ตอนที่ 370 ตัวตนของ เย่เฉิน ถูกเปิดเผย
“ไม่มีปัญหา”
ชายชราตระกูลซู พยักหน้า
เมื่อตกลงกับตระกูลหนิงแล้ว การตกลงกับอีกสองตระกูลนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลหนิงยอมสละผลประโยชน์จำนวนมากให้กับตระกูลซูของพวกเขา
แล้วตระกูลอื่นๆ จะยอมสละแค่ไหน?
แม้ว่าทั้งสองตระกูลนี้จะไม่ได้สละผลประโยชน์มากเท่าตระกูลหนิงก็ตาม..จากความร่วมมือนี้
แต่การได้ร่วมมือกับพวกเขาก็เป็นการเพิ่มพันธมิตรให้กับตระกูลซู และขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ของตระกูล
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้
จากนั้น ตัวแทนจากทั้งสองตระกูลก็ได้หารือกับชายชราตระกูลซู และซู หนิงซวง เกี่ยวกับรายละเอียดของการร่วมมือ
ยิ่งชายชราตระกูลซู ฟังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้น และยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าทั้งสองตระกูลนี้ก็ยอมสละผลประโยชน์ส่วนใหญ่เช่นกัน
โดยเฉพาะตระกูลเหยียน ที่เสนอผลประโยชน์กว่า สามหมื่นล้านหยวน ซึ่งคล้ายกับที่ตระกูลหนิงเสนอ
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ตระกูลถัง ความร่วมมือกับตระกูลถังอาจทำให้ตระกูลซูได้รับกำไรถึงสี่หมื่นล้าน มากกว่าตระกูลหนิง และตระกูลเหยียน เสียอีก!
มากกว่าทั้งตระกูลหนิง และตระกูลเหยียน!
อันที่จริง.. แล้ว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้
เนื่องจากตระกูลเหยียนและตระกูลหนิงเป็นตระกูลใหญ่ มีสมาชิกภายในตระกูลมากมาย
ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าตระกูล ก็ไม่สามารถดึงเงินทุนจำนวนมากออกมาได้ในคราวเดียว ไม่เช่นนั้น ‘ตระกูล’ ก็คงจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
แต่สำหรับ ถัง เจิ้นซาน นั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน และทรัพย์สินทั้งหมดของเขาก็อยู่ภายใต้การตัดสินใจของเขาเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ถัง เจิ้นซาน รู้จัก เย่เฉิน ช้ากว่าคนอื่น เขายังหวังให้ เย่เฉิน ช่วยเขาให้ได้บัตร First Royale MasterCard ของธนาคารแห่งแรกของประเทศน้ำมัน
ดังนั้น เขาจึงยินดีที่จะให้ผลประโยชน์มากกว่าใครๆ
ในท้ายที่สุด ซู หนิงซวง และชายชราตระกูลซูก็บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับทั้งสองตระกูล
“รบกวนฝากคำขอบคุณจากฉันไปยัง ประธานถัง และหัวหน้าตระกูลเหยียนด้วยนะ”
ชายชราตระกูลซู พูดขึ้นอย่างสุภาพอย่างยิ่งว่า :
“ช่วงปีใหม่ ฉันจะไปเยี่ยมพวกเขาด้วยตนเอง”
“ท่านหัวหน้าตระกูลซู ลำบากท่านแล้ว”
ตัวแทนจากตระกูลถัง และตระกูลเหยียนตอบรับอย่างสุภาพเช่นกัน
เมื่อทุกคนเห็นการร่วมมือครั้งนี้ พวกเขาต่างสงสัยว่าเหตุใดตระกูลใหญ่ทั้งสามถึงมาเข้าหาตระกูลซูพร้อมกันแบบนี้?
ซู หนิงซวง ทำอะไรลงไปกันแน่ เหตุใดตระกูลใหญ่ทั้งสามถึงให้ความสำคัญขนาดนี้ได้กัน?
หลังจากที่ทั้งสองตระกูลเจรจาเสร็จ ตัวแทนจากตระกูลถัง และตระกูลเหยียน ไม่ได้จากไปในทันที ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองของทุกคน พวกเขากลับเดินตรงเข้าไปหา เย่เฉิน
เมื่อพวกเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า เย่เฉิน
ทุกคนในที่นั้นต่างประหลาดใจ ..พวกเขามาหาลูกเขยของบ้านสามทำไมกัน?
