บทที่25: Star City
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันนั่งอยู่ด้านหลังของรถเก๋งสีดำ มองรถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างรวดเร็วขณะที่เรามุ่งหน้าไปตามถนนยาว เมื่อเราออกจากเขตถนนของเมือง Outer Bank X เราต้องผ่านจุดตรวจเพียงจุดเดียวสำหรับผู้ที่ออกจากเมือง จุดตรวจตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของสะพานเก่า ๆ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่นำไปสู่ภายในเมือง ด้านซ้ายและขวาของจุดตรวจเป็นกำแพงที่ขยายออกไปล้อมรอบทั้งเมือง
ผู้ที่สามารถเคลื่อนไหวในจักรวรรดิได้ส่วนใหญ่คือนักล่าหรือบุคคลที่มีอิทธิพล สองตำแหน่งนี้แทบจะเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะไม่มีบุคคลที่มีอิทธิพลคนไหนที่เลือกจะไม่ปลุกพลัง
คนขับรถดึงบัตรประจำตัวทหารที่เป็นประกายออกมาให้ยามนักล่าที่ยืนอยู่ข้างๆ ดู และไม่นานเราก็ขับออกจากเมือง เราข้ามสะพานไป ฉันมองกลับไปยังเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่รู้ว่าฉันจะได้กลับมาอีกหรือไม่
ทิวทัศน์รอบตัวเราเปลี่ยนเป็นอาคารและสถาปัตยกรรมที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เราเห็นป้อมยามทุกๆ 10 ไมล์ตามถนน ฉันไม่สามารถจินตนาการถึงงานของผู้คนเหล่านี้ที่ยืนอยู่ในดินแดนรกร้างป็นเวลาหลายวัน โดยเปลี่ยนเวรกันเฉพาะเมื่อมีคนมาเปลี่ยนเวรเท่านั้น
ดินแดนรกร้างเป็นดินแดนที่ทำลายที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ คุณจะพบได้แค่แมลงสาบ หนู หรือสัตว์กลายพันธุ์ที่หิวโหยพอจะโจมตีทุกสิ่งที่อยู่ที่นั่น คนเดียวที่มารับตำแหน่งยามตามถนนยาวๆ เหล่านี้คงเป็นคนที่ไม่มีอะไรในชีวิตและได้รับโอกาสจากรัฐบาล
พวกเขาได้รับการเสนอทรัพยากรให้ปลุกพลังและทำสัญญาให้ทำงานตามที่ตกลงไว้ ฉันรู้สึกเศร้าเมื่อคิดถึงคนที่ไม่มีทางเลือกและต้องพึ่งพางานแบบนี้
เราขับผ่านดินแดนรกร้างโดยไม่มีอุปสรรคอะไร ผ่านเมืองอื่นๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงตลอดทั้งวัน ถนนเริ่มสะอาดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราเข้าไปในเขตเมืองชั้นในมากขึ้น และเราก็เริ่มเห็นป้อมยามบ่อยขึ้น จนในที่สุดเราก็ทิ้งดินแดนรกร้างแบบดิสโทเปียไว้เบื้องหลัง และได้เห็นต้นไม้สีเขียวบางต้น
(ดิสโทเปีย เป็นสังคมที่ไม่พึงประสงค์หรือน่าหวาดกลัว)
ต้นไม้สีเขียวเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และไม่นานเราก็เข้าใกล้เมืองใหญ่ที่มีกำแพงล้อมรอบอยู่ไกลออกไป เมืองนี้มีผนังกำแพงที่สูงกว่าปกติ และมีคาราวานของรถบรรทุกทหารขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่เข้าและออก
เมืองนี้แน่นอนว่าคึกคักกว่าที่ฉันเคยเห็นมาตลอดทางมาก เราสามารถเข้ามาได้หลังจากที่คนขับแสดงเอกสารให้กับยามดูด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบที่ละเอียดกว่าครั้งก่อนมาก
ภายในเมืองเต็มไปด้วยแสงสว่าง มันใช้เวลาทั้งวันในการมาที่นี่ และหลังจากเวลาที่เราต้องใช้ในการข้ามประตู เวลาก็เข้าสู่กลางคืนแล้ว ฉันเห็นเมืองนี้มีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟมากมายที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน
เรามาถึง Star City แล้ว
ถนนในเมืองสะอาดเรียบร้อยและเต็มไปด้วยอาคารสูงที่ชี้ไปยังท้องฟ้ารอบตัวเรา มันเป็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจนกับดินแดนที่ถูกทำลายที่เราเคยผ่านมาตอนเช้า เหมือนกับเราอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป ผู้คนจำนวนมากที่มีใบหน้าที่ดูมีความสุขกว่าคนที่ฉันเคยเห็น เคลื่อนไหวไปมาด้วยความวุ่นวาย
ฉันมองดูความสวยงามของเมือง เหมือนกับฉันกลับไปยังช่วงเวลาที่ไม่มีดันเจี้ยน เหมือนฉันได้เดินทางย้อนเวลากลับไปยังมหานครที่ฉันเคยรู้จัก
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขณะที่เรามุ่งไปข้างใน ฉันได้เห็นหินสีฟ้าหลายอัน (บอกโอกาสในการแตกของดันเจี้ยน) จนถึงตอนนี้ โดยสังเกตเห็นดันเจี้ยนระดับ F, E และ D ตามขนาดของมัน หลังจากที่เราผ่านจุดตรวจอีกครั้งเพื่อเข้าสู่เขตเมืองที่ลึกขึ้น ฉันเห็นหินสีฟ้าที่มีขนาดใกล้เคียงกับ [ปราสาทแห่งโซลาเอล] หลังจากนั้น มีมากกว่า 5 อันตามทางที่ผ่านไป
เมืองใหญ่ยังคงขยายออกไปขณะที่เราผ่านถนนที่มีนักล่าที่สวมชุดทหารตรวจตรา และมาถึงบริเวณกว้างขวางที่มีหินขนาดใหญ่ที่มีสีส้มอ่อนระยิบระยับรอบๆ
***เพื่อกันการสับสนต่อไปผู้แปลจะใช้คำว่า โมนอลิธ แทนหินที่เปร่งสีบอกโอกาสการแตกของดันเจี้ยนนะครับ***
โมนอลิธนี้ใหญ่เกือบเป็นสองเท่าของโมนอลิธระดับ C ความกดดันที่มาจากมันทำให้หายใจไม่ออก ฉันออกจากรถและสูดอากาศของเมืองและรู้สึกว่ามันสดชื่นกว่าที่ฉันเคยสัมผัส
คนขับนำทางฉันเข้าไปในบริเวณกว้างขวางที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวหลังจากสแกนบัตรประจำตัวทหาร บริเวณนี้มีอาคารที่ดึงดูดสายตามากมายรอบๆ และมีรถถังจำนวนมากที่เข้าและออก เรามาถึงอาคารที่สูงที่สุดและเข้าไปข้างใน
ฉันนั่งรออยู่บนโซฟาที่สะดวกสบายอยู่สักพักก่อนที่ชายผู้มีอำนาจจะออกมา เขามีแผลเป็นยาวที่แนวขากรรไกรและใบหน้าผิวแทนของเขาเปล่งประกายในห้องที่สว่างไสว เสียงทรงพลังดังก้องออกมาจากใบหน้าที่ยิ้มของเขา
"คุณออสมอนท์ ดีใจมากที่คุณมาที่นี่" เสียงที่ดุเดือดดังออกมาอย่างชัดเจน ขณะที่ฉันสังเกตเห็นชายคนนี้แตกต่างจากคนที่ฉันเคยพบเจอ
ฉันยิ้มตอบและพูดว่า "เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันจะมาที่นี่สำหรับเรื่องสำคัญแบบนี้"
การพูดคุยดำเนินไปได้ดีหลังจากนั้น เมื่อเขาแนะนำตัวเองว่าเขาคือ รองพลเรือเอกแม็กนาร์ ซึ่งได้ทำให้ฉันรู้สึกดีตั้งแต่เริ่มต้น เพราะสิ่งแรกที่เขาพูดหลังจากชื่อของเขาคือเขาต้องการมาพบฉันด้วยตัวเองเมื่อฉันมาถึง
"ตอนนี้ฉันรู้ว่าคุณคงจะเหนื่อยจากการเดินทาง ดังนั้นพิธีการต่างๆ รอไว้จนถึงพรุ่งนี้ก็ได้ ผู้บัญชาการไคล์จะพาคุณไปยังพื้นที่พักผ่อนของคุณ ซึ่งจะมีอาหารและ...ความบันเทิงให้"
รองพลเรือเอกกล่าวจบและเดินจากไป ขณะที่ฉันเริ่มคิดถึงคำพูดของเขา ความบันเทิง?
ผู้บัญชาการไคล์พาฉันไปยังพื้นที่พักผ่อน และเราก็เดินไปยังที่พัก ขณะที่ฉันคิดถึงแผนการที่จะใช้ชีวิตในเมืองนี้ สิ่งแรกที่ฉันคิดถึงคือการหาว่าความเสี่ยงใหญ่ๆ ที่กำลังใกล้เข้ามาคืออะไร และอย่างที่สองคือความสามารถของฉันในการลงดันเจี้ยนโมนอลิธขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ กับบริเวณนี้
ฉันคาดการณ์ว่าในครั้งแรกที่ฉันจะลงไปในนั้น ฉันจะมีทีมติดตาม ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ เพราะฉันยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มความยากจากระดับ C เป็น B หลังจากการลงดันเจี้ยนครั้งแรกเสร็จ ฉันจะตัดสินใจต่อไป
เราผ่านผู้คนที่มีหน้าตาที่ซีเรียสหลายคน และฉันได้รับบัตรประจำตัวสีฟ้าสดเรียบที่มีตัวอักษร B สีทองอยู่เพียงตัวเดียว ไคล์กล่าวว่าบัตรนี้ให้การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ที่นี่ และยังเข้าถึงห้องข้างหน้าได้ด้วย ฉันขอบคุณเขาที่พาฉันไปดูรอบๆ เขาทำความเคารพและจากไป
ฉันสแกนบัตรและเปิดประตู คาดหวังว่าจะได้เห็นพื้นที่พักอาศัยของนักล่าระดับ B ที่รัฐบาลจัดหาให้ ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องใหญ่ใน ที่พักอาศัยที่สมบูรณ์แบบ เล็กน้อย มีความหรูหรามากมายรอบๆ บนโต๊ะมีอาหารหลากหลายชนิด และข้างๆ คือเตียงขนาดใหญ่...ซึ่งมีผู้หญิงที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบยิ้มแย้มสดใสอยู่บนเตียงนั้น....โอ้?