บทที่ 21 ล่าเงียบ
บทที่ 21 ล่าเงียบ
ผู้ลี้ภัยมองไปที่มุมกำแพง ปลายกระบอกปืนขยับไปมาตามสายตาของเขา
เมื่อเขามองไปที่มุมกำแพงก็ไม่พบว่ามีใครอยู่เลย มันเหลือเพียงเสาหินและกำแพงว่างเปล่าเท่านั้น
ผู้ลี้ภัยโล่งใจ
"ไอ้บ้าเอ้ย ฉันตกใจแทบตาย"
"ว่าแต่มันหายไปไหนแล้ววะเนี่ย"
เขาหันไปมองรอบๆ อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยเพื่อของเขาหรือสิ่งที่น่าสงสัยใดๆ
หัวใจที่เต้นแรงผ่อยคลายลงเล็กน้อย
"หรือมันอายเลยไปหาที่ไกลๆ วะ" เขาเดาในใจ
ทว่าแม้จะพยายามค้นหาทั้งพื้นที่แล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับเพื่อนของเขา
ผู้ลี้ภัยเริ่มตื่นตระหนก เขาต้องรีบไปแจ้งให้หมาดำทราบโดยเร็วที่สุด
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินกลับอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ระวังสถานการณ์รอบข้าง
ในขณะที่เขากำลังเดินผ่านเสาหิน เขาได้กลิ่นน้ำปัสสาวะอย่างแรงตีขึ้นจมูก
เขาหันหน้าไปโดยไม่รู้ตัว
และเขาก็สังเกตเห็นว่ามีแอ่งน้ำบนพื้นเสาหิน
เมื่อรวมกับกลิ่นที่เขาได้กลิ่นเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่านี่คือปัสสาวะ มันเป็นเพียงเพราะพื้นหินอ่อนที่ทำให้เขาไม่เห็นรอยเปื้อนน้ำก่อนหน้านี้
แต่เนื่องจากมีปัสสาวะอยู่ที่นี่ หมายความว่าเพื่อนร่วมทางของเขาปลดทุกข์ที่นี่จริง
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้ลี้ภัยก็รู้สึกไม่ดี
ทว่าในขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับ
แต่ผ้าขนหนูเปียกๆ ก็ปิดปากและจมูกของเขาอย่างเงียบๆ
แต่เขายังพอมีเวลา...
ปังๆๆ
เสียงปืนดังสั้นๆ ก้องกังวานไปทั่วสถานีรถไฟใต้ดินที่ว่างเปล่า
"ใครยิงปืน เจอศัตรูหรอ"
หมาดำที่รอผลการค้นหาอยู่ในห้องควบคุมลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงปืน
แต่เมื่อเขามาถึงโถงรถไฟใต้ดิน ผู้ลี้ภัยก็กำลังมองเขาอยู่
"เจ้านาย เสียงมาจากทางซ้าย"
"ก็ไปสิ"
ในขณะนั้น ถังหยู่ซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัย เขากำลังโยนปลอกกระสุนหลายๆ อันที่อยู่ในมือลงกับพื้นด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก
เขามุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ผู้ลี้ภัยก็ยังคงเหนี่ยวไกปืนได้
โชคดีที่เขาตอบสนองได้รวดเร็วพอ หลังจากลากผู้ลี้ภัยเข้าไปในที่หลบภัย เขาหยิบปลอกกระสุนที่ตกอยู่บนพื้นและใช้ผ้าห่มซับรอยเปื้อนน้ำข้างเสาหิน
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที
เพียงสิบวินาทีหลังจากที่เขากลับเข้าไปในที่หลบภัย ผู้ลี้ภัยบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ
และหมาดำก็มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว
"ใครยิงปืน"
เมื่อได้ยินคำพูดของหมาดำ ผู้ลี้ภัยที่อยู่รอบๆ ต่างมองกันอย่างงงงวย
"แกยิงเหรอ"
"ไม่ใช่! พวกเราก็พึ่งมาถึงนี่เองครับ"
"ไม่ใช่เรา เราตามเจ้านายมา"
หมาดำขมวดคิ้วเมื่อเห็นลูกน้องของเขาคุยกัน
"พี่หมาดำ ไปไม่ใช่พวกเราที่ยิงปืน!" ลูกน้องกระซิบ
"ดูซิว่าทุกคนมารวมตัวกันครบแล้วรึยัง" หมาดำพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ในขณะนั้น ทุกคนต่างตกใจและยืนยันอย่างรวดเร็วว่ามีคนมากกว่า 20 คนที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เมื่อครู่
ในไม่ช้ามีคนพูดขึ้นว่า: "เจ้านาย ดูเหมือนว่าเจ้าสามนิ้วกับเอ้อก๋อยจะไม่อยู่ แต่ฉันเห็นพวกเขากำลังค้นหาเมื่อครู่!"
"ใช่! ฉันเห็นพวกเขามากับเรานะ"
"เงียบ!"
ตอนนี้ผู้ลี้ภัยทุกคนต่างไม่เข้าใจ
สองคนนี้อาจอยู่ในอันตราย
เสียงปืนเมื่อครู่คงเป็นการตอบโต้ของพวกเขาหลังจากเจอศัตรู
"หนูตัวนั้นต้องไปได้ไม่ไกลแน่ หาให้ทั่ว!"
ตามคำสั่งของหมาดำ ผู้ลี้ภัยทุกคนเริ่มค้นหาพื้นที่โดยรอบ แม้แต่เมื่อพวกเขาพบสถานที่ที่น่าสงสัยหรือมืดมิด พวกเขาก็จะยิงทันทีโดยไม่ลังเล
ในที่หลบภัย ถังหยู่ที่เพิ่งจัดการผู้ลี้ภัยคนที่สองไปก็ได้เตรียมอาวุธครบมือแล้ว
เขาซ่อนตัวอยู่หลังเตาผิงในห้องพักพนักงาน ถือปืนไรเฟิลจู่โจม เล็งไปที่ประตูทางเข้าของที่หลบภัยของเขา
ภายใน 3 นาที มีผู้ลี้ภัยไม่น้อยกว่า 6 คนผ่านประตูของเขาไป แต่พวกเขาทั้งหมดถูกหลอกโดยการพรางของประตู พวกเขามองเพียงแวบเดียวแล้วหันไปยังสถานที่อื่น
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ถังหยู่ก็เริ่มเหงื่อออกบนหน้าผากแล้ว
มองไปที่แผนที่เสมือนจริง มีผู้ลี้ภัยมากกว่าสองโหลกำลังเดินเตร่ไปมาในบริเวณใกล้เคียงกับที่หลบภัยของเขา
ความกดดันนี้ไม่ธรรมดาเลย!
ไม่ใช่แค่ถังหยู่ที่เผชิญกับความกดดัน แต่หมาดำก็เช่นกัน
"ยังไม่เจอหนูตัวนั้นอีกเหรอ" หลังจากค้นหาอย่างละเอียดเป็นเวลาสิบนาทีโดยไม่มีความคืบหน้า หมาดำก็เริ่มทนไม่ไหว
ใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีจากตอนที่ได้ยินเสียงปืนไปจนถึงตอนที่พวกเขามาถึง ในเวลาอันสั้นนั้นยากที่จะหนีไป และยิ่งยากที่จะกำจัดศพ
แต่ผลลัพธ์ในตอนนี้คือคนของเขาทั้งสองคนหายไป พวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วก็ไม่รู้
นอกจากศพแล้ว แม้แต่ร่องรอยการต่อสู้ก็หาไม่เจอ
"พวกแกหาตำแหน่งที่ยิงปืนได้แล้วรึยัง"
เมื่อได้ยินคำถามของหมาดำ ลูกน้องของเขาแสดงสีหน้าหมดหวังและส่ายหัวเบาๆ
"พี่หมา พวกเราค้นจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอปลอกกระสุนเลย พวกเราอาจจะระบุตำแหน่งได้จากรอยเท้าบนพื้น แต่มีคนเจ็ดแปดคนมาถึงที่นี่ก่อนพวกเรา ซึ่งไม่มีทางใช้มันระบุตำแหน่งได้เลย"
"บ้าเอ้ย มันจะหายตัวไปได้ยังไง"
ในขณะนั้นเอง...
ปังๆๆๆๆๆ...
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดมาจากอุโมงค์อีกด้านหนึ่งของสถานีรถไฟใต้ดิน
"เจ้านาย พวกเราเจอไอ้นั่นแล้ว มันอยู่ในอุโมงค์ และกำลังยิงต่อสู้กับพวกเราอยู่"
ในขณะนั้น ใบหน้าของหมาดำแสดงออกถึงความดีใจ เขาตะโกนทันที "ฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็เจอมันแล้ว ทุกคนรีบไปเร็ว"
หลังจากนั้น เหล่าผู้ลี้ภัยก็เริ่มวิ่งไปทางนั้น
ผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ตามหลังหมาดำไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มอันดุร้าย
เพราะตราบใดที่จัดการกับหนูตัวนั้นได้ เจ้านายหมาดำจะต้องมีรางวัลให้พวกเขาในคืนนี้อย่างแน่นอน
ในกลุ่มคนเหล่านั้น ผู้ลี้ภัยที่วิ่งอยู่ด้านหลังกำลังจินตนาการถึงรางวัลที่เจ้านายหมาดำจะมอบให้คืนนี้
แต่ขณะที่เขากำลังฝันหวาน แต่ผ้าขนหนูก็ได้ปิดเข้าที่หน้าของเขาจากด้านหลัง
ในวินาทีถัดไป เขารู้สึกชาไปทั้งตัว แข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้
จากนั้น ชายผู้สวมหน้ากากที่แตกหักก็ปรากฏตัวและลากเขาเข้าไปในกำแพงข้างๆ
มองดูประตูสีดำปิดลงช้าๆ
เขาก็เพิ่งตระหนักว่าคนที่พวกเขากำลังตามหามานั้น ซ่อนตัวอยู่ใต้จมูกของพวกเขามาตลอด
เขาซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงนี้ ซึ่งทุกคนเห็นมาแล้วหลายสิบหรือหลายร้อยครั้ง และเฝ้าดูพวกเขาอย่างเงียบๆ
แต่ถึงแม้เขาจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่เขาก็ไม่มีโอกาสบอกเพื่อนร่วมทางของเขาเกี่ยวกับการค้นพบนี้ได้เลย
เพราะเขาเห็นศพเย็นๆ สองศพนอนอยู่บนพื้น เขารู้จักทั้งสองคน พวกเขาเคยดื่มด้วยกันเมื่อคืนนี้
คนหนึ่งชื่อสามนิ้ว อีกคนชื่อเอ้อก๋อย
คนพวกนี้คือคนที่เขาเพิ่งตามหาเมื่อครู่
เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นกลัวและสิ้นหวังบนใบหน้าของศพทั้งสอง เขาก็เข้าใจแล้วในตอนนี้
และนี่ก็จะเป็นจุดจบของเขาด้วย
ในขณะนี้ใบมีดเย็นๆ ได้แทงทะลุหัวใจของเขา ความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
และเขาก็สิ้นลมไปในความมืดมิด..