ตอนที่ 52 พ่อที่เขียนนิยายผี
สุภาษิตกล่าวไว้ว่าสิ่งที่ไม่จริง ย่อมไม่กลายเป็นจริง สิ่งที่จริงย่อมไม่กลายเป็นเท็จ
ถ้าพี่เฉินไม่ได้เจออะไร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะถูกส่งไปที่ถนนปรโลก
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ แต่เธอยังไม่รู้ตัว
เจียงเย่ได้ยินน้ำเสียงของพี่เฉินเปลี่ยนไป เขาก็ยังพูดอย่างใจเย็น "พี่เฉิน ไม่ต้องรีบเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง อย่าลืมโทรหาผมคืนนี้นะ วันนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเสียชีวิต คิดดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม"
"สุดท้าย ฝากลูกไว้กับญาติ อย่าพาเธอออกไปตอนกลางคืน ถ้าเจอเรื่องแบบเดียวกับเมื่อวานเช้า คงจะแย่"
พี่เฉินไม่ได้ปฏิเสธ แต่รีบวางสาย
เจียงเย่วางโทรศัพท์ ไม่ได้คิดมาก เพราะว่าเขาก็คิดไม่ออก
เวลาผ่านไปทีละชั่วโมง กลางวันเข้ามาแทนที่ความมืด แสงสว่างส่องทั่วผืนโลก
ถ้าตอนกลางวันยังมืด ก็คงเป็นเพราะจิตใจของคน
พอกลางคืนมาถึง เจียงเย่ก็เตรียมตัวถ่ายทอดสด
เขายืดเส้นยืดสาย แล้วก็นั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ บางที เขาอาจจะรวยเกินไป คืนนี้ เขาก็เลยชงชา
เจียงเย่จิบชา ลิ้มรสความหวาน แล้วก็เริ่มถ่ายทอดสด
"ผู้ดำเนินรายการมาแล้ว ดูสิ ห้องถ่ายทอดสดของเรามีคนดู 80,000 คน!"
"ถึงแม้ว่าห้องถ่ายทอดสดของเราจะเทียบกับแพลตฟอร์มที่มีคนดูเป็นล้านๆ ไม่ได้ แต่ผู้ดำเนินรายการก็ควรจะคิดเรื่องขยายฐานคนดูนะ"
"ใช่ ช่องทางเข้ามาในห้องถ่ายทอดสดของเรา มันยากเกินไป หาในเน็ตก็ไม่เจอ ไม่มีลิงก์!"
เจียงเย่อธิบายด้วยรอยยิ้ม "ถ้าอยากเข้ามาที่ห้องถ่ายทอดสดของเรา มีทางลับ ลองหาคีย์เวิร์ด เช่น เรื่องเหนือธรรมชาติ ทางเข้าก็จะปรากฏขึ้น"
"แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะ ห้องถ่ายทอดสดของเราเจ๋งขนาดนี้ แต่คนดูก็ไม่เพิ่ม"
"แบบนี้ คนดู 80,000 คน ก็เยอะแล้ว"
"อ้อ บอกทุกคนหน่อย ถ้าหาชื่อของผมในเว็บไซต์ ก็สามารถเข้ามาที่ห้องถ่ายทอดสดของผมได้"
เจียงเย่พูดติดตลก ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดก็ลองทำดู ปรากฏว่าทำได้จริงๆ!
แต่ตอนที่ผู้ชมกำลังหัวเราะกันอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"ติ๊ด.. ติ๊ด.."
เจียงเย่มองดูเบอร์โทรศัพท์ เป็นเบอร์ของพี่เฉิน เขาก็เลยพูดกับผู้ชม "หลังจากที่ออฟไลน์เมื่อเช้า ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่เฉิน ตอนนี้ เธอโทรมาอีก เรามาฟังเรื่องราวของเธอdyoดีกว่า"
"จริงเหรอ? ดีจัง.. ฉันยังเป็นห่วงพี่สาวคนนั้น กลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย!"
"ผู้ดำเนินรายการ รีบรับสาย อย่าให้พี่สาวคนนั้นรอนาน!"
เจียงเย่รับสาย แต่พอรับสาย ก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิง
"สวัสดีค่ะ คุณน้า? หนูชื่อเฉินเฉิน เป็นลูกสาวของคุณแม่"
เจียงเย่ตกตะลึงตอนได้ยินเสียงปลายสาย เขาอยากจะตะโกนว่า ฉันรู้อยู๋แล้วว่าเธอเป็นลูกสาวของแม่!
"สวัสดีเฉินเฉิน ทำไมหนูถึงโทรมาแทนละ? แม่ของหนูอยู่ไหน?"
"ชู่ว..คุณน้า หนูอยู่ในห้องน้ำ ตอนนี้ แม่กำลังนอนหลับ ยังไม่ตื่นเลย หนูได้ยินที่น้าคุยกับแม่เมื่อเช้า"
เจียงเย่เข้าใจก็เลยยิ้ม "โอเค เฉินเฉิน หนูต้องมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกลุงใช่ไหม? เรื่องที่แม่ของหนูไม่ยอมบอก"
"ใช่ค่ะ มีคนคนหนึ่งที่แม่ไม่ยอมบอกใคร วันนี้ หนูได้ยินที่น้าถามแม่ หนูบอกน้าได้เลยว่าพ่อของหนูเสียชีวิตปีที่แล้ว"
น้ำเสียงของเฉินเฉินดูเฉยชา แต่สำหรับเด็กประถม ความสงบแบบนี้ ทำให้คนอื่นคิดว่าเธอแกล้งทำเป็นเข้มแข็ง
ความคิดของเด็กสมัยนี้ซับซ้อนกว่าคนสมัยก่อน
เจียงเย่เงียบไป 1-2 วินาที "หลังจากที่พ่อของหนูเสียชีวิต หนูเคยเห็นเขาไหม? พ่อของหนูเสียชีวิตยังไง? ประสบอุบัติเหตุเหรอ?"
"หนูไม่รู้ว่าพ่อขึ้นสวรรค์ยังไง ตอนแรกแม่โกหกหนู แต่หนูอายุ 8 ขวบแล้ว ทำไมหนูจะไม่รู้ละคะว่าพ่อไปที่ไกลแสนไกล? อ้อ ลืมบอกน้า พ่อของหนูเป็นนักเขียน!"
"โอ้? พ่อของหนูเก่งจังเลย เขาเขียนผลงานดังๆ ไว้เยอะเลยใช่ไหม?"
เจียงเย่เป็นแบบนี้เสมอ พอคุยกับเขาก็จะคุยเรื่องอื่น ไม่สนใจว่ากำลังถ่ายทอดสด มีผู้ชมรอฟังข้อมูลที่น่าสนใจ
"อืม.. หนูไม่รู้ว่าผลงานของพ่อดังหรือเปล่า แต่ผลงานของพ่อมักจะปรากฏในนิตยสาร มีนิทานที่พ่อเขียน แต่หนูไม่กล้าอ่าน เพราะว่า.. พ่อเขียน.. เรื่องผี!"
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้ตกใจ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้น
เรื่องนี้ มีนักเขียนนิยายผีมาเกี่ยวข้องด้วย?
"แบบนี้นี่เอง เฉินเฉิน แม่ของหนูตื่นหรือยัง? เอาโทรศัพท์ให้แม่ เดี๋ยวน้าจะคุยกับแม่"
"รอก่อนค่ะ หนูยังพูดไม่จบ พ่อของหนูหายไป หนูถามแม่หลายครั้งว่าทำไมพ่อถึงจากไป? แม่ไม่ยอมบอก แต่หลังจากนั้น ในกระเป๋าของหนูก็มักจะมีกระดาษ"
เฉินเฉินรีบพูด เจียงเย่ได้ยินแบบนั้นก็หรี่ตา "กระดาษแบบไหน?"
"มีเรื่องราวมากมายเขียนไว้บนกระดาษ ทุกเรื่องจะสั้นมาก แต่หนูยังอ่านบางคำไม่ออกเลย แต่มีบางเรื่องที่หนูเข้าใจ เรื่องพวกนั้น.. น่ากลัวมาก!"
ปล.ฟรีให้อีกตอน