ตอนที่แล้วบทที่ 25 : ที่นี่คือคฤหาสน์ราชาลู่ ใครมาก็ไร้ประโยชน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่​ 27 : ปราบปรามผู้อาวุโสแห่งนิกายหลางหยาเทียนจง​ด้วยฝ่ามือเดียว

บทที่ 26 : ถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ


บทที่ 26 : ถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ​

คฤหาสน์ราชาลู่

ด้านนอกเกาะสวรรค์รุ่งโรจน์ ผู้อาวุโสสามคนจากนิกายหลางหยาเทียนจงกำลังยืนอยู่ในความว่างเปล่า

ผู้นำคือ ฉงหมิง ผู้อาวุโสสองที่มาถึงขั้นที่เจ็ดของอาณาจักรวังวิญญาณ

ตามมาด้วย ถังชิว ผู้อาวุโสสี่ และ เยียนเหว่ยซาน ผู้อาวุโสห้า

เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ก็เป็นเสียงของฉงหมิงเช่นกัน

หลังจากไล่ตามมาตลอดทาง พวกเขาก็ล้มเหลวในการหยุดลู่เทียนหมิง

หลังจากเจรจาหารือกันแล้ว พวกเขาจึงจำต้องมาเยี่ยมคฤหาสน์ราชาลู่ด้วยตนเอง

ชั่วขณะนั้นเองลู่ชิงซวนและลู่เทียนหมิงก็ปรากฏตัวขึ้นด้านนอกเกาะสวรรค์รุ่งโรจน์

วูบ!

วูบ!

แทบจะในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสใหญ่ และสมาชิกตระกูลอีกหลายคนก็รีบพุ่งออกมายืนอยู่ด้านหลังลู่ชิงซวน

ฉงหมิงกวาดสายตามองคนจากคฤหาสน์ราชาลู่ และเมื่อเขาเห็นร่างของลู่เทียนหมิง ดวงตาของเขาก็ฉายแววเจตนาฆ่าอย่างไม่ปิดบัง

จากนั้นเขาก็กวาดสายตาไปหยุดที่ลู่ชิงซวน ก่อนที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อย

"ผู้​นำตระกูล​ลู่ ลู่เทียนหมิงเป็นคนทรยศของนิกายเรา เขาไม่เพียงแต่พูดโกหกมดเท็จ แต่ยังสังหารผู้อาวุโสของเราอีกด้วย”

“ข้าหวังว่าท่านจะมอบเขาให้นิกายหลางหยาเทียนจงของเราแต่โดยดี...หวังว่าท่านจะรู้จักแยกแยะถูกผิด!”

เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย ฉงหมิงไม่ลืมที่จะเน้นเสียงเล็กน้อย

ความหมายก็คือสิ่งที่ลู่เทียนหมิงพูด…ท่านอย่าไปเชื่อเลยจะดีกว่า

แม้ว่านิกายหลางหยาเทียนจงจะไม่กลัวคฤหาสน์ราชาลู่ แต่พวกเขาก็ยังคงเกรงกลัวราชวงศ์เทียนหยุนมากอยู่ดี

คฤหาสน์ราชาลู่ ในฐานะคฤหาสน์ของอ๋องต่างแซ่ของราชวงศ์เทียนหยุน…แม้แต่นิกายหลางหยาเทียนจง ก็ต้องสุภาพกับอีกฝ่าย

อย่างไร​ก็ตาม, ลู่ชิงซวนเอามือไพล่หลังและพูดอย่างใจเย็น

"แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของฉงหมิงก็ฉายแววเย็นชา ก่อนที่จะเยาะเย้ยว่า

"ผู้​นำตระกูล​ลู่ ข้าไว้หน้าท่านสามส่วนเพราะเห็นแก่ราชวงศ์เทียนหยุน ข้าหวังว่าท่านจะรู้จักประมาณตน!"

ฉงหมิงไม่พอใจคำตอบของลู่ชิงซวนมาก

เด็กน้อยคนนี้กล้าทำวางมาดต่อหน้าเขา, เขาจึงขอพูดตรงๆให้อีกฝ่ายได้สติสักที

เเละเมื่อได้ยินเช่นนี้ สมาชิกตระกูลลู่ทุกคนก็แสดงความโกรธออกมาบนใบหน้า

ชายชราคนนี้กล้ามาเห่าหอนอยู่ถึงปากทางเข้าประตูบ้านพวกเขา…นี่มันกำลังหาที่ตายหรือไง!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ลู่ชิงซวนจะได้พูดอะไร ผู้อาวุโสใหญ่ลู่ฉางเฟิงก็ยืนขึ้นและตอบกลับอย่างเย็นชา

"ฮึ่ม นิกายหลางหยาเทียนจงของเจ้าช่างยิ่งใหญ่นัก ถึงกับส่งผู้อาวุโสสามคนมาไล่ล่าคนในตระกูลของเราอย่างหน้าด้านๆ"

"คฤหาสน์ราชาลู่ของข้ายังไม่ได้กล่าวโทษนิกายหลางหยาเทียนจงของเจ้า แต่เจ้ายังกล้ามาที่คฤหาสน์ราชาลู่ของข้าเพื่อทวงคน งั้นวันนี้ข้าขอประลองกับพวกเจ้าสักหน่อยแล้วกัน!"

แน่นอนว่า ผู้อาวุโสใหญ่ก็โกรธกับถ้อยคำของฉงหมิงมากเช่นกัน

ดังนั้น​โดยไม่จำเป็นต้องลังเล เขาจึงเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นเผชิญหน้า

ตั้งแต่ที่กายาสมบัติทองคำโบราณตื่นขึ้น เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากนัก

ในยามนี้ เขาจึงอยากจะทดสอบความแข็งแกร่งของตนกับคนพวกนี้

เเละเมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่ชิงซวนก็ไม่ได้พูดอะไรมากให้มากความ

ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสใหญ่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หากผู้อาวุโส​ใหญ่​ต้องการหาคนทดสอบ, เขาก็ไม่คิดขัดจังหวะ

ตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสทั้งสามของนิกายหลางหยาเทียนจงก็ไม่สามารถก่อปัญหาอะไร​ได้

…..

"ฮ่าฮ่า... ถ้าเจ้ากล้าเช่นนี้ งั้นข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าความแข็งแกร่งที่เจ้าภูมิใจนักหนา มันอ่อน​เเอแค่ไหนยามเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเรา"

เมื่อพูดจบ ฉงหมิงก็หันไปมองเยียนเหว่ยซานที่อยู่ข้างๆ

“ผู้อาวุโสห้า ลงมือเถิด ให้พวกมันรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่กล้าต่อกรกับนิกายหลางหยาเทียนจงของเรา”

เยียนเหว่ยซานไม่ได้ตอบ แต่ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และลงมือโจมตีลู่ฉางเฟิงทันที​

ลู่ฉางเฟิงเองก็ไม่ได้​เกรงกลัว

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแสงอันล้ำค่าขณะเผชิญหน้ากับการโจมตีของอีกฝ่าย

ตูม!

ตูม!

ในชั่วพริบตา คนทั้งสองก็แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันมากกว่าสิบครั้งในความว่างเปล่า

แม้ว่าระดับการฝึกฝนของเยียนเหว่ยซานจะสูงกว่าลู่ฉางเฟิงสองขั้นเล็กๆ แต่ลู่ฉางเฟิงก็ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำแต่อย่างใด

เมื่อเวลาผ่านไป ลู่ฉางเฟิงก็ค่อยๆได้เปรียบ เเละสามารถ​บีบให้เยียนเหว่ยซานจนมีใบหน้าซีดเซียว

จากระยะไกล

ฉงหมิงที่สงบนิ่ง ก็ค่อยๆแปลี่ยนเป็นเย็นเยือก

เขาไม่คาดเลยว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้จะอยู่เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

ผู้อาวุโสห้า, ผู้อยู่ในอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่สาม กลับพ่ายแพ้ให้กับคนจากอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่หนึ่ง

แคร้ง!

แคร้ง!

ในตอนท้ายของการต่อสู้ แม้ว่าทั้งสองคนจะใช้อาวุธ แต่ลู่ฉางเฟิงก็ยังคงได้เปรียบ

ร่างกายของเขาถูกล้อมรอบด้วยแสงแห่งสมบัติที่เบ่งบาน ยิ่งสู้เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

ในด้านตรงข้าม เยียนเหว่ยซานกลับมีสีหน้าหม่นหมอง และเขาก็กำลังตกอยู่ในอันตรายจากการถูกกดขี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตูม!

เเละในขณะนี้ ลู่ฉางเฟิงได้ฉวยโอกาสฟาดดาบออกไป

หอกของเยียนเหว่ยซานถูกสะบัดจนหลุดลอยไป จากนั้นดาบก็ฟาดผ่านเอวของเยียนเหว่ยซานโดยตรง

ตูมมมมม!

ร่างของเยียนเหว่ยซานทั้งร่างลอยละลิ่วก่อนที่จะล้มลงกับพื้น หากเขาไม่ได้รับการปกป้องจากชุดเกราะ เอวคงถูกตัดขาดที่ไปแล้ว

วูบ!

ร่างของลู่ฉางเฟิงลอยตามไปบนท้องฟ้า

เขาไม่จำเป็นต้องเมตตา, ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเพื่อสังหาร

ไม่นานมานี้ เขารู้จากผู้อาวุโสสองว่าในตอนที่​คฤหาสน์ราชาลู่ไปต่างเเดนเพื่อแข่งขันหาโอกาส…สมาชิกตระกูลกลุ่มหนึ่งถูกสังหารโดยนิกายหลางหยาเทียนจง

นิกายหลางหยาเทียนจงกล้าสังหารสมาชิกตระกูลลู่ของพวกเขาลับหลัง , ตอนนี้ลู่ฉางเฟิงจึงไม่จำเป็นต้อง​แสดงความเมตตา และกำลังจะสังหารอีกฝ่าย

คนที่กล้าฆ่าคนจากตระกูลลู่, จะต้องถูกตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกัน

อย่างไร​ก็ตาม, เมื่อเห็นลู่ฉางเฟิงที่กำลังจะ​สังหารเยียนเหว่ยซาน

ดวงตาของฉงหมิงก็ฉายแววเจตนาฆ่าทันที​

"ฮึ่ม!"

ตามมาด้วยเสียงเย้ยหยันอันเย็นชา…ฉงหมิงก็ลงมืออย่างรวดเร็ว​

เขายื่นมือออกไป และมือปีศาจขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า พุ่งเข้าหาลู่ฉางเฟิงอย่างรุนแรง​

เมื่อสัมผัสได้ว่ามือของฉงหมิงพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

ลู่ฉางเฟิงกลับไม่กลัวเลย เเต่ขณะที่เขากำลังจะฟาดฟันออกไปสุดกำลัง

ฝ่ามือ​ที่เร็วกว่าก็ได้มาช่วยเค้าไว้เสียก่อน

เเละบุคคลที่ลงมือก็คือลู่ชิงซวน

เมื่อลู่ชิงซวนเห็นฉงหมิงลงมือ เขาจะเพิกเฉยเเละไม่ช่วยลู่ฉางเฟิงได้อย่างไร

ตูม!

ฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของฉงหมิงถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายใต้ฝ่ามือ​ของลู่ชิงซวน

มือปีศาจของฉงหมิงถูกบดขยี้ และพลังของฝ่ามือ​ของลู่ชิงซวนก็ยังไม่หายไป…มันกดลงไปทางฉงหมิงอย่างน่า​สะพรึงกลัว​

เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของฉงหมิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

โดยไม่ลังเล เขาหยิบง้าวออกมาและฟาดฟันอย่างแรง

แสงง้าวราวกับดาวตก เคลื่อนผ่านท้องฟ้า และตัดกับฝ่ามือของลู่ชิงซวน

ตูม!

การโจมตีของคนทั้งสองระเบิดขึ้นในความว่างเปล่า

ทันใดนั้น แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ระเบิดออกมา และพลังปราณก็พัดผ่านไปทุกทิศทาง

ฉงหมิงถูกเเรงสั่นสะเทือนจากพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวนี้ และถอยหลังไปหลายจั้ง

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อ

เขาใช้อาวุธ แต่เขายังคงเสียเปรียบ

เเล้วเเบบนี้​ เขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร?

ขณะที่ร่างของเขากำลังจะทรงตัว เสียงดัง ฉับ!! ก็ดังขึ้น

ทุกคนหันไปมอง และเห็นว่าหัวของเยียนเหว่ยซานถูกดาบของลู่ฉางเฟิงตัดขาด และโลหิตสีแดงสดหนึ่งกำมือก็สาดกระเซ็นสู่ความว่างเปล่า

ฉงหมิงและถังชิวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลู่ฉางเฟิงกล้าฆ่าผู้อาวุโสแห่งนิกายหลางหยาเทียนจงต่อหน้าพวกเขาจริงๆ

เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของฉงหมิงก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่แท้จริง และพลังวิญญาณในร่างกายของเขาก็ระเบิดออกมา เหมือนเสือที่โกรธจัด

"รนหาที่ตาย!"

เสียงดังกล่าวราวกับคลื่นเย็นยะเยือก ทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน

ในชั่วขณะ ฉงหมิงก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า และพุ่งเข้าหาลู่ฉางเฟิง ตั้งใจที่จะฆ่าลู่ฉางเฟิงในทันที

อีกฝ่ายกล้าฆ่าผู้อาวุโสห้าต่อหน้าเขา

ตอนนี้ฉงหมิงโกรธเเค้น​อย่างถึงที่สุด​

………………..

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด