เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 14
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 14>
***********
เหนือท้องฟ้า จู่ๆ ก็ปรากฏยานอวกาศขนาดยักษ์ของมนุษย์ต่างดาว
ยานอวกาศลำนั้นทอดเงาลงมาเป็นฉากหลัง ขณะที่แบล็กธันเดอร์พุ่งทะยานไปข้างหน้า
ไม่ว่ายานอวกาศจะปรากฏเหนือกรุงโซลหรือไม่ กองกำลังที่ไล่ตามก็ไม่หยุดโจมตี
ไรก็ได้และเหล่าฮีโร่ยังคงต่อสู้กับศัตรูที่ไล่ตามต่อไป
<ยานอวกาศขนาดยักษ์ของแอนโดรเมด้าและชนเผ่ากัปปาติ?>
ในขณะเดียวกัน
สถานีโทรทัศน์ก็วุ่นวายไปหมด
ผู้ประกาศข่าวทางด้านซ้ายนั่งตัวสั่น เหงื่อแตกพลั่ก ขณะที่พลิกเอกสารกองโต
<มะ ไม่มีข้อมูลแบบนั้นเลยครับ มีแต่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย!>
<ก็เลยบอกว่าเป็นข่าวพิเศษไงคะ การรุกรานของมนุษย์ต่างดาว แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าข่าวเด็ด>
<แต่ นี่มันไม่ใช่แค่ข่าวเด็ด แต่มัน….>
ผู้หญิงผมสีเงินที่นั่งอยู่ตรงกลางหัวเราะ
<อะไรก็เกิดขึ้นได้ โลกมันเป็นแบบนี้แหละ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญข้างๆ คุณก็ยังยอมรับเลยว่ามันเป็นไปได้>
<แล้วเราควรทำยังไงดีครับ เอ่อ คือ ทางชาวกัปปาติบอกว่า....>
ชายวัยกลางคนที่อยู่ทางขวาตอบขณะที่กดแว่นตาลงมา
เหงื่อที่คอของเขาทำให้หน้าดูเป็นมันเงา
<พวกเขาต้องการขนมปังกรอบและลูกกวาดจำนวนมาก ภายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง เตรียมไม่ทันแน่ๆ เลยครับต้องมีการเจรจาหาทางออกนะครับ!>
<เจรจา? ยังไง?>
<เอ่อ เชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์ต่างดาวมา?>
<คุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์ต่างดาวเหรอคะ?>
<เปล่า ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเคมี....>
<หืม แปลกจังนะคะ ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงรึเปล่า>
ด้วยการโจมตีของยูเน็ตทำให้ชายที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญก้มหน้าลง
<ขอโทษครับ สถานการณ์นี้มันคาดไม่ถึงจริงๆ ฮะ แต่! รัฐบาลสัญญาว่าจะรีบจัดการครับ ถ้าเจรจาไม่ได้ ตอนนี้จะยิงทำลายวัตถุบินนั้นทันที ถ้าจำเป็นก็จะใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์....>
ชายคนนั้นพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อควบคุมสถานการณ์
ยูเน็ตยิ้มอย่างมีเลศนัย
เขายังไม่ยอมรับความจริง
ยูเน็ตจึงพูดว่า
<ตายจริง มีข่าวพิเศษอีกแล้ว>
<พอแล้วครับ! ไม่มีข่าวพิเศษอะไรอีกแล้ว!>
<เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในแผนก็แสดงว่ามันพิเศษไงคะ?>
ยูเน็ตตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดต่อ
<ตามการประกาศด่วนขององค์กร NASA ที่สหรัฐอเมริกา อีกประมาณ 30 นาที ดาวเคราะห์น้อยไฮเปอร์เซารัสที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 กิโลเมตร จะพุ่งชนโลกค่ะ!!!>
<……?>
<นี่มันวันสิ้นโลกจริงๆ รึเปล่านะคะ กลางกรุงโซลมีผู้ก่อการร้ายปรากฏตัว อาวุธลับของศัตรูทางเหนือ เผ่ากัปปาติบุกรุก แล้วก็ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่กำลังจะชนโลก>
<…….>
<คุณคิดยังไงคะ ผู้เชี่ยวชาญ? คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหมคะ?>
ชายทางด้านขวาก้มหน้าลง
เขาอยากจะปิดปากผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้เลย
แต่เขากลับรู้สึกเย็นวาบที่คอ
จากมุมที่กล้องมองไม่เห็น ชายในเสื้อคลุมกำลังจ่อมีดไปที่เขา
<ทำไมคุณถึงเหงื่อออกเยอะจังคะ เหมือนมีคนเอาปืนจ่อขมับอยู่ข้างๆ เลย ตอบหน่อยสิคะ คุณบอกว่าเรื่องพวกนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดไม่ใช่เหรอคะ?>
<…….>
<ข่าวพิเศษ อีก 30 นาที ดาวเคราะห์น้อยขนาด 17 กิโลเมตรจะชนโลกค่ะ>
<มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้....>
<อะไรนะคะ? นี่ออกอากาศทั่วประเทศนะคะ พูดดังๆ หน่อยสิคะ ไมโครโฟนเสียเหรอคะ?>
<มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ครับ! มนุษย์ต่างดาวก็โผล่มาแล้ว! แล้วดาวเคราะห์น้อยก็จะชนโลก! ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับ!>
<ฮึฮึฮึ…>
ยูเน็ตหัวเราะอย่างเย็นชา
ทุกคนที่อยู่ในสถานีโทรทัศน์ต่างขนลุกกับเสียงหัวเราะนั้น
กลับมาที่ถนน
คราวนี้ ที่ขอบฟ้าสีครามไกลออกไป เริ่มมีแสงสีแดงเพลิงปรากฏขึ้น
'นั่นอะไรอีกล่ะ?'
จากข่าวที่ออกอากาศ มีดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์กำลังจะชนโลก
นั่นคือดาวเคราะห์น้อยนั่นรึเปล่า?
"อย่าลดความเร็วนะครับ!"
"คะ ค่ะ!"
ไรก็ได้ตั้งสติอีกครั้ง
เธอเสียสมาธิไปชั่วขณะเพราะเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง
การไล่ล่ายังไม่จบ
นอกจากรถถัง รถหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์แล้ว ยังมีสิ่งกีดขวางขวางทางอยู่ทุกหนทุกแห่ง และมีกระสุนกับระเบิดโจมตีมาจากอาคารต่างๆ
แม้ว่าจุดสำคัญจะได้รับการป้องกันจากพลังแห่งกรรมแต่เธอก็ไม่สามารถปล่อยให้อารอนรับมือการป้องกันทั้งหมดคนเดียวได้
ตู้ม!
ขีปนาวุธลูกหนึ่งระเบิดขึ้น ทะลุผ่านแบล็กธันเดอร์ที่กำลังส่ายไปมาบนถนน
พื้นถนนแอสฟัลต์แตกกระจาย
เศษต่างๆ กระเด็นไปทั่ว
'....ดีนะที่ไม่มีคน'
ไรก็ได้คิดในใจ
ถ้าไม่มีการประกาศเตือนภัยทันเวลา คงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ถนนที่พวกเขาผ่านไปล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยการทำลายล้าง
เธอลิกนับไปแล้วว่ามีอาคารพังทลายไปกี่หลัง
พวกนั้นไม่สนใจความปลอดภัยของกรุงโซลเลยแม้แต่น้อย
พวกมันยิงกระสุน ขีปนาวุธ กระสุนรถถัง และถ้าจำเป็นก็จะยิงขีปนาวุธด้วย
ปัง!
ตู้ม ตู้ม!
อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทอะไรสักแห่งที่อยู่ข้างๆ กำลังสั่นสะเทือน
แส้เพลิงของเซรีสทะลุกระจกและพุ่งเข้าไปกวาดล้างภายในทั้งหมด
เพื่อจัดการกับกองกำลังที่ซ่อนอยู่ข้างใน
กรุงโซลในตอนกลางวัน
เมืองที่เมื่อไม่นานมานี้ประชาชนยังใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ตอนนี้กลับกลายเป็นสถานที่แห่งหายนะ
ฟิ้ววววว
บนท้องฟ้า จานเหล็กขนาดยักษ์กำลังหมุนติ้วๆ
เป็นภาพที่น่าขนลุกเพียงแค่มองดู
"นั่นยานอวกาศของชาวกัปปาติ! ดูเหมือนว่าพลังงานกำลังรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น!"
ไรก็ได้มองไปทางที่นิฮาคุชี้
ตรงกลางของจานเหล็ก อนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังรวมตัวกัน
"มันกำลังชาร์จลำแสงทำลายดาวเคราะห์!"
"ทำลาย อะไรนะ?"
"ลำแสงทำลายล้างไง! ถ้ามันยิงออกมา โลกก็จบเห่แน่!"
"แล้วมันจะเป็นยังไงเหรอ?"
"โลกก็คงแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่เหรอ?"
มีกองกำลังรวมตัวกันอยู่ที่นั่น แยกจากกลุ่มไล่ล่าผู้ก่อการร้าย
พวกนั้นเป็นพวกที่วางแผนจะทำลายโลก การไม่ตอบโต้ใดๆ นั้นมัน 'ไม่สมเหตุสมผล'เลยแม้แต่นิดเดียว
กองทหารต้องป้องกันสิ
ปัง!ปัง!
การยิงจากรถถังหลายคัน เครื่องยิงจรวดหลายกระบอก และปืนหลายกระบอก กระทบกับแผ่นเหล็ก และเครื่องบินขับไล่ที่ปรากฏตัวจากที่ไหนสักแห่งพร้อมกันนั้นขีปนาวุธก็ถูกยิงออกไปเช่นกัน
แต่มันก็ไร้ประโยชน์
โล่พลังงานโปร่งแสงสามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพทั้งหมดได้
'…….'
นอกจากยานต่างดาวแล้ว ยังมีดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ที่กำลังพุ่งเข้ามาจากนอกชั้นบรรยากาศ
ถ้ามันชน ผิวโลกทั้งหมดจะพลิกกลับ ทำลายอารยธรรมมนุษย์และระบบนิเวศ
'…….'
แต่ มนุษยชาติไม่ได้อ่อนแอขนาดที่จะถูกทำลายด้วยภัยพิบัติแบบนี้
<นั่นมันอะไรกัน!>
ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนตึกสูงระฟ้า
ข่าวกำลังออกอากาศ
ในนั้นมีผู้เชี่ยวชาญที่ตกตะลึงจนคางแทบหลุด
แต่ถึงอย่างนั้น ในที่สุดเขาก็ยอมรับคำพูดของยูเน็ต
<ฮะ แต่! มันเกิดขึ้นได้ครับ! ทุกอย่างเป็นไปได้หมดแหละครับ!>
และ ในวินาทีนั้น
ในขณะที่ชายคนนั้นยอมรับความเป็นไปได้นั้น
ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนก็เริ่มบิดเบือนโลกทั้งใบ
ครืน ครืน ครืน ครืน!
คราวนี้มันเป็นการสั่นสะเทือน
ไรก็ได้เห็นน้ำในแม่น้ำฮันซัดขึ้นมาเหมือนคลื่นสึนามิ
จากนั้นก็มีน้ำพุ่งขึ้นสูงหลายสิบเมตรจากแม่น้ำฮัน
และสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาก็คือ.....
<นั้นความหวังของโลก!>
ผู้ประกาศข่าวตะโกน
<แทคยอน วี ซุปเปอร์โรบ็อตที่พัฒนาขึ้นอย่างลับๆ ในห้องแล็บของดร.ยุน เพื่อรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ กำลังออกปฏิบัติการแล้วครับ!>
หุ่นยนต์ขนาดยักษ์ที่ทำจากโลหะผสม ออกมาพร้อมกับท่าโพสยกมือขึ้นฟ้า
อาวุธสุดยอดที่สถาบันวิจัยยุนพัฒนาขึ้นอย่างลับๆ หลังจากล่วงรู้ถึงการรุกรานของเผ่ากัปปาติยะและการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยไฮเปอร์เซารัส
เมื่อกรุงโซลเกิดวิกฤต ถึงเวลาที่แทคยอน วี จะออกโรงแล้ว
"......."
ไรก็ได้พูดไม่ออก
ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร หุ่นยนต์ก็ยังคงเดินต่อไป
ครืน! ครืน!
พื้นดินสั่นสะเทือนทุกครั้งที่หุ่นยนต์ก้าวเท้า
หุ่นยนต์มุ่งหน้าไปหายานอวกาศที่กำลังจะยิงลำแสงทำลายดาวเคราะห์
แต่
เหตุการณ์ใหญ่ๆ ต้องมีวายร้ายโผล่มาเสมอ
<ฮ่าฮ่าฮ่า!>
เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วเมือง
มีใครบางคนยืนอยู่บนดาดฟ้าตึก
กล้องทุกตัวในเมืองจับภาพชายคนนั้น
มันคือการปรากฏตัวของบารอนเอ็กซ์ศัตรูตัวฉกาจของแทคยอน วีปรากฏตัวแล้ว
หน้าผู้ชายอยู่ข้างหนึ่ง หน้าผู้หญิงอยู่อีกข้างหนึ่ง
เป็นรูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับวายร้ายจริงๆ
“โอ้ บารอนเอ็กซ์ในเรื่องมาชินก้าไม่ใช่เหรอขอรับ? แค่เวอร์ชั่นอื่นที่เป็นสีดำ!”
<ตอนนี้ถึงเวลาจัดการกับแทคยอนวีแล้ว! ดี! เมก้าก็อดซิลล่า!>
อูววววว!
เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดยักษ์
สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ชื่อเมก้าก็อดซิลล่าเริ่มอาละวาดในกรุงโซล
แทคยอน วี เปลี่ยนทิศทางแทนที่จะพยายามขึ้นยานอวกาศ
ไม่ว่าโลกจะตกอยู่ในวิกฤติขนาดไหน ถ้าเธอแต่ถ้าไปสู้กับจานบินยักษ์นั่น คงจะเละเป็นโจ๊กแน่ๆ
ในทางกลับกัน เมก้าก็อดซิลล่าดูเหมือนจะจัดการจานบินนั้นง่ายกว่า
"......."
ไรก็ได้นิ่งเงียบ
เธอควรจะพูดอะไร?
กับสถานการณ์ตอนนี้
พูดง่ายๆ ก็คือ เละเทะ
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น
มีอะไรบางอย่างโผล่มาทำให้กรุงโซลปั่นป่วนไม่หยุดหย่อน
บิดเบือนความจริง
ทำลายกฎของโลก
<เอ๊ย! ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก! ทุกอย่างเป็นไปได้หมดแหละ!>
ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญเองก็ไม่สนอะไรแล้ว
เขายอมรับทุกอย่างที่ยูเน็ตพูดและระบายความโกรธออกมา
ช่างมันเถอะ
ตั้งแต่แรก ผู้ก่อการร้ายมี 5 คนโผล่มาในโซลแบบกะทันหันก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว
หลังจากนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
<…….>
ในขณะเดียวกัน
ผู้ประกาศมองภาพที่กล้องถ่ายทอดออกมาอย่างใจเย็น
กรุงโซล…ดินแดนแห่งฝันร้าย
ผู้ก่อการร้ายปริศนาปรากฏตัว มนุษย์ต่างดาวปรากฏตัว ดาวเคราะห์น้อยที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 17 กิโลเมตรกำลังจะชนโลก หุ่นยนต์ยักษ์ปรากฏตัว สัตว์ประหลาดยักษ์ปรากฏตัว วายร้ายปรากฏตัว
แบบนี้จะเรียกว่า 'ข่าว' ได้ไหม?
แบบนี้จะเรียกว่า 'รายงาน' ได้ไหม?
ในที่สุดผู้ประกาศข่าวก็เริ่มสงสัย
ทุกสิ่งทุกอย่าง
ตั้งแต่ต้นจนจบ
และความสงสัยนั้น
ในที่สุดก็มาถึงตัวรายการและตัวเขาเอง
<คุณผู้เชี่ยวชาญ>
ผู้ประกาศหันไปหาผู้เชี่ยวชาญทางขวา
<ทุกอย่างเป็นไปได้ครับ! เป็นไปได้ทั้งหมดแหละครับ!>
<มันแปลกๆ นะครับ>
<แปลกอะไรล่ะครับ? ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ สิ่งที่เห็นคือความจริง อย่าปฏิเสธสิครับ!>
<แบบนี้….มันไม่ใช่ 'ความจริง' >
น้ำเสียงของเขาไม่สดใสเหมือนปกติ
มันเป็นเสียงที่ไร้อารมณ์ เหมือนเครื่องจักรที่ว่างเปล่า
<แบบนี้....ไม่ใช่ ความจริง....>
ความสงสัยเพิ่มพูนขึ้น
ตั้งแต่แรก ผู้ประกาศข่าวก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร
เขาไม่รู้ว่ารายการนี้เริ่มต้นยังไง หรือมีจุดประสงค์อะไร
ดังนั้น ความสงสัยจึงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
<เดี๋ยวก่อน…>
สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญซีดเผือด
<มันไม่ใช่ความจริง>
ผู้ประกาศพึมพำ
เสียงของเขาเบาเหมือนพึมพำ แต่หนักแน่น
ทั้งโลกตอบสนองต่อการปฏิเสธนั้น
ครืนนนนน!
ไรก็ได้สังเกตเห็น
ทุกคนที่มองขึ้นไปบนฟ้ารวมถึงเธอเห็นมัน
รอยร้าวปรากฏบนท้องฟ้ากว้างใหญ่
เหมือนกระจกที่กำลังจะแตก
รอยร้าวที่เริ่มต้นจากที่ไหนสักแห่ง แผ่ขยายไปทั่วท้องฟ้าเหมือนกิ่งก้านสาขา
แกร๊ก! แกร๊ก!
เสียงเหมือนกระจกแตกดังต่อเนื่องไปทั่วโลก
<ใจเย็นๆ ก่อนครับ!>
ผู้เชี่ยวชาญชายพยายามปลอบผู้ประกาศข่าวที่นั่งนิ่ง
<ปฏิเสธความจริงไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกครับ คุณต้องยอมรับมัน! ยอมรับมันสิครับ!>
เหมือนกำลังปลอบเด็กที่เบื่อของเล่น
แต่เมื่อเขาเลิกเชื่อแล้ว ก็ยากที่จะทำให้เขากลับมาเชื่ออีกครั้ง
<ที่นี่คือความฝันใช่ไหมครับ?>
ผู้ประกาศข่าวถาม
<ความฝันอะไรกัน!>
ชายคนนั้นตกใจจนลุกขึ้นยืน
<ลืมตาขึ้นมองให้ดีๆ สิ! ที่นี่ไม่ใช่ความฝัน! มันคือความจริง ใครๆ ก็เห็นว่ามันคือความจริง....อึก! อ้าก!>
รีเจียนหักแขนของชายคนนั้นหักจากด้านหลัง
แทนที่จะพูดโน้มน้าว ผู้เชี่ยวชาญกลับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ยูเน็ตตอบคำถามของผู้ประกาศข่าว
<ความฝันงั้นเหรอ ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ?>
<ก็ มันไม่สมเหตุสมผลเลย ผู้ก่อการร้ายก็พอว่า แต่นี่มีทั้งมนุษย์ต่างดาว ดาวเคราะห์น้อย หุ่นยนต์ยักษ์.... อันที่จริง ฉันไม่รู้เลยว่าฉันเป็นใคร? แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่?>
ยูเน็ตสามารถตอบคำถามนั้นได้
เธอรู้ว่าผู้ประกาศข่าวเป็นใคร
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงความโรแมนติกที่หายไปนานมาแล้ว
ด้วยการมาถึงของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยุคของเทพเจ้าและศาสนาจึงล่มสลาย
ดังนั้น เธอจึงต้องกลับไปหลับใหลอีกครั้ง เหมือนที่เคยเป็นมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล
<ไม่ต้องกังวลไปค่ะ>
ยูเน็ตบอกเธอ
<คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ ถ้าจะมีใครผิด ก็คงเป็นผู้ชายคนนั้นกับเจ้านายของเขา>
<จริงเหรอ?>
ผู้ประกาศตอบ
ตอนนี้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปเธอดูโต และกลายเป็นที่คนไร้เดียงสา และยูเน็ตไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอคิดว่าว่าตัวเองเป็นผู้ชายและพูดครับทั้งๆที่เธอก็เป็นผู้หญิง ไม่แน่ว่าเธอเองก็อาจจะโดนล้างสมองเช่นกัน
<งั้นก็หลับให้สบายเถอะค่ะ ที่นี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง มันเป็นแค่ความฝันในความฝัน ฝันในเมฆหมอก ในโลกที่คุณรู้จัก ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกแล้วค่ะ>
<ก็เป็นอย่างที่คิดไว้สินะ…>
เด็กสาวยิ้ม
จากนั้น
แกร๊ก!
รอยร้าวเริ่มปกคลุมโลกทั้งใบ
<หยุดนะ! หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!>
ชายที่แขนหักตะโกน
ไม่ได้นะ
มันกำลังจะพังทลาย
เวทย์มนตร์ เวทย์มนตร์ของเจ้านาย!
<ขอบคุณนะคะ ที่ปลดปล่อยฉัน>
เด็กสาวยกมือไหว้ยูเน็ต
จากนั้นร่างของเธอก็กลายเป็นแสงและหายไป
ฟึ้บบ!
ข่าวฉุกเฉินที่ออกอากาศไปทั่วโลกก็จบลง
มันจบลงโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
ซ่าาาาาาา
เสียงรบกวนน่ารำคาญดังออกมาจากลำโพง แทนที่เสียงประกาศ
'เวทย์มนตร์' ที่ปกคลุมโลกทั้งใบก็สลายไป
"......."
เปรี๊ยะ!
ในที่สุดท้องฟ้าทั้งหมดก็แตกสลาย
เศษกระจกนับไม่ถ้วนแตกกระจายออกมา
แต่ละชิ้นเป็นเศษเสี้ยวของมิติ
'เกิดอะไรขึ้น....?'
ไรก็ได้มองไปรอบๆ
UFO ที่กำลังจะยิงลำแสงทำลายดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ที่กำลังลุกไหม้ขณะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
แทคยอน วี และเมก้าก็อดซิลล่าที่กำลังต่อสู้กัน
และกองกำลังไล่ล่าที่ยังคงตามล่าแบล็กธันเดอร์ไม่ลดละ
ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับกดปุ่มหยุดวิดีโอ
เหมือนกับว่าเวลาหยุดเดิน
ในขณะที่เวลาของไรก็ได้และเหล้าฮีโร่ยังคงเดินต่อไปตามปกติ
<ไม่เป็นไรค่ะ นายท่านไรก็ได้>
เสียงของยูเน็ตดังมาจากระบบนำทาง
<ระบบป้องกันของโลกเริ่มทำงานแล้วค่ะ ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ>
"อะ ค่ะ...."
เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คงเป็นเรื่องดี
<แต่ อย่าเพิ่งวางใจนะคะ นี่เป็นแค่การเริ่มต้น>
วู้มๆๆๆๆ!
แบล็กธันเดอร์พุ่งทะยานไปตามถนนโดยไม่มีอะไรมาขวาง
ตึกล็อตเต้เวิลด์อยู่ไม่ไกลแล้ว