ตอนที่แล้วตอนที่ 132 วางแผนล่วงหน้าสำหรับการใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 134 นี่คือสงคราม

ตอนที่ 133 เรื่องทำให้คนโกรธคืองานถนัด


กระดานหมากล้อมเป็นอะไรที่ลึกลับ

ถ้าคิดมากไป ก็จะทะเยอทะยานเกินไป

ถ้าคิดน้อยไป ก็จะจู้จี้เกินไป!

ในเวลานี้ เมื่อได้ยินการจัดการล่วงหน้าของไป๋หลี่หมิง ฉินซ่งกับเฉินต้วนก็รู้สึกโล่งใจ

จริงอยู่  เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพวกเขาแล้ว  การควบคุมโจโฉเป็นเรื่องรอง!

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้  ทั้งสองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เฉินต้วนขมวดคิ้ว

“ท่านกุนซือ  ถ้าหากกองทัพเราอยากจะวางแผนสำหรับสงครามที่ราบภาคกลางล่วงหน้า  งั้นทิศทางการบุกของกองทัพเราก็ควรจะเป็นที่ราบภาคกลางใช่ไหม?”

“ตราบใดที่กองทัพเราร่วมมือกับเล่าเปียวได้  กองทัพเราก็สามารถบุกขึ้นเหนือไปที่ราบภาคกลาง  เอาชนะโตเกี๋ยมก่อน  จากนั้นก็ยึดเหยียนโจว!”

“จากนั้นก็บุกชิงโจวทางเหนือและยึดเหอเป่ย!”

“แบบนี้ ภายใน 5-6 ปี ที่ราบภาคกลางก็จะเป็นของเรา ถึงตอนนั้น ต่อให้อ้วนเสี้ยวชนะ พวกเราก็ยังสู้กับมันได้!”

“ในทางกลับกัน การยอมแพ้ที่ราบภาคกลางและไปเกงจิ๋วทางตะวันตกจะไม่ทำให้การบุกของกองทัพเราในที่ราบภาคกลางล่าช้าเหรอ?”

“จื่อเจิ้งพูดถูกท่านกุนซือ!”

ฉินซ่งพูดด้วยเสียงทุ้มลึก

“ถ้าหากกองทัพเราไปเกงจิ๋ว(จิงโจว)แต่อ้วนเสี้ยวกลับรวมเหอเป่ยได้ก่อน  งั้นกองทัพเราก็อาจจะเสียเปรียบในที่ราบภาคกลาง!”

ซุนเกี๋ยนพยักหน้า

ดูเหมือนว่าจุดประสงค์กับการกระทำที่ไป๋หลี่หมิงพูด  จะขัดแย้งกัน!

แต่เขาก็รู้จักไป๋หลี่หมิงดี

“หรัวจงอยากให้กองทัพเราไปยึดเกงจิ๋ว  หรือว่าเจ้าไม่ไว้ใจเล่าเปียว?”

“การไม่ไว้ใจเล่าเปียว  เป็นแค่จุดหนึ่ง!”

“จุดสำคัญที่สุดก็คือกองทัพเราต้องวางแผนกระบวนการทั้งหมดของสงคราม!”

“สงครามแบ่งออกเป็น  3  ขั้นตอน  ก่อนสงคราม  ระหว่างสงครามและหลังสงคราม!”

“ในความคิดของพวกท่าน  มีแค่ก่อนสงครามกับระหว่างสงคราม  แต่พวกท่านเคยคิดถึงผลลัพธ์หลังสงครามไหม?”

“หลังสงคราม?”

ฉินซ่งกับเฉินต้วนมองหน้ากัน

ปกติแล้ว  ไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าจะได้เปรียบยังไงและจะเอาชนะศัตรูยังไงเหรอ?

ทำไมท่านกุนซือถึงต้องวางแผนล่วงหน้าแม้กระทั่งหลังสงคราม?

ฉินซ่งคิดสักพัก

“เรื่องนี้  ข้าไม่เคยคิด!”

“ท่านกุนซือ  โปรดชี้แนะ!”

“กองทัพเราทำแบบนี้ไม่ได้  หรือว่าปัญหาอยู่ที่หลังสงคราม?”

“มากกว่านั้น!”

ไป๋หลี่หมิงยิ้ม

“ถ้าหากตอนนี้  พวกเราบุกที่ราบภาคกลาง  การวางแผนก่อนสงครามก็ผิด!”

“เพราะกองทัพเราไม่มีเหตุผลในการบุกชีจิ๋ว!”

“อย่างแรก  โตเกี๋ยมกับกองทัพเราไม่มีความขัดแย้ง ตอนนี้ มันยังส่งของขวัญมาแสดงความเป็นมิตร!”

“ถ้าหากกองทัพเราโจมตีโตเกี๋ยม  ก็เท่ากับเป็นการอกตัญญู  คนในโลกจะมองกองทัพเรายังไง?”

“ในทางกลับกัน  เล่าเปียวบุกเราก่อนและนายท่านมีสิทธิ์บุกเกงจิ๋ว!”

“ดังนั้น  การที่กองทัพเราสู้กับเล่าเปียว  เป็นเรื่องที่ถูกต้อง!”

“ต่อให้สู้  นอกจากเล่าเปียว  ก็ไม่มีใครสามารถตำหนิกองทัพเราได้!”

“นี่คือความผิดพลาดก่อนสงคราม!”

“นี่...  พวกเราไม่ได้คิด!”

ฉินซ่งพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้น  ต่อให้กองทัพเราชนะ  ชื่อเสียงของพวกเราก็จะเสียหาย!”

ไป๋หลี่หมิงฟังและพูดต่อ

“ต่อมา ในสงคราม ถ้าหากพวกเราทำแบบนี้ กองทัพเราก็อาจจะยึดที่ราบภาคกลางได้ แต่หลังสงคราม ที่ราบภาคกลางก็จะพังพินาศ!”

“ในทางกลับกัน  อ้วนเสี้ยวยึดจี้โจวตั้งแต่แรก สงครามไม่เคยส่งผลกระทบต่อมัน!”

“กองทัพเราใช้ดินแดนที่พังพินาศ  สู้กับบ้านเกิดของอ้วนเสี้ยว  ถ้าหากมันสู้แบบยืดเยื้อ  กองทัพเราจะสู้ได้นานกว่ามันเหรอ?”

“ส่วนหลังสงคราม  การที่กองทัพเราจะยึดที่ราบภาคกลาง  ก็ผิด!”

“เพราะหลังสงคราม  ถ้าหากกองทัพเราเอาชนะอ้วนเสี้ยว  เพื่อที่จะขยายผลลัพธ์  พวกเราก็ต้องบุกเหอเป่ย!”

“แบบนี้  แนวรบก็จะยิ่งยาว!”

“จากเจียงตงไปจนถึงเหอเป่ย  ไม่ว่าจะเป็นโจโฉ  เล่าเปียวหรือศัตรูคนอื่นๆ  ต่างก็มองกองทัพเราอยู่!”

“พวกเขามีด่าน  ส่วนพวกเราอยู่บนที่ราบ  จะป้องกันแนวรบที่ยาวขนาดนี้ได้ยังไง?”

“ถ้าหากตอนนั้น  ศัตรูโจมตีพวกเรา  กองทัพเราก็จะยึดเหอเป่ยไม่ได้  และอาจจะป้องกันหยางโจวไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

“ดังนั้น  กองทัพเรา  ห้ามยึดที่ราบภาคกลางโดยตรง!”

“แบบนี้นี่เอง  ข้าขอคารวะ!”

ฉินซ่งกับเฉินต้วนรีบลุกขึ้นยืนและคำนับ

เรื่องนี้  พวกเขาคิดผิดจริงๆ!

ถ้าหากพวกเขาบุกที่ราบภาคกลางโดยตรง  พวกเขาก็คงจะติดอยู่ในสงคราม

“หรัวจงมองการณ์ไกล!”

“ถ้าอย่างนั้น  กองทัพเราก็ควรจะบุกเกงจิ๋วก่อน!”

“ถ้าหากยึดเกงจิ๋วได้  กองทัพเราก็สามารถยึดแนวรับแม่น้ำแยงซี  แบบนี้  พวกเราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตีจากต้นน้ำ!”

“ในทำนองเดียวกัน  หลังจากยึดเกงจิ๋วได้แล้ว  กองทัพเราก็มีเขตกันชน  ต่อให้เกงจิ๋วถูกโจมตี  พวกเราก็สามารถไล่ล่าไปเจียงตงทางตะวันตกได้!”

“ใช่!”

ไป๋หลี่หมิงพยักหน้า

“เกงจิ๋วเป็นเกราะป้องกันของกองทัพเราในเจียงตง  และสามารถใช้เป็นฐานที่มั่นได้!”

“ต่อให้ถูกโจมตี  กองทัพเราก็มีที่ให้ถอย!”

“ถ้าหากไม่ยึดเกงจิ๋ว  กองทัพเราในหยางโจวก็จะถูกคุกคามจากทางตะวันตก!”

“ต่อให้ร่วมมือกับเล่าเปียว  กองทัพเราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะไม่แทงข้างหลัง!”

“ดังนั้น  อย่าร่วมมือดีกว่า!”

“ในทำนองเดียวกัน  หลังจากยึดเกงจิ๋วได้แล้ว  กองทัพเราก็สามารถขับไล่โจโฉออกจากหนานหยาง!”

“พอโจโฉแพ้  โตเกี๋ยมก็ไม่ใช่ภัยคุกคาม!”

“พอได้หนานหยาง  พวกเราก็สามารถบุกฉางอันและป้องกันแม่น้ำแยงซี!”

“แบบนี้  ภัยคุกคามของโจโฉก็มีแค่เหยียนโจว!”

“ตอนที่กองทัพเราสู้กับอ้วนเสี้ยว  กองกำลังหลักต้องอยู่ที่เหยียนโจว  แบบนี้  พวกเราก็ไม่ต้องกลัวว่าโจโฉจะโจมตี!”

“ในทำนองเดียวกัน  หลังจากเอาชนะอ้วนเสี้ยว  กองทัพเราก็แค่ยึดเหยียนโจว  และบุกขึ้นเหนือได้ง่ายๆ!”

“ถ้าหากตอนนั้น  โจโฉกล้าโจมตี  กองทัพเราก็สามารถยึดปิงโจวก่อน  แบบนี้  โจโฉก็จะติดอยู่ในซือลี่  จากนั้น  พวกเราก็ค่อยยึดเหอเป่ย!”

“กองทัพเราต้องทำตามลำดับแบบนี้  ถึงจะสู้กับอ้วนเสี้ยวได้!”

“ส่วนเรื่องที่พวกท่านกังวล  ข้าคิดว่าไม่ต้องกังวล”

“อ้วนเสี้ยวอาจจะเอาชนะกงซุนจ้านไม่ได้เร็วขนาดนั้น”

“ต่อให้มันเอาชนะกงซุนจ้านได้และยกทัพลงใต้  พวกเราก็ยังมีโตเกี๋ยมเป็นเกราะกำบัง!”

“ถ้าหากจำเป็น  กองทัพเรายังสามารถช่วยกงซุนจ้าน  ให้มันจัดการกับอ้วนเสี้ยว!”

“พอกงซุนจ้านกับโตเกี๋ยมควบคุม  กองทัพเราก็จะได้เปรียบ!”

“นี่คือเหตุผลที่กองทัพเราต้องร่วมมือกับโตเกี๋ยมและกำจัดเล่าเปียวก่อน!”

“พวกท่านยังมีคำถามไหม?”

ฉินซ่งกับเฉินต้วนส่ายหัว

“ไม่มีแล้ว!”

ฉินซ่งยิ้มแห้งๆ  และคำนับ

“ในแง่ของกลยุทธ์  คงไม่มีใครเทียบท่านกุนซือได้  พวกเราแค่ฟังท่านกุนซือ  ก็รู้สึกกระจ่าง!”

“ข้าขอคารวะ!”

“ข้าขอคารวะ!”

พอเห็นแบบนี้  ไป๋หลี่หมิงก็ยิ้ม

“พวกท่านไม่ต้องทำแบบนี้  ข้าไม่ได้ยุ่งเท่าพวกท่าน  ข้าคิดเรื่องพวกนี้ทั้งวัน  เลยพูดออกมาได้”

“พวกท่านคงจะยุ่งเกินไป  พอได้ยินแบบนี้  ก็เลยรู้สึกว่ามีข้อบกพร่อง!”

พอทั้งสองได้ยิน  ก็รู้สึกดีขึ้น

นี่เป็นข้ออ้างที่ไป๋หลี่หมิงหาให้พวกเขาเพื่อปลอบใจตัวเอง!

ไม่งั้น  มันก็คงจะท้อแท้!

“พวกเจ้าเป็นคนฉลาด  ทำไมต้องถ่อมตัว!”

“หรัวจง  งั้นตามที่เจ้าว่า  กองทัพเราควรรับของขวัญของโตเกี๋ยมและปฏิเสธของขวัญของเล่าเปียว?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่!”

ไป๋หลี่หมิงยิ้ม  “พวกเราเอาของขวัญทั้งหมด!”

“ทั้งหมด?”

พอได้ยิน  ทั้งสามก็สับสน

เมื่อกี้  ยังบอกว่าจะสู้กับเล่าเปียว  แต่อยู่ๆ  ก็บอกว่าจะเอาของขวัญทั้งหมด?

“หรัวจงหมายความว่ากองทัพเราควรรับของขวัญของเล่าเปียว?”

“งั้นก็เท่ากับว่าพวกเรารับข้อเสนอแต่งงานของเล่าเปียว?”

“... ท่านกุนซือ  ถ้าหากกองทัพเรารับของขวัญของเล่าเปียว  งั้นก็เท่ากับว่าพวกเราร่วมมือกับเล่าเปียว  ใช่ไหม?”

“ถ้าหากพวกเราโจมตีเล่าเปียวอีก  ก็เท่ากับทรยศ  คนในโลกจะมองกองทัพเรายังไง?”

“ไม่!”

“พวกท่านคิดแบบนั้นไม่ได้!”

“พวกท่านต้องคิดแบบนี้  ตอนนี้  เล่าเปียวส่งของขวัญมา  ภายนอกก็เพื่อที่จะล้างความเข้าใจผิดและร่วมมือกับกองทัพเรา!”

“จริงๆ  แล้ว  มันพ่ายแพ้  และกำลังพยายามเจรจากับกองทัพเรา!”

“ของขวัญที่มันส่งมา  คือของที่กองทัพเราปล้นมา!”

“กองทัพเรารับได้โดยไม่ต้องตอบสนอง!”

“ตราบใดที่ไม่ตกลงเรื่องแต่งงาน  มันก็ไม่ถือว่าเป็นการร่วมมือ!”

“กับเล่าเปียว  กองทัพเรามีแค่ท่าทีเดียว!”

“พวกเราเอาทั้งผู้หญิงและเงิน  ถ้าหากมันยอมรับผิด  พวกเราก็จะเอา  แต่ถ้าหากมันอยากจะร่วมมือ  เป็นไปไม่ได้!”

“ถ้าหากมันไม่พอใจ  มันก็สู้ได้  ส่วนพวกเราก็แค่ทน  ถ้าหากมันเก่ง  มันก็ร่วมมือกับโจโฉและโจมตีพวกเรา!”

“พวกเราไม่รังเกียจที่จะทำลายล้างมัน!”

พอเจอกับคำพูดที่แข็งกร้าวของไป๋หลี่หมิง  ทั้งสามก็ตกใจ

ไม่รังเกียจที่จะทำลายล้างมัน?

ท่านกุนซือโหดมาก!

แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งคำถาม

เพราะไป๋หลี่หมิงสามารถวางแผนทำลายล้างศัตรูได้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย

ตอนนี้  พวกเขาตั้งหลักได้แล้ว  ยิ่งไม่ต้องกลัวเล่าเปียว!

ตามที่ไป๋หลี่หมิงพูด  พวกเขาสามารถเอาทุกอย่าง  ไม่ต้องสนใจว่าเล่าเปียวจะพอใจหรือไม่!

ยังไง  พวกเขาก็ไม่กลัว!

“ฮ่าๆๆๆ...”

“หรัวจง  เจ้าจะทำให้เล่าเปียวโมโหตาย!”

“ข้าเดาว่าถ้าหากเล่าเปียวได้รับข่าว  มันคงจะโมโหจนอาเจียนเป็นเลือด!”

ฉินซ่งกับเฉินต้วนก็ยิ้มแห้งๆ

ท่านกุนซือเก่งเรื่องทำให้คนอื่นโกรธ  ไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวัง!

หลังจากอ้วนสุด  คงจะมีอีกคนที่โมโหจนอาเจียนเป็นเลือด!

“ข้าไม่รู้ว่าเล่าเปียวจะอาเจียนเป็นเลือดไหม  แต่กองทัพเราได้ทองคำ  30,000  ตำลึงฟรีๆ  ก็ดีแล้ว!”

“ใช่!  ทองคำ  30,000  ตำลึงสามารถแก้ปัญหาได้!!”

ซุนเกี๋ยนยิ้มอย่างพอใจ

ตอนนี้  พวกเขากำลังขยายอำนาจ  ไม่ว่าจะเป็นการขยายกองทัพหรือการเพาะปลูก  ล้วนแต่ต้องใช้เงิน!

ในกรณีที่ไม่ร่วมมือ  การได้ทองคำ  30,000  ตำลึงจากเล่าเปียวฟรีๆ  มันดีมาก!

แต่พอคิดแบบนี้  เขาก็ถามไป๋หลี่หมิง

“งั้นหรัวจง  กองทัพเราต้องการทองคำ  30,000  ตำลึง  มันมีประโยชน์  แต่กองทัพเราไม่แต่งงาน  งั้นจะเอาผู้หญิงมาทำไม?”

“ข้าคิดว่าท่านกุนซือ  ไม่ได้แค่อยากจะทำให้เล่าเปียวโมโห!”

“แน่นอน!”

ไป๋หลี่หมิงยิ้ม

“น้องเมียของเล่าเปียว  มีประโยชน์มากกว่าทองคำ  30,000  ตำลึง!”

“ผู้หญิงคนนี้  เป็นน้องสาวของซัวม่อ(ไช่เหมา) ลูกสาวของตระกูลซัว(ไช่)  ตระกูลใหญ่ในเกงจิ๋ว!”

“ถ้าหากพวกเราเก็บนางไว้  ต่อไป  มันจะมีประโยชน์มากตอนที่พวกเรายึดเกงจิ๋ว!”

ปล. ตระกูลซัวมีลูกสาวสามคน ภรรยาของอุยสิง่าน เป็นพี่สาวคนโต  และให้กำเนิดอุ๋ยซี(เมียของข่งเบ้ง)

ฮูหยินของเล่าเปียว  เป็นลูกสาวคนรอง  ส่วนผู้หญิงที่เล่าเปียวจะส่งมา  เป็นน้องสาวคนเล็ก  ซึ่งถือเป็นอาของอุ๋ยซี

เดิมทีในประวัติศาสตร์  เล่าเปียวอยากจะให้นางแต่งงานกับฮวนกาย  แต่ไม่สำเร็จ

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด