ตอนที่แล้วบทที่​ 27 : ปราบปรามผู้อาวุโสแห่งนิกายหลางหยาเทียนจง​ด้วยฝ่ามือเดียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่​ 29 : ผู้​อาวุโส​สูงสุด​ของนิกา​ยหลางหยาเทียนจง

บทที่​ 28 : มุ่งสู่​นิกาย​หลางหยาเทียนจง


บทที่ 28 : มุ่งสู่​นิกาย​หลางหยาเทียนจง

ลู่ชิงซวนยิ้มอยู่ในใจเมื่อเห็นภารกิจที่ระบบมอบให้

มันคือสิ่งที่ใจเขาต้องการ และระบบก็มอบภารกิจ​ให้พอดี!

ทันใดนั้น, สายตาของเขาหันไปตกที่ลู่เทียนหมิง

"ข้าต้องการไปนิกายหลางหยาเทียนจง เจ้าเต็มใจไปกับข้าไหม"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่เทียนหมิงก็ตกตะลึง

เขาไม่คาดคิดว่าผู้​นำตระกูล​ของเขาจะขอให้เขาติดตามกลับไปที่นิกาย

แน่นอนว่าเขาเดาได้ว่าลู่ชิงซวนกำลังจะทำอะไรเมื่อไปนิกายหลางหยาเทียนจง

อย่างไร​ก็ตาม, เมื่อนึกถึงการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งอันลึกลับของลู่ชิงซวนเมื่อครู่

เขาก็เชื่อว่านิกายหลางหยาเทียนจงจะไม่สามารถทำอะไรผู้​นำตระกูล​ของเขาได้

หลังจากลังเลเพียงครู่หนึ่ง ลู่เทียนหมิงก็กำหมัดทันทีและพูดว่า

"เทียนหมิงเต็มใจไป!"

ลู่ชิงซวนพยักหน้าเล็กน้อย เขาบอกผู้อาวุโสใหญ่สองสามคำ, จากนั้นจึงพาลู่เทียนหมิงมุ่งหน้าไปยังทิศทางของนิกายหลางหยาเทียนจง

กว่าครึ่งวันต่อมา

ณ นิกายหลางหยาเทียนจง

ที่นอกประตูภูเขา

ศิษย์หลายคนที่ประจำการอยู่นอกประตูภูเขา ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นร่างสองร่างพุ่งเข้ามา

เมื่อพวกเขามองดูอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็เห็นชายหนุ่มรูปงามในชุดคลุมสีม่วงที่ดูแปลกตา พร้อมกับออร่าที่ไม่ธรรมดาอยู่เบื้องหน้า

และเมื่อพวกเขามองไปที่ชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ด้านหลัง ดวงตาของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง

"เฮ้ นั่นไม่ใช่ลู่เทียนหมิงที่นิกายกำลังตามหาตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ?"

สำหรับชื่อของลู่เทียนหมิง เขาเป็นคนทรยศที่ชั่วร้ายในนิกายหลางหยาเทียนจง

ไม่นานมานี้ นิกายได้ขึ้นบัญชีลู่เทียนหมิงเป็นคนทรยศอันดับหนึ่งของนิกาย หากศิษย์คนใดสามารถจับกุมเขาและนำเขากลับมายังนิกายได้ เขาจะได้รับรางวัลมากมาย

พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นลู่เทียนหมิงกลับมายังนิกายหลางหยาเทียนจงด้วยตาของตนเองในขณะนี้ ซึ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจ

ขณะที่ศิษย์ทุกคนกำลังสับสน ลู่ชิงซวนก็รีบไปที่ประตูภูเขาและยืนอยู่บนท้องฟ้า

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ศิษย์ที่ประจำการอยู่ที่นั่นกำลังจะพูดอะไร

พวกเขาก็เห็นฉากที่น่าตกใจในทันที​

เมื่อลู่ชิงซวนโบกแขนเสื้อ…ยานเหาะสีเงินก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเเล้วบดขยี้ไปยังค่ายกลป้องกันภูเขาของนิกายหลางหยาเทียนจงในทันที

ตูม!

ในชั่วพริบตา ค่ายกลป้องกันภูเขาก็แตกออกเหมือนแจกันกระเบื้อง แล้วระเบิดขึ้นในความว่างเปล่า

ศิษย์เหล่านั้นที่ประจำการอยู่นอกประตูไม่มีแม้แต่เวลาที่จะตอบสนอง

ทันใดนั้น​พวกเขาก็ได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากอันน่าสะพรึงกลัว และลอยถอยหลัง ราวกับใบไม้ร่วงที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

สิ่งที่ลู่ชิงซวนใช้คือ กระสวยทำลายสวรรค์ ซึ่งเป็นสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ชั้นสูงสุดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อทำลายค่ายกลขนาดใหญ่…พลังของมันไม่ธรรมดาเเม้เเต่น้อย

ในขณะที่ค่ายกลของนิกายหลางหยาเทียนจงแตกสลาย เสียงโกรธแค้นหลายเสียงก็ดังขึ้นภายในนิกาย

"ฮึ่ม! ใครมันบังอาจ!"

"กล้าทำลายค่ายกลของนิกายข้า เจ้าหาเรื่องตายหรืออย่างไร!"

ในชั่วพริบตา มันก็มีร่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าจากนิกายหลางหยาเทียนจงทีละคน

สีหน้าของพวกเขามืดมนอย่างยิ่ง และสายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ลู่ชิงซวนนอกประตูภูเขา

"ผู้​นำตระกูลลู่ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร"

ทันใดนั้น พร้อมกับเสียงทุ้มต่ำแห่งการตั้งคำถาม

ทุกคน​ก็เห็นร่างกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาจากส่วนลึกของนิกายหลางหยาเทียนจง

ผู้นำคือชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมลึกลับที่มีผมสีเทาประปรายปรากฏอยู่ที่ขมับของเขา

เขาคือ ซ่งหยาน เจ้าสำนักของนิกายหลางหยาเทียนจง

เบื้องหลังเขาคือกลุ่มผู้อาวุโสและศิษย์อีกหลายคน

ในขณะนี้ เมื่อพวกเขามองไปที่ลู่ชิงซวน แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว

พวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร หากอีกฝ่ายกล้าทำลายค่ายกลป้องกันภูเขาของพวกเขาอย่างโจ่งแจ้ง?

ซ่งหยานมองลู่เทียนหมิงก่อน และเลิกคิ้วเล็กน้อย

จากนั้น, สายตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวของเขาก็จับจ้องไปที่ลู่ชิงซวน

สำหรับผู้​นำตระกูล​คนใหม่ของคฤหาสน์ราชาลู่ แน่นอนว่าเขาจดจำ​ตัวตนของบุคคลผู้นั้นได้อย่างรวดเร็ว

ในราชวงศ์เทียนหยุน แม้แต่นิกายหลางหยาเทียนจง ก็ต้องให้เกียรติบุคคลที่มีสถานะเช่นนี้

เพราะเมื่อเทียบกับราชวงศ์เทียนหยุน, นิกายหลางหยาเทียนจงของพวกเขาไม่ได้มีค่าอะไรเลย

…..

ลู่เทียนหมิงมีแววตาหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้อาวุโสของนิกายหลางหยาเทียนจงปรากฏตัว

แต่เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งอันลึกลับของลู่ชิงซวนก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกมั่นใจในทันที

ณ ขณะนี้…ลู่ชิงซวนเหลือบมองซ่งหยานและคนอื่นๆและพูดอย่างเฉยชา

"ถึงเวลาที่นิกายหลางหยาเทียนจงของพวกเจ้าต้องชดใช้หนี้แล้ว!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ศิษย์ส่วนใหญ่ของนิกายหลางหยาเทียนจงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย, มีเพียงตัวละครบางตัวที่รู้ความหมายของคำพูดเหล่านี้ เเละอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้า

ซ่งหยานเองก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เขาจ้องมองลู่ชิงซวนด้วยแววตาเป็นประกายลึกล้ำ​

ส่วนหนี้ที่ต้องชดใช้ แน่นอนว่าเขาในฐานะเจ้าสำนักรู้ดี

เพราะเขาเป็นคนสั่งฆ่าทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่เมื่อครั้งที่กำลังแย่งชิงโอกาสในต่างแดน

ทันใดนั้น​ที่เบื้องหลังซ่งหยาน

ผู้อาวุโสเก้าที่ใจร้อนก็ลุกขึ้นยืนโดยตรง แล้วพูดอย่างเย็นชา

"ผู้​นำตระกูล​ลู่ ท่านกำลังยั่วยุนิกายหลางหยาเทียนจงของเรางั้นหรือ?"

"ท่านกล้าทำลายค่ายกลและสังหารศิษย์ของนิกายข้า งั้นก็อย่าโทษนิกายของข้าที่ไม่ให้เกียรติราชวงศ์เทียนหยุน"

"ถ้าวันนี้พวกท่านไม่ให้คำอธิบายกับนิกายของเรา..."

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้อาวุโสเก้าจะพูดจบ…ลู่ชิงซวนก็ลงมือแล้ว

เขายกมือขวาขึ้น ใช้นิ้วทั้งห้ารวมกัน และฟาดฟันในอากาศ

ตูม!

นิ้วดาบหยวนชิงที่ก่อตัวขึ้นจากพลังงานและฟาดฟันไปที่ผู้อาวุโสเก้า

ก่อนที่ผู้อาวุโสเก้าจะตอบสนองได้ ร่างกายของเขาก็แยกออกเป็นสองซีกพร้อมโลหิตที่สาดกระเซ็นสู่ความว่างเปล่า

ฉากนี้ทำให้ซ่งหยานและผู้อาวุโสคนอื่นๆ มองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ลู่ชิงซวนช่างหยิ่งยโสนัก เขาถึงกับกล้าสังหารผู้อาวุโสอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่เก้า ต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด

ศิษย์นิกายหลางหยาเทียนจงคนอื่นๆต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัว

พวกเขามองไปที่ลู่ชิงซวนด้วยความหวาดผวา ชายคนนี้กล้าฆ่าผู้อาวุโสของนิกายอย่างโจ่งแจ้ง เขาไม่ต่างอะไรกับปีศาจ

"รนหาที่ตาย!"

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสหกผู้อยู่ในอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่สามก็คำรามด้วยความโกรธ

เขาถือหอกมังกรเงินไว้ในมือ ในพริบตาเขาก็บินไปเบื้องหน้าลู่ชิงซวนและแทงหอกออกไป

ตูม!

เงาหอกที่ราวกับภูเขานับพันซ้อนทับกันก็พุ่งทะลุเข้าหาลู่ชิงซวนอย่างรวดเร็ว​

ความว่างเปล่าระเบิด ก่อเกิดความปั่นป่วนที่บดขยี้ท้องฟ้า

ลมหายใจของทุกคนหยุดนิ่งเมื่อเห็นฉากนี้

เเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ลู่ชิงซวนก็ยกมือขึ้นและกดลงไปในความว่างเปล่า​

ทันใดนั้น, ปลายหอกก็ดูเหมือนจะแข็งค้างเเละไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้

เมื่อผู้อาวุโสหกเห็นเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง และเกิดคำถามขึ้นในใจ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะตอบสนองได้ พลังที่แข็งแกร่งราวกับภูเขาก็รามมาจากหอก ซึ่งทำให้เขาชาวาบ และจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงคลิก…นิ้วทั้งห้าของเขาก็หักสะบั้น

ฉวยโอกาสนี้ ลู่ชิงซวนก็คว้าหอกมังกรเงินด้วยมือใหญ่

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้อาวุโสหกก็หวาดกลัวเเล้วถอยหนีเหมือนสายฟ้า

"ตาย!"

ลู่ชิงซวนตะโกนเบา ๆ พลิกปลายหอกในมือ และโยนขึ้นไปในอากาศ

ตูม!

หอกนั้นทะลุผ่านความว่างเปล่า, แทงทะลุร่างของผู้อาวุโสหกอย่างรุนเเรงจนร่างกายผู้อาวุโสหกระเบิด

วูบ!

ในขณะเดียวกัน แสงสีดำก็ปรากฏขึ้นจากหมอกโลหิต เผยให้เห็นวิญญาณของผู้อาวุโสหก

ผู้อาวุโสหกที่ฟื้นคืนวิญญาณ เต็มไปด้วยความรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งเดินผ่านประตูนรกมา

ลู่เทียนหมิงดูตื่นเต้นกับฉากนี้อย่างมาก และสายตาที่มองไปที่ลู่ชิงซวนก็เต็มไปด้วยความชื่นชม

เขาไม่คาดคิดว่าความแข็งแกร่งของผู้​นำตระกูล​ของเขาจะน่ากลัวขนาดนี้!

