บทที่ 56: พฤติกรรมแปลกๆ !
ผ่านไปสักพัก ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เฉิน โม่กำลังรอตู้ จื่อหางมาหาเขา ทันใดนั้น เขาได้กลิ่นหอมคุ้นเคย
เขาหันไปมองทันที
เขาเห็นมู่ ซีเยว่ สวมชุดสีชมพู เดินมาทางเขา
“เสี่ยวเยว่ วันนี้เธอมีเรียนด้วยเหรอ?” เฉิน โม่ทักทายด้วยรอยยิ้ม
"ค่ะ มีเรียนกฎหมายตอนเช้า" มู่ ซีเยว่ ยิ้มและถามว่า "มายืนทำอะไรอยู่ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ไม่ไปกินข้าวเหรอ"
“ฉันมีนัดกับคนน่ะ พวกเขาน่าจะเลี้ยงข้าวด้วย” เฉิน โม่ตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อ้อ” พอได้ยินว่าเฉิน โม่มีที่กินข้าวแล้ว สีหน้าของมู่ ซีเยว่ก็ดูผิดหวังเล็กน้อย “งั้นฉันไปก่อนนะ”
ระหว่างที่พูด เฉิน โม่ สังเกตเห็นว่ามู่ซีเยว่ สะพายกระเป๋าใบเดิมที่เขาเคยเห็น
สิ่งนี้ทำให้เฉิน โม่สงสัย กระเป๋าใบนี้ครั้งก่อนมีเสื้อผ้าผู้หญิงเก่าๆ อยู่ข้างใน เขาไม่รู้ว่ามู่ ซีเยว่ พกสิ่งเหล่านี้ไปทำไม
เขารีบใช้แว่นตาเอกซเรย์ มองไปที่กระเป๋าของมู่ ซีเยว่ ภายในยังคงมีสิ่งของเหล่านั้นอยู่ นอกจากนี้ ครั้งนี้เธอยังพกแปรงสีฟัน แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว และของใช้ประจำวันอื่นๆ ไว้ในกระเป๋าด้วย สิ่งนี้ทำให้เฉิน โม่ งงไปหมด
เขารีบใช้เทคนิคอ่านใจ และพูดกับมู่ ซีเยว่ว่า “เสี่ยวเยว่ ถามอะไรหน่อยได้ไหม”
พอได้ยินเฉิน โม่ชวนคุย มู่ ซีเยว่ก็ดูดีใจ เธอจึงยิ้มและพูดว่า “อะไรเหรอ?”
“คือ...” เฉิน โม่ กำลังคิดหาคำพูด กลัวว่าจะถามผิด แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจถามตรงๆ “คือครั้งก่อนฉันเห็นเธอพกเสื้อผ้าไว้ในกระเป๋าใบนี้ ครั้งนี้เธอก็พกมันมาอีก มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอต้องพกสิ่งเหล่านี้ติดตัวตลอดเวลา?”
เฉิน โม่ รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทันทีที่เฉิน โม่ถามเรื่องนี้ สีหน้ายินดีของมู่ ซีเยว่ก็หายไป เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
แต่เฉิน โม่ ได้อ่านใจเธอ และรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“จะทำยังไงดี? จะบอกเฉิน โม่ดีไหม? ครอบครัวของเหมิงเหยาและคนอื่นๆ ล้วนมีอำนาจ ถ้าเฉิน โม่รู้ว่าพวกเขารังแกฉัน และเขาเป็นคนใจดี ถ้าเขาเป็นห่วงฉันเหมือนเมื่อก่อน เขาจะไปหาเรื่องเหมิงเหยาและคนอื่นๆ หรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันคงจะทำให้เฉิน โม่เดือดร้อน เขาเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ เหมือนฉัน จะไปสู้กับพวกคนรวยพวกนั้นได้ยังไง? ช่างเถอะ อย่าบอกเขาเลย
อย่าให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันเลย”
มู่ ซีเยว่คิดหนัก แต่จริงๆ แล้วเธอคิดเรื่องทั้งหมดนี้ภายในพริบตาเดียว
เธอยิ้มแห้งๆ และพูดว่า “ฉันไม่เป็นไรหรอก แค่ชอบพกของพวกนี้ติดตัวเฉยๆ”
“แต่ตอนที่เธอทำงาน เธอไม่ได้เป็นแบบนี้นะ” เฉิน โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา คำพูดของมู่ ซีเยว่ ก็หยุดลง และหลังจากหยุดไปสองสามวินาที เธอก็พูดว่า "ตอนที่ฉันทำงาน เจ้านายไม่อนุญาตให้ฉันเอาของพวกนี้มา"
เห็นว่ามู่ ซีเยว่ คงไม่ยอมบอก เฉิน โม่ ก็ไม่ได้ถามต่อ แต่เมื่อเขารู้เรื่องนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้
“ตอนนี้เธอยังอยู่หอพักใช่ไหม? ลองไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกดูไหม? ที่ฉันอยู่มีเจ้าของบ้านใจดีมาก ให้เช่าบ้านราคาถูกสำหรับนักศึกษา เธอสนใจไปดูไหม?”
พอได้ยินแบบนี้ มู่ ซีเยว่ก็ยิ้มแห้งๆ และส่ายหัว “ฉันไม่มีเงินเช่าบ้านข้างนอกหรอก เมื่อก่อนแม่เป็นคนหาเงิน แต่ช่วงนี้แม่ล้มป่วย บ้านฉันไม่มีรายได้ แถมยังต้องหาเงินรักษาแม่ เงินที่ฉันหามาได้ ต้องส่งกลับบ้านบางส่วน”
พอได้ยินแบบนี้ เฉิน โม่ก็นึกขึ้นได้ว่า เคยได้ยินมู่ ซีเยว่พูดเรื่องครอบครัวของเธอตอนที่ทำงานพาร์ทไทม์ด้วยกัน
พ่อของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในไซต์ก่อสร้าง เพราะอุปกรณ์ป้องกันที่ทางบริษัทก่อสร้างจัดหาให้มีปัญหา ทำให้เขาตกลงมาเสียชีวิต แต่บริษัทก่อสร้างมีอำนาจและอิทธิพล พวกเขาจึงได้ประวิงเวลาในการจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสมมาเป็นเวลานาน
คนจนๆ แบบพวกเขาจะทำอะไรได้ พวกเขายอมรับเงินปิดปาก 30,000 หยวน
ถ้าพวกเขาไม่รับเงิน 30,000 หยวนนี้ พวกเขาอาจจะไม่ได้อะไรเลยด้วยซ้ำ
แม่ของมู่ ซีเยว่ ก็ไม่มีทางเลือก ลูกสาวและลูกชายของเธอยังเรียนหนังสือ แรงงานหลักของบ้านก็เสียชีวิตกะทันหัน งานศพต้องจัดการ ค่าใช้จ่ายของลูกๆ ต้องจ่าย พวกเขาไม่มีเวลาและแรงที่จะฟ้องร้องบริษัทใหญ่ๆ พวกนั้น
ด้วยความสิ้นหวัง พวกเขายอมรับเงิน 30,000 หยวนและจบเรื่อง
แต่เงิน 30,000 หยวนนี้ไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้นาน แม่ของมู่ ซีเยว่ ต้องแบกรับภาระในการหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง
จนกระทั่งเธอทำงานหนักจนล้มป่วย
ตอนนี้ เงินที่มู่ ซีเยว่ และน้องชายของเธอหามาได้จากการทำงานพิเศษ ก็ไม่พอที่จะรักษาแม่ของเธอ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเช่าบ้านอยู่ข้างนอก
ตอนนี้ทุกมื้อของพวกเขา ล้วนเป็นอาหารที่ได้จากที่ทำงาน
คนรวยกินหรูอยู่สบาย ในขณะที่คนจนอดตายข้างถนน
เฉิน โม่ นึกถึงอาหารมื้อหรูหราที่เขาทานกับหลิว ฉินหลานเมื่อสองวันก่อน ซึ่งมีมูลค่าถึง 100,000 หยวน
ความเหลื่อมล้ำในชีวิตของผู้คนบางครั้งก็แตกต่างกันเหลือเกิน
ถ้าไม่รู้เรื่องราวของมู่ซีเยว่ ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว เฉิน โม่ ตั้งใจที่จะช่วยเหลืออย่างแน่นอน
แม้ว่ามู่ ซีเยว่ จะเป็นแค่คนธรรมดา แต่จากความสัมพันธ์ที่มีอยู่แล้ว เฉิน โม่ จะไม่นิ่งเฉย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า เฉิน โม่ อาจดูเหมือนไม่แยแส แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่คุ้นเคย เขามักจะดูแลพวกเขา
ไม่เช่นนั้น มู่ ซีเยว่ คงไม่คิดว่าเฉิน โม่ เป็นคนใจดีเมื่อนึกถึงเขา
“เรื่องค่าเช่า ฉันจะจัดการให้เอง เธออยากย้ายออกมาอยู่ไหมล่ะ?”
แน่นอนว่ามู่ ซีเยว่อยากจะย้ายออกอยู่แล้ว แต่เธอไม่อยากเป็นภาระให้เฉิน โม่ เธอคิดว่าเฉิน โม่ ก็เป็นแค่เด็กที่ทำงานพิเศษหาเลี้ยงชีพ เขาคงไม่มีเงินมากมาย
เธอจะเอาเปรียบเขาได้อย่างไร?
ดังนั้นเธอก็รีบส่ายหัว “ไม่ดีกว่า ฉันอยู่หอพักก็สบายดี”
แม้จะพูดแบบนั้น แต่พอพูดถึงหอพัก เธอก็นึกถึงภาพที่เธอถูกรังแกโดยฉู่ เหมิงเหยาและคนอื่นๆ
ถ้าเป็นแค่การทำร้ายร่างกาย เธอทนได้ มันก็แค่เจ็บไปสองสามวัน
แต่ฉู่ เหมิงเหยาและคนอื่นๆ เหมือนจะรู้จุดอ่อนของเธอ พวกเขารู้ว่าการทำร้ายร่างกายไม่ได้ผล จึงเริ่มทำลายข้าวของของเธอ
มู่ ซีเยว่ไม่มีเงิน เธอจึงใช้ของทุกอย่างจนกว่ามันจะพังจริงๆ
แต่ฉู่ เหมิงเหยาและคนอื่นๆ ทำลายข้าวของของเธอเป็นประจำ แม้แต่เสื้อผ้าของเธอก็ถูกตัดขาด พวกเขาทำแบบนี้เพื่อรังแกเธอ เพื่อดูเธอเสียใจกับสิ่งของที่เสียหาย พวกเขารู้สึกมีความสุขกับการเห็นมู่ ซีเยว่ร้องไห้มากกว่าการทำร้ายร่างกายเธอ
มู่ ซีเยว่ไม่เข้าใจ ทำไมพวกเขาถึงมีชีวิตที่ดีกว่าเธอ แต่กลับมารังแกเธอที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
ด้วยความคิดที่เรียบง่ายของเธอ เธอไม่สามารถเข้าใจเหตุผลนี้ได้เลย
(จบตอน)
บทนี้แอบเศร้าน่ะ