“สวัสดีครับ ท่านเย่”
ตัวแทนจากตระกูลถังโค้งคำนับทักทาย เย่เฉิน อย่างนอบน้อม
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนในห้องต่างขมวดคิ้ว ทำไมตัวแทนจากตระกูลถังถึงแสดงท่าทีเคารพ เย่เฉิน มากกว่าชายชราตระกูลซู เสียอีก?
เย่เฉิน พยักหน้าตอบรับ
“สวัสดี”
“ท่านเย่ ผมมาในนามตัวแทนหัวหน้าตระกูลเพื่อส่งความระลึกถึงท่าน…”
ตัวแทนจากตระกูลเหยียน ก็พูดเช่นกัน :
“ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ตระกูลเรามีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ หัวหน้าตระกูลจึงไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้”
ตัวแทนจากตระกูลเหยียน อธิบายว่า :
“แต่ท่านสัญญาว่าในช่วงปีใหม่ ท่านจะมาเยี่ยม ท่านเย่ ด้วยตนเองเพื่อแสดงความขอบคุณ”
อะไรนะ?
คำพูดเหล่านี้จากตัวแทนตระกูลเหยียนทำให้ทุกคนในห้องตกตะลึง รวมทั้งชายชราตระกูลซูเองก็ด้วย!
นี่มันเรื่องอะไร?
เหตุใดหัวหน้าตระกูลเหยียนถึงต้องมาเยี่ยม เย่เฉิน ด้วยตัวเอง ในช่วงปีใหม่ แถมยังจะมาขอบคุณอีก?!
เชี้ยเอ้ย!
เย่เฉิน เป็นใครกันแน่?
คุณต้องเข้าใจก่อนว่า ชายชราตระกูลซู เพิ่งบอกว่าตนจะไปเยี่ยมหัวหน้าตระกูลเหยียน และประธานของ ถัง กรุ๊ป ด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นหัวหน้าตระกูลเหยียนที่ต้องการจะมาเยี่ยม เย่เฉิน ด้วยตนเองแทน!?
เย่เฉิน คนนี้กลายเป็นฝ่ายที่มีเกียรติยิ่งกว่า?
นี่มันผิดปกติหรือไม่?
หัวหน้าตระกูลเหยียนเป็นถึงหัวหน้าตระกูลใหญ่ในเมืองซูเฉิง เชียวนะ!
“ท่านเย่ ในช่วงปีใหม่ ท่านประธานถัง จะมาเยี่ยม ท่านเย่ ด้วยตนเองเช่นกัน”
ถัดจากเขา ตัวแทนจาก ถัง กรุ๊ป ก็รีบเข้าเสริมทันที
อะไรนะ?
แม้แต่ประธานของ ถัง กรุ๊ป ก็จะมาเยี่ยม เย่เฉิน ด้วยตัวเอง?
ทุกคนในห้องต่างรู้สึกว่า ทั้งตระกูลเหยียน และตระกูลถัง ต่างมีท่าทีไม่ใช่แค่เคารพต่อ เย่เฉิน แต่ยังดูเหมือนต้องการเอาใจ เย่เฉิน ด้วยซ้ำ
ถัง กรุ๊ป เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มูลค่านับแสนล้านหยวน และตระกูลเหยียน ก็เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในซูเฉิง
ทุกคนถูกความประหลาดใจกลบจนพูดไม่ออก
“ได้ครับ ฝากขอบคุณ ท่านผู้อาวุโสเหยียน และท่านประธานถัง ด้วยนะครับ ผมยินดีต้อนรับพวกเขา”
เย่เฉิน ตอบกลับ
เขารู้ดีว่าทั้งตระกูลเหยียน และถัง เจิ้นซาน ทำเช่นนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
เมื่อพวกเขาแสดงความจริงใจเช่นนี้ เขาก็ย่อมต้องแสดงความสุภาพตอบเช่นกัน
“ผมจะส่งคำพูดของ ท่านเย่ ไปยังท่านหัวหน้าตระกูลแน่นอนครับ”
ตัวแทนจากตระกูลเหยียน และตระกูลถัง ตอบรับทันที
หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ตัวแทนทั้งสองก็จากไป ความเงียบสงบกลับคืนสู่ห้องโถงอีกครั้ง
ในขณะนี้ ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่ เย่เฉิน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการที่ ตระกูลถัง, ตระกูลเหยียน และตระกูลหนิง มาที่นี่ก็เพราะความสัมพันธ์ของ เย่เฉิน
หากไม่ใช่เพราะ เย่เฉิน ต่อให้เป็น ซู หนิงซวง หรือชายชราตระกูลซูเองก็คงไม่คู่ควรกับการได้รับความเคารพเช่นนี้จากทั้งสามตระกูล
เย่เฉิน เป็นใครกันแน่?
บุคคลที่ทำให้สองตระกูลใหญ่ และมหาเศรษฐีแสนล้านเคารพเช่นนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีสถานะที่น่าสะพรึงกลัวมากขนาดไหน?
ไม่มีใครกล้าคาดเดาต่อไป
เมื่อครอบครัวของ ซู หนิงซวง มาถึงครั้งแรก ซูอวี่ และซู เยียนหราน ซึ่งเคยเตือน ซู หนิงซวง ให้เลิกกับ เย่เฉิน ต่างหน้าซีดเผือดราวกับว่าพวกเขาเพิ่งปีนขึ้นมาจากหลุมฝังศพ
ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เย่เฉิน และซู หนิงซวง พวกเขาก้มหน้าลงต่ำด้วยความรู้สึกละอายอย่างที่สุด
พวกเขาเข้าใจแล้วว่าที่แท้จริงพวกเขาเองต่างหากล่ะ ..ที่โง่เขลา(กบก้นบ่อ)
และใช่.. ตัวตลกในเรื่องนี้คือพวกเขาเอง
ขณะที่พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง กลับรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ในความเป็นจริง แม้ว่าพวกเขาจะตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นการมาถึงของสามตระกูลใหญ่
แต่พวกเขาก็ได้รู้ว่า เสี่ยวเฉิน นั้น ..ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้เสียอีก
ความภาคภูมิใจ และความยินดีพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่
คุณเห็นไหมว่านี่คือลูกเขยที่พวกเขายอมรับ
พวกเขาคิดไม่ผิด และซู หนิงซวง ก็คิดไม่ผิดเช่นกัน
ส่วน ซู เชิ่งเย่ และซู อิ่งหลวน ครอบครัวของพวกเขาแทบนั่งไม่ติดแล้วตอนนี้
ซู อิ่งหลวน มอง ซู หนิงซวง แล้วหันกลับมามอง เย่เฉิน
“เฮ้อ...”
เธอถอนหายใจเบาๆ และยอมรับความพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง
เธอแพ้แล้ว แพ้อย่างสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน
เธอรู้สึกเหนื่อย และ(หน้า)ชาไปหมด
สำหรับ ซู เชิ่งเย่ จู่ๆ เขาก็ดูเหมือนจะแก่ขึ้นไปอีกสิบปี
ทุกอย่าง..มันจบสิ้นแล้ว
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมครอบครัวของน้องสามถึงกล้าขัดคำสั่งของชายชราถึงสองครั้งติดต่อกัน..
เพราะมีลูกเขยที่ทรงอำนาจเช่นนี้
ขัดคำสั่งชายชราแล้วอย่างไร? การไม่แต่งงานกับตระกูลจ้าวแล้วจะเป็นอะไรไป?!
แม้แต่หัวหน้าตระกูลจ้าวก็ยังไม่สามารถทำให้สามตระกูลใหญ่ประจบเช่นนี้ได้
ใช่.. แม้แต่หัวหน้าตระกูลจ้าวก็ยังทำสิ่งนี้ไม่ได้!!!
ตำแหน่งหัวหน้าตระกูล เขาคงไม่มีสิทธิ์อีกต่อไปแล้ว
เหตุใดน้องสามถึงได้มีลูกเขยที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้?
และทำไมตัวเขาเองถึง ..ไม่มี?
ทำไม.. เหตุใดคนที่เก่ง และยอดเยี่ยมเช่นนี้ถึงไม่มาเป็นลูกเขยของเขา?!!
ซู เชิ่งเย่ ถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในตอนนี้ ซู เชิ่งเย่ หมดหวังอย่างสิ้นเชิง
ชายชราตระกูลซู ที่ยืนอยู่ด้านหน้า มอง เย่เฉิน ด้วยความงุนงงอยู่สักพัก ก่อนเขาจะเตรียมพูดอะไรบางอย่าง…