ตอนที่แล้วบทที่ 1 การตื่นขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 จักรพรรดิหยิ่น

บทที่ 2 การเผชิญหน้าครั้งแรก


บทที่ 2 การเผชิญหน้าครั้งแรก

พื้นที่ในรถนั้นคับแคบอยู่แล้ว

ตอนนี้มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดมากขึ้น

อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเข้าใกล้ขึ้น กลิ่นคาวเลือดยิ่งชัดเจน แต่บนตัวผู้ชายกลับไม่มีบาดแผลใด ๆ

ซือ ฝูฉิงมองเขาด้วยความสนใจเล็กน้อย พร้อมกับขยับหู จับเสียงฝีเท้าที่กระจัดกระจายผสมกับเสียงปืนได้อย่างชัดเจน

ชายคนนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ขออาศัยที่นี่ซ่อนตัวสักครู่”

เสียงของเขาเบาและเย็น เหมือนเสียงเครื่องจักรที่จงใจเปลี่ยนเสียง ไม่ต้องการให้คนจำได้

แต่ยังคงแฝงด้วยท่าทางสุภาพสง่างาม และปลายเสียงที่กดต่ำลงนั้นแฝงด้วยความเยือกเย็นและโหดร้าย

ซือ ฝูฉิงไม่ได้สนใจจะมองหน้าของเขาอีก

เขาระวังตัวขนาดที่เปลี่ยนเสียง ใบหน้าคงปกปิดไว้ไม่แพ้กัน

“ได้สิ แต่ต้องจ่ายเงิน” เธอใช้มือขยับผมเบา ๆ ราวกับจิ้งจอกน้อยขี้เกียจที่กำลังแปรงขน หางตาของเธอยิ้มเล็กน้อย “ได้เงินแล้ว ค่อยว่ากัน”

ชายคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง “ก็ถูกของเธอ”

เขาถอดหยกชิ้นหนึ่งออกจากที่ไหนไม่รู้ วางเบา ๆ บนแผงรถ

หยกนั้นสัมผัสเนียนและเย็นอย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นหยกชั้นดี

"ซือ ฝูฉิงเก็บหยกไว้แล้วพูดช้า ๆ ว่า 'ต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหม? ฉันจะเปิดเพลงประกอบให้ฟังไหม? อยากฟังเพลงที่สง่างาม หรือเพลงที่แฝงความดุดัน?'"

รับเงินทำงาน นี่เป็นกฎเดียวที่เธอไม่เคยเปลี่ยนแปลงในชีวิต

“ไม่จำเป็น” ชายคนนั้นตอบเบา ๆ “แค่นี้พอแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก้มมองเล็กน้อย ดวงตาที่มองอย่างชัดเจนทำให้เขามองเห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน

ผิวพรรณสวยสง่า ผิวขาวเนียนและเย็นสบาย

ผู้หญิงที่หายาก

ซือ ฝูฉิงเปลี่ยนท่ามือเพื่อพยุงศีรษะ “ถ้าคุณไม่เหนื่อยก็ไม่เป็นไร”

แขนของชายคนนั้นพิงอยู่บนแผงรถ ล้อมรอบเด็กสาวเอาไว้ แม้จะใกล้ชิด แต่ร่างกายทั้งสองไม่ได้สัมผัสกันเลย

จากด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกที่ขุ่นขึ้นจากไอร้อน ภาพนั้นกลับดูเหมือนฉากที่แฝงความเย้ายวนอยู่บ้าง

เสียงฝีเท้าที่กระจัดกระจายนั้นหยุดลงในเวลานี้

“เขาไปไหน? หรือเข้ารักษาในโรงพยาบาล?” เสียงดังกระแทกดังขึ้น ก่อนจะดังขึ้นอีก “นั่นอะไร?!”

“เฮือก!”

มีแสงจ้าที่ส่องเข้ามายังรถ แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่ารถสั่นไหว คนหนึ่งสบถออกมา “พวกหนุ่มสาวที่ไหนมาทำเรื่องแบบนี้นอกโรงพยาบาล น่ารังเกียจจริงๆ ไม่กลัวทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาเลย”

“ถ้าวันนี้ไม่มีเรื่องสำคัญนะ ข้าจะฉุดผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว!”

“เลิกพูดเถอะ งานสำคัญกว่า” อีกคนรีบพูด “เขาวิ่งไปทางไหน? ไม่อยู่ที่นี่!

“ไปโรงพยาบาล ไล่ตามต่อ! ห้ามปล่อยเขาหลุดมือ!”

เสียงพวกนั้นค่อยๆ ห่างออกไป และความสงบก็กลับคืนมาอีกครั้ง

ซือ ฝูฉิงขยับร่างกายเล็กน้อย เงยหน้าขึ้น “น่ารำคาญจริง ขอฉันดื่มโค้กหน่อย”

ชายคนนั้นถอยออกไปเล็กน้อย

ซือ ฝูฉิงยื่นมือขวาออกไปกำลังจะเปิดฝาขวดโค้ก แต่ในวินาทีต่อมา เธอกลับเปลี่ยนท่าทาง พุ่งเข้าหาไหล่ของเขาอย่างรวดเร็ว

การตอบสนองของชายคนนั้นก็รวดเร็วไม่แพ้กัน ดวงตาที่เคยมืดมนของเขากลับดูมืดกว่าเดิมในทันที

ภายในสิบวินาที ทั้งสองคนได้แลกหมัดกันนับสิบครั้ง

“ปัง!”

ซือ ฝูฉิงถูกกดให้นอนอยู่บนเบาะคนขับ

เธอยังคงมองไม่เห็นหน้าของเขา แต่สามารถรับรู้ถึงลมหายใจเย็นฉียบ แขนยาวและแข็งแรงของเขา รวมทั้งไหล่กว้างที่อบอุ่น

มีเพียงชั้นเสื้อผ้าที่กั้นระหว่างทั้งสอง อุณหภูมิยังคงแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง

“ข้อมือของเธอมีบาดแผล ไม่มีแรง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน” เขากดข้อมือขวาของเธอไว้แน่น “ถ้าเธอยังทำแบบนี้ต่อไป ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะทำอะไรลงไป”

ดวงตาของเขาไร้อารมณ์ใด ๆ ไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันใด ๆ ทั้งสิ้น

แต่กลับเต็มไปด้วยความกดดันและความน่ากลัว

ซือ ฝูฉิงกะพริบตา โดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ เปลี่ยนแปลง “ได้สิ”

“ขอบคุณสำหรับวันนี้” ชายคนนั้นหยุดครู่หนึ่ง ปล่อยมือ น้ำเสียงราบเรียบและมั่นคง “ถ้ามีโอกาสได้พบเธออีก ฉันจะไปขอบคุณถึงที่”

เขามาเงียบ ๆ และจากไปเงียบ ๆ เช่นกัน

กลิ่นคาวเลือดจางหายไป ซือ ฝูฉิงจึงเปิดไฟในรถ

เธอก้มลงมองฝ่ามือของตัวเอง

มีวัตถุโลหะบางเฉียบราวกับปีกจักจั่น สะท้อนแสงเล็กน้อยในความมืด

แม้เธอจะไม่ได้เอาชนะเขา แต่ก็แอบหยิบของจากตัวเขามาได้

อาณาจักรต้าชาแบ่งเป็นหลายกลุ่มอำนาจ  แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่เธอรู้จัก หนึ่งในนั้นคือสำนักเม่อแห่งจงโจว

สำนักเม่อ เป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญในกลไกและอาวุธลับ ครอบครองอำนาจในจงโจว

สืบทอดกันมาหลายพันปี

ซือ ฝูฉิงคิดอย่างลึกซึ้ง

แม้ในชาติก่อนเธอจะมีสายเลือดต้าชาแท้ แต่เธอก็ไม่ค่อยได้มาอาณาจักรต้าชาข่าวสารส่วนใหญ่ได้มาจากเครือข่ายข่าวกรองที่พี่ชายคนที่สองของเธอสร้างขึ้น และเพื่อนบางคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต

แต่ว่าชายคนนั้นจะเป็นคนของสำนักเม่อหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ

เขาพูดถูก ตอนนี้เธอยังอ่อนแอเกินไป

“พูดจาสุภาพ ไม่รู้คิดว่ามาจากยุคโบราณ” ซือ ฝูฉิงเก็บความคิดของเธอ เก็บอาวุธลับไว้ในกระเป๋า “จะคุยกับเขาก็ยากแถมยังมีศัตรูมากมาย ใครอยากเจอเขาอีก”

เธอดื่มโค้กจนหมด ยกมือขึ้นโยนขวดโค้กเข้าถังขยะจากระยะไกล ก่อนจะเอนตัวพิงเบาะเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยขับรถออกไป

เวลาแปดโมงเช้า บ้านตระกูลซั่ว

พิธีศพของคุณปู่ตระกูลซั่วยังคงดำเนินต่อไป ซั่วเทียนเฟิงกับภรรยาของเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน ตอนนี้เหลือเพียงลูกหลานไม่กี่คนในบ้านตระกูลซั่ว

“พี่รอง คราวนี้เราสามารถไล่ซือ ฝูฉิงออกไปได้แล้ว” ซั่วฉิงหยาเอาช้อนคนกาแฟในถ้วย “ฉันเห็นปู่ดีกับเธอก็รู้สึกหงุดหงิด เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมปู่ต้องดีกับคนนอกขนาดนั้น?”

“เธอยังไปเข้าวงการบันเทิงอีกนะ น่าขำจริง ๆ ในวงการนั้น คนที่ด่าเธอยาวไปถึงต่างประเทศแล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด”

ชื่อเสียงของซือ ฝูฉิงในวงการบันเทิง ซั่วฉิงหยารู้ดี

แย่มากจนไม่สามารถแย่กว่านี้ได้อีกแล้ว เธอเป็นนักแสดงที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่น จะมีคนชื่นชอบอะไร?

บางครั้งเมื่อซั่วฉิงหยาเบื่อ เธอก็จะจ้างคนมาโจมตีซือ ฝูฉิงในโลกออนไลน์

ในฐานะที่เป็นคุณหนูคนที่สามของตระกูลซั่ว ซั่วฉิงหยาดูถูกวงการบันเทิงอยู่แล้ว ยิ่งไม่เคยสนใจรายการประกวดหรือเลือกตั้งใด ๆ แต่เธอเคยได้ยินเรื่องที่ซือ ฝูฉิงเสียหน้าจากรายการ "เยาวชนอัจฉริยะ" เลยตั้งใจโหลดมาดู

เมื่อเห็นชาวเน็ตด่าซือ ฝูฉิง เธอก็รู้สึกดีใจ

ซั่วเสวียนอวี้ไม่ได้ออกความคิดเห็นใด ๆ เพียงแต่พูดว่า “พูดให้น้อยหน่อยเถอะ”

คำพูดนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อปกป้องซือ ฝูฉิง แต่เพราะซือ ฝูฉิงไม่คู่ควรให้เธอสนใจเลยต่างหาก

ทุกคน สวัสดีตอนเช้านะ~~

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด