บทที่ 16 รอผลลัพธ์

"พี่ฮวาหล่อจังเลย!" หญิงสาวชุดฟ้ามองฮวาเสี่ยวเม่ยที่เดินเข้ามา ตาเป็นประกายพูดว่า "ถ้าเอาหัวพี่ฮวามาทำโคมไฟหนังคน แขวนไว้หัวเตียงดูทุกวันคงดีน่าดู!"

ฮวาเสี่ยวเม่ยกระตุกมุมปาก ไม่อยากตอบโต้

หญิงสาวตรงหน้านี้คือเจียงหนิงแห่งตระกูลเจียง หนึ่งในสี่ตระกูลฮวา หวง ซง เจียง

เธอไม่ได้สวยมาก แต่ยิ่งมองยิ่งยิ่งมีเสน่ห์ พอยิ้มก็ดูอ่อนโยนและสง่างาม มีไฝดำที่หางตาซ้าย ดูขัดแย้งกับใบหน้าอ่อนโยนโดยรวม แต่ก็ทำให้เธอดูคล่องแคล่วว่องไว

ต่างจากคนโง่ที่คิดแต่เรื่องฝึกวิชาคู่เมื่อครู่ ฮวาเสี่ยวเม่ยรู้ว่าเจียงหนิงตรงหน้าเป็นคนเจ้าเล่ห์

คฤหาสน์ซานไฉเดิมชื่อคฤหาสน์ซานไฉ่ เป็นคฤหาสน์สาขาของตระกูลฮวาที่ใช้ปลูกยาวิเศษ แม้ว่าจั้น(จั้นอวิ๋นฝาน)จะเป็นเจ้าของคฤหาสน์ แต่ก็เป็นเพียงคนรับใช้และผู้จัดการของตระกูลฮวา

เดิมทีเขาแค่วางแผนแวะมาที่คฤหาสน์ซานไฉ ตรวจสอบบัญชีปีนี้ และดูว่าหลังจากซุนเต๋าเหรินแห่งลัทธิฮวงเทียนเข้าพำนักในเมืองอี้หยาง มีการกดดันคฤหาสน์ซานไฉหรือไม่

ในยุทธภพไม่มีสวรรค์บนดินหรือดินแดนไร้เจ้าของ ทุกอำนาจต่างขัดแย้งกันไปมา! ทุกผืนดิน ทุกไร่นาล้วนได้มาด้วยการต่อสู้!

พื้นที่คฤหาสน์ซานไฉใกล้ทะเลสาบ การคมนาคมสะดวก มีที่นาดี สามารถเป็นรากฐานของสำนักหนึ่งได้

เป็นบรรพบุรุษของตระกูลฮวาที่แย่งชิงมาจากมือผู้อื่น!

ซุนเต๋าเหรินซุกซ่อนตัวในยุทธภพมาหลายปี แต่เดิมมีชื่อเสียงเพียงเล็กน้อย จู่ๆ ก็บังคับเข้าครอบครองเมืองอี้หยาง ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก เมื่อซุนเต๋าเหรินสามารถครอบครองเมืองและทำการสังหารหมู่ในเมืองอี้หยางได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะกดดันอำนาจรอบเมืองอี้หยาง นำคฤหาสน์ซานไฉเข้าสู่การปกครองของเมืองอี้หยาง

คฤหาสน์ซานไฉยังไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์กับสำนักมาร สำนักมารจึงไม่สะดวกที่จะเข้าแทรกแซงโดยตรง ฮวาเสี่ยวเม่ยจึงเตรียมมาดูสถานการณ์ก่อน แล้วค่อยกลับไปปรึกษาบิดาว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

ไม่คิดว่าเจียงหนิงจะได้รับข่าว บังคับแทรกแซงเรื่องของคฤหาสน์ซานไฉ

เธออ้างว่าสี่ตระกูลของสำนักมารเหมือนครอบครัวเดียวกัน ควรช่วยเหลือกัน แต่จริงๆ แล้วต้องการให้คฤหาสน์ซานไฉวางคัมภีร์ยาวิเศษเพิ่มอีกหนึ่งชุดในป่าหินจารึก และขอส่วนแบ่งรายได้ประจำปีของคฤหาสน์ซานไฉ 30%

ฮวาเสี่ยวเม่ยเลี่ยงเธอมาหลายวัน ไม่คิดว่าเธอจะดึงหวงอู่เฟิ่งมาด้วย หวังจะสร้างความวุ่นวาย

ช่างน่าระอา! ในสำนักมารล้วนแต่พวกเห็นแก่ตัว จะทำการใหญ่ได้อย่างไร!

ตำแหน่ง "พระราชาเย่ชี" ว่างมาหลายร้อยปีแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้เป็น "พระราชาเย่ชี" รวมสำนักมารเป็นหนึ่งเดียว!

"พี่ฮวา ในแปลงผักของพี่มีคัมภีร์วิชาตั้งหลายสิบชุด เพิ่มหรือลดสักชุดจะเป็นไรไปเล่า?" เจียงหนิงในชุดฟ้ายังคงเอียงศีรษะ จ้องหน้าฮวาเสี่ยวเม่ย ในใจคิดว่าจะลงมีดตรงไหนดี

"เจ้าไม่เคยปลูกผัก ไม่เข้าใจวิธีการ" ฮวาเสี่ยวเม่ยส่ายหน้าพูด "คัมภีร์วิชาหลายสิบชุดนั้น มีเพียงสามชุดที่เป็นคัมภีร์ยาวิเศษ ที่เหลือล้วนเป็นคัมภีร์ครึ่งจริงครึ่งเท็จ ทำเช่นนี้จึงจะทำให้พวกเขาล้มเหลวหลายครั้ง แล้วบังเอิญเลือกคัมภีร์ยาวิเศษ และยินดีฝึกฝนด้วยความเต็มใจ!"

"งั้นข้ายินดีเพิ่มคัมภีร์วิชาอีกสิบกว่าชุด!" เจียงหนิงรีบพูด

"พี่ฮวา น้องก็ยินดีค่ะ!" หวงอู่เฟิ่งมาถึงข้างกายฮวาเสี่ยวเม่ยพร้อมกลิ่นหอม เธอยื่นมือจะลูบหน้าฮวาเสี่ยวเม่ย แต่ถูกฮวาเสี่ยวเม่ยใช้พัดตีมือ

"ข้าบอกเจ้าไปหลายวันแล้ว ในขอบเขตอิทธิพลของคฤหาสน์ซานไฉ วางคัมภีร์ยาวิเศษได้แค่สามชุดเท่านั้น!" ฮวาเสี่ยวเม่ยเป่าพัดอย่างเหนื่อยหน่าย ตรงที่ตีมือหวงอู่เฟิ่ง

"ยุทธภพกว้างใหญ่ ทำไมพวกเจ้าไม่ไปที่อื่นสร้างแปลงผักเอง?" เขาพูดต่อ

"ประสบการณ์ไม่พอ ผลผลิตไม่ดี!" เจียงหนิงยิ้มพูด

แปลงผักของตระกูลฮวาได้ผลดี ย่อมทำให้อีกสามตระกูลเลียนแบบ

แต่สิ่งเหล่านี้ ดูง่ายแต่จริงๆ แล้วซับซ้อน วิธีเลือกแปลงผัก คัมภีร์วิชา สร้างกระแสขยายอิทธิพล สร้างวงจรที่มีทั้งความสามารถ ชื่อเสียง และผลผลิตยาวิเศษที่ดี เป็นประสบการณ์เฉพาะของตระกูลฮวาที่สั่งสมมาหลายร้อยปี

ตระกูลเจียงเคยทำแปลงผักที่แคว้นเหลียงทางตะวันตกเฉียงใต้ แต่รีบเร่งเก็บเกี่ยว ทำให้ถูกคนรุมประณาม

"พวกเจ้าก็รู้ว่าแปลงผักหนึ่งแปลงยากเย็นแค่ไหน จะทำลายมันเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร? เรื่องนี้ไม่มีทางตกลงได้!" ฮวาเสี่ยวเม่ยพูดอย่างหนักแน่น

แปลงเพาะของตระกูลฮวาก็ไม่ใช่ว่าจะเติบโตได้ทุกแปลง แปลงที่ดีอย่างคฤหาสน์ซานไฉ พวกเขาต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะสร้างได้หนึ่งแห่ง

แม้จะลงทุนมาก แต่ก็ได้ผลตอบแทนมาก ไม่งั้นจะต้องมาตรวจบัญชีด้วยตัวเองทำไม?

ในศาลาฮวาฮ่าว จั้นอวิ๋นฝานได้แต่ยืนอยู่มุมห้อง แม้ภายนอกเขาจะเป็นเจ้าของคฤหาสน์ซานไฉ เป็นผู้มีคุณธรรมที่มีชื่อเสียงในแคว้นอี๋ แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงคนรับใช้ของตระกูลฮวา

สำหรับเขาแล้ว สามคนนี้ไม่มีโอกาสให้เขาแทรกแซง สิ่งที่เขาทำได้คือรอให้พวกเขาสามคนตกลงกันเสร็จ แล้วบอกเขาให้ไปทำตาม

เขารอผลลัพธ์

"งั้นข้าและตระกูลหวงจะร่วมมือกับท่านต่อต้านซุนเต๋าเหรินแห่งลัทธิฮวงเทียน แบ่งรายได้จากคฤหาสน์ให้พวกเราสักกี่ส่วน เป็นค่าเหนื่อยดีไหม?" เจียงหนิงเห็นฮวาเสี่ยวเม่ยไม่ยอมอ่อนข้อ จึงหันมาพูดเรื่องเงิน

ทั้งเมืองซานไฉรวมถึงทะเลสาบเล็กๆ นั้น ล้วนเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของคฤหาสน์ซานไฉ แค่ค่าเช่าบ้านประจำปีในเมืองซานไฉก็เป็นรายได้มหาศาล ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรายได้อื่นๆ

ช่างทำให้เธออิจฉาจริงๆ

มีเงินก้อนนี้ เธอถึงจะทำสิ่งที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องถูกจำกัดจากภายในตระกูลเจียงอีก

"ใช่ๆ! ขอแค่พี่ฮวายอมจ่ายเงิน น้องยินดีลุยไฟข้ามทะเลเพื่อพี่ฮวา แม้แต่ฝึกวิชาคู่ก็ได้นะคะ!" หวงอู่เฟิ่งข้างๆ พูดเสียงอ่อนหวาน

ในยุทธภพ อิทธิพลของเงินไม่ได้น้อยกว่าวรยุทธ์เลย!

ขณะที่พวกเขาทั้งสามกำลังถกเถียงกัน ที่ป่าหินจารึกฝั่งตะวันตกของคฤหาสน์ซานไฉ คุณปู่แมวกำลังนอนอาบแดดอย่างเกียจคร้าน จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดมาจากทิศเหนือ ไม่นานท้องฟ้าก็มีเมฆสีตะกั่วปกคลุม ดูเหมือนฝนจะตก

คุณปู่แมวมองท้องฟ้าอย่างไม่พอใจ เอาป้าย "ลูบแมวยักษ์ได้ ครั้งละห้าต้าลึง" ใส่ในชามใส่อาหาร กลืนเงินในอีกชามเข้าไป แล้วซ้อนสองชามเข้าด้วยกัน คาบชามกระโดดสองสามทีก็หายไป

เหลือเพียงคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ มองร่างของคุณปู่แมวด้วยความเสียดาย หลายวันมานี้คุณปู่แมวปรากฏตัว พวกเขามาชมคุณปู่แมวครึ่งวันทุกวัน

คุณปู่แมวเดินอย่างเงียบกริบ มาถึงคฤหาสน์เล็กๆ ที่หรูหราในคฤหาสน์ซานไฉอย่างคุ้นเคย ลานเล็กๆ มีมาตรฐานสูงมาก ถึงขั้นมีลำธารเล็กๆ ที่ขุดมาจากทะเลสาบนอกคฤหาสน์ ไหลผ่านลานเล็กๆ

ในห้องโถงหลักของคฤหาสน์เล็ก มีพรมขนแกะขนาดใหญ่ทอเป็นวงกลม คุณปู่แมวนอนลงบนนั้น เตรียมจะนอนหลับอย่างสบาย

"เหมยเหรินแห่งสำนักมารทะเลเหนือ ขอคารวะมหาแมว!" เงาร่างหนึ่งดูเหมือนจะรออยู่ในห้องนานแล้ว เห็นคุณปู่แมวนอนลงบนที่นอน จึงคุกเข่าครึ่งหนึ่งคำนับ

คุณปู่แมวรู้ว่ามีคนในห้องมานานแล้ว จึงไม่แปลกใจ แต่ก็ไม่สนใจคนผู้นี้

"สำนักมารทะเลเหนือ ขอเชิญท่านแมวผู้ยิ่งใหญ่ไปทะเลเหนือ!" เงาร่างที่คุกเข่าครึ่งหนึ่งพูดอีก

รอ! การแสดงกำลังจะเริ่ม!