บทที่ 300 เขาอัพสกิล 'การเมือง' แบบพรวด
ในสายตาของฉู่อี้...เฉินเสี่ยวซินกำลังต่อสู้เพียงลำพัง เขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนขนาดใหญ่มาก เป็นกลุ่มที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ซับซ้อนมาก ซึ่งเกินความสามารถของเขามาก...และยังทำให้คนไม่พอใจได้ง่าย ไม่ระวังอาจจะพังพินาศ เหมือนกับเรื่องเครื่องเร่งอนุภาคในอดีต
"เสี่ยวเฉิน"
"คุณกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่ใหญ่มากนะ" ฉู่อี้พูดอย่างจริงจัง "และเครือข่ายความสัมพันธ์ของกลุ่มนี้ก็ซับซ้อนมาก...คุณคนเดียวไม่สามารถจัดการได้หรอก ถึงตอนนั้นอาจจะพังพินาศได้ง่าย จะถูกด่าอย่างหนัก"
เฉินเสี่ยวซินยิ้มอย่างซื่อๆ ตอบอย่างไม่ใส่ใจ "ผมรู้ ผมคิดถึงเรื่องนี้แล้ว แต่ต้องมีคนเสนอความคิดนี้สักคน การเอาเงินไปลงทุนกับการสื่อสารเชิงควอนตัมต่อไปมันไม่ค่อยเหมาะ แม้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีจะเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่เราก็ยังไม่รวยขนาดนั้น"
"ถ้าไม่มีตัวเลือกการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้ ผมยังอยากจะเอาเงินไปลงทุนในการสำรวจอวกาศ สำรวจดวงจันทร์หรือดาวอังคารมากกว่า" เฉินเสี่ยวซินหยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ "ในด้านการสื่อสารเชิงควอนตัม ผมยอมรับว่าเทคโนโลยีเจ๋งมาก ผมก็ทำงานในสาขาควอนตัมด้วย แต่เมื่อเทียบกับโปรโตคอลกุญแจควอนตัม ผมสนับสนุนระบบรหัสควอนตัมของศาสตราจารย์หวังมากกว่า"
"ส่วนการคำนวณเชิงควอนตัม"
เฉินเสี่ยวซินเม้มปาก ตอบอย่างจนใจ "เราตามหลังอเมริกามากเกินไป ในด้านตัวนำยวดยิ่งและอะตอมเป็นกลาง...พวกเขาทำได้เกินพันคิวบิตแล้ว แต่คิวบิตตัวนำยวดยิ่งของเราแค่ 133 อะตอมเป็นกลางไม่ถึง 100 รวมถึงความสามารถในการควบคุมและกับดักไอออน ก็ล้าหลังพวกเขา...รวมถึงแนวทางสารกึ่งตัวนำและแนวทางโทโพโลยี"
"มีแต่ในสาขาควอนตัมเชิงแสงที่เราเก่งกว่าอเมริกา แต่ปัญหาคือที่พัฒนาดีที่สุดคือคอมพิวเตอร์ตัวนำยวดยิ่ง ผมคิดว่าเราตามไม่ทันในสนามนี้แล้ว" เฉินเสี่ยวซินสูดหายใจลึก พูดอย่างจริงจัง "แต่ในสาขาการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้...เรานำหน้าเต็มๆ ควรรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ แล้วขยายความได้เปรียบให้มากขึ้น สร้างสถานการณ์ที่สูสีกับอเมริกา"
"อืม"
"การสื่อสารเชิงควอนตัมกับการคำนวณเชิงควอนตัม...ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่พูดถึงการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้...เรานำหน้าโลกมาก!" ฉู่อี้ยังคงภูมิใจ ในสาขานี้เราเป็นที่หนึ่งของโลกจริงๆ
"ก็เพราะแบบนี้ไง"
"ผมถึงสนับสนุนการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้" เฉินเสี่ยวซินพูดพร้อมรอยยิ้ม "แน่นอน...จริงๆ แล้วผมก็สนับสนุนการคำนวณเชิงควอนตัมด้วย แต่ในเรื่องนี้ ผมก็ยังเอนเอียงไปทางการหลอมรวมนิวเคลียร์ แม้ว่าช่วงเวลาจะยาวนานหน่อย...แต่ถ้ามีผมอยู่ ผมสามารถย่นระยะเวลานี้ได้"
ความคิดของเฉินเสี่ยวซินตอนนี้ง่ายมาก วิทยาศาสตร์ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ของคนคนเดียว วิทยาศาสตร์เป็นของทุกคน ถ้าใช้เงินมากมายขนาดนั้น...แค่เพื่อพิสูจน์ปัญหาไม่กี่ข้อ ผลงานอยู่แค่บนกระดาษตลอดไป นั่นก็เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของประชาชนโดยเปล่าประโยชน์
กาลิเลโอเคยพูดไว้ว่า...จุดประสงค์เดียวของวิทยาศาสตร์คือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ต้องคิดเพื่อคนส่วนใหญ่...และเฉินเสี่ยวซินในตอนนี้ก็ทำแบบนั้น เขาอยากให้ประเทศเริ่มการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่อย่างเร่งด่วน อยากให้ประชาชนทุกคนได้รับอิสรภาพด้านพลังงาน
"ก่อนหน้านี้..."
"ผมไม่ค่อยมั่นใจกับโครงการนี้เท่าไหร่ รู้สึกว่าคงไม่ได้เห็นการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้ในชีวิตนี้ แต่ตั้งแต่คุณปรากฏตัว ผมรู้สึกว่าในอนาคต ผมจะต้องได้เห็นวันที่มีอิสรภาพด