ตอนที่ 364 งานเลี้ยงตระกูลซูเริ่มต้นขึ้น
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่านี่คือคุณซู เซิ่งจือ หรือเปล่าครับ?”
ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนคนหนึ่งถามขึ้น
ซู เซิ่งจือ เป็นชื่อของพ่อของ ซู หนิงซวง
“ผมเองครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใคร?”
พ่อของ ซู หนิงซวง ถามด้วยความสงสัย เนื่องจากเขาไม่รู้จักชายสองคนนี้
“สวัสดีครับ คุณซู ผมชื่อ หู หมิงเย่ เป็นประธานบริษัท ฮว่าหยุน กรุ๊ปในหางโจวครับ”
ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางคนหนึ่งแนะนำตัวเอง
“ผมชื่อ เมิ่ง เต๋อผิง”
ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนแนะนำตัวเองเช่นกัน
ฮว่าหยุน กรุ๊ป?
เมื่อได้ยินชื่อบริษัท ฮว่าหยุน กรุ๊ป พ่อของ ซู หนิงซวง ก็ตกตะลึง
ฮว่าหยุน กรุ๊ป นั้นเขาเคยได้ยินชื่อมาก่อน มันเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์รวมนับหลายหมื่นล้าน
ทำไมประธานของบริษัท ฮว่าหยุน กรุ๊ป ถึงมาหาเขาได้กัน?
และเมิ่ง เต๋อผิง ที่มากับ หู หมิงเย่ ก็คงต้องมีสถานะไม่ธรรมดาเช่นกัน
“อ๋อ ที่แท้เป็นบอสหู และบอสเมิ่ง เชิญเข้ามาข้างในเลยครับ”
พ่อของ ซู หนิงซวง เชิญแขกเข้ามาด้วยความสุภาพ
หลังจากที่ หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง เข้ามา ทั้งสามคนได้พูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าสู่หัวข้อสำคัญ
“ได้ยินว่า คุณซู เป็นประธานสาขาของกลุ่มบริษัท ซู ที่เจียงโจว?”
หู หมิงเย่ ถามทันที
“ใช่ครับ ทำไมเหรอ?”
พ่อของ ซู หนิงซวง พยักหน้ารับ
“คืออย่างนี้ครับ คุณซู พวกเรา ฮว่าหยุน กรุ๊ป กำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ และผมคิดว่ากลุ่มบริษัท ซู น่าจะเหมาะสม ดังนั้นผมจึงมาที่นี่เพื่อเจรจาความร่วมมือกับ ซู กรุ๊ป”
ขณะที่เขาพูด หู หมิงเย่ ก็หยิบสัญญาสองฉบับออกมาจากกระเป๋าของเขา
เมื่อเห็นสัญญาที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย.. พ่อของ ซู หนิงซวง ถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมประธานของ ฮว่าหยุน กรุ๊ป ถึงมาขอเซ็นสัญญากับเขาถึงที่?
มัน..กะทันหันเกินไป
“ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกเราสามารถเซ็นสัญญาได้เลยตอนนี้”
หู หมิงเย่ ผลักสัญญามาหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อของ ซู หนิงซวง
“ขอผมดูสัญญาก่อนครับ”
พ่อของ ซู หนิงซวง ไม่กล้าตัดสินใจทันที
“เป็นเรื่องปกติครับ”
หู หมิงเย่ พยักหน้า พร้อมกับทำท่าเชื้อเชิญ
พ่อของ ซู หนิงซวง หยิบสัญญาขึ้นมา และศึกษามันอย่างละเอียดรอบคอบ
หลังจากอ่านเสร็จ เขายิ่งตกใจ และประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
สัญญาฉบับนี้ทำให้เขาได้เปรียบอย่างชัดเจน ในขณะที่ ฮว่าหยุน กรุ๊ป กลับดูเหมือนเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบมากกว่า
หากสัญญานี้สำเร็จ บริษัทของเขาจะได้กำไรไม่ต่ำกว่าแปด หรือเก้าพันล้าน หรืออาจถึงหมื่นล้านด้วยซ้ำ
นี่มันน่ากลัวมาก
แค่สัญญาฉบับนี้ก็มีมูลค่ามากกว่ากำไรทั้งปีของเขาที่ทำให้กับกลุ่มบริษัท ซู เสียอีก!
ซู กรุ๊ป ที่เจียงโจวมีมูลค่ารวมเพียงหนึ่งหมื่นล้านเท่านั้น และกำไรก็ไม่สูงนัก
“บอสหู สัญญานี้คือ?”
พ่อของ ซู หนิงซวง รู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่า ฮว่าหยุน กรุ๊ป จะมายื่นข้อสัญญาที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบเช่นนี้
“คุณซู ไม่ต้องรีบร้อนครับ ผมเองก็อยากร่วมมือกับคุณเช่นกัน”
เมิ่ง เต๋อผิง พูดพลางหยิบสัญญาสองฉบับออกมาเช่นกัน
“คุณซู ลองอ่านดู หากไม่มีปัญหา เราสามารถเซ็นสัญญาได้ทันที”
“อ่า?”
พ่อของ ซู หนิงซวง วางสัญญาในมือ และหยิบสัญญาอีกฉบับหนึ่งของ เมิ่ง เต๋อผิง ขึ้นมาอ่านด้วยความสงสัย
เพียงแค่อ่านไปได้ครึ่งทางเท่านั้น พ่อของ ซู หนิงซวง ก็รู้สึกเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น..ไม่เป็นความจริง
สัญญาของ เมิ่ง เต๋อผิง ยังน่าตกใจยิ่งกว่า.. สัญญานี้เหมือนกับการให้เงินแก่เขาโดยตรง
หากเขาเซ็นสัญญานี้ ซู กรุ๊ป จะได้กำไรประมาณ 1.5 พันล้าน!
นี่.. เมิ่ง เต๋อผิง มาที่นี่เพื่อมอบเงินให้เขาหรืออย่างไร?
“บอสเมิ่ง นี่มัน......?”
พ่อของ ซู หนิงซวง อดไม่ได้ที่จะถามออกไปโดยตรง
“คุณซู ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าคุณพอใจกับสัญญา ก็เซ็นได้เลย”
เมิ่ง เต๋อผิง บอกเป็นนัยๆ
“หลังจากนี้.. ขอ คุณซู ช่วยพูดถึงพวกผมกับ คุณเย่เฉิน แค่คำดีๆ สักหน่อยก็พอแล้วครับ”
พอได้ยินแบบนี้ พ่อของ ซู หนิงซวง ก็ตาสว่างทันที (ตระหนักได้)
ที่แท้ทั้งสองคนนี้ก็มาที่นี่เพราะ.. เสี่ยวเฉิน
“คุณซู สัญญาสองฉบับนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราเลย”
เมิ่ง เต๋อผิง เสริม
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ”
ในที่สุด พ่อของ ซู หนิงซวง ก็พยักหน้า และเซ็นสัญญากับ หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง
ติ๊งต๊อง..
ขณะที่พ่อของ ซู หนิงซวง เพิ่งเซ็นสัญญาเสร็จ ก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นอีกครั้ง
พ่อของ ซู หนิงซวง รีบไปเปิดประตู
“ขอโทษครับ ที่นี่คือบ้านของคุณซู เซิ่งจือ ใช่ไหมครับ?”
ที่หน้าบ้าน ชายคนหนึ่งถามอย่างสุภาพมาก :
“ใช่ครับ ผมคือ ซู เซิ่งจือ”
“ผมชื่อ ข่งเฟิง เป็นประธานของบริษัท ข่ง กรุ๊ป ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ บอสข่ง ผมชื่อ ซู เซิ่งจือ”
หลังจากแนะนำตัวแล้ว พ่อของ ซู หนิงซวง เชิญ ข่งเฟิง เข้ามาในบ้าน
เมื่อ หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง เห็นการมาถึงของ ข่งเฟิง พวกเขาก็พลันปรากฏรอยยิ้มอย่างลึกลับขึ้นบนใบหน้า
ข่งเฟิง นั้นได้ข้อมูลจาก หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง ก่อนจะมาถึงที่นี่
ครั้งก่อน เนื่องจากลูกชายที่ไม่เอาไหนของเขา ได้สร้างปัญหาบางอย่างขึ้นมา
ตอนนี้ ข่งเฟิง จึงต้องการแสดงความขอโทษต่อ คุณเย่เฉิน เพื่อคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน
หลังจากสนทนากันได้สักพัก ข่งเฟิง ก็หยิบสัญญาที่เตรียมไว้ออกมาเช่นกัน
สัญญาฉบับนี้ให้ผลกำไรสูงถึงกว่าหมื่นล้านหยวน
เมื่อเห็นมหาเศรษฐีทั้งสามคนนี้ พ่อของ ซู หนิงซวง ก็รู้ว่า เย่เฉิน มีอิทธิพลมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก
งานเลี้ยงประจำปีครั้งนี้ เมื่อมี เสี่ยวเฉิน อยู่ที่นี่ ..ก็ไม่มีอะไรที่จำต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
.........
ในเมืองหางโจว ที่คฤหาสน์ของตระกูลซู ซึ่งเป็นบ้านของ ซู เซิ่งเย่ บุตรชายคนโตของตระกูล ตอนนี้ได้มีแขกคนหนึ่งมาเยือน
หลังจากที่ ซู เซิ่งเย่ จัดการทุกอย่างในบ้านใหญ่ของตระกูลเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาที่บ้านของตัวเอง
ทันทีที่เดินเข้าไปในบ้าน ซู เซิ่งเย่ ก็เห็นชายหนุ่มอายุประมาณ 26-27 ปี หน้าตาหล่อเหลา กำลังคุยกับภรรยา และลูกสาวของเขา
“คุณพ่อคะ คุณพ่อกลับมาแล้ว”
ซู อิ่งหลวน ลูกสาวของเขา แนะนำชายหนุ่มคนนี้อย่างกระตือรือร้น :
“คุณพ่อค่ะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยของหนู ตู้ หยวนเหว่ย”
“สวัสดีครับ ลุงซู เรียกผมว่า เสี่ยวเหว่ย ก็ได้ครับ”
ตู้ หยวนเหว่ย ทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดี สวัสดี”
ซู เซิ่งเย่ พยักหน้า และถามอย่างมีมารยาทว่า :
“หยวนเหว่ย มาจากเมืองไหนล่ะ?”
“ลุงซู ผมมาจากกว่างโจวครับ หลังจากเรียนจบ ผมก็กลับไปที่กว่างโจว”
ตู้ หยวนเหว่ย อธิบายถึงเหตุผลที่มาเยือนของเขา :
“พ่อของผมอยากให้ผมมาลองพัฒนาที่หางโจวดู ผมก็เลยมาที่นี่ครับ”
“ผมได้ยินจาก อิ่งหลวน มานานแล้วว่า ตระกูลซูในหางโจวภายใต้การบริหารของ ลุงซู นั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมนับถือความสามารถของ ลุงซู มากครับ”
อิ่งหลวน?
เมื่อได้ยินคำเรียกชื่อลูกสาวจากปากของ ตู้ หยวนเหว่ย ซู เซิ่งเย่ ก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ
เขามองไปที่ลูกสาว และมองไปที่ ตู้ หยวนเหว่ย อีกครั้ง ทันใดนั้นเองเขาก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว
ดูเหมือนว่า ตู้ หยวนเหว่ย คนนี้มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกเขยของเขา
“คุณพ่อค่ะ ตระกูลของ หยวนเหว่ย มีฐานะที่ดีมากในกว่างโจว เขามาที่หางโจวเพื่อพัฒนา คุณพ่อต้องช่วยเขานะคะ”
ซู อิ่งหลวน เสริมขึ้นมา
“ได้สิ เสี่ยวเหว่ย ลองพูดมาได้เลย”
ซู เซิ่งเย่ พยักหน้า
หลังจากนั้น ตู้ หยวนเหว่ย ก็เริ่มเล่าถึงแนวคิดของเขา และความตั้งใจที่จะร่วมมือกับ ซู กรุ๊ป
เมื่อฟังจบ ซู เซิ่งเย่ ก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
ตู้ หยวนเหว่ย เองเหมือนกำลังนำสินสอดมาให้ตระกูลของเขา
ถ้าหากเขาร่วมมือกับ ตู้ หยวนเหว่ย กลุ่มบริษัท ซู จะได้กำไรเกือบหนึ่งหมื่นล้านหยวนในคราวเดียว
เดิมทีการที่เขาจะขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลซูคนต่อไปก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
ถ้าเพิ่มเงินหมื่นล้านนี้เข้าไป มันก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้น
แน่นอนว่า ซู เซิ่งเย่ จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป
ซู เซิ่งเย่ เริ่มคุยรายละเอียดกับ ตู้ หยวนเหว่ย ทันที
สุดท้ายหลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ก็ได้ข้อสรุป และเริ่มเตรียมสัญญา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตางานเลี้ยงประจำปีของตระกูลซูก็มาถึง
เย่เฉิน ขับรถมาที่บ้านพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง และหลังจากที่ได้พบกับครอบครัวของ ซู หนิงซวง พวกเขาก็เดินทางไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลซูพร้อมกัน!