กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 429 สูญสิ้นจากโลกนี้โดยสมบูรณ์
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 429 สูญสิ้นจากโลกนี้โดยสมบูรณ์
“ภูผาเมฆาล่อง จากนี้ไปสูญสิ้นจากโลกนี้โดยสมบูรณ์แล้ว”
ประมุขคนหนึ่งมองดูประมุขภูผาเมฆาล่องที่ถูกทำลายบนท้องฟ้า กล่าวอย่างหม่นหมอง
ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งถูกทำลายในวันเดียว แม้แต่ประมุขรุ่นปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้ เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อ แต่มันคือความจริง แม้ว่า
ในโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ภูผาเมฆาล่องยังคงเหลือความหวังเอาไว้ แต่ก็เป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
รอจนกระทั่งพวกเขากลับมา สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญไม่ใช่แค่เมิ่งชิ่งจือกับฟางหาน ขุมอำนาจอื่น ๆ ในโลกเซียนปฐพีก็มิใช่คนใจดี
การซ้ำเติมเหยื่อผู้พ่ายแพ้นั้น พวกเขารู้ดีกว่าใคร
แม้แต่ขุมอำนาจที่เคยเป็นมิตรกับภูผาเมฆาล่อง เช่น ตำหนักเซียนผันยุค ในตอนนี้ ความคิดของพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว
เพราะว่าพันธมิตรนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายมีพลังอำนาจที่เท่าเทียมกัน
ในตอนนี้ ภูผาเมฆาล่องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพันธมิตร การที่พวกเขาไม่ฉวยโอกาสนี้ก็ถือว่ามีเมตตาแล้ว
“คนที่ลงมือครั้งสุดท้ายคือฟางหานหรือ? ในสายตาของข้า เขาแข็งแกร่งดั่งมหาจักรพรรดิ หรือว่าเขาได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์?” มีคนกล่าวขึ้นเบา ๆ
หลังจากที่ฟางหานปรากฏตัวขึ้น สังหารประมุขภูผาเมฆาล่อง เขาก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
แต่เพียงชั่วพริบตานั้น ก็ยังคงมีคนมากมายมองเห็นเขา
พวกเขานำแผ่นหยกออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด ชื่อของฟางหานยังคงอยู่ในรายนามอัจฉริยะหมื่นเผ่าพันธุ์ แม้ว่าอันดับของเขาจะสูงขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในรายนาม
นี่แสดงให้เห็นว่าพลังอำนาจของฟางหานในตอนนี้เป็นเพียงชั่วคราว
ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากรายนามอัจฉริยะหมื่นเผ่าพันธุ์
“คงจะเป็นเช่นนั้น”
ผู้คนมากมายเริ่มมีความหวัง ในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
การที่สามารถทำให้คน ๆ หนึ่งแข็งแกร่งดั่งมหาจักรพรรดิ แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ทำให้คนมากมายสนใจ มหาจักรพรรดิมิใช่ผักกาดขาว การมีวิชาเช่นนี้เอาไว้ก็ไม่ต่างอะไรกับการมีไพ่ตาย
สำหรับขุมอำนาจเล็ก ๆ พวกเขาไม่มีพระสูตรจักรพรรดิ ไม่มีอาวุธจักรพรรดิ ไพ่ตายใบนี้จึงมีค่าอย่างยิ่ง
ในช่วงเวลาสำคัญ ปรากฏมหาจักรพรรดิขึ้นมาหนึ่งคน พลิกสถานการณ์ทั้งหมด โดยไม่ต้องออกแรงแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกัน ภายในภูผาเมฆาล่อง
เมิ่งชิ่งจือโบกมือ ขุนเขาเทวามากมายถูกถอนรากถอนโคน ทรัพยากรนับไม่ถ้วนถูกเขานำไปเก็บไว้ในแหวนเก็บของ แม้แต่แปลงสมุนไพร
เขาก็ขี้เกียจตรวจสอบ นำขุนเขาทั้งหมดกลับไปยังสำนักมารเก้าขุมนรกก่อน ค่อยว่ากัน
เพียงไม่นาน แหวนเก็บของสิบวงของเขาก็เต็มไปด้วยทรัพยากร
“น่าเสียดาย”
เมิ่งชิ่งจือมองโถงตำหนักที่ถูกทำลาย ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียดาย สถาปัตยกรรมเหล่านี้ยังคงแข็งแกร่ง มีลวดลายมากมาย
แม้แต่วัสดุก็ยังล้ำค่า
แต่น่าเสียดาย ถูกทำลายไปเกือบหมดแล้ว
หากสามารถนำกลับไปได้ คงจะเป็นทรัพย์สมบัติมากมาย
“ภูผาเมฆาล่องร่ำรวยยิ่งนัก ไม่รู้ว่าสำนักอื่น ๆ ในโลกเซียนปฐพีเป็นเช่นไร หากทุกสำนักเป็นเช่นนี้ ข้าทำลายสักเจ็ดแปดสำนัก สำนักมารเก้าขุมนรกคงจะแข็งแกร่งขึ้นมาก”
เมิ่งชิ่งจือจินตนาการ
ความคิดนี้เขาเพียงแค่คิดในใจเท่านั้น
ให้เขาทำเช่นนั้นจริง ๆ เขาคงไม่กล้า แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังไม่กล้าหยุด เพราะเขารู้ดีว่า อีกไม่นานคงมีคนของโลกเซียนปฐพีเดินทางมาถึง
หากเขาล่าช้า คงไม่สามารถจากไปได้
ในขณะที่เมิ่งชิ่งจือกำลังยุ่ง
ฟางหานเดินทางกลับมาจากที่ไกล
“เป็นอย่างไรบ้าง”
เมิ่งชิ่งจือมองฟางหาน เอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ
“เรื่องราวในวันนี้ ขอบคุณผู้อาวุโส”
ฟางหานไม่ได้พูดมาก เขาประสานมือคารวะเมิ่งชิ่งจือ
หากไม่มีเมิ่งชิ่งจือ หากเขาลงมือเพียงลำพัง คงทำได้เพียงแค่รบกวนภูผาเมฆาล่องเท่านั้น การทำลายภูผาเมฆาล่องแทบจะเป็นไปไม่ได้
หากไม่ระวัง เขาอาจจะถูกสังหาร
“ไม่ต้องขอบคุณ ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเพียงคนเดียว”
เมิ่งชิ่งจือโบกมือ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ประมุขภูผาเมฆาล่องถูกเจ้าสังหารแล้วหรือ”
“ใช่แล้ว”
ฟางหานพยักหน้า
นี่ก็ต้องขอบคุณเมิ่งชิ่งจือที่ทำลายร่างกายของอีกฝ่าย หากเขาลงมือเพียงลำพัง คงต้องใช้เวลานานกว่าจะเอาชนะ การสังหารนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะล้างแค้นให้ตระกูลฟางสำเร็จแล้ว”
เมิ่งชิ่งจือกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
สายตาของเขาผ่านร่างของฟางหานไป มองไปยังขุนเขาเทวาแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีคนรับใช้ของฟางหาน กำลังนำคนกลุ่มหนึ่งที่ดูโทรม
ไม่ต้องเดา เมิ่งชิ่งจือก็รู้แล้ว
คนเหล่านี้คงเป็นคนของตระกูลฟางที่รอดชีวิตมาได้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงระดับราชันศักดิ์สิทธิ์ คนที่แข็งแกร่งกว่านั้นถูกภูผาเมฆาล่องสังหารไปหมดแล้ว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เมื่อคนเหล่านี้ฟื้นฟูพลัง ก็ยังคงเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่ง
“ยังไม่สำเร็จ ศัตรูของตระกูลฟาง ไม่ใช่แค่ภูผาเมฆาล่องเพียงแห่งเดียว”
ฟางหานส่ายหน้า
ในอดีต ขุมอำนาจมากมายร่วมมือกันทำลายตระกูลฟาง ภูผาเมฆาล่องเป็นเพียงผู้นำเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีตำหนักเซียนผันยุค
ขุมอำนาจเหล่านี้ รากฐานไม่ด้อยไปกว่าภูผาเมฆาล่อง
มีบทเรียนของภูผาเมฆาล่องเป็นตัวอย่าง การใช้แผนการเดิมทำลายตำหนักเซียนผันยุคนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้
“เช่นนั้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อ จะอยู่ในโลกเซียนปฐพีหรือ”
เมิ่งชิ่งจือถามอย่างสงสัย
“เป็นเชนนั้น”
ฟางหานมองคนของตระกูลฟางด้านหลัง จากนั้นก็มองเมิ่งชิ่งจือ กล่าวเบา ๆ ว่า “ข้าจะพาคนของตระกูลเดินทางไปยังโลกสวรรค์ก่อกำเนิด”
เขารู้ดีว่าหากเขาอยู่ในโลกเซียนปฐพีต่อไป คงไม่ได้รับผลประโยชน์ อาจจะถูกทำลายอีกครั้ง มีเพียงการเดินทางไปยังโลกสวรรค์ก่อกำเนิดเท่านั้นที่พวกเขาจะมีโอกาสรอดชีวิต แม้ว่าโลกสวรรค์ก่อกำเนิดกำลังถูกโลกเซียนปฐพีรุกราน
“อืม?”
เมิ่งชิ่งจือได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ในใจรู้สึกหนาวเหน็บ ในตอนนี้ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดกำลังเป็นศัตรูกับโลกเซียนปฐพี
เรียกได้ว่าศัตรูอยู่รอบด้าน
ในตอนนี้ ฟางหานจะพาคนของตระกูลฟางเดินทางไปยังโลกสวรรค์ก่อกำเนิด เรื่องนี้ทำให้เขาคิดถึงเรื่องไม่ดี ฟางหานคนเดียวไม่เป็นไร แต่คนของตระกูลฟางที่เขานำออกมานั้นมีไม่น้อย
ในนั้นมีระดับราชันศักดิ์สิทธิ์มากมาย หากพวกเขาเดินทางไปยังโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ย่อมต้องหาที่อยู่ ในอนาคตอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวาย
เขาไม่อยากให้ความหวังดีของเขากลายเป็นการสร้างศัตรูให้กับโลกสวรรค์ก่อกำเนิด
“ผู้อาวุโสโปรดอย่าเข้าใจผิด”
ฟางหานรู้สึกถึงบรรยากาศที่เย็นเยียบ รีบอธิบาย “ผู้น้อยมิได้มีเจตนาร้ายกับโลกสวรรค์ก่อกำเนิด เพียงแค่ต้องการช่วยเหลือโลกสวรรค์ก่อกำเนิดเท่านั้น”
“โอ้?”
เมิ่งชิ่งจือเลิกคิ้ว กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เจ้าจะอยู่ข้างโลกสวรรค์ก่อกำเนิดหรือ”
“ถูกต้อง”
ฟางหานพยักหน้า