เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 10
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 10>
***********
วู้มมม!
รถเปิดประทุนสุดหรูแล่นฉิวไปตามถนน แต่สภาพกลับดูไม่ได้ เพราะมันบุบยุบเป็นรูพรุนไปหมด
“ว๊ายย!”
ปัง ปัง ปัง ปัง!
กระสุนหลายนัดเฉียดหัวไรก็ได้ไป ทำให้เธอเสียวสันหลังวาบ
“ฮึ่ย!”
นิฮาคุคว้าปืนลูกซองอัตโนมัติขึ้นมายิงใส่กลุ่มนักซิ่งที่ขี่มอเตอร์ไซด์ตามมา จนพวกนั้นล้มระเนระนาด
“นี่มันเหมือนฉากในหนังเลยใช่ไหมล่ะ! อยากลองทำแบบนี้มานานแล้ว! ฉากยิงระเบิดรถถังในหนังเรื่อง ‘ฟาสแอนฟิวเรียส’ น่ะ!”
นิฮาคุตะโกนลั่นพร้อมกับโยนปืนลูกซองที่กระสุนหมดแม็กกาซีนทิ้งไป ก่อนจะคว้าปืนไรเฟิลซุ่มยิงขึ้นมาแทน
เธอยืนอยู่บนรถที่กำลังส่ายไปมาอย่างรุนแรง แล้วยิงปืนด้วยมือข้างเดียวโดยไม่แม้แต่จะเล็งผ่านกล้อง แต่กระสุนก็พุ่งเข้าเป้าอย่างแม่นยำราวกับจับวาง
ปัง!
เสียงปืนดังสนั่น กระสุนจากปืน บาร์เร็ต M82 เจาะทะลุห้องคนขับและตัวถังรถตำรวจ ก่อนที่เธอจะหาเหยื่อรายต่อไป
คนทั่วไปคงเสียหลักล้มจากแรงกระชากของปืน แต่สำหรับนิฮาคุแล้วนั้น มันไม่ใช่ปัญหา
“จงพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยน้ำตาซะ!”
ตูม!
มอเตอร์ไซค์สีดำระเบิดเป็นลูกไฟ
ตูม!
อีกคัน
หนึ่งนัด หนึ่งคัน
นิฮาคุยิงโดนจุดสำคัญของมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากบนรถที่วิ่งด้วยความเร็วใกล้เคียงกัน
“……!”
คนร้ายบนมอเตอร์ไซค์ยิงปืนกลตอบโต้
เปรี๊ยะ!
กระสุนละลายหายไปเมื่อกระทบกับโล่สายฟ้ารอบตัวนิฮาคุ แต่มันก็ช่วยป้องกันได้แค่นิฮาคุเท่านั้น
ตัวรถยังคงได้รับความเสียหาย
“พวกมันจะตามมาอีกนานแค่ไหน!”
<อีก 10 เมตรเลี้ยซ้าย>
ไรก็ได้หักพวงมาลัยตามเสียงนำทาง แม้ด้านหลังจะมีเสียงรถระเบิดและชนกันดังสนั่น แต่เธอไม่มีเวลามาสนใจ
ยังไงศัตรูพวกนี้ก็โผล่มาเรื่อยๆ ไม่มีวันหมด
เธอต้องสลัดพวกมันให้หลุด
<นายท่านไรก็ได้>
“คะ คะ?”
<ต้องเร่งความเร็วค่ะ ทำได้ไหมคะ?>
“ค่ะ!”
ถึงตอนแรกจะขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้คนในรถเป็นอันตราย แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้ออำนวย
ไรก็ได้ตัดสินใจทันที
“ทุกคนจับให้แน่นนะคะ!”
“ครับ?”
อารอนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับหน้าซีดเผือด ดูเหมือนเขาเพิ่งจะตั้งสติได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาห่วงใยกัน
“ฉันจะเหยียบเต็มแม็กซ์แล้วนะคะ!”
“ไปเลยครับ!”
ไรก็ได้เหยียบคันเร่งมิดไมล์ เครื่องยนต์ 12 สูบคำรามลั่น
วู้มมม! วู้มมมมม!
เข็มไมล์ทะลุ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภาพรอบข้างเริ่มพร่าเบลอ
“เร็วกว่านี้!”
“ไปโล้ดดด วะฮู้ววววว!”
