ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 160 ยมโลกปราบปรามสิบโถงมาร

ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 160 ยมโลกปราบปรามสิบโถงมาร

โถงมารสวรรค์ ภายในโถงใหญ่

ยอดฝีมือมากมายต่างมารวมตัวกัน

นอกจากเจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์แล้ว ยอดฝีมือจากเก้าโถงใหญ่ที่เหลือก็มารวมตัวกันที่นี่

ในเวลานี้ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม บรรยากาศหนักอึ้ง

ทันใดนั้น เจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์ก็ถอนหายใจ เอ่ยขึ้นว่า

“หากไม่มีทางเลือกอื่น พวกเราคงต้องจากไปยังห้วงดาราอันกว้างใหญ่ไพศาล”

สิ้นคำพูดนี้ สีหน้าของยอดฝีมือทุกคนก็พลันเปลี่ยนไป

ห้วงดาราอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย

หากเดินทางไปโดยไม่ระวัง อาจต้องจบชีวิตลงที่นั่น

แต่หากไม่ไป เมื่อยมโลกมาถึง พวกเขาย่อมต้องตายอย่างแน่นอน

หากเดินทางไปยังห้วงดารา ยังคงมีโอกาสรอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ไร้ซึ่งร่องรอย

“พวกเจ้ายังมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง”

ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมไปถึงเจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์ ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

วูบ—!

ความว่างเปล่าแตกสลาย ร่างเงาอันสง่างามก้าวออกมาจากนั้น

สะพายเคียวสีดำ ผมขาวดุจน้ำตก ดูโดดเด่นเหนือผู้อื่น

มิใช่เทียนเฟยอู๋มัว ผู้ที่เคยทำให้พวกเขาสิ้นหวัง แล้วจะเป็นผู้ใด!

“ยอมสยบต่อยมโลก หรือ… ถูกทำลายล้าง!”

จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัว ยืนอยู่เบื้องบนโถงใหญ่ มองลงมายังยอดฝีมือทั้งสิบโถงมาร กล่าวอย่างเย็นชา

เงียบ!

ภายในโถงใหญ่ พลันตกอยู่ในความเงียบสงัด

ครู่ต่อมา เจ้าโถงแห่งโถงผาสุก เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน ร่างกายสั่นสะเทือน ก่อนจะประสานมือคำนับเทียนเฟยอู๋มัว

“โถงผาสุกของข้า ยินดียอมสยบต่อยมโลก”

ราวกับชนวนระเบิด

เมื่อเจ้าโถงแห่งโถงผาสุกเอ่ยวาจาออกมา

เจ้าโถงหรือบุคคลระดับสูงของโถงมารทั้งสิบ ต่างก็ยอมสยบต่อยมโลก

ไม่มีใครอยากตาย แม้แต่กึ่งเทพที่สูงส่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ยมโลกเป็นขุมอำนาจที่สืบทอดมาจากยุคอมตะเมื่อร้อยล้านยุคก่อน เบื้องหลังมียอดฝีมือระดับ ‘เซียนแท้’ คอยดูแลอยู่

เรื่องนี้ทำให้พวกเขายอมรับได้

ยิ่งไปกว่านั้น การยอมสยบต่อยมโลก ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะถูกยมโลกสังหารอีกต่อไป

สุดท้าย ภายในโถงใหญ่ เหลือเพียงเจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์เท่านั้นที่ยังไม่เอ่ยวาจาใด ๆ

“เจ้าเลือกได้แล้ว”

เสียงอันเย็นชาดังก้องกังวาน ราวกับภูเขา แม่น้ำ ดวงดาว กดทับลงมา หนักอึ้ง ไร้ขอบเขต

เจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์ยิ้มอย่างขมขื่น สุดท้าย เขาก็ก้มศีรษะ ประสานมือคำนับ

“โถงมารสวรรค์ของข้า ยินดียอมสยบ”

สิ้นคำพูดนี้ สิบโถงมารผู้ยิ่งใหญ่ ต่างก็ยอมสยบต่อยมโลก

“ดีมาก หากพวกเจ้าจงรักภักดี ยมโลกจะไม่ทอดทิ้งพวกเจ้า”

จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัวกล่าว

เขารู้ดีว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน

ท้ายที่สุดแล้ว เขายังคงต้องการให้คนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ช่วยเขารวบรวมสมบัติฟ้าดินในอนาคต

เบื้องล่าง ยอดฝีมือแห่งสิบโถงมารผู้ยิ่งใหญ่ ได้ยินคำพูดนี้ ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในเวลานั้นเสียงของเทียนเฟยอู๋มัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“นำสมบัติฟ้าดินทั้งหมดออกมา ภายในหนึ่งชั่วยาม ให้นำมามอบให้ข้าที่นี่”

“ทราบแล้ว”

แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่ายมโลกต้องการสมบัติฟ้าดินไปทำไม แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ต่างก็จากไปอย่างรวดเร็ว

“คงจะได้รับแต้มต้นกำเนิดจำนวนมาก วิเศษจริง ๆ”

ภายในใจของจี๋อวิ๋นมีความสุขอย่างยิ่ง

การปล้นสะดมขุมอำนาจเหล่านี้ รวดเร็วกว่าการสะสมทีละเล็กทีละน้อยมากนัก

…………

หนึ่งชั่วยามผ่านไป

ภายในโถงใหญ่ของโถงมารสวรรค์

จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัว นั่งอยู่เบื้องบน

รับแหวนเก็บของจากสิบโถงมารผู้ยิ่งใหญ่มาทีละวง

จากนั้นก็สื่อสารกับระบบ แปลงเป็นแต้มต้นกำเนิด

ติ๊ง!

[แปลงสำเร็จ ได้รับแต้มต้นกำเนิด 10,000,000 แต้ม]

เพียงสิบล้านแต้มหรือ

น้อยกว่าเผ่าจักรพรรดิสัตว์เทพมากนัก

อันที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องปกติ สิบโถงมารผู้ยิ่งใหญ่นั้นเป็นเพียงขุมอำนาจใหม่

รากฐานของพวกเขายังคงด้อยกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จะเทียบกับเผ่าจักรพรรดิสัตว์เทพได้อย่างไร

“สิบล้านแต้มก็ยังดี พอใช้ได้”

จี๋อวิ๋นไม่ได้คาดหวังมากนัก สำหรับเขาแล้ว แต้มต้นกำเนิดสิบล้านแต้มถือว่ามากมายมหาศาล

จากนั้น

เขาก็ควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัว สั่งให้พวกเขาสะสมสมบัติฟ้าดินส่งไปยังยมโลก และรับประตูมิติจากเจ้าโถงแห่งโถงมารสวรรค์มา จึงจากไปในทันที

ปล่อยให้ยอดฝีมือของโถงมารมองหน้ากัน

แม้ว่าพวกเขายังไม่รู้ว่าการยอมสยบต่อยมโลกจะเป็นโชคหรือเคราะห์

แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ พวกเขาปลอดภัย

………………

อีกด้านหนึ่ง เบื้องบนความว่างเปล่า

จี๋อวิ๋นเรียกหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัวมา รับประตูมิติที่เชื่อมต่อกับมณฑลเทพเป่ยเจียง

อย่างไรก็ตาม เขาวางแผนจะสุ่มก่อน

ท้ายที่สุดแล้ว การมีแต้มต้นกำเนิดสิบล้านแต้มอยู่กับตัว เขาอดใจรอไม่ไหวจริง ๆ

“ระบบ ใช้แต้มต้นกำเนิดสามล้านแต้ม สุ่มหุ่นเชิด”

จี๋อวิ๋นไม่ลังเลใด ๆ เริ่มต้นสุ่มก่อนสามล้านแต้มแบบปกติ

ติ๊ง!

[ได้รับหุ่นเชิดทหารสวรรค์ที่แตกสลาย]

[ได้รับหุ่นเชิด ‘เกาหมิงเนตรหมื่นลี้’]

……

……

[ได้รับหุ่นเชิด ‘เกาเจวี๋ยหูทิพย์’]

[ได้รับหุ่นเชิดทหารหยิน]

……

……

โอ้?

“เกาหมิงเนตรหมื่นลี้และเกาเจวี๋ยหูทิพย์มาด้วยกัน”

จี๋อวิ๋นมองดูด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

ทว่าทั้งสองไม่ได้แข็งแกร่งเท่าจตุราชันสวรรค์

จี๋อวิ๋นเรียกออกมาตรวจสอบ พบว่ามีเพียงระดับมหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้าเท่านั้น

ช่างเถิด ปล่อยให้เป็นยามเฝ้าประตูก็แล้วกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ในตำนาน ทั้งสองคนก็เป็นยามเฝ้าประตูสวรรค์เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้มหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้ามาเป็นยามเฝ้าประตู ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก

แม้ว่าระดับมหาปราชญ์ในสายตาของจี๋อวิ๋นจะไม่นับว่าเป็นอันใด แต่สำหรับคนภายนอกแล้ว พวกเขายังคงเป็นบุคคลสำคัญ!

บุคคลสำคัญในสายตาของเจ้า ภายในวังสวรรค์ของข้า เป็นเพียงยามเฝ้าประตูเท่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกน่าทึ่งยิ่งนัก!

จากนั้นจี๋อวิ๋นก็เริ่มสุ่มต่อ ใช้แต้มต้นกำเนิดอีกสามล้านแต้ม

ติ๊ง!

[ได้รับหุ่นเชิด ‘ผู้พิทักษ์เบญจทิศ’]

[ได้รับหุ่นเชิดทหารหยิน]

……

……

[ได้รับหุ่นเชิดทหารสวรรค์]

[ได้รับหุ่นเชิด ‘เฟิงป๋อ’]

……

……

อืม?

เมื่อเห็นหุ่นเชิดผู้พิทักษ์เบญจทิศ จี๋อวิ๋นคิดว่าคงไม่ได้อะไรดี ๆ

แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้รับของดีในพริบตาถัดมา

“ในที่สุดก็มาถึงแล้ว……”

จี๋อวิ๋นมองไปยังกลุ่มแสงกลุ่มหนึ่ง

เห็นเพียงภายในกลุ่มแสงนั้น ปรากฏร่างของเทพผู้ยิ่งใหญ่ สูงถึงหลายแสนจั้ง ยืนตระหง่านอยู่!

จี๋อวิ๋นสุ่มมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นหุ่นเชิดที่มีร่างกายใหญ่โตเช่นนี้มาก่อน

แต่เขาก็ไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย

เพราะเฟิงป๋อผู้นี้ คือหนึ่งในแปดมหาจอมเวทแห่งเผ่าจอมเวท!

มหาจอมเวท คือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากสิบสองบรรพชนจอมเวท

สายเลือดของพวกเขานั้นแข็งแกร่ง พลังรบน่าสะพรึงกลัว ไม่อาจมองข้าม

แน่นอนว่าแปดมหาจอมเวทนั้นมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือจิ่วเฟิ่ง มีข่าวลือว่านางมีสายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดรองจากสิบสองบรรพชนจอมเวท!

รองลงมาก็คือชื่อโหยว สิงเทียน โฮ่วอี้ เซียงหลิ่ว ควาฟู่ และอื่น ๆ

ส่วนที่อ่อนแอที่สุดก็คือเฟิงป๋อและยหวี่ซือ

แน่นอนว่าความแข็งแกร่งและความอ่อนแอนั้นขึ้นอยู่กับแปดมหาจอมเวท

แม้แต่เฟิงป๋อและยหวี่ซือที่อยู่ระดับล่างสุด ก็ยังคงเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง!