บทที่ 18 มีคนสะกดรอยตาม!
หลูยูอูไม่ใช่คนที่เก่งในการโกหก ดูเธอวิ่งหนีไปอย่างตกใจ ซูเจี้ยนยิ่งมั่นใจว่าเธอมีเรื่องอะไรสักอย่างปิดบังเธอไว้แน่ๆ
เมื่อวิ่งกลับถึงที่พัก หลูยูอูก็พึมพำเบาๆ ด้วยความตกใจ
"อันตรายมาก ถ้าไม่ทันระวังคงถูกพี่สามจับได้"
เมื่ออารมณ์เริ่มสงบลง เธอก็เริ่มคาดหวังถึงมื้อเย็นอีกครั้งมองดูเวลายังไม่ถึงมื้อเย็นเลย
สำหรับหลูยูอูตอนนี้เธอรอคอยมื้ออาหารสามมื้อของทุกวันเลย
ทางด้านเย่ฉางชิงเมื่อกลับมาจากเมืองอี้หยวน เขาก็ลงจากหลังเสี่ยวไป๋ที่ลานสนาม
เขานำยาเพิ่มกำลังพลังการฝึกฝนหนึ่งเม็ดเข้าปาก เห็นเช่นนั้นเสี่ยวไป๋ก็โน้มหัวเข้ามา แสดงความต้องการที่จะกินด้วย
เย่ฉางชิงยิ้มแล้วให้ยาเพิ่มกำลังหนึ่งเม็ดกับเสี่ยวไป๋
"ไปเล่นที่สวนหลังบ้านเถอะ ข้าจะเตรียมอาหารเย็น"
เวลาค่อนข้างพอเหมาะ เขาเก็บของที่ซื้อมาและเริ่มเตรียมอาหารเย็น
วันนี้เย่ฉางชิงตั้งใจทำสองเมนู อาหารผัดเนื้อหมูและเต้าหู้เผ็ดหมูผัด
กลิ่นหอมจากห้องครัวเริ่มลอยออกไป เสี่ยวไป๋ในสวนหลังบ้านไม่สามารถทนได้ จึงเดินมาที่ประตูห้องครัว
มองเห็นเย่ฉางชิงที่กำลังยุ่งอยู่ เจ้าตัวน้อยไม่หยุดน้ำลายไหลและจ้องไปที่เนื้อหมูผัดที่เพิ่งออกจากกระทะ
เย่ฉางชิงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มและพูด
"อยากกินเหรอ?"
เสี่ยวไป๋พยักหน้าหมายความว่าอยากกิน เย่ฉางชิงจึงหยิบเนื้อหมูผัดบางส่วนออกมาใส่ในชามเล็ก
"กินเลย"
กลิ่นหอมกระทบจมูก แม้แต่สัตว์อสูรก็ไม่อาจต้านทานได้ เสี่ยวไป๋กินไปได้ซักพัก รสชาติที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้มันรู้สึกตื่นเต้นร้องเสียงดัง มันไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน
แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะเป็นนกกระเรียนเซียนคอแดงที่เคยกินอาหารดีๆมา แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อหมูผัดที่เย่ฉางชิงทำ อาหารก่อนหน้านี้ถือว่ายังสู้ไม่ได้เลย
เสี่ยวไป๋ไม่สามารต้านทานทนต่อความอร่อยได้ จึงกินเนื้อหมูผัดจนหมดชาม
จากนั้นมันก็จ้องไปที่เย่ฉางชิงด้วยสายตาที่หวัง
"พอแล้ว นี่คืออาหารเย็นที่เตรียมไว้ให้ทุกคน ถ้าเจ้ากินไปทั้งหมด คนอื่นก็จะไม่ได้"
ไม่มีใครคาดคิดว่าสัตว์อสูรจะชอบอาหารแบบนี้ด้วย แต่เย่ฉางชิงยังคงปฏิเสธแม้เศร้าใจแต่ก็ต้องทำ
เมื่อได้ยินแบบนี้ เสี่ยวไป๋ก็แสดงสีหน้าผิดหวังทันที ในขณะเดียวกันเสียงเตือนจากระบบในหัวของเย่ฉางชิงดังขึ้น
【ได้รับถูกใจ 1 ครั้ง รางวัลเป็นการเพิ่มพรสวรรค์ 1 แต้มและรากวิญญาณ 1แต้ม】
สัตว์อสูรสามารถให้ถูกใจได้หรือ? เย่ฉางชิงมองไปที่เสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ
【สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสามารถให้ถูกใจได้】
ระบบยืนยันคำตอบ
นี่เป็นความประหลาดใจที่ไม่คาดคิด เมื่อเห็นเสี่ยวไป๋ที่ดูผิดหวัง เย่ฉางชิงคิดสักครู่แล้วพูด
"ถ้าอยากกินอีก ก็ต้องรอถึงเวลาอาหารมื้อเย็นแล้วค่อยไปต่อแถว"
ได้ยินแบบนี้ ดวงตาของเสี่ยวไป๋ก็สว่างขึ้นทันทีมันผงกหัว ยังมีโอกาสอยู่
ในช่วงเวลานี้ แม้แต่เสี่ยวไป๋ซึ่งเป็นสัตว์อสูรก็เริ่มตั้งตารอเวลามื้อเย็น
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เวลามื้อเย็นใกล้เข้ามา บรรดาศิษย์รับใช้ของภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มมีความกระตือรือร้น
“เร็วเข้า ๆ ทำให้เสร็จจะได้ไปกินข้าวกัน”
ที่แหล่งเก็บฟืนด้านหลังเขา กลุ่มศิษย์รับใช้หลายคนกำลังเหวี่ยงขวานของพวกเขาอย่างขยันขันแข็ง
นี่ไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นไม้เหล็กดำ ลำต้นมีสีดำทมิฬ แข็งแรงมาก ราวกับเหล็ก
และนี่เป็นวัสดุหลักที่ภูเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการก่อสร้างบ้าน แข็งแรงและทนทาน แต่การตัดมันลงต้องใช้ความพยายามมาก
ห้าคนทำงานร่วมกันวันหนึ่งสามารถตัดได้มากสุดแค่สามต้นไม้เหล็กดำ
ขณะนี้พวกเขากำลังตัดต้นที่สาม ซึ่งหมายความว่างานของวันนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว
เมื่อได้ยินว่าจะถึงเวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว ศิษย์รับใช้ที่เหน็ดเหนื่อยก่อนหน้านี้กลับมีแรงเพิ่มขึ้นมา จนขวานที่พวกเขาใช้เหวี่ยงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นเส้นสีขาวเหวี่ยงไปมาตามมือของเขา
“โห.........”
ศิษย์รับใช้กลุ่มอื่นที่ทำงานอยู่ใกล้ๆมองภาพนี้อย่างตกตะลึง
พวกเขาทำงานมาตลอดทั้งวัน เหนื่อยมาก แทบจะหมดแรงอยู่แล้ว แต่ทำไมคนกลุ่มนั้นถึงยังมีแรงเหวี่ยงขวายออกมาแบบนั้นได้กัน?
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากขึ้นก็คือ
เมื่อเห็นว่าแม้พวกเขาจะใช้แรงมากขึ้น แต่งานโดยรวมยังคงช้าอยู่ หนึ่งในกลุ่มศิษย์รับใช้ได้พูดขึ้นว่า
“พวกเราต้องรีบใช้วิชาผลาญโลหิตแล้วหล่ะ มิฉะนั้นอาจจะไม่ทันต่อแถว”
“ใช่ ๆ ไปช้าไม่ได้เลย”
“แต่ผลกระทบจากการใช้วิชา ถ้ามันทำให้ได้ทันมื้ออาหารเย็นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!”
ทันใดนั้น พวกเขาก็เริ่มหยิบยาออกมากินกัน ทำให้ศิษย์รับใช้กลุ่มอื่นที่ดูอยู่เริ่มงง กับการกระทำของกลุ่มคนเหล่านั้นในสิ่งที่เกิดขึ้น
“พี่ใหญ่ ท่านทำขนาดนี้เพื่ออะไร? แค่งานตัดต้นไม้เหล็กดำไม่ใช่การประลองต่อสู้เลื่อนขั้นซะหน่อย?”
วิชาผลาญโลหิตไม่ใช่วิชาที่ดีมากนัก เป็นวิชาที่ใช้กันทั่วไป ในช่วงที่ต้องการจะเพิ่มพลังกำลังขณะต่อสู้
หลังจากใช้ผลาญโลหิต ร่างกายจะอ่อนล้าในช่วงระยะเวลาหนึ่งและต้องได้รับการพักฟื้นหรือทานสมุนไพรเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูอย่างช้า ๆ
โดยปกติจะใช้ในเวลาต่อสู้ แต่ตอนนี้แค่ตัดต้นไม้ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้? มื้ออาหารสำคัญมากขนาดนั้นเชียว?
ไม่สามารถเข้าใจได้ และเมื่อใช้พลังจากการเผาเลือดฝาด กลุ่มศิษย์รับใช้ก็สามารถตัดต้นไม้เหล็กดำสุดท้ายได้สำเร็จ และงานในวันนี้ก็เสร็จสิ้น ได้เวลาพักผ่อน
ตามปกติพวกเขาตอนนี้พวกเขาควรจะเดินอย่างอ่อนล้าสุดๆจากผลกระทบการใช้วิชา
แต่ใครจะคาดคิดว่าพวกเขากลับกินยาเพิ่มพลังเข้าไปทันทีและออกแรงวิ่งสุดฝีเท้าไปเป็นกลุ่มราวกับกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง!
“วิ่งๆ วิ่งให้เต็มที่”
“โอร่า! โอร่าาาาา!”
“รอกันด้วยเซ่!”
“โอร่า! โอร่า!”
นี่พวกเขาเป็นบ้าอะไรกัน? วิ่งอย่างบ้าคลั่งไปไหนกัน? ยอมใช้วิชาผลาญโลหิตแถมยังถึงกับกินยาเพิ่งพลังเข้าไปอีก! นี่ต้องมีอะไรบางอย่างที่พวกเขาต้องรีบไปให้เร็วที่สุดกัน?
เมื่อศิษย์รับใช้คนอื่นๆเห็นพฤติกรรมแปลกๆของกลุ่มศิษย์รับใช้กลุ่มนั้น คนรอบข้างก็ยืนมองอยู่โดยไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งมีคนพูดขึ้นมาว่า
“พวกเขามีบางอย่างแปลก ๆ”
“จริงด้วย”
“ข้านึกออกแล้ว ช่วงนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ถึงเวลาพักกินข้าวที่กำหนด พวกเขาจะเป็นแบบนี้”
“มีอะไรแน่ ๆ พวกเขาต้องปิดบังอะไรบางอย่าง”
“แล้วเราควรทำอย่างไรดี?”
“ให้สองคนตามไปเงียบ ๆ”
“ได้”
เมื่อเห็นพฤติกรรมแปลกๆ สองศิษย์รับใช้ก็แอบย่องเงียบๆตามไป
ในเวลาเดียวกันหลูยูอูได้ใช้เวลานานกว่าจะถึงเวลามื้อเย็น กำลังเดินเหินมุ่งหน้าไปที่โรงครัวอย่างมีความสุข
เพื่อให้เร็วขึ้นเธอใช้วิชาเสริมการเคลื่อนไหว ทำให้ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่า?มีเงาคนกำลังติดตามเธออย่างใกล้ชิด ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นศิษย์พี่สามซูเจี้ยนนั้นเอง!
เขาได้ติดตามเธอมาตั้งแต่ที่แยกจากกัน เห็นท่าทางรีบร้อนของเธอทำให้ซูเจี้ยนสงสัยจนแอบติดตามศิษย์น้องหญิงผู้นี้มา
“ศิษย์น้องหลูถึงกับใช้วิชาเสริมการเคลื่อนที่ด้วย เธอกำลังรีบไปไหนกัน? ทำไมต้องเร่งรีบขนาดนี้?”
ตามปกติการเร่งความเร็วด้วยวิชาเสริมการเคลื่อนไหวจะใช้พลังปราณค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้เต็มกำลังแบบหลูยูอู
มีเรื่องเร่งด่วนอะไรที่ทำให้หลูยูอูต้องรีบเช่นนี้?