(ฟรี) บทที่ 490 (ฟรี)
(ฟรี) บทที่ 490 (ฟรี)
“ใช่!” เย่เหว่ยลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือ!
แกร๊กๆๆๆ!
เมืองจักรกลสั่นสะเทือน ไม่นานก็หายไปในมิติที่แปลกประหลาด
แต่ก่อนที่มันจะหายไป อู๋เทียนสังเกตเห็นต้นไม้ได้อย่างเลือนราง
ต้นไม้?!
มิติแบบไหนถึงจะใช้ต้นไม้เป็นที่รองรับ?
“เวรเอ๊ย อารยธรรมกฎเกณฑ์นี่มันแกล้งกันชัดๆ ทำไมมิติย่อยหรือพวกมิติเล็กๆของคนอื่นถึงไม่โดนผนึก แต่ของพวกเราโดนผนึก นี่มันเพิ่มความยากของการสอบเข้ามหาลัยชัดๆ” อู๋เทียนบ่น
เห็นว่าเย่เหว่ยบินลงไป เขาก็พาหลี่ฉิงลู่เหยียบอากาศลงไปเช่นกัน
หลุมนี้ใหญ่มาก กว้างหลายสิบไมล์ ลึกเป็นหมื่นเมตร
ยิ่งปรากฏในอาณาเขตยามพลบค่ำ อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ปากทางเข้านรกยังได้เลย’
แค่เห็นก็น่ากลัว!
อย่างไรก็ตามนี่ไม่สามารถหยุดคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติได้
ไม่ต้องพูดถึงหลี่ฉิงลู่ที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม แม้แต่เธอก็สามารถเหาะเหินเดินอากาศต่อสู้กับเผ่าแมลงระดับวีรบุรุษได้
ไม่นาน ทั้งสามคนก็มาถึงใต้รูปปั้นสิงโต
เมื่อเข้ามาใกล้ อู๋เทียนถึงสามารถสัมผัสถึงแรงกดดันจากรูปปั้นขนาดใหญ่ตัวนี้อย่างเต็มที่
กลิ่นอายแบบป่าเถื่อนโบราณ ดูเหมือนว่าดินทุกเม็ดบนรูปปั้นล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของกาลเวลา ทิ้งร่องรอยไว้บนนั้น
หากมีเวลามากพอ ถ้าอู๋เทียนมาฝึกฝนที่นี่หนึ่งหรือสองปี บางทีเขาอาจจะได้อะไรพิเศษกลับไป
น่าเสียดายที่รูปปั้นนี้สุดท้ายก็จะถูกทำลายไปพร้อมกับโลก [ป่ากู่เซิน] เมื่อเกิดภัยพิบัติ
“ที่นี่แหละ พวกเราเจาะเปิดช่องทางหนึ่งเอาไว้!” เย่เหว่ยแนะนำ ชี้ไปที่ประตูโบราณข้างหน้า
นั่นคือประตูทองคำ มีภาพวาดฝาผนังและลวดลายมากมายบนประตูปิดสนิท
ส่วนที่ไม่ไกลจากประตู มีช่องทางที่พังทลาย น่าจะเป็นช่องทางที่กลุ่มของเย่เหว่ยเจาะไว้
“พูดถึงเรื่องนี้ การร่วมมือกันของคนจากต่างอารยธรรมก็มีประโยชน์จริงๆ!” ดวงตาของเย่เหว่ยเป็นประกาย “อัจฉริยะหลายคนเปิดประตูไม่ได้ เข้าไปไม่ได้ ผลปรากฏว่าคนจากอารยธรรมมิติมหาสมุทรใช้โจรมิติ อาชีพพิเศษของพวกเขาเจาะทะลุช่องทาง พวกเราเลยเข้าไปได้....”
“ใน127 อารยธรรม แต่ละแห่งย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว!” อู๋เทียนพยักหน้าเห็นด้วย
พูดถึงพลังต่อสู้ แน่นอนว่ามีสูงมีต่ำต่างกันไป
แต่อารยธรรมต่างกัน เอกลักษณ์ก็ต่างกัน
บางครั้ง ก็ใช้เทียบกับคนอื่นไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ประตูนี้มัน .....
อู๋เทียนเดินเข้าไป แล้วลองตรวจสอบดู
เขาพบว่ากระทั่งตัวเองก็ทำลายไม่ได้!!
“ประตูบานนี้แปลกมาก พวกเราหลายพันคนโจมตีพร้อมกัน ใช้วิธีการมากมายก็ทำลายไม่ได้!!”
“แต่ถ้าใช้เลือด กลับสามารถเปิดใช้งานกลไกโบราณได้” เย่เหว่ยพูดถอนหายใจ “ไม่น่าเชื่อว่านี่คือซากอารยธรรมเมื่อ 600 ล้านปีก่อน ต้องเป็นกลไกอะไรกันถึงสามารถอยู่ได้นานขนาดนี้? ต่อให้เป็นฝีมือเทพเจ้า......แต่เขาจะมีอายุถึง 600 ล้านปีเหรอ?”
เทพเจ้าจะมีอายุ 600 ล้านปีได้หรือไม่?
อู๋เทียนไม่รู้ เพราะดูเหมือนว่าอารยธรรมกฎเกณฑ์จะไม่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 600 ล้านปี
ส่วนซากอารยธรรมโบราณที่อยู่ตรงหน้า ก็สลายไปในประวัติศาสตร์นานแล้ว
“ขอฉันลองดูหน่อย” อู๋เทียนรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
เซฟก่อน!
“บันทึกทับช่องเซฟที่ 4!”
“เซฟสำเร็จ!”
“พี่ใหญ่ให้ข้าทำเอง!” ทันใดนั้น หลี่ฉิงลู่ก็เดินเข้ามา ใช้ปลายนิ้วกรีดข้อมือ เลือดหยดลงบนประตูทีละหยดๆ
อู๋เทียนมองเธอด้วยความประหลาดใจ ม่านตาหดเล็กลงแต่ไม่ได้พูดอะไร
วินาทีต่อมา แสงศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมา บาดแผลที่ข้อมือของหลี่ฉิงลู่ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
“พี่ใหญ่ข้าไม่เป็นไร!” หลี่ฉิงลู่ยิ้ม “ประตูบานนี้อาจจะอันตราย ให้ข้าลองดูก็แล้วกัน เพราะต่อให้ตาย...”
ต่อให้ตายอู๋เทียนก็ชุบชีวิตเธอได้!
แต่หลี่ฉิงลู่ไม่ได้พูดออกมา เธอเพียงแค่ยิ้ม
ไม่รู้ว่าแกล้งซื่อหรือซื่อจริงๆ
อู๋เทียนมองเธอแล้วมองไปที่ประตู
“แกร๊ก———!!”
ประตูดูดซับเลือด เริ่มเปล่งประกายสีทอง
วินาทีต่อมา ภาพวาดฝาผนังก็ขยับ!
ภาพวาดฝาผนังบนประตูคือภาพของผู้คนมากมายที่กำลังโค้งคำนับราชันย์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำ
ในขณะนี้
“ราชันย์” บนภาพวาดหันหน้ามาราวกับมีชีวิต พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “จงตอบคำถามสามข้อ!”
“ถ้าตอบคำถามแรกผิด จะลดอายุขัยของเจ้าสิบปี!!”
“ถ้าตอบคำถามที่สองผิด จะลดอายุขัยของเจ้าร้อยปี”
“ถ้าตอบคำถามที่สามผิดจะลดอายุขัยของเจ้าพันปี!”
“ถ้าตอบถูกทั้งหมดประตูจะเปิด!”
“ราชันย์” ในภาพวาดมองไปที่หลี่ฉิงลู่
ดูเหมือนว่า กลไกลึกลับนี้จะเชื่อมโยงกับเลือด เลือดของใครหยดลง คนนั้นก็ต้องเป็นคนตอบ!
ถ้าตอบผิดทั้งสามข้ออายุขัยของหลี่ฉิงลู่จะลดลง 1,110 ปี!
ถึงแม้ว่าหลี่ฉิงลู่จะไม่ใช่คนธรรมดา แต่เธอก็ไม่ได้อายุยืน อายุขัย1,110 ปี
แทบจะเอาชีวิตเธอไปครึ่งหนึ่งแล้ว
“จริงๆแล้วเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” เย่เหว่ยพูด มองหลี่ฉิงลู่ด้วยสายตาที่เย็นชา “เธอสามารถยกเลิกได้ ภาพวาดก็จะกลับมาเป็นปกติ”
“ไม่เป็นไร ขอลองดู” หลี่ฉิงลู่ตอบอย่างเด็ดขาด
“ไม่จำเป็นต้องเปิดประตู!” เย่เหว่ยพูด “ที่นี่มีช่องทางแล้ว จะเปิดประตูทำไม?”
“แต่ข้าคิดว่าต้องเปิด!” แต่หลี่ฉิงลู่กลับยืนกราน ดวงตาเป็นประกาย “การที่พวกเจ้าล้มเหลวคือตัวอย่างที่ดี!”
“พวกเราแค่โดนกลุ่มคนชุดเหลืองลอบโจมตี!”
“โดนลอบโจมตีจริงๆหรือ?”
“สุสานโบราณ? พวกเจ้าแน่ใจเหรอว่าสิ่งที่เห็นน่ะเป็นเรื่องจริง?”
“หากที่นี่เป็นสุสานของข้าล่ะก็ ...” หลี่ฉิงลู่พูดอย่างมั่นใจ “ข้าจะต้องสั่งสอนพวกโจรที่แอบเข้ามา ส่วนคนที่เข้ามาทางประตูจริงๆ ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับมรดกของข้า!”
ได้ยินดังนั้น อู๋เทียนก็คิดตาม และรู้สึกว่ามีเหตุผล
เย่เหว่ยถึงกับอึ้ง นึกถึงคู่หมั้นของตัวเอง เกิดสีหน้าซับซ้อน
เธอรู้ว่าเขาแข็งแกร่งมาก แถมยังมีสมบัติ และลูกเล่นมากมายเก็บไว้เป็นไพ่ตาย
ถึงแบบนั้นก็ยังถูกเผ่าพันธุ์เทพมารยึดครองร่างได้ง่ายๆ กระทั่งอัจฉริยะจากอารยธรรมอื่นๆก็ยังถูกสังหาร!
ช่างง่ายดาย!
ง่ายจนน่าสงสัย
พวกเขาตายเร็วเกินไป!
หรือบางที .... หลี่ฉิงลู่อาจจะพูดถูก?
“ยกเลิกเถอะ” อู๋เทียนพูด
หลี่ฉิงลู่ขมวดคิ้ว เอ่ยยืนกราน “พี่ใหญ่ข้ามั่นใจว่าทำได้จริงๆ!”
“ฉันเชื่อเธอ! แต่ถ้าเป็นเรื่องอายุขัย ... ฉันมีเยอะกว่า” อู๋เทียนยิ้ม ทำสีหน้าจริงจัง
หลี่ฉิงลู่พยายามที่จะลงมือเอง
แต่เมื่อเห็นสายตาของอู๋เทียน เธอก็หดคอ หันไปพูดกับประตู “ข้าขอยกเลิก”
“เป็นทางเลือกที่ฉลาด” “ราชันย์” ในภาพวาดถอยกลับไป
จากนั้น อู๋เทียนก็กรีดแขนตัวเอง หยดเลือดลงบนประตูสองสามหยด
แค่ชั่วพริบตา บาดแผลของเขาก็หาย
ส่วนประตูก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเหมือนกับเมื่อกี้
“ราชันย์” ในภาพวาดมองไปที่อู๋เทียน แต่กลับพูดอะไรที่ต่างออกไป!
“ผู้มาจากต่างกาลเวลา!” “เจ้าต้องตอบคำถามห้าข้อ ถ้าตอบถูกทั้งหมดถึงจะเข้าไปได้!”
“ถ้าตอบคำถามแรกผิด จะลดอายุขัยของเจ้าสิบปี!”
“ข้อที่สอง..................ร้อยปี!”
“ข้อที่สาม......พันปี!”
“ข้อที่สี่....หมื่นปี!”
“ข้อที่ห้า....แสนปี!”
คำพูดกลับต่างออกไป!
ทำให้ทั้งสามคนตกตะลึง
ดวงตาของอู๋เทียนหดเล็กลง
ผู้มาจากต่างกาลเวลา ... นั่นหมายถึงเขาใช่ไหม?
เจ้าหมอนี่รู้ได้ยังไง?