ตอนที่แล้วบทที่ 6 คุณนายเคอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 ชาสมุนไพร  

บทที่ 7 ปิ่นปักผม  


ประกายเพลิงแค้น

  

เมื่อกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ท้องฟ้าก็ใกล้จะค่ำแล้ว  หยินเจิงลงไปชั้นล่างเพื่อขอ

น้ำร้อน ส่วนลู่ถงนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าตั้งโต๊ะยาว

  ตรงจุดที่โต๊ะยาวติดกับห้องด้านใน มีกำแพงไม้บังตาตั้งอยู่ บนบังตานั้นมีภาพ

ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงพลบค่ำที่ถูกวาดด้วยหมึกน้ำ ลู่ถงมองภาพนั้นอย่าง

เหม่อลอย และหลังจากจ้องมองไปสักพัก ก็ยื่นนิ้วออกไปลูบกิ่งไม้ดอกชบาที่บาน

สะพรั่งอยู่ในภาพ

  วันนี้บนทรงผมของภรรยาคนใหม่ของตระกูลเคอ ก็มีปิ่นปักผมรูปดอกชบาทำจาก

เงินปักไว้เช่นกัน

  ในความคิดของลู่ถง แวบขึ้นมาด้วยใบหน้าของลู่โหรว

  ครอบครัวลู่มีลูกสามคน ลู่โหรวนั้นอ่อนหวานและมีเสน่ห์ ลู่เชียนฉลาดและดื้อรั้น ส่วนตัวเธอเองเป็นน้องคนเล็ก พ่อถึงแม้จะปากว่าต้องเคร่งครัด แต่แท้จริงแล้วกลับ

ตามใจเธออยู่เสมอ

  บ้านนั้นยากจน แต่ก็ไม่เคยขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้า ลู่โหรวอายุมากกว่าลู่ถง

หลายปี ตอนที่ลู่ถงยังเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้ประสา ลู่โหรวก็เติบโตจนงดงามมากแล้ว

  แม่หยิบปิ่นปักผมรูปดอกชบาประดับอัญมณีออกมาจากหีบของสินเดิม ปักให้กับ

ลู่โหรวที่มวยผม จากนั้นเลือกชุดกระโปรงยาวเรียบสีฟ้าอ่อนให้ลู่โหรวสวมใส่ หวังว่า

เมื่องานชมดอกไม้ริมแม่น้ำหลินฟาง ลูกสาวของตนจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด

  ลู่ถงมองดูพี่สาวคนโตที่ต่างจากวันปกติ ดึงกระโปรงของแม่แล้วชี้ไปที่ปิ่นปักผม

ดอกชบาบนศีรษะของลู่โหรว “แม่ ข้าอยากได้อันนั้น”

  “อันนี้ไม่ได้” แม่ยิ้มและพูดว่า “เจ้ายังเด็ก ยังไม่ถึงเวลาที่จะใช้ รอให้โตอีกหน่อย

แล้วแม่จะเลือกอันอื่นให้เจ้า”

  ในตอนนั้นเธอยังเด็กและได้ใจจากการที่บ้านตามใจ จึงดื้อรั้นไม่ยอม “ข้าจะเอา

อันเดียวกับพี่สาว!”

  จนกระทั่งพ่อเข้ามาในห้องและเห็นเธอทำท่าเอาแต่ใจเช่นนี้ พ่อโกรธและ

ลงโทษเธอ ห้ามไม่ให้ไปงานชมดอกไม้ บอกให้เธอคัดลอกตำรา 100 รอบที่บ้านแทน

  เธอนั่งร้องไห้คนเดียวที่บ้าน ขณะคัดลอกตำรา ช่วงเที่ยงท้องเธอหิว จึงคิดจะไป

เอาขนมแป้งเหลือจากครัว แต่จู่ๆ ก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยเข้ามา

  ลู่โหรวเดินเข้ามาจากนอกบ้าน ในมือถือห่อไก่ย่างห่อกระดาษน้ำมัน ชุดกระโปรง

ใหม่เปื้อนทรายจากริมแม่น้ำ และบนหน้าผากยังมีเหงื่อเม็ดใสวิบวับ

  เธอตกใจ “พี่กลับมาได้ยังไง?”

  ลู่โหรวบีบแก้มของเธอ “ถ้าพี่ไม่กลับมา ดวงตาของเจ้าคงบวมเป็นลูกวอลนัท

แล้ว” จากนั้นก็แกะห่อกระดาษออก ฉีกน่องไก่ชิ้นใหญ่ยื่นให้เธอ

“เจ้าน้องขี้แย รีบกินซะ”

  “แม่ไม่ได้บอกเหรอว่าวันนี้จะพาเจ้าไปพบคู่ครองในอนาคตหรือ?” เธอเคี้ยวไก่

เต็มปาก พูดอย่างไม่ชัดเจน ปกติในเมืองชางอู่ ผู้คนส่วนมากรู้จักกันดี มักจะถือโอกาส

ในงานชมดอกไม้เริ่มหาคู่ครองให้ลูกหลานตั้งแต่เนิ่นๆ

  ลู่โหรวหน้าแดง ตอบเบาๆ “เจ้าไม่รู้อะไร” หยุดไปชั่วขณะก็พูดแซวว่า “มีคู่ครอง

คนไหนจะสำคัญเท่ากับน้องสาวของข้าล่ะ”

  เธอจึงรู้สึกภูมิใจมาก

  ลู่โหรวลูบปิ่นปักผมบนหัว “พอถึงเวลากลางคืนหลังแม่หลับแล้ว ข้าจะเอาปิ่นปัก

ผมดอกชบานี้ให้เจ้า เจ้าต้องแอบเก็บไว้อย่าให้แม่รู้ ปิ่นปักผมอันเดียว ทำให้เจ้าต้อง

ร้องไห้ขนาดนี้”

  เธอที่กำลังเคี้ยวไก่ย่าง ไม่กล้าขัดขืน แล้วยังคิดว่า ปิ่นปักผมดอกชบานั้นดูสวย

มากเมื่ออยู่บนหัวลู่โหรว จึงพูดว่า “ไม่เป็นไร พี่เก็บไว้ให้ข้าก่อน

อีกวันหนึ่งข้าจะมาทวงคืน”

  ลู่โหรวแทบหัวเราะกับคำพูดของเธอ หยอกล้อว่า “งั้นเจ้าต้องรีบหน่อยล่ะ มิ

ฉะนั้นเมื่อข้าออกเรือนไปแล้ว เจ้าจะมาเรียกร้องปิ่นนี้ก็ไม่ทันการหรอก”

  เมื่อได้ยินดังนั้น เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย จงใจเอามือเปื้อนน้ำมันเช็ด

ไปที่หน้าของลู่โหรว “ถ้าพี่ไปแต่งงานที่ไหน ข้าก็จะตามไปที่นั่นด้วย ไม่ว่าอย่างไรพี่ก็

เป็นพี่สาวของข้า!”

  “แอ๊ด——”

  ประตูถูกเปิดออก หยินเจิงยกกะละมังน้ำเข้ามาในห้อง

  ลู่ถงเงยหน้าขึ้น กลิ่นหอมของน้ำมันลิ้นจี่ที่พี่สาวใช้ยังดูเหมือนค้างอยู่ปลายจมูก

แต่เมื่อมองไปข้างหน้าอีกครั้ง กลับเห็นเพียงบังตาไม้ที่เย็นชา

  หยินเจิงวางกะละมังน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปปิดประตู ลู่ถงหยิบผ้าเช็ดหน้า

ออกมา เริ่มเช็ดผื่นแดงที่ทาบนใบหน้าอย่างช้าๆ

  “คุณหนู” หยินเจิงถามด้วยความระมัดระวัง “วันนี้ท่านบอกว่าคุณหนูลู่โหรวถูกตระ

กูลเคอกลั่นแกล้งจนตายจริงหรือ??

  ลู่ถงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ “ตอนเราอยู่ที่เมืองชางอู่ เพื่อนบ้านบอกว่าตระกูล

ลู่ได้รับข่าวการตายจากเมืองหลวงในช่วงไหน?”

  หยินเจิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนนั้นเป็นช่วงเดือนมีนาคม”

  “ถูกต้อง” ลู่ถงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ “แต่วันนี้คนตระกูลเคอกลับบอกว่าลู่โหรว

ตายในช่วงฤดูร้อน”

  หยินเจิงตกใจ หันไปมองลู่ถงด้วยความประหลาดใจ

  แววตาของลู่ถงเต็มไปด้วยความเย็นชา

  วันนี้เมื่อท่านหญิงใหญ่ของตระกูลเคอถูกเธอยั่วจนโกรธ นางก็พลั้งปากออกมา

ว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะนางกระโดดลงสระน้ำ ทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านใหม่เสีย ข้าก็คงไม่ต้อง

เสียเงินมากมายไปถมสระแล้วเปลี่ยนเป็นปลูกดอกโบตั๋น น่าเสียดายบัวแดงที่เพิ่งบาน

ของข้า...” ทันใดนั้นก็ทำให้ลู่ถงเกิดความสงสัยขึ้นมา

   ดอกบัวจะไม่บานในเดือนมีนาคม แม้ว่าเมืองหลวงจะอยู่ไกลจากชางอู่ แต่ถึงจะ

ใช้เวลาเดินทางนานเพียงใด ก็ไม่น่าจะเกิน 3 เดือน ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของพี่สาวที่

ครอบครัวทราบ ย่อมต้องอยู่ในฤดูร้อนเท่านั้น!

  สิ่งที่เพิ่งค้นพบ ทำให้ความเศร้าสร้อยที่เต็มไปในหัวใจของลู่ถงค่อยๆ กลายเป็น

ความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแทน

  ความจริงที่คนในครอบครัวรู้ไม่ใช่ทั้งหมด แม้แต่การตายของลู่โหรวก็ดูเหมือนจะ

มีเงื่อนงำบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา

  “คุณหนู” หยินเจิงถามเบาๆ “ท่านจะเอาอย่างไรต่อ?”

  ลู่ถงวางผ้าเช็ดหน้าลง รู้สึกได้ว่าไม่อาจแบกรับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ได้

อีกแล้ว เธอหายใจเข้าออกช้าๆ สองครั้ง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อาบน้ำแล้วพัก

ผ่อนเถอะ”

  เรื่องของวันพรุ่งนี้ เอาไว้จัดการในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

---จบบท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด