ตอนที่แล้วบทที่ 165-2 ส่งบ้านพร้อมระเบียงกระจกแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?(จบ)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 166-2 คู่แข่งหัวใจของจางเยว่โผล่มาอย่างไม่คาดคิด(จบ)

บทที่ 166-1 คู่แข่งหัวใจของจางเยว่โผล่มาอย่างไม่คาดคิด(ต้น)


เกิดภาวะเลือดออกในสมองและเป็นอัมพาตบนเตียง...

จางเยว่คิดขึ้นมาได้ทันทีถึงสูตรยาฮว่าเสวี่ยทงลั่วที่เฉียนอวี้ฮว่าเคยให้เขาดู

ยาฮว่าเสวี่ยทงลั่วเหมาะสำหรับรักษาโรคหลอดเลือดอุดตันที่เกิดจากลมและเสมหะ หรืออัมพาตครึ่งซีก และโดยเฉพาะมีสรรพคุณพิเศษในการรักษาอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดจากหลอดเลือดแตก

เลือดออกในสมองก็เป็นผลมาจากหลอดเลือดสมองแตกไม่ใช่เหรอ?

ส่วนอาการอัมพาตบนเตียงก็เกิดจากลิ่มเลือดที่ไหลออกมาจากเส้นเลือด กดทับเส้นประสาท

บางทีตัวเขาอาจจะลองใช้ยานี้ดูได้?

คิดได้ดังนั้น จางเยว่จึงพูดกับเจิ้นซูซูว่า “เอาอย่างนี้ไหม ให้ฉันกลับไปกับเธอ ไปดูตาของเราหน่อย!”

ถึงแม้เจิ้นซูซูจะมีอาการเสียใจ แต่ตอนนี้เธอกลับมองจางเยว่ด้วยสายตาประหลาด

“ให้ฉันกลับไปด้วย?”

“ตา... ของเรา?”

จางเยว่รีบพูด “อย่าเข้าใจผิดนะ

ฉันพูดแบบนี้เพราะฉันมีสูตรยาที่อาจรักษาอัมพาตครึ่งซีกได้ บางทีมันอาจช่วยอะไรได้บ้าง

เธอก็รู้ถึงสรรพคุณของชิงเวินอี้ฉีซานกับเหล้าสมุนไพรเจ่าหลิน

จริงๆ แล้วสองสูตรนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคิดขึ้นเอง แต่ฉันได้มาจากตำราโบราณ

ในตำราเล่มนั้นไม่ได้มีแค่สองสูตรนี้ ยังมีสูตรยาฮว่าเสวี่ยทงลั่ว ซึ่งว่ากันว่าหลังจากกินยานี้เข้าไปแล้ว มันจะช่วยขับเลือดคั่งในสมอง ลดการกดทับของลิ่มเลือดต่อระบบประสาทส่วนกลาง...”

“เฮ้! เธอจะทำอะไร?”

จางเยว่พูดยังไม่ทันจบ เจิ้นซูซูก็รีบคว้าแขนเขาแล้วลากออกไป

เจิ้นซูซูพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ถ้านายมีสูตรยานี้ทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ? เรากลับไปกันเลยเถอะ”

เจิ้นซูซูรู้ดีถึงสรรพคุณของชิงเวินอี้ฉีซานกับเหล้าสมุนไพรเจ่าหลินมากกว่าใคร

ถ้าสูตรยาฮว่าเสวี่ยทงลั่วที่จางเยว่พูดถึงมาจากตำราเล่มเดียวกัน บางทีมันอาจจะช่วยดึงตาของเธอกลับมาจากปากประตูผีได้จริงๆ

เมืองหวยหยางอยู่ห่างจากจงโจวประมาณ 200 กิโลเมตร ภายในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย เช่น สุสานไท่ห่าวของฟูซี ทะเลสาบหลง และทะเลสาบตง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

ที่นี่ก็เป็นบ้านเกิดของเจิ้นซูซูด้วย

เมื่อจางเยว่ตัดสินใจกลับไปกับเจิ้นซูซู เขาจึงมอบหมายงานทั้งหมดที่ตึกศิลปะโหยวเหว่ยให้หลัวเถี่ยจวิ้นจัดการ

เนื่องจากเดินทางด้วยทางด่วนทั้งหมด ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง จางเยว่ก็ถึงที่หมาย

บ้านตาของเจิ้นซูซูตั้งอยู่ในหมู่บ้านหวงจวง ทางเหนือของเมืองหวยหยาง

มันเป็นอาคารสองชั้นเก่าแก่ เมื่อจางเยว่เดินตามเจิ้นซูซูเข้าไป ก็พบว่ามีผู้คนยืนอยู่เต็มบ้าน

เมื่อเห็นเจิ้นซูซู มีคนทักทายเธอทันที

แต่เจิ้นซูซูแค่พยักหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องข้างใน

มีชายชราร่างใหญ่คนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้องรับแขก โดยมีถุงน้ำเกลือห้อยอยู่ข้างเตียง

“ตา ตา!” เจิ้นซูซูเรียกเบาๆ สองครั้ง

แต่ชายชรายังคงนอนนิ่งไม่ขยับ

เธอหันไปพูดกับชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความโกรธว่า “น้า ทำไมไม่พาตาไปโรงพยาบาล?”

เจิ้นซูซูรู้สึกโมโหมากในตอนนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจการแพทย์ แต่ก็รู้ว่าตาของเธออาการไม่ดีเลย

ในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่ควรทำคือโทร 120 ทันทีไม่ใช่เหรอ?

น้าของเจิ้นซูซูชื่อฟางฉางฟู่ เป็นชายวัยใกล้ห้าสิบปี

เขาถอนหายใจ “เราโทรไปแล้ว คนจาก 120 ก็มาถึง แต่พวกเขาไม่รับไป”

พูดจบ ฟางฉางฟู่ก็แสดงออกถึงความเจ็บปวด

แม้ว่าโรงพยาบาลจะเป็นสถานที่รักษาคนป่วย แต่พวกเขาก็ระวังตัวมากกว่าบริษัทประกันภัยเสียอีก

ในสภาพนี้ พ่อของเขาอาจเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

ถ้าคนไข้เสียชีวิตบนรถอาจก่อให้เกิดข้อพิพาททางการแพทย์ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง

เจิ้นซูซูยิ่งโกรธ “พวกเขาจะทำแบบนี้ได้ยังไง? พวกเขาคิดว่าเราไม่มีปัญญาจ่ายเงินหรือไง?”

เพิ่งจะบ่นได้ไม่กี่คำ จู่ๆ ชายชราบนเตียงก็เริ่มไอไม่หยุด

เขาไอพร้อมกับหายใจอย่างเหนื่อยหอบ “ซูซู... ซูซู กลับ...กลับมาแล้ว”

“ตา ใช่หนูเอง ตายัง... ยังสบายดีอยู่ไหมคะ?”

“กลับ...กลับมาแล้วก็ดี กลับมาดีแล้ว! เธอได้พาแฟน... แฟนมาด้วยไหม?”

เจิ้นซูซูถึงกับชะงัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร

ตาของเธอเป็นห่วงเรื่องความรักของเธอมากที่สุด ทุกครั้งที่กลับมาก็ต้องถามเสมอ

เมื่อก่อนเจิ้นซูซูมักจะหาข้ออ้างมาแก้ตัวไปเรื่อย แต่ตอนนี้...

จางเยว่เดินเข้ามาพอดีแล้วพูดว่า “ยานี้ผสมเสร็จแล้ว เอาไป”

เจิ้นซูซูรับยามาแล้วนำไปวางตรงหน้าตาของเธอ “ตากินยานี้เถอะค่ะ”

แต่ชายชรากลับส่ายหัว “ไม่ต้องหรอก... นี่คือแฟนของเธอใช่ไหม? หล่อใช้ได้เลยนะ ไม่เลวเลย”

เจิ้นซูซูกำลังจะพูด แต่จู่ๆ เสียงดังจากหน้าประตูตะโกนขึ้นว่า “ตา ตา! ตาของผมอยู่ไหน?”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในบ้าน “พวกเธอถอยไปหน่อย เร็วเข้า!”

จากนั้นเขาตะโกนออกไปข้างนอก “หมอโจว เร็วๆ เข้ามาตรวจตาของผมที!”

พร้อมกับคำพูดของเขา หมอโจว ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวก็เดินเข้ามา

เขาเดินมาถึงตัวชายชราแล้วเริ่มจับชีพจรและตรวจตา จากนั้นสีหน้าเขาก็เคร่งเครียด

“อาการของคนไข้แย่มากจริงๆ!”

ชายหนุ่มพูดอย่างหงุดหงิด “แน่ล่ะ ผมรู้ว่าแย่ ผมถึงได้เชิญคุณมานี่ไง

คุณไม่เคยบอกเหรอว่ามียาวิเศษที่สามารถรักษาได้? รีบเอามาใช้สิ”

หมอโจวรีบแก้คำพูด “นั่นไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาสูตรของผมที่ใช้รักษาอาการหมดสติ หลอดเลือดสมองแตก ช็อก และอาการบาดเจ็บทางสมอง

แม้ว่ามันจะช่วยยื้ออาการได้ แต่คนไข้ในสภาพนี้ก็อยู่ได้อีกแค่วันสองวันเท่านั้น”

ชายหนุ่มทำหน้ารำคาญ “พูดมากจริง รีบใช้ยาซะที

คุณคิดว่าผมไม่มีปัญญาจ่ายค่ารักษาหรือไง?”

หมอโจวถอนหายใจ หยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกจากกระเป๋า เปิดออกมาเห็นลูกกลมๆ เคลือบขี้ผึ้งอยู่ข้างใน

เขาบีบเอาขี้ผึ้งออก แล้วหยิบเม็ดยาสีดำข้างในออกมา

เขาค่อยๆ ยัดใส่ปากตาของเจิ้นซูซู แล้วเปิดขวดน้ำขึ้นมาป้อนน้ำตามไป

หมอโจวหันไปหาชายหนุ่มแล้วพูดว่า “เสร็จแล้ว”

ชายหนุ่มก็ถอนหายใจโล่งอก “ขอบคุณมาก!”

หมอโจวไม่ตอบอะไร แต่ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองยาที่อยู่ในมือของเจิ้นซูซูแล้วถามว่า “นี่มันยาอะไร?”

เจิ้นซูซูตอบ “ยาชิงเฟ่ยจี๋เยวี่ยหวาน ใช้รักษาอัมพาตที่เกิดจากเลือดออกในสมอง”

หมอโจวขมวดคิ้ว “อะไรนะ ชิงเฟ่ยจี๋เยวี่ยหวาน?

อาการคนไข้ตอนนี้รุนแรงมาก อย่าให้กินยามั่วๆ”

พูดจบเขาก็คว้ายาในมือเจิ้นซูซูแล้วโยนทิ้งถังขยะทันที

เห็นการกระทำของหมอโจว จางเยว่ก็โกรธขึ้นมาในทันที

ถึงแม้ว่าคุณจะมารักษาคนก็เถอะ แต่รักษาก็ส่วนรักษา ทำไมต้องมาโยนยาของผมด้วย?

เขากำลังจะพูด แต่ฟางฉางฟู่ก็ถามชายหนุ่มขึ้นมาเสียก่อน

“เดี๋ยว นายเป็นใครน่ะ? ฉันไม่รู้จักนายเลย”

ทันทีที่เขาพูด ทุกคนรวมถึงจางเยว่ก็มึนงงไปหมด

ตอนที่ชายหนุ่มคนนี้บุกเข้ามา ทุกคนคิดว่าเขาน่าจะเป็นหลานของชายชราหรือไม่ก็ลูกเขย

แต่ตอนนี้...

ชายหนุ่มพูดทันทีว่า “สวัสดีครับน้า ผมชื่อสือเฉินเฟย เป็นแฟนของเจิ้นซูซูครับ”

ฟางฉางฟู่ถึงกับอึ้งไป มองไปที่เจิ้นซูซูด้วยความงุนงง

เจิ้นซูซูก็เช่นกัน เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัย “คุณคงจะจำคนผิดแล้วล่ะ? ฉันรู้จักคุณด้วยเหรอ?”

สือเฉินเฟยมองเจิ้นซูซูอยู่นาน ก่อนจะตบหน้าผากตัวเอง “เจิ้นซูซู? จริงๆ ด้วย เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เจิ้นซูซูถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว “คุณเป็นใครกันแน่?”

“เธอลืมไปแล้วเหรอ เราสองคนเคยเป็นเพื่อนสมัยอนุบาล เล่นด้วยกันบ่อยๆ

ตอนนั้นเธอยังเคยบอกด้วยว่าโตขึ้นจะมาแต่งงานกับฉัน

และตอนนั้นฉันก็ตั้งใจว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องมาแต่งกับเธอให้ได้

ตอนนี้ฉันมาหาเธอแล้ว”

จางเยว่มองผู้ชายที่บอกว่าชื่อสือเฉินเฟยด้วยสีหน้าแปลกๆ

เพื่อนสมัยอนุบาล? ตอนนี้วิ่งมาคุยเรื่องแต่งงาน?

เป็นบ้ารึเปล่าเนี่ย?

ทำไมไม่บอกไปเลยว่าพ่อของนายทำสัญญาหมั้นหมายให้ตั้งแต่ก่อนนายเกิดเสียอีก!

เจิ้นซูซูมองไปที่จางเยว่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“คุณสือ... ขอโทษนะคะ กรุณาระวังคำพูดของคุณด้วย และที่สำคัญฉันมีแฟนแล้วค่ะ”

พูดจบเธอก็ดึงจางเยว่เข้ามาใกล้ “ดังนั้น ได้โปรดออกไปด้วยค่ะ!”

เมื่อเจิ้นซูซูพูดแบบนี้ จางเยว่ก็ตกใจไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

“ใช่แล้ว ฉันเป็นแฟนของซูซู นายไปเถอะ!”

สือเฉินเฟยถึงกับไม่อยากจะเชื่อ “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้แน่!

ซูซูไม่มีแฟนแน่ๆ พวกเธอแกล้งทำกันแน่ๆ”

จางเยว่ไม่สนใจเขาอีก แต่หันไปถามหมอโจวแทน

“ค่ารักษาเท่าไหร่ เดี๋ยวฉันจ่ายเอง?”

หมอโจวมองสลับระหว่างสือเฉินเฟยกับจางเยว่ ทำท่าลังเลอยู่สักครู่

จางเยว่พูดว่า “ถ้าไม่อยากรับเงินก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการรักษาฟรีแล้วกัน”

ตั้งแต่ที่รู้ว่าจางเยว่เป็นแฟนของเจิ้นซูซู สือเฉินเฟยก็ดูเหมือนจะนิ่งอึ้งไป ไม่ได้สนใจหมอโจวที่หันมาหาเขาเลย

หมอโจวถอนหายใจแล้วกัดฟันพูดว่า “ถ้าคุณจะจ่ายก็ดี ให้ 7,800 หยวนแล้วกัน!”

ทันทีที่เขาพูด ฟางฉางฟู่ก็อุทานขึ้นว่า “อะไรนะ 7,800 หยวน! นี่มันรีดไถชัดๆ!”

แต่จางเยว่กลับส่ายหัว “ยากลุ่มอันกงหนิวหวงที่ปรุงแบบโบราณ ราคาขายเม็ดละ 7,800 หยวน ถือว่าไม่แพงเลย”

พูดจบ เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาเตรียมโอนเงิน

หมอโจวมองจางเยว่ด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ

“เดี๋ยว คุณรู้ได้ยังไงว่ายาที่ผมใช้เมื่อกี้คืออันกงหนิวหวง แถมยังเป็นสูตรโบราณอีก?”

ตลอดมาหมอโจวไม่เคยบอกชื่อยาที่ใช้เลย

ไม่ใช่เพราะเขาต้องการทำตัวลึกลับ

แต่เพราะยากลุ่มอันกงหนิวหวงที่ใช้รักษาอาการช็อก หลอดเลือดแตก และโรคลมชักนั้น วัตถุดิบดั้งเดิมของมันคือหนิวหวง (ดีวัว) จากธรรมชาติ และเขาใช้เขาแรดแทนเขาวัว

แต่ดีวัวจากธรรมชาตินั้นหายากมาก และแรดก็เป็นสัตว์คุ้มครองที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว

การใช้เขาแรดเป็นส่วนผสมในการปรุงยานั้นถูกสั่งห้ามอย่างชัดเจนในปัจจุบัน ถ้าถูกพบก็จะโดนจับอย่างแน่นอน

ดังนั้น ยากลุ่มอันกงหนิวหวงที่มีอยู่ในท้องตลาดจึงใช้ดีวัวเทียมแทนดีวัวธรรมชาติ และใช้เขาควายน้ำเข้มข้นแทนเขาแรด

แต่ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพ ดีวัวเทียมและเขาควายน้ำก็ยังด้อยกว่ามาก

เขาจึงเสี่ยงปรุงสูตรยาโบราณขึ้นมาใหม่ ซึ่งยานี้เขาไม่เคยนำออกมาใช้บ่อยๆ ยกเว้นในกรณีลูกค้ารายใหญ่เช่นสือเฉินเฟย

และนี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหมอโจว เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามักจะแสดงฝีมือการรักษาที่สูงส่งในขณะที่แพทย์คนอื่นไม่สามารถทำอะไรได้

แต่ว่า...

จางเยว่ยิ้มแล้วพูดว่า “ง่ายมาก ฉันก็เรียนแพทย์มา และมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับยาแต่ละชนิด

บางอย่างที่นายคิดว่าลึกลับ สำหรับคนที่เชี่ยวชาญแล้วมันก็ง่ายเหมือนกับกินข้าวดื่มน้ำ

ดังนั้น อย่าประมาทในหมู่ผู้มีความสามารถเลย”

“ฉัน...”

จางเยว่ไม่สนใจเขาอีก เขาโอนเงินแล้วหันไปหาสือเฉินเฟย

“คุณสือ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ขอบคุณที่มาช่วยตานะครับ

แต่ตอนนี้ที่นี่ไม่ค่อยสะดวก กรุณากลับไปเถอะครับ!”

หลังจากที่ได้ยินเจิ้นซูซูยืนยันว่าจางเยว่เป็นแฟนของเธอ สือเฉินเฟยก็ยืนอึ้งไปเลย

เขามองจางเยว่ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ถึงแม้ว่าซูซูจะเลือกนายแล้ว แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้แน่ เรามาคอยดูกันเถอะ”

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด