนถึงตอนนี้ เขาไม่แม้แต่จะรู้ว่าหลานเขยชื่อว่าอะไรด้วยซ้ำ

เขารู้เพียงว่าคนของตระกูลถัง และตระกูลเหยียน เรียกเขาว่า ‘ท่านเย่’

อย่างไรเสียเขาก็เป็นหลานเขยของเขา จะให้เรียกเขาว่า ‘ท่านเย่’, ‘เสี่ยวเย่’ มันก็ดูจะห่างเหินเกินไปหน่อย

ในทันใดนั้น ชายชราตระกูลซู พลันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง

“ผมชื่อ เย่เฉิน”

เมื่อเห็นความอึดอัดของชายชราตระกูลซู เย่เฉิน จึงพูดขึ้น

“เย่เฉิน เธอรู้จักกับตระกูลหนิง, ตระกูลเหยียน และถัง เจิ้นซาน อย่างนั้นหรือ?”

ชายชราตระกูลซู ถามขึ้น

“ครับ.. ผมรู้จัก”

เย่เฉิน พยักหน้า และยอมรับทุกอย่างจากด้านข้างขณะที่เขามองตรงไปที่ชายชรา

แม้ว่าจะคาดเดาไว้แล้ว..

แต่การได้ยินจากปากของ เย่เฉิน ก็ยังทำให้ทุกคนในที่นั้นประหลาดใจไม่ใช่น้อย

“ดี”

ชายชราตระกูลซู พยักหน้า

“ครั้งนี้เป็นความผิดของชายชราคนนี้ที่มองคนผิดไป และครอบครัวของเจ้าสามไม่ได้ทำอะไรผิด”

ชายชราตระกูลซู ไม่เพิกเฉย แต่กลับยอมรับความผิดพลาดของตนเองโดยตรง

ชายชราตระกูลซู ยอมรับผิด?!

ทุกคนในตระกูลซูต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของชายชรา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยเห็นชายชราก้มหัว และยอมรับความผิดพลาดมาก่อน

“ท่านพ่อ...”

เมื่อเห็นชายชราเป็นเช่นนี้ ซู เซิ่งเย่ ก็ทนไม่ไหวที่จะพูดขึ้น เขานั้นรู้สึกไม่สบายใจ

แต่ชายชราตระกูลซูกลับยกมือขึ้นเพื่อห้ามเขา ชายชรามีสีหน้าที่ดูหดหู่ และพูดเสริมขึ้นว่า :

“ในที่นี้ ฉันต้องแสดงความขอโทษต่อเจ้าสาม, เสี่ยวหนิงซวง และเธอด้วย เสี่ยวเฉิน ขอโทษจริงๆ”

เมื่อพูดเสร็จ ชายชราตระกูลซู ก็หันไปหาทุกคน และประกาศอย่างเป็นทางการว่า :

“ในเมื่อ เสี่ยวหนิงซวง มีคนรักอยู่แล้ว และเสี่ยวเฉิน ก็ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ดังนั้นเราจึงจะขอประกาศยกเลิกการแต่งงานกับตระกูลจ้าว!”

เขาได้เห็นแล้วถึงความสำคัญของ เย่เฉิน

หากก่อนหน้านี้มีเพียงตระกูลหนิงที่มาเยี่ยม ชายชราตระกูลซู อาจจะไม่ทำเช่นนี้

แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่ ตระกูลหนิง ยังมีทั้ง ถัง กรุ๊ป และตระกูลเหยียนในเมืองซูเฉิง ..ที่มาเยี่ยมเยียน

และทั้งสองตระกูลก็เคารพ เย่เฉิน อย่างมาก หัวหน้าของตระกูลทั้งสองยังต้องการมาเยี่ยม เย่เฉิน ด้วยตัวเอง

พลังอำนาจของ เย่เฉิน เหนือกว่าหัวหน้าตระกูลจ้าวในขณะนี้เสียอีก

ท่าทีของสองตระกูลที่มีต่อ เย่เฉิน ทำให้ชายชราตระกูลซูตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

หลังจากฟังคำสั่งของชายชราตระกูลซู ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นไม่มีใครคัดค้านใดๆ

พวกเขาได้เห็นความน่าเกรงขามของ เย่เฉิน แล้วในตอนนี้

และสิ่งที่ชายชรากำลังทำในตอนนี้ก็ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง

ชายชราเองก็รู้ดีว่า.. การยกเลิกการแต่งงานกับตระกูลจ้าวจะทำให้พวกเขาโกรธเคือง และอาจนำพาไฟแห่งความแค้นมาสู่ ตระกูลซู

แต่ด้วยการมี เสี่ยวเฉิน เป็นหลานเขยของเขา และเขายังมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างตระกูลใหญ่ทั้งสามตระกูล เช่นนี้.. ตระกูลซูคงจะรับมือกับความโกรธเกรี้ยวของตระกูลจ้าวได้ไม่ยาก

“ฟู่ว”

เมื่อได้ยินชายชราพูดเช่นนั้น พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง ก็พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ใบหน้าของ ซู หนิงซวง ก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง

“เมื่อครู่ ตระกูลเหยียน และถัง กรุ๊ป ได้พูดถึงความร่วมมือกับตระกูลซูของเรา ตระกูลเหยียน สามารถสร้างกำไรให้เราได้ถึง 3 หมื่นล้านหยวน ในขณะที่กลุ่มบริษัทของตระกูลถังสามารถสร้างกำไรให้เราได้มากถึง 4 หมื่นล้านหยวน…”

ชายชราตระกูลซู พูดต่อไป

“ทั้งหมดนี้ ต้องขอบคุณ เจ้าสาม”

“เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ครอบครัวของเจ้าสาม ได้ทำกำไรให้ตระกูลเราอย่างต่ำ 1.8 แสนล้านหยวน”

นี่คือการคาดการณ์โดยคร่าวๆ และบางทีมันอาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

1.8 แสนล้านหยวน?!

ตัวเลขนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก

มันมากกว่ายอดรวมของพวกเขาในสองปีที่ผ่านมาเสียอีก

แถมยังมากกว่าครอบครัวของ ซู เซิ่งเย่ ถึงกว่าหมื่นล้านหยวน!

ตอนนี้ ชายชราตระกูลซู เริ่มกังวลว่า ตระกูลซู อาจจะรับมือกับการร่วมมือกับบริษัท และกลุ่มบริษัทต่างๆ เหล่านี้ไม่ไหว

“1.8 แสนล้านหยวน... 1.8 แสนล้านหยวน...”

ซู เซิ่งเย่ รู้สึกว่าตนเองช่างเล็กน้อยเหลือเกิน(ไม่มีนัยสำคัญ)

“เจ้าสาม สมควรเป็นอันดับหนึ่งโดยไม่มีข้อสงสัย ดังนั้นฉันขอประกาศว่า เจ้าสาม จะเป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลซู ของเรา!”

ชายชราตระกูลซู พูดเสียงดังขึ้นว่า :

“และเสี่ยวหนิงซวง จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สามของตระกูลซู ของเรา”

ทุกคนพยักหน้า พวกเขารู้ดีว่าคำประกาศของชายชราตระกูลซู มีความหมายอย่างไร

ในฐานะคนที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว การประกาศให้หลานสาวขึ้นเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สามถือเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่มาก

แต่เมื่อมี เย่เฉิน อยู่ที่นี่ และชายชราตระกูลซูประกาศเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“ขอแสดงความยินดีกับพี่สาม และหนิงซวง ด้วยนะ”

“ขอแสดงความยินดีด้วย น้องสาม และก็ขอแสดงความยินดีกับหลานสาวของฉันด้วย ฮ่าฮ่าๆ”

“ขอแสดงความยินดี...”

หลังจากที่ชายชราประกาศคำสั่งออกมา ทุกคนต่างก็แสดงความยินดีกับ ซู หนิงซวง และพ่อของเธอ

พ่อของ ซู หนิงซวง รู้สึกซาบซึ้งเช่นกัน

ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลนี้ได้มาจาก ‘ลูกเขย’ ของเขา เสี่ยวเฉิน อย่างแท้จริง

มีใครจะคิดว่าลูกเขยจะมีบทบาทสำคัญถึงเพียงนี้

“ทุกคนไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ เจ้าสาม และเสี่ยวเฉิน มากับฉันหน่อย”

ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมาก

“เอ่อ เสี่ยวเฉิน เจ้าสาม มาด้วยกันเถอะ”

มีบางอย่างที่เขาต้องการปรึกษาหารือกับ เย่เฉิน

“ได้ครับ คุณปู่ซู”

เย่เฉิน พยักหน้า และในขณะนี้เขาก็เรียก ชายชราตระกูลซู ว่า ‘คุณปู่ซู’ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชายชราตระกูลซู เองก็เป็นคุณปู่ของ ซู หนิงซวง

และหลังจากที่ คุณปู่ซู ประกาศเรื่องสำคัญนี้แล้ว เย่เฉิน ก็รู้สึกว่าควรเปลี่ยนคำเรียกอย่างเหมาะสม

สุดท้าย เย่เฉิน และพ่อของ ซู หนิงซวง จึงเดินตาม คุณปู่ซู เข้าไปในห้องหนังสือ

“เสี่ยวเฉิน ฉันได้ประกาศยกเลิกการแต่งงานกับตระกูลจ้าวแล้ว ฉันเกรงว่าตระกูลจ้าวจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ”

คุณปู่ซู พูดพร้อมกับแสดงความกังวลออกมา

เรื่องนี้ถือเป็นการดูหมิ่นอย่างรุนแรงต่อตระกูลจ้าว

หากข่าวแพร่ออกไป ตระกูลจ้าวจะกลายเป็นหัวข้อขบขันของผู้คนมากมาย

และตระกูลจ้าวจะไม่มีทางยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่นอน!

ตระกูลซู เองก็ไม่อาจทนรับความโกรธแค้นของตระกูลจ้าวเพียงลำพังได้ และพวกเขายังต้องการพึ่งพาหลานเขยมากความสามารถอย่าง เย่เฉิน เข้ามาช่วยอีกแรง

“คุณปู่ซู ผมได้ยินว่าก่อนหน้านี้ท่านจะจัดงานแต่งงานกับตระกูลจ้าวในวันขึ้นปีใหม่ใช่หรือไม่?”

เย่เฉิน ไม่ได้ตอบคำถามของ คุณปู่ซู โดยตรง แต่กลับถามขึ้นมาแทน

ในงานเลี้ยงเมื่อครู่นี้ พ่อของ ซู หนิงซวง ได้บอก เย่เฉิน ถึงข่าวนี้ ซึ่งพ่อของ ซู หนิงซวง เองก็เพิ่งได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้จากพี่น้องของเขาเช่นกัน

“อืม...ใช่”

คุณปู่ซู พยักหน้าอย่างรู้สึกอับอายเล็กน้อย

“ดี เช่นนั้น.. ผมรู้แล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป”

เย่เฉิน พูดขึ้น หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ แผนการก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในใจของเขาแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด