ตอนที่แล้วChapter 39: คดีแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 41: วางเหยื่อล่อ

Chapter 40: ภารกิจย่อย


รถม้าแล่นไปเร็วมาก ล้อบดไปบนพื้นถนน ฉินหรานและฮันเตอร์ถูกเขย่าอยู่ด้านในห้องโดยสารอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาไม่ได้สนทนาอะไรกันมากนัก ฮันเตอร์กังวลเรื่องลูกสาวของตัวเอง ส่วนฉินหรานกำลังคิดเกี่ยวกับดันเจี้ยนนี้

"ดันเจี้ยนถูกสร้างขึ้นแบบสุ่ม!" ฉินหรานถามลอว์เลสว่าดันเจี้ยนในเกมใต้ดินนี่สร้างอย่างไร และลอว์เลสให้คำตอบที่ได้รับการยืนยันมาแล้ว จากนั้นก็มีคำถามอื่นตามมา

แล้วถ้าผู้เล่นเข้ามาในดันเจี้ยนนี้โดยไม่มีสกิลแบบ [ตามรอย] ล่ะ?

คำตอบก็เห็นได้ชัดเจน

ทุกอย่างถูกตระเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เริ่มดันเจี้ยนแล้ว

ตอนที่ฉินหรานรู้สึกตัว เขาก็อยู่บนรถม้ามุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ของฮันเตอร์แล้ว มันไม่ใช่สภาพการณ์ที่เลือกได้ ตรงกันข้าม มันถูกกำหนดไว้ในเนื้อเรื่องของเกม

ไม่ว่าผู้เล่นที่เข้าเกมมาจะเป็นแบบไหน ความแข็งแกร่งหรือชุดสกิลที่เขามีจะเป็นยังไง เขาก็จะอยู่ในสถานะนี้ตั้งแต่เริ่มเกม ถ้าผู้เล่นไม่ได้ทำอะไรที่ขัดแย้งกับตัวตนของตัวเอง ในที่สุดพวกเขาก็จะคืบหน้าสู่สถานะปัจจุบันของเกมและไปตรวจสอบศพ

ฉินหรานเดาว่า ต่อให้เขาทำเรื่องที่ผิดไปจากคาแรกเตอร์ที่กำหนดมา แต่ตราบใดที่เขาไม่รบกวนหรือเป็นมุ่งร้ายชีวิตของ NPC ฮันเตอร์ก็จะไม่สนใจพฤติกรรมแปลก ๆ นั่น ความแตกต่างอย่างเดียวน่าจะเป็นจำนวนเงินที่ตอนนี้อยู่ในกระเป๋าของฉินหราน

ความสามารถที่โดดเด่นก็ย่อมมีรางวัลตอบแทน ในที่นี้ก็คือเงินมัดจำนี่

ถ้ามีความสามารถทั่วไป อย่างไรก็คงไม่กลับมามือเปล่า

แต่ถ้าเป็นพฤติกรรมดุร้ายบ้าคลั่งล่ะ?

เอ่อ ก็อาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว

ระบบการรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์ไม่ได้มีไว้ให้ดูเฉย ๆ

ฉินหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ไม่ต้องสงสัยเลย ศพที่ถูกพบนั่นไม่ใช่อัลทิลลี่ เพราะว่าภารกิจหลักของเขาคือหาเธอ หรือหาศพของเธอ แม้ว่านี่จะเป็นดันเจี้ยนแรกของเขา เกมก็คงไม่จัดภารกิจง่ายขนาดนี้มาให้เมื่อเทียบกับดันเจี้ยนมือใหม่ ดังนั้น จุดสำคัญน่าจะไม่ใช่ศพ แต่เป็นตำรวจ

สารวัตรจอห์น

ตามความทรงจำของตัวละครนี้ สารวัตรจอห์นเป็นคนรู้จักของเขา เป็นคนที่เขาอาจจะนับว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งด้วย

ถ้าเขามีตำรวจเป็นเพื่อน ความยากในการค้นหาอัลทิลลี่ก็ลดลงหลายเท่าตัว การขอความช่วยเหลือจากนายตำรวจย่อมเป็นตัวเลือกของผู้เล่นหลายคน แล้วศพนั่นจะมีมาเพื่ออะไรล่ะ?

"ภารกิจย่อย!" ฉินหรานหรี่ตาอีกครั้ง ความคิดนั้นปรากฏขึ้นราวสายฟ้าแลบ

นายตำรวจจอห์นเป็นเพื่อนของตัวละครนี้ ดังนั้นเขาสามารถเสนอความช่วยเหลือให้ได้ เช่นเดียวกัน ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะช่วยตำรวจได้

ฉินหรานมีข้อได้เปรียบนี้อยู่แน่นอนแล้ว

เขายังคงจำเป้าหมายที่เขาตั้งให้ตัวเองระหว่างการเข้าดันเจี้ยนได้ เขาไม่เพียงต้องการทำภารกิจหลักสำเร็จ ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะทำทั้งภารกิจย่อยและภารกิจสร้างชื่อเสียงให้สำเร็จด้วย

รถม้ายังมุ่งตรงไปสู่จุดหมายปลายทาง มันไม่ชะลอความเร็วลงเลยแม้เมื่อเข้าสู่เขตตลาด คนขับรถม้าคอยตะโกนบอกคนเดินเท้าให้ระวังรถม้าที่กำลังมา ข้าง ๆ คนขับรถม้ามีตำรวจที่มาส่งข่าวที่คฤหาสน์นั่งอยู่ เครื่องแบบตำรวจช่วยเบิกทางได้เป็นอย่างดี

รถม้ามาถึงสถานีตำรวจหลังจากใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ฮันเตอร์เปิดประตูรถม้าด้วยตัวเองโดยไม่รอให้คนขับรถม้ามาช่วยเปิดให้ ฉินหรานตามลงมาติด ๆ เขามองสถานีตำรวจ มันไม่ได้ใหญ่นัก สูงเพียงสามชั้นเท่านั้น ถ้าไม่เพราะมีตำรวจในเครื่องแบบอยู่ที่ด้านหน้า และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าออกตลอดที่นี่จะดูเหมือนตลาดมากกว่าสถานีตำรวจ ข้างในมีเสียงดังน่ารำคาญมาก มีเสียงกรีดร้องและสบถด่าดังไปทุกที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาด้วยนำพวกเขาเข้าสถานีตำรวจเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมาขวางพวกเขาไว้ระหว่างทาง ฮันเตอร์ที่กระวนกระวายไม่หายตามหลังเขาไป

ตรงกันข้าม ฉินหรานกลับมีเวลามองไปทั่วสถานีตำรวจ เขาสังเกตเห็นหลายคนในเสื้อผ้าธรรมดากับผู้ต้องสงสัย พวกเขาถูกขังไว้ในคุกหยาบ ๆ ส่วนมากยังอายุน้อยมาก พวกเขาดูก้าวร้าวและไม่ยอมจำนน และมักจะตะโกนท้าทายตำรวจจากด้านหลังลูกกรงด้วยคำพูดหยาบคาย การท้าทายถูกตอบโต้จากตำรวจในเครื่องแบบ นักโทษหัวเราะเสียงดังทั้งที่ถูกทุบตีเหมือนมีความสุขมาก มีหนึ่งหรือสองคนที่ดูสะดุดตา พวกเขาเป็นคนเริ่มก่อการในทุกครั้งไป แม้ว่าคนพวกนั้นจะอยู่ห่างจากฉินหรานและพยายามเก็บงำ แต่เพราะ [ความฉลาด] E+ ของเขา ทำให้ฉินหรานมีสายตาดีกว่าปกติ เขามองเห็นทั้งหมดนี้ได้อย่างไร้อุปสรรค

สมาชิกแก๊ง?

เขาคิดถึงทฤษฎีหนึ่งขึ้นมาได้หลังจากได้เห็นภาพเหล่านี้ แต่ก่อนที่เขาจะได้ยืนยันความคิดนั้น ตำรวจที่นำทางมาก็ผ่านห้องโถงไปแล้ว ฉินหรานได้แต่ตามไป

พวกเขากำลังจะเข้าไปที่ห้องเก็บศพ

ห้องเก็บศพอยู่ที่ชั้นใต้ดินแต่ไม่ได้กินพื้นที่ทั้งหมด เพียงแค่หนึ่งในสี่ของชั้นเท่านั้นที่ถูกใช้เป็นที่เก็บศพ พื้นที่ที่เหลือเป็นพื้นที่เก็บหลักฐาน

ตอนที่พวกเขาเดินลงบันไดนั้น แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันก็ส่องแสงสว่างให้กับทางเดิน แม้ว่าจะมีหลอดไฟฟ้า แต่ก็ยังมีการใช้ตะเกียงน้ำมันและเทียนอยู่ทั่วไป

ฉินหรานมองหลอดไฟหน้าตาแปลก ๆ ที่ด้านในหลอดแก้วปิดมิดชิด มีสายคล้ายสายไฟเบอร์สีดำอยู่ด้านใน ไม่เหมือนหลอดไฟที่ฉินหรานคุ้นเคย น่าจะเป็นหลอดไฟต้นแบบ หลอดไฟต้นแบบนั้นเรียบง่าย แบบที่พัฒนาขึ้นมาก็ราคาแพง เป็นเหตุผลให้สถานีตำรวจยังใช้การให้แสงสว่างแบบเดิม ๆ อยู่

ตำรวจนำทางหยุดเท้าแล้ว

ผู้ชายวัยกลางคนตัวใหญ่รูปร่างล่ำสันคนหนึ่งยืนรอพวกเขาอยู่

ภายใต้แสงสว่างจากเทียนไข ฉินหรานเห็นรูปลักษณ์กระด้างของผู้ชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน รูปร่างใหญ่โตรั้งเครื่องแบบขนาด XL จนตึง ผู้ชายคนนั้นคีบบุหรี่ไว้ในมือ และบนพื้นมีก้นบุหรี่อยู่อีกสามสี่ชิ้น เขาน่าจะรอมาเป็นชั่วโมงแล้ว

ตามความทรงจำของฉินหราน ผู้ชายคนนี้คือคนรู้จักของเขาที่ได้พูดถึงมาก่อนแล้ว สารวัตรจอห์น

"ฉินหราน!" จอห์นทักทายฉินหรานก่อนจะหันไปหาฮันเตอร์ "ผมยืนยันไม่ได้ว่านี่คือคุณอัลทิลลี่ ฮันเตอร์ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะเตรียมตัวมาแล้วว่าจะได้เห็นอะไร จากประสบการณ์ในกองกำลังที่ผ่านมาของผม นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอศพที่ดูเลวร้ายแบบนี้"

"อืม ผมเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว" ฮันเตอร์ตอบ

บนสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งเย็นชาและกระอักกระอ่วน

ไม่ต้องสงสัยเลย ระหว่างสองคนนี้คงเคยมีปัญหากันมาก่อนและน่าจะรุนแรงมากเกินกว่าที่ฮันเตอร์จะปล่อยผ่านไป

สารวัตรจอห์นเปิดประตูที่อยู่ด้านหลังตัวเองและเดินเข้าไปเป็นคนแรก ฉินหรานและฮันเตอร์ตามเข้าไปในขณะที่ตำรวจอีกคนปิดประตูและยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกห้อง

กลิ่นของแอลกอฮอล์และเลือดปนกันอยู่ในห้องขนาดกลาง บนโต๊ะไม้วางศพที่ถูกปิดเอาไว้ ไม่ใช่ด้วยผ้าสีขาว แต่เป็นหนังวัวที่เย็บเป็นผืน

ฮันเตอร์ยื่นมือของเขาออกไปและจับที่มุมหนึ่งของแผ่นหนัง มือของเขาสั่นไม่หยุดและสีหน้าก็สะท้อนการดิ้นรนในใจออกมา เขากลัวว่าเขากำลังจะได้เห็นสิ่งที่เขาอยากเห็นน้อยที่สุดในโลก

ในที่สุด เขาก็เปิดแผ่นหนังออก

อย่างที่สารวัตรจอห์นบอกไว้ เป็นศพที่ดูสยดสยองมาก

ใบหน้านั้นเสียหายเกินจะจดจำได้และช่วงอกถูกเปิดออกแต่อวัยวะภายในหายไป ทั้งหมดที่เหลืออยู่คือซากเปล่า ๆ เหมือนสัตว์ที่ถูกเชือดโดยคนฆ่าสัตว์แล้วแขวนไว้บนราว

ผมสีแดงของผู้หญิงคนนี้คงจมอยู่ในกองเลือดมาก่อนทำให้มันดูแดงสดขึ้น

มันเป็นสิ่งเดียวที่เหมือนกับอัลทิลลี่ ฮันเตอร์

ฉินหรานจำได้ภาพวาดที่อยู่ในคฤหาสน์ได้ ลูกสาวที่หายตัวไปของฮันเตอร์มีผมสีแดงสว่าง ฉินหรานมองสำรวจร่างตรงหน้าโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด เวลาที่ใช้ไปในดันเจี้ยนมือใหม่ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่อฉากนองเลือดและศพทุกสภาพ ร่างที่ถูกระเบิดออกเป็นชิ้นด้วยเครื่องยิงจรวดนั้นไม่น่าดูยิ่งกว่าศพตรงหน้าเขา

ฮันเตอร์ไม่ได้ดูอึดอัดเช่นกัน ตรงกันข้าม นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงผู้นี้มุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ตรวจดูร่างศพ สองนาทีให้หลังฮันเตอร์ก็ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด

"นี่ไม่ใช่ทิลลี่! แม้ว่าเธอจะมีผมสีแดงเหมือนกัน เธอไม่มีติ่งหูแบบทิลลี่และผิวที่แขนดูหยาบกว่าของทิลลี่มาก" ฮันเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ใบหน้าของเขาไม่สามารถปิดบังความโล่งในใจได้

ทันใดนั้น ฮันเตอร์ก็ตระหนักได้ว่า การแสดงออกของเขาอาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์นัก "ขออภัยด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจ สารวัตรจอห์น ผมยินดีมอ้รางวัล 100 เหรียญเพื่อช่วยตามหาฆาตกรที่ฆ่าผู้หญิงน่าสงสารคนนี้!" เขาพูด

"นั่นดีมาก!" สารวัตรจอห์นพยักหน้า เขาไม่ได้ปิดบังความตื่นเต้นเรื่องรางวัล เขาพาทั้งฉินหรานและฮันเตอร์ออกจากห้องและมุ่งหน้าขึ้นบันไดไปห้องโถงด้านบน เมื่อมาถึงห้องโถงแล้ว ฮันเตอร์ก็เตรียมตัวกลับ

"เซอร์ฉินหราน ผมคงต้องขอตัวก่อน ผมค่อนข้างเป็นห่วงภรรยา ผมหวังว่าคุณจะสามารถหาทิลลี่เจอโดยเร็ว!" ฮันเตอร์บอกฉินหราน

"แน่นอน!" ฉินหรานรับรอง

จากนั้น ฮันเตอร์ก็เร่งฝีเท้าออกจากสถานีตำรวจไป ฉินหรานมองส่งฮันเตอร์เขาไปในรถม้า ก่อนจะหันไปหาจอห์น

"คุยตรงนี้ไม่เหมาะ เข้าไปในห้องทำงานของฉันแล้วกัน" จอห์นบอกก่อนที่ฉินหรานจะได้เอ่ยอะไร

"ได้แน่นอน!" ฉินหรานไม่ปฏิเสธ

ห้องทำงานของสารวัตรจอห์นอยู่ที่ชั้นสอง เป็นห้องขนาดกลางห้องหนึ่งที่รับแสงได้ดี ประกอบด้วยโต๊ะทำงานตัวหนึ่ง เก้าอี้สองสามตัว และตู้เก็บของที่มีเอกสารที่เต็มแน่น

"ข้างล่างนั่นเกิดอะไรขึ้นเหรอ?" ฉินหรานพูดช้า ๆ

ตอนที่ฉินหรานอยู่ในรถม้า เขานั่งคิดเรื่องการรับภารกิจย่อย เขาจะใช้สิ่งที่เขาเห็นตอนเข้ามาในสถานีดึงดูดความสนใจจากจอห์น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นทางเลือกที่ดี

"เมื่อสัปดาห์ก่อน หัวหน้าแก๊งแถวนี้ จิมมี่มือทมิฬถูกฆ่า แม้ว่าพวกเราจะหาศพไม่เจอแต่ทั้งแถบก็โกลาหลขึ้นมา มีทั้งพวกที่ต้องการแก้แค้น แล้วก็พวกที่อยากแย่งตำแหน่ง แล้วยังมีกลุ่มแก๊งอื่นอีก ทุกคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ตั้งแต่วันนั้นก็มีเรื่องกันระหว่างกลุ่มอย่างน้อยสิบคดีต่อวัน นายก็เห็นพวกในคุกใช่ไหม? อีกแค่สองสามวันคุกก็เต็มแล้วเนี่ย! แล้วที่แย่ที่สุดก็คือคดีฆาตกรรมนี้ที่โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ พวกเราคนไม่พอจริง ๆ ไม่สามารถหาคนไปดูแลคดีของอัลทิลลี่ได้แล้ว" เสียงที่เต็มไปด้วยว่าโมโหของสารวัตรจอห์นก้องเต็มหูฉินหราน

"เพื่อนก็มีไว้ตอนนี้แหละ! ฉันช่วยนายดูแลคดีฆาตกรรมนี่เอง" ฉินหรานพูดด้วยท่าทางตรงไปตรงมา

พอฉินหรานเสนอให้ความช่วยเหลือ ก็มีหน้าต่างแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาตรงหน้า

[พบภารกิจย่อย: ศพหญิงสาวในสถานีตำรวจ]

[ภารกิจย่อย: เพื่อนของคุณ สารวัตรจอห์นหมดเรี่ยวแรงไปกับรับมือการต่อสู้กันระหว่างแก๊งอันธพาล คุณตกลงช่วยเขาดูแลคดีฆาตกรรม คุณต้องหาตัวฆาตกรให้เจอโดยเร็วและแก้แค้นให้กับผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น ภารกิจนี้ยังมีผลต่อความเป็นมิตรของคุณกับสารวัตรจอห์นด้วย!]

.

.

.

.

TL note: *ภารกิจสร้างชื่อเสียง ภารกิจประเภทที่ถ้าทำสำเร็จจะมีโอกาสได้ชื่อฉายา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด