ตอนที่ 1295 การโจมตีของศัตรูที่แข็งแกร่ง (ฟรี)
ตอนที่ 1295 การโจมตีของศัตรูที่แข็งแกร่ง
ทุกคนรู้ดี สภาหอคอยขาวตั้งอยู่ในดินแดนต้าหมิง
ตอนที่หลานซีเหอยังเป็นเจ้าหอคอย สภาหอคอยขาวคือกำลังสำคัญของดินแดนต้าหมิง สภาหอคอยขาวยับยั้งความโกลาหล รวมดินแดนทั้งแผ่นเข้าไว้ด้วยกัน พวกเขายังควบคุมสภาหอคอยทมิฬเอาไว้ พวกเขาเป็นกองกำลังที่มีชื่อเสียงในโลกแห่งการฝึกยุทธ
ฉินเต๋อมองดูหอคอยสีขาว เขายังไม่ได้ลงมือ เขาคิดถึงแผนการต่อไปแล้ว การโจมตีแบบกองโจร ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่กังวลว่าจะหาที่ตั้งหลักไม่ได้ เพราะโลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่มาก ถึงแม้ปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติจะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่เขาหลีกเลี่ยงพวกเขาเหล่านั้นได้ ฉินเต๋อก็จะไม่เป็นอะไร
“ในเมื่อศิษย์ของปรมาจารย์ลู่มาที่นี่ นั่นแสดงว่าที่นี่ต้องมีเส้นทางอักษรโบราณอยู่แน่ ข้าจะต้องระวังตัวให้ดี...” ฉินเต๋อพึมพำกับตัวเอง ตราบใดที่เขาไม่เจอกับฉินเหรินเยว่และลู่โจว เขาก็จะไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงต้องระวังตัวจากยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่
ฉินเต๋อบินไปข้างหน้า เขาหยุดอยู่ห่างจากหอคอยสีขาวไม่กี่ร้อยเมตร เขามองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้ม การที่หอคอยสีขาวยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้แม้ว่าจะเกิดความไม่สมดุลขึ้นแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่ามันไม่ธรรมดา
ความไม่สมดุลนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววของผู้รักษาสมดุลเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องการให้มนุษย์กับสัตว์ร้ายต่อสู้กัน
“ข้าควรจะระมัดระวังตัวและสืบหาข้อมูลก่อน” ฉินเต๋อพูดจบก็หายตัวไป
…
ในเวลานี้ ฉินเหรินเยว่ก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ กับหุบเขาเมฆาในดินแดนดอกบัวแดง เขาเดินทางมาที่นี่โดยใช้เส้นทางอักษรโบราณของตระกูลฉินที่เชื่อมต่อกับภูเขาหิมะใกล้ๆ กับหุบเขาเมฆา
ฉินเหรินเยว่แสดงสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา เขามองดูยอดเขาทั้งสิบสองลูกโดยรอบ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รีบบินไปข้างหน้า ความไม่สมดุลที่นี่นั้นรุนแรงมาก
เมฆดำปกคลุมท้องฟ้า สัตว์บิน บินไปมาบนนั้น
ฉินเหรินเยว่ใช้พลังทั้งหมดบินไปข้างหน้า เพียงพริบตาเดียวเขาก็มาถึงยอดเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย เมื่อเขาเข้าไปใกล้ยอดเขามากขึ้น เขาก็เห็นผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งกำลังเคลื่อนไหว ฉินเหรินเยว่หายตัวไปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าผู้ฝึกยุทธคนนั้น
ผู้ฝึกยุทธคนนั้นตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฉินเหรินเยว่ “เจ้...เจ้า...เจ้า...เป็นใคร?!”
“ข้าจะไปลานสงครามเทวาลัยได้ยังไง?” ฉินเหรินเยว่ถาม
การที่อยู่ในตำแหน่งสูงมานาน ทำให้เป็นเรื่องยากที่ฉินเหรินเยว่จะเปลี่ยนวิธีการพูดและท่าทางได้ มันง่ายมากที่จะทำให้คนอื่นไม่พอใจ
ผู้ฝึกยุทธหนุ่มที่ไม่อยากหาเรื่องใครชี้นิ้วไปที่ยอดเขาทั้งสิบสอง “มันอยู่ทางเหนือของสิบสองสำนักแห่งหุบเขาเมฆา ห่างจากที่นี่ประมาณ 190 ไมล์...”
“นั่นคือสิบสองสำนักแห่งหุบเขาเมฆางั้นเหรอ?” ฉินเหรินเยว่ตกใจเล็กน้อย
ผู้ฝึกยุทธคนนั้นหวาดระแวง ถึงแม้หุบเขาเมฆาจะไม่ได้เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย แต่มันก็ยังคงมีชื่อเสียงในดินแดนดอกบัวแดง คนตรงหน้าเขาไม่รู้จักที่นั่นได้ยังไง?ดังนั้น เขาจึงรีบบอกลา “ข้าขอตัวก่อน...”
“ทำไมถึงรีบร้อนนัก?” ฉินเหรินเยว่ถาม
“ความไม่สมดุลกำลังรุนแรงมาก ข้าต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัตว์ร้ายไม่ได้บุกรุกสิบสองสำนักแห่งหุบเขาเมฆา” ผู้ฝึกยุทธคนนั้นตอบกลับ
“เจ้าเป็นศิษย์ของสิบสองสำนักแห่งหุบเขาเมฆางั้นเหรอ?”
“เอ่อ...” ผู้ฝึกยุทธคนนั้นรู้ตัวว่าเขาพูดผิด เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาจึงรีบหันหลังกลับและจากไป
ผู้ฝึกยุทธคนนี้มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบเท่านั้น สำหรับฉินเหรินเยว่แล้ว เขาอ่อนแอกว่ามดด้วยซ้ำ
ฉินเหรินเยว่หายตัวไปและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าผู้ฝึกยุทธคนนั้น เขาจับตัวผู้ฝึกยุทธเอาไว้ “ไปกันเถอะ”
เมื่อผู้ฝึกยุทธคนนั้นรู้สึกตัว เขาก็เห็นต้นไม้ ภูเขา และแม่น้ำ ผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว มันทำให้เขารู้สึกเวียนหัว
สิบห้านาทีต่อมา ฉินเหรินเยว่ก็หยุดลงบนท้องฟ้าเหนือยอดเขาทั้งสิบสองลูก เขามองดูผู้ฝึกยุทธคนนั้นก่อนถาม “นี่คือหุบเขาเมฆางั้นเหรอ?”
“...”
“ข้ากำลังถามเจ้า...”
ผู้ฝึกยุทธคนนั้นเวียนหัวและคลื่นไส้
ฉินเหรินเยว่เห็นสัตว์บินมากมายกำลังโจมตีหุบเขาเมฆา เหล่าศิษย์กำลังพยายามป้องกัน ผู้ฝึกยุทธไม่กี่คนมีพลังอวตารวังวนพันแดน ที่ยอดเขาสูงที่สุด เขาสังเกตเห็นผู้ฝึกยุทธ 1,000 คน ที่มีพลังผังก่อเกิดสองผังกำลังบินอยู่รอบๆ เขามองลงไปข้างล่าง พื้นดินใต้ลานเมฆานั้นดำสนิท ราวกับว่ามันเคยถูกไฟไหม้
ฉินเหรินเยว่ถอนหายใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”
ผู้ฝึกยุทธคนนั้นมองดูแอสโตรแลปสีเขียวที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเหรินเยว่ด้วยความตกตะลึง
ฉินเหรินเยว่ผลักแอสโตรแลปขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือหุบเขาเมฆา มันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้
เหล่าศิษย์แห่งหุบเขาเมฆาเงยหน้าขึ้นมองดูด้วยความตกใจ
ลำแสงจากพลังผังก่อเกิดของฉินเหรินเยว่พุ่งลงมา
แอสโตรแลปหมุนวน ลำแสงมากมายพุ่งออกไป มันสังหารสัตว์ร้ายและสัตว์บิน
ไม่นานนัก ความเงียบก็กลับคืนสู่หุบเขาเมฆา
“ยอดฝีมือท่านใดที่ช่วยเหลือหุบเขาเมฆาไว้กัน?”
เหล่าผู้อาวุโสลอยตัวอยู่กลางอากาศ ขนาดของแอสโตรแลปที่เห็นนั้นเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา
“แอสโตรแลปใหญ่มาก!”
“เจ้าสำนักอยู่ที่ไหน?”
“เจ้าสำนักลงไปจัดการราชาสัตว์ร้ายที่เชิงเขาครับ!”
“รีบไปตามเจ้าสำนักมาที่นี่เร็ว!”
ในเวลานี้ แอสโตรแลปบนท้องฟ้าก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว มันบินกลับไปยังมือของฉินเหรินเยว่
เหล่าผู้อาวุโสพาศิษย์เข้ามาหาฉินเหรินเยว่
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ช่วยพวกเรา”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” ฉินเหรินเยว่กล่าว
“ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสมีชื่อว่าอะไร?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถาม
ฉินเหรินเยว่หยิบหยกออกมา เขายื่นมันให้กับผู้อาวุโสคนนั้น “หากพวกท่านตกอยู่ในอันตราย ก็จงบดขยี้หยกชิ้นนี้ซะ” จากนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ว่าคนพวกนี้คงไม่รู้จักตัวตนของเขา ดังนั้นเขาจึงพูดต่อ “ข้าเป็นสหายของท่านปรมาจารย์ลู่แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า”
“ที่แท้ท่านก็เป็นสหายของท่านปรมาจารย์ลู่นี่เอง ข้าตกใจแทบแย่” ผู้ฝึกยุทธที่ถูกฉินเหรินเยว่พามาที่นี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
‘อย่างที่คิด ชื่อเสียงของพี่ลู่ในดินแดนดอกบัวแดงนั้นดีกว่าข้า’ ฉินเหรินเยว่คิดในใจ
ฉินเหรินเยว่ตัดสินใจใช้ชื่อเสียงของลู่โจว “ข้ามีธุระต้องทำ ไว้เจอกันใหม่”
ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเมฆาไม่กล้ารั้งเขาเอาไว้
ฉินเหรินเยว่หายตัวไป
…
ในเวลาเดียวกัน
ณ สถานฝึกฝนแห่งสภาหอคอยขาว
“ศิษย์พี่หญิงหก ลำบากท่านแล้ว” สีวู่หยากล่าวหลังจากที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับยี่เทียนซินฟัง
“ไม่ต้องพูดแบบนั้น เรื่องของศาลาปีศาจลอยฟ้าก็คือเรื่องของข้าเช่นกัน” ยี่เทียนซินกล่าว “ข้าได้สั่งให้ทุกคนเฝ้าโถงอักษรโบราณเอาไว้แล้ว”
“ท่านอาจารย์เดินทางไปดินแดนที่ไม่รู้จักเป็นเวลาครึ่งปี ตอนนี้ท่านอยู่ในดินแดนดอกบัวเขียว อีกนานกว่าท่านจะกลับมา พวกเราต้องระวังฉินเต๋อให้ดี” สีวู่หยากล่าว
เย่เทียนซินสับสน “แล้วทำไมถึงมีแค่เจ้าที่อยู่ที่นี่?ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเต๋อไม่สามารถเดินทางมาจากดินแดนดอกบัวแดงได้เร็วขนาดนั้นหรอก”
สีวู่หยาส่ายหัว “มีเส้นทางอักษรโบราณที่เชื่อมต่อกับดินแดนดอกบัวเขียวอยู่ที่ยอดเขาหิมะใกล้ๆ กับหุบเขาเมฆา เป็นไปได้ว่าที่นี่ก็อาจจะมีเส้นทางอักษรโบราณเช่นกัน ส่วนคนอื่นๆ ข้าได้ให้พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในคุกใต้ดินของลานสงครามเทวาลัย ฉินเต๋อกลัวที่จะเจอกับปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติฉินและท่านอาจารย์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ในดินแดนดอกบัวแดงได้นาน”
สีวู่หยากล่าวต่อ “ข้าต้องขอความร่วมมือจากสภาหอคอยขาว”
“เจ้าเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่โถงอักษรโบราณ เพื่อที่พวกเราจะได้สามารถจากไปได้ทุกเมื่อสินะ?”
สีวู่หยาพยักหน้า “พวกเรามีสองทางเลือก หนึ่ง เดินทางไปดินแดนที่ไม่รู้จักและขอความช่วยเหลือจากลู่หวู่ สอง กลับไปลานสงครามเทวาลัย เพราะฉินเต๋อไม่รู้หรอกว่ามีเส้นทางอักษรโบราณกี่แห่งที่ลานสงครามเทวาลัย”
“...”
นี่มันเหมือนกับการเล่นซ่อนหาชัดๆ
ลานสงครามเทวาลัยมีเส้นทางอักษรโบราณมากมาย การที่จะตามหาเส้นทางอักษรโบราณทั้งหมดนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ครึ่งวัน