บทที่ 40 ถ้ำยาวชีวิต หนึ่งในสี่ตำหนักแปดอาราม (แปลใหม่)
เมื่อสองพันปีก่อน ในยุคที่ปรมาจารย์และผู้ฝึกวิชากำลังเจริญรุ่งเรือง มีจอมยุทธ์แห่งเก้าดวงดาวปรากฏตัวและสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่ พร้อมกับแปดสุดยอดปรมาจารย์ที่สามารถพลิกฟ้าคว่ำทะเล การบรรลุพลังขั้นสูงสุดยังคงเป็นที่เล่าขานในยุคนั้น
นักพรตผู้เริ่มต้นฝึกพลัง ต้องฝึกฝนร่างกายและดูดกลืนพลังธรรมชาติเป็นเวลาหลายสิบปี หวังว่าจะสามารถบรรลุขั้น ‘สิบเขตเมืองเก่า’ ได้สำเร็จ
ในปีนั้น จางเสวียนลู่ ศิษย์ของตำหนักศักดิ์สิทธิ์แห่งอาราม ได้ฝึกฝนอย่างยากลำบากถึง 37 ปี จนบรรลุพลังและได้ชื่อเป็น 'นักพรตผู้ทรงพลัง'
ในช่วงเวลานั้น ท้องฟ้าหม่นหมอง ปีศาจและภูติผีปรากฏตัวบ่อยครั้ง ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติและมนุษย์เกิดขึ้นไม่หยุด อารามศักดิ์สิทธิ์เห็นว่ามนุษยชาติจะล่มสลาย จึงออกคำสั่งให้ผู้ที่บรรลุพลังขั้น ‘สิบเขต’ ไปกำราบภัยพิบัติในแต่ละภูมิภาค และให้ตำแหน่งเจ้าถ้ำแก่พวกเขา จางเสวียนลู่ได้รับคำสั่งนี้และออกเดินทาง
เขาได้ปราบปีศาจในป่าลึกและช่วยชีวิตผู้คนในหมู่บ้านหนึ่งไว้ถึง 178 ครัวเรือน อีกทั้งยังสังหารปีศาจต้นไม้เก่าแก่ที่คุกคามประชาชนในเมืองหนึ่ง เมื่อเดินทางมาเป็นเวลา 10 ปี เขาได้มาถึงชายฝั่งทะเลตะวันออก
ที่นี่เต็มไปด้วยพลังอาฆาตศพและเคยเป็นสนามรบโบราณที่ฝังศพทหารกว่าหมื่นคน และแม่ทัพที่กำลังจะกลายเป็นพลังอาฆาตขนาดใหญ่ จางเสวียนลู่ตัดสินใจสร้างถ้ำยาวชีวิตที่นี่ และถ้ำยาวชีวิตก็กลายเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของอารามศักดิ์สิทธิ์ในเวลาต่อมา
กาลเวลาผ่านไป ความรุ่งเรืองของถ้ำยาวชีวิตเสื่อมลง แม้ว่าถ้ำยาวชีวิตเคยตั้งอยู่ใกล้ทะเล แต่เมื่อจางเสวียนลู่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง กลับพบว่ามีภูเขาหิมะสูงตระหง่านที่ไม่เคยมีมาก่อน
สถานที่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งอารามที่เคยมีความสวยงามก็เสื่อมสภาพไป และพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเมื่อซากศพนักรบโบราณเริ่มฟื้นคืนชีวิตขึ้นจากดิน
ศพที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากถ้ำยาวชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นทหารที่ถูกจางเสวียนลู่กักขังไว้ใต้ถ้ำ พวกเขาได้รับพลังอาฆาตมากพอที่จะเทียบเคียงกับนักรบผู้แข็งแกร่งระดับสูง
เมื่อร่างสูงใหญ่ที่สวมเกราะทองแดงและถือค้อนยักษ์ปรากฏตัว ซากศพเหล่านั้นต่างพากันคุกเข่าและสยบให้กับพลังที่น่าเกรงขามของมัน ซึ่งเป็นศพแม่ทัพที่เคยถูกจางเสวียนลู่กักขังไว้
จางเสวียนลู่เอ่ยกับเยี่ยนหนานเป่ยที่กำลังสั่นกลัวว่า “เจ้าต้องการเห็นพลังที่เหนือกว่าอย่างนั้นหรือ? ข้าได้มอบมันให้เจ้าแล้ว เจ้าจะได้เผชิญหน้ากับศพแม่ทัพนี้ หากเจ้าสามารถฆ่าเขาได้ เจ้าจะสามารถบรรลุขั้น ‘สิบเขต’ ได้แน่นอน”
เยี่ยนหนานเป่ยหวาดกลัวอย่างมาก เขาไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะปลุกสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ขึ้นมา หลังจากทำงานรับใช้จางเสวียนลู่มาตลอด 20 ปี กลับต้องพบจุดจบเช่นนี้
แม้ว่าเยี่ยนหนานเป่ยจะพยายามต่อสู้ แต่ในที่สุดเขาก็ถูกศพแม่ทัพโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส จางเสวียนลู่เดินเข้ามาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าฆ่าคนมามากมาย สมควรต้องชดใช้กรรม แม้ไม่มีนรกแล้ว แต่กฎแห่งกรรมยังคงอยู่”
แล้วเขาก็จบชีวิตของเยี่ยนหนานเป่ยอย่างไร้ความปรานี
ในขณะนั้น หลิวเซวียนหลิง ลั่วจิ้ง และกลุ่มนักสู้ของพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นพลังอันน่าเกรงขามของศพแม่ทัพและจางเสวียนลู่ ที่ยังคงควบคุมซากศพนับไม่ถ้วนจากป่าซากศพ
กลุ่มนักสู้สับสนและหวาดกลัวต่อพลังที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน หลิวเซวียนหลิงและลั่วจิ้งต่างตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเรียนรู้และเข้าใจพลังแห่งการควบคุมศพและพลังแห่งความอาฆาตที่มีอยู่ในถ้ำยาวชีวิตนี้
จางเสวียนลู่ที่ดูเหมือนจะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดอย่างง่ายดาย ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับทั้งกลุ่มนักสู้และศัตรูของเขา ขณะที่พวกเขาเห็นศพแม่ทัพและทหารเก่าที่ถูกจางเสวียนลู่กักขังไว้เริ่มเคลื่อนไหวและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ท้ายที่สุด กลุ่มนักสู้ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าพวกเขาจะต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความมืดมนและพลังอาฆาตที่ยากจะเอาชนะ และพวกเขาเริ่มวางแผนเพื่อหาทางรอดจากสถานการณ์ที่น่ากลัวนี้
หลิวเซวียนหลิงยิ้มอย่างเย็นชา และมองไปยังจางเสวียนลู่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย เขารู้ดีว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญในการพัฒนาและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความท้าทายในอนาคต
ลั่วจิ้งก้มลงมองศพที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ และสัญญากับตัวเองว่าจะต้องพบกับวิธีการเพื่อก้าวผ่านความท้าทายนี้ และเปิดเผยความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในถ้ำยาวชีวิตให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขารู้ดีว่าถ้ำนี้ไม่ใช่เพียงแหล่งพลังอันตรายธรรมดา แต่มันซ่อนปริศนาที่อาจพลิกโฉมยุทธภพไปตลอดกาล
ในขณะที่บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความหนาวเย็นจากพลังอาฆาต ลั่วจิ้งเงยหน้ามองไปยังจางเสวียนลู่ เจ้าถ้ำยาวชีวิต ที่กำลังมองกลับมาอย่างเงียบๆ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ความเงียบงันที่คลุมอยู่ในพื้นที่สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับกลุ่มพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์
"ไม่ใช่แค่ข้า" ลั่วจิ้งคิดในใจ "คนอื่นๆ ก็เช่นกัน เราจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้" เขาหันไปมองหลิวเซวียนหลิง ซึ่งดูเหมือนจะคิดในสิ่งเดียวกัน
จางเสวียนลู่ไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม เขายืนนิ่งพร้อมกับปล่อยให้ความมืดจากป่าซากศพค่อยๆ กลืนกินพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ซากศพนับไม่ถ้วนเริ่มคลานออกมาจากดินมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือการทดสอบแห่งชีวิตและความตาย และลั่วจิ้งรู้ดีว่าเขาต้องรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อเผชิญหน้ากับมัน.
"เราต้องเดินหน้าต่อ" ลั่วจิ้งพึมพำเบาๆ ก่อนจะออกเดินตามหลิวเซวียนหลิงและพวกพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ โดยมีปริศนาของถ้ำยาวชีวิตเป็นเป้าหมายในเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงนี้
ขณะที่พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยศพและซากศพหุ่นเชิดที่กระจัดกระจายรอบๆ กลิ่นอายแห่งความตายและพลังอาฆาตหนาวเหน็บยิ่งทวีความเข้มข้น หลิวเซวียนหลิงเดินนำหน้าไปอย่างเงียบเชียบ มือของเขาจับกระบี่แน่น ความมุ่งมั่นฉายชัดในดวงตา เขารู้ว่าถ้ำนี้ไม่ใช่เพียงสถานที่ธรรมดา แต่เป็นด่านทดสอบแห่งจิตใจและพลังอันเข้มข้น
ซากศพมากมายที่เคยเป็นทหารผู้กล้าแห่งสงครามโบราณ กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นหุ่นเชิดที่ไร้จิตวิญญาณ พวกมันลุกขึ้นมาจากพื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมที่จะโจมตีทุกคนที่ย่างกรายเข้ามาในเขตแดนแห่งนี้
"ถ้าเราช้าเกินไป พวกมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" หลิวเซวียนหลิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่หนักแน่น "เราต้องหาทางออกจากที่นี่ก่อนที่สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้น"
ลั่วจิ้งพยักหน้า เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะลังเลหรือกลัว การสู้รบอันดุเดือดกำลังรอพวกเขาอยู่เบื้องหน้า แต่ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในถ้ำยาวชีวิต ความรู้สึกถึงความลับอันยิ่งใหญ่ก็ยิ่งทวีขึ้น
เมื่อพวกเขาเดินไปถึงห้องลับในส่วนลึกของถ้ำยาวชีวิต สถานที่ที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์คุมพลังและซากศพหุ่นเชิดมากมาย ลั่วจิ้งรู้ทันทีว่าความลับที่ซ่อนอยู่ในถ้ำนี้อาจเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของยุทธภพไปตลอดกาล
ในห้องลับนี้ มีพลังงานมหาศาลที่แผ่กระจายออกมาอย่างชัดเจน ราวกับว่ามันคือศูนย์กลางของพลังที่ควบคุมทุกอย่างในถ้ำแห่งนี้ หลิวเซวียนหลิงหยุดยืนตรงหน้าสัญลักษณ์คุมพลังอันลึกลับ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความสงสัยและความท้าทาย
"นี่คือสิ่งที่เราตามหา" หลิวเซวียนหลิงพูดเบาๆ "ปริศนาของถ้ำยาวชีวิต"
ลั่วจิ้งจ้องมองไปยังสัญลักษณ์คุมพลังและสงสัยว่าในที่สุดพวกเขาจะสามารถคลี่คลายความลับนี้ได้หรือไม่ หรือมันจะนำพวกเขาไปสู่หายนะครั้งใหม่
การต่อสู้ของพวกเขายังไม่สิ้นสุด และการเดินทางครั้งนี้ยังอีกยาวไกล แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยความกล้าหาญที่มี
หลิวเซวียนหลิงมองไปยังลั่วจิ้งและเหล่าพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์อย่างเงียบๆ ดวงตาของเขาฉายแววแน่วแน่ เขารู้ว่าความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้านั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะมองข้ามได้ ความจริงที่ว่าพวกเขากำลังอยู่ในถ้ำยาวชีวิต ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบความกล้า แต่ยังเป็นบททดสอบจิตใจและวิญญาณของพวกเขา
ลั่วจิ้งหันมองไปยังสัญลักษณ์คุมพลังอีกครั้ง ความลึกลับที่ปกคลุมสถานที่นี้เริ่มก่อตัวชัดขึ้นในใจของเขา สิ่งที่พวกเขาพบเจอในถ้ำนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปริศนาที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็อาจเป็นหายนะที่ทำลายทุกสิ่งได้เช่นกัน
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะไม่ถอย" ลั่วจิ้งกล่าวเสียงหนักแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลิวเซวียนหลิงพยักหน้าเห็นด้วย แล้วพวกเขาทั้งสองก็หันกลับมามองทางข้างหน้า
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายยังคงรออยู่เบื้องหน้า และพวกเขารู้ดีว่าต้องสู้จนถึงที่สุดเพื่อเปิดเผยความลับของถ้ำยาวชีวิต และอาจถึงขั้นกำหนดชะตากรรมของยุทธภพใหม่อีกครั้ง
เสียงลมหนาวพัดผ่าน หิมะตกหนักที่ปกคลุมถ้ำยาวชีวิตทวีความหนาวเหน็บมากขึ้น แต่ในดวงตาของลั่วจิ้งและหลิวเซวียนหลิง ความกล้าและความมุ่งมั่นไม่ได้ลดน้อยลงแม้แต่น้อย
จบบทที่ 40