นิฮาคุวางปืนไรเฟิลลงแล้วเอามือขวาแตะตัวรถเพื่อชาร์จพลัง
เข็มไมล์เปลี่ยนเป็น 220, 240, 260, 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลวไม่กี่วินาที
พวกที่ไล่ล่าเริ่มตามไม่ทัน
ที่ไรก็ได้ยังไม่ปลิวไปตามแรงลม คงเป็นเพราะพลังของอารอน
แต่การขับรถเกือบ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนถนนธรรมดา แทนที่จะเป็นสนามแข่ง ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะมีการอพยพคนครั้งใหญ่จนถนนโล่งก็ตาม แต่ก็ยังมีรถจอดอยู่ข้างทางประปราย แถมโครงสร้างถนนก็ยังเหมือนเดิม
เอี๊ยดดดดด!
แค่เลี้ยวโค้งแบล็ค ธันเดอร์ ก็สั่นสะเทือนและทิ้งรอยล้อไหม้ไว้บนพื้น ถ้าเป็นรถธรรมดา คงพลิกคว่ำหรือชนตึกไปแล้ว
‘ต้องเสียความเร็วน้อยที่สุดตอนเข้าโค้ง!’
มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะสลัดพวกมันหลุด
มือและเท้าของไรก็ได้ขยับอย่างคล่องแคล่วด้วยความตั้งใจ
สัญชาตญาณที่ฝึกฝนมาจากเกมแข่งรถและพรสวรรค์ของเธอ ทำให้เธอสามารถควบคุมม้าพยศอย่าง แบล็ค ธันเดอร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“อ๊ะ?!”
เสียงใบพัดหมุนดังสนั่น ไรก็ได้มองไปด้านข้าง เห็นเฮลิคอปเตอร์สองลำบินมาจากระหว่างตึกสูง ด้านข้างลำตัวติดตั้งปืนกลสำหรับปราบจลาจล
“พวกนั้นยกให้เป็นหน้าที่ของ ‘ไม้กายสิทธิ์ของนิฮาคุ’ คนนี้นี่เองเลย!”
นิฮาคุยก RPG-7 ที่ไม่รู้ไปหยิบมาจากไหนขึ้นมาพาดบ่า
“ยิง!”
บู้ม!
จรวดพุ่งเป็นเส้นตรงไปยังหางของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง
เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุม หมุนคว้างกลางอากาศก่อนจะชนเข้ากับด้านข้างของตึก
ตู้ม!
แล้วมันก็ระเบิดไปพร้อมกับตึก
“…….”
ถ้าตีเป็นมูลค่าความเสียหายจะเท่าไหร่กันนะ?
ไรก็ได้คิดเรื่อยเปื่อยขณะเหยียบคันเร่ง
“เหลืออีกลำ!”
ต่อให้ แบล็ค ธันเดอร์ จะเร็วแค่ไหน ก็ยากที่จะหนีเฮลิคอปเตอร์พ้น
ปืนกลด้านข้างเฮลิคอปเตอร์เริ่มเล็งมาที่พวกเธอ แต่นิฮาคุกำลังบรรจุกระสุน
‘มาแล้ว!’
พลปืนบนเฮลิคอปเตอร์กำลังจะเหนี่ยวไก
ชึ้บ!
ทันใดนั้น กระจกหน้าต่างของตึกข้างๆ ก็แตกกระจาย มีคนกระโดดออกมาจากกลางอากาศ
ชายคนนั้นสะบัดชายเสื้อโค้ตยาว แล้วชักดาบยาวออกมา
ฉับ!
เฮลิคอปเตอร์ถูกผ่าออกเป็นสองซีกอย่างง่ายดายราวกับถูกตัดด้วยมีด ก่อนจะร่วงลงสู่พื้น
“……?”
แม้เธอคิดว่าจะไม่แปลกใจอะไรอีกแล้วแท้ๆ
<นายท่านไรก็ได้ ตรงไปข้างหน้าเลยค่ะ>
แบล็ค ธันเดอร์ วิ่งไปตามถนน ไม่มีใครตามมาอีกแล้ว
แต่ไรก็ได้ก็ยังไม่ยอมแตะเบรก
“ข้างหน้ามี…… ตึกนะคะ!”
100 เมตรข้างหน้า มีทางแยกสามแยก ทางตรงไปมีตึกแถวตั้งอยู่ ถ้าไม่เลี้ยว รถจะต้องชนตึกแน่ๆ
<ไม่เป็นไรค่ะ>
“ถ้าตรงไปจะชนนะคะ!”
<ไม่เป็นไรค่ะ ตรงไปเลย>
อึก
เธอฝืนกลืนน้ำลาย
ไม่มีทางเหลือ เธอต้องเชื่อมั่นเท่านั้น
ไรก็ได้เหยียบคันเร่งแรงขึ้น แบล็ค ธันเดอร์เองก็พุ่งทะยานไปในระยะ 100 เมตรภายในพริบตา รถเกือบจะชนเข้ากับตึกแถวแล้ว
‘ช่างหัวมันสิ!’
ไรก็ได้หลับตาปี๋เตรียมรับแรงกระแทก แต่ แบล็ค ธันเดอร์ กลับพร่าเลือนแล้วทะลุผ่านตึกไปโผล่ที่ลานจอดรถกว้างแห่งหนึ่ง
เอี๊ยดดดด!
แบล็ค ธันเดอร์ หมุน 360 องศา ก่อนจะหยุดนิ่งกลางลานกว้าง
ไรก็ได้ลืมตาขึ้น
“……ที่นี่คือ”
ที่นี่มัน…
ตึกร้างที่เธอเคยถูกจับตัวมา
‘เรากลับมาที่เดิมได้ยังไง?’
นักเวทย์สาวผมสีเงินเดินเข้ามาหาไรก็ได้ที่ยังงงอยู่
เธอเคยเห็นนักเวทย์คนนี้แค่ครั้งเดียวเมื่อหลายปีก่อน เธอแนะนำตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยและลูกน้องของ ‘ฮาน’ ชื่อ ยูเน็ต ซีด
“ยินดีต้อนรับค่ะนายท่านไรก็ได้”
“…….”
“ดีใจที่เห็นนายท่านสบายดีค่ะ ไม่ทราบว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“เอ่อ สวัสดีค่ะ”
ข้างๆ ยูเน็ตมีชายหญิงยืนอยู่ฝั่งละคน
‘ผู้หญิงคนนั้น……?’
ผู้หญิงตาเดียวที่ทุบรถถังสองคันด้วยมือเปล่า
‘แล้วผู้ชายคนนั้นก็……!’
ชายในชุดคลุมที่ฟันเฮลิคอปเตอร์ขาดกลางอากาศ
ผู้หญิงตาเดียวคนนั้นเดินเข้ามาหาไรก็ได้
“เพิ่งเคยเจอกันนะ ไรก็ได้ เธอเป็นนายท่านของทาวเนียร์สินะค่ะ ฉันชื่อ ‘เซริส อาร์เจนไฮม์’ เป็นรองนายท่านของเนลม์ไฮมฟ์……ไม่สิ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ‘วัลฮัลลา’ แล้ว”
มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
ไรก็ได้จับมือที่เซริสยื่นมาอย่างงุนงง
นี่คือมือที่ทุบรถถังพังงั้นเหรอ
“ถึงจะเพิ่งเคยเจอกัน แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นครั้งแรกหรอกใช่ไหมคะ?”
เซริสยิ้ม
ไรก็ได้เพิ่งนึกถึงความทรงจำในอดีตออก
ถึงจะเป็นเหตุการณ์ในเกม แต่เธอก็จำได้แม่น
ครั้งหนึ่ง เซริสแห่งเนลม์ไฮมฟ์และไรก็ได้แห่งทาวน์เนียเคยร่วมมือกัน
เพื่อช่วย ‘ฮาน อิสรัต’
‘ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง’
ในที่สุดไรก็ได้ก็เข้าใจ
สิ่งที่เธอเห็นผ่านหน้าจอ มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในที่ใดที่หนึ่ง
ไรก็ได้ตอบอย่างตะลึงงัน
“สะ สวัสดีค่ะ”
“ขอแนะนำทุกคนหน่อยนะคะ นี่คือเพื่อนร่วมทีมของฉัน”
ไรก็ได้มองไปรอบๆ
ยูเน็ตที่เธอเคยเจอครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน นิฮาคุและอารอนที่ช่วยเธอไว้จากการถูกลักพาตัว เซริสกับรีเจียน
ทุกคนจ้องมองมาที่เธอ
‘ทุกคนเป็นตัวละครในเกม’
เหมือนฝันไปเลย
จริงๆ แล้ว การขับรถเมื่อกี้ก็เหมือนกัน
เธอรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมแข่งรถในโลกเสมือนจริงที่ภาพเหมือนกับกรุงโซลจริงๆ มากกว่าที่จะขับรถอยู่ในกรุงโซลจริงๆ
“เอาล่ะๆทุกคน! ในเมื่อเรามารวมตัวกันแล้ว ก็เริ่มประชุมวางแผนกันเลยดีกว่าไหม? เราไม่มีเวลามากนะ!”
นิฮาคุยกมือขึ้น เซริสพยักหน้า
“ใช่ เราไม่มีเวลาแล้ว สิ่งกีดขวางนี้อาจถูกตรวจพบเมื่อไหร่ก็ได้ เราต้องรีบหน่อย และเพื่อที่จะทำเช่นนั้น…… เราต้องการความช่วยเหลือจากเธอ”
“ฉันเหรอคะ?”
“เพื่อช่วยนายท่าน ขอร้องล่ะ ช่วยเราหน่อยได้ไหม?”
เซริสก้มหัวลง
ไรก็ได้รีบเดินเข้าไปหาเธอด้วยความลนลาน
“ได้ค่ะ! ได้สิคะ! เมื่อกี้ฉันก็บอกว่าจะช่วยแล้วนี่คะ! ถ้าเป็นสิ่งที่ฉันทำได้ ฉันจะทำให้เต็มที่ค่ะ”
“ขอบคุณมาก งั้นยูเน็ตอธิบายแผนคร่าวๆ ให้ฟังหน่อย”
“ค่ะ”
ยูเน็ตเดินออกมาข้างหน้า
“นายท่านไรก็ได้ ท่านทราบเป้าหมายของเราในตอนนี้หรือไม่คะ?”
“ทราบค่ะ ช่วยคุณฮาน…… ใช่ไหมคะ?”
อารอนเล่าให้เธอฟังแล้ว
ฮานยอมเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้ลูกน้องหนีไปได้อย่างปลอดภัย
“ถูกต้องค่ะ”
ยูเน็ตพยักหน้า
“เราต้องการสองสิ่งเพื่อทำเช่นนั้น สิ่งแรกคือการเปิดช่องทางมิติเชื่อมระหว่างที่นี่กับที่ที่นายท่านอยู่”
“เรื่องนั้นน้องใหม่ของเราถนัดอยู่แล้ว!”
“อีกแล้วเหรอครับ…….”
อารอนยิ้มแห้ง
เขารู้สึกเหมือนเคยได้รับมอบหมายงานคล้ายๆ กันนี้มาก่อน
“สิ่งที่สองที่เราต้องการคือ ‘ประภาคาร’ ที่จะนำทางนายท่านมายังที่ที่เราอยู่”
“ประภาคาร?”
“นายท่านติดอยู่ในห้วงมหาสมุทรแห่งมิติ เราต้องการแสงสว่างที่จะนำทางท่านมายังฝั่งที่เราอยู่”
ฮาน อิสรัต ติดอยู่ในทะเลแห่งรุ่งอรุณ
เพื่อพาเขากลับมาที่นี่ จำเป็นต้องมีเส้นทางที่สงบนิ่งและประภาคารที่จะนำทาง
ยูเน็ตอธิบาย
'ประภาคาร?'
ไรก็ได้กระพริบตาปริบๆ
ยูเน็ตอธิบายเพิ่มเติม
“เช่น สิ่งของที่นายท่านรักมาก หรือสัญลักษณ์ที่นายท่านไรก็ได้พอจะจำได้…….”
ทันใดนั้น
ทุกสายตาจับจ้องไปที่สมาร์ตโฟนของไรก็ได้ที่มีรูปปั้นม้าศึกที่ห้อยอยู่กับโทรศัพท์
“…….”
ไรก็ได้เผลอลูบรูปปั้นโดยไม่รู้ตัว
สัมผัสหยาบๆ ของรูปปั้นไม้
‘รูปปั้นม้าศึก’
ใช่แล้ว
ฮีโร่ของเธอชอบรูปปั้นม้าศึกมาก
ตั้งแต่ตอนที่เธอให้เขาครั้งแรก ฮานเองก็ลั่งไคล้รูปปั้นม้าศึกนี้มาก
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถตอบแทนความยากลำบากและความสำเร็จทั้งหมดของฮาน อิสรัต ได้ด้วยรูปปั้นราคา 5,000 เหรียญทองเพียงไม่กี่ชิ้น
‘แต่ถ้าเป็นอันนี้……!’
ไรก็ได้กำรูปปั้นแน่น
แต่ก็คงยังไม่พอ
ไรก็ได้รู้สึกแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า
“แค่อันเดียวอาจจะไม่พอหรือเปล่าคะ?”
“เท่าที่ทราบ รูปปั้นม้าศึกที่นายท่านไรก็ได้มีอยู่นั้นเป็นชิ้นเดียวที่หลงเหลืออยู่นะคะ”
ยูเน็ตพูดถูก
รูปปั้นม้าศึกที่เคยหาได้จากร้านขายของขวัญในเกม ‘พิกมีอัพ’ ไม่มีอีกแล้ว
ฮานได้โละรูปปั้นม้าศึกทั้งหมดของเขา ยกเว้นหนึ่งตัว และตัวนั้นอยู่ในมือของไรก็ได้
เซิร์ฟเวอร์ของพิกมีอัพถูกปิด ร้านขายของที่ระลึกจึงไม่สามารถเปิดได้อีกต่อไป
‘หรือว่า’
ดวงตาของไรก็ได้เป็นประกาย
“เราไปบ้านฉันกันได้ไหมคะ?”
ไรก็ได้พูด
ถ้ามีการประกาศเตือนภัยการอพยพในพื้นที่และประชาชนอพยพออกไปเป็นจำนวนมาก บ้านของเธอซึ่งอยู่ไม่ไกลก็น่าจะไม่มีผู้คน
แม่ของเธอก็น่าจะออกจากบ้านไปแล้วด้วย
เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถบอกแม่ได้ว่าเธอปลอดภัย
“แต่มันอันตรายนะคะ”
ยูเน็ตคัดค้าน…แต่
“ดูเหมือนเธอจะมีแผนนะ”
เซริสพูดขัดขึ้น
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว
ประกาศเตือนภัยยังไม่ถูกยกเลิก และมีการออกอากาศประกาศเตือนเรื่องการก่อการร้ายที่น่าสงสัยไปทั่วเมือง
ที่ตึกเก่าแห่งหนึ่งในกรุงโซล
กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในอาคารชั้น 2
แม้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขา
เป็นเพราะผลของเวทย์มนตร์พรางตัว
‘แม่คะ แม่จะปลอดภัยไหมนะ?’
ภายในบ้านรกไปหมด
ดูเหมือนว่าแม่จะรีบอพยพออกไปจนของกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด
ไรก็ได้หลับตานิ่งแล้วลืมตาขึ้น ก่อนจะเดินผ่านทางเข้าไป
เหล่าฮีโร่แห่งวัลฮัลลาเดินตามเธอไปติดๆ
“ทางนี้ค่ะ”
ไรก็ได้เปิดประตูข้างห้องของเธอ
มันเคยเป็นห้องเก็บของ
ซิริสที่เข้ามาก่อนถึงกับตกตะลึง
“นี่ นี่มัน…….”
เธอรู้สึกได้ทันที
สิ่งเหล่านี้คือ ‘....สิ่งนั้น….’
สิ่งที่นายท่านของเธอปรารถนา
สิ่งที่เธอตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เคยเจอ
เซริสคว้าไหล่ไรก็ได้ไว้และถามว่า
“เธอไปหาของพวกนี้มาจากไหน? เซิร์ฟเวอร์เกมก็ปิดไปแล้วนี่?”
“ฉันไม่ได้หามาหรอกค่ะ…….”
ไรก็ได้ชี้ไปที่มุมห้อง
มีโต๊ะทำงานและแท่นแกะสลักขนาดเล็กตั้งอยู่
บนแท่นมีรูปปั้นที่ยังแกะสลักไม่เสร็จอยู่หนึ่งชิ้น
“เอ่อ คือว่า บังเอิญ ฉัน ฉันแกะมันเล่นๆ น่ะค่ะ…….”
จู่ๆ ไรก็ได้ก็รู้สึกเขินอาย จึงพูดตะกุกตะกัก
“…….”
ภายในห้องเก็บของที่เต็มไปด้วยชั้นวางของ
รูปปั้นม้าศึกหลายร้อยตัวตั้งตระหง่านอยู่ที่ชั้นวาง….