เเต่สำหรับ​ทุกคนในนิกายหลางหยาเทียนจง พวกเขา​ต่างตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

ใบหน้าของพวกเขามีทั้งความตกใจ, ความโกรธ, และความหวาดกลัว

ผู้อาวุโสอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่สามไม่สามารถต้านทานลู่ชิงซวนได้เเม้เเต่น้อย!?

นี่มันน่ากลัวเกินไปเเล้ว!

เเละก่อนที่ซ่งหยานและผู้อาวุโสคนอื่นๆจะได้ตอบสนอง ผู้อาวุโสหกก็ถูกแทงจนร่างระเบิดโดยลู่ชิงซวน

ลู่ชิงซวนมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวแบบใด ถึงสามารถทำเช่นนี้ได้?

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ลู่ชิงซวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

"หืม…เขายังไม่ตาย!"

เมื่อเห็นวิญญาณที่กำลังจะหลบหนี ลู่ชิงซวนก็เลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือขึ้นและชี้ไปยังวิญญาณนั้นอีกครั้ง

"เจ้าสำนัก ช่วยข้าด้วย!!!"

ผู้อาวุโสหกดูหวาดกลัวถึงกับกรีดร้อง…ตอนนี้พลังวิญญาณของเขาราวกับกำลังลุกไหม้ จนเขาจำต้องหันหลังกลับและวิ่งหนี!

เมื่อเผชิญหน้ากับลู่ชิงซวนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ เขาไม่มีความกล้าที่จะต่อกรกับอีกฝ่ายอีกต่อไป

เมื่อเห็นฉากนี้ ซ่งหยานก็ตะโกนก้อง

"ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสสาม ลงมือพร้อมกัน!"

ทันทีที่คำพูดของเขาหลุดออกมา เขาก็ยื่นมือออกไป และเป็นผู้นำในการฟาดฝ่ามือออกไปจากระยะไกล

ตูม!

ฝ่ามือขนาดประมาณสิบฟุตปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าพร้อมพลังอันมหาศาล

ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของลู่ชิงซวน แต่เขาก็ยังรู้ว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน

เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์​พลิกผัน​ เขาสั่งให้ผู้อาวุโสทั้งสองลงมือพร้อมกันทันที

หลังจากได้รับคำสั่ง ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามก็ลงมือพร้อมกัน

"ฟาดฟัน!"

ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนอย่างรวดเร็ว

ดาบสีเขียวขนาดสามฟุตอยู่ในมือของเขา ฟาดฟันออกไป…ปราณดาบทะลุผ่านความว่างเปล่าด้วยรัศมีสังหารอันน่าสะพรึงกลัว

ในขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสสามก็ชกออกไปอย่างดุเดือด

เงาหมัดที่เหมือนกับวังวนพายุฝนฟ้าคะนอง…เต็มไปด้วยพลังสายฟ้าอันแผดเผาก็บดขยี้ความว่างเปล่าทันที​

ผู้แข็งแกร่งแห่งอาณาจักรวังวิญญาณขั้นปลายทั้งสามร่วมมือกัน…พลังนั้นช่างน่า​สะพรึงกลัว​สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนในนิกายหลางหยาเทียนจงก็จ้องมองไปเพื่อดูละครฉากใหญ่

พวกเขาต้องการดูว่าลู่ชิงซวนจะเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีที่ทรงพลัง​เช่นนี้ได้อย่างไร

จากระยะไกล สีหน้าของลู่เทียนหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเห็นแล้วว่าซ่งหยานและคนอื่นๆ ตระหนักถึงพลังของผู้​นำตระกูล​…พวกเขาจึงลงมือพร้อมกันในทันที

คนที่มีพลังมากที่สุดสามคนจากนิกายหลางหยาเทียนจงลงมือพร้อมกัน…สามารถจินตนาการได้ว่าระดับพลังของการโจมตี​นี้จะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

สิ่งนี้ทำให้ลู่เทียนหมิงอดกังวลไม่ได้

เเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีและสกัดกั้นโดยซ่งหยานและคนอื่นๆ ลู่ชิงซวนก็ดูเฉยชาเหมือนปกติ

"ไม่มีใครในโลกนี้หยุดคนที่ข้าต้องการฆ่าได้!"

เสียงยังคงสั่นสะเทือนในความว่างเปล่า ร่างของเขาแผ่ขยายไปทั่วท้องฟ้า และระดับการฝึกฝนของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเงียบ ๆ

………………………

4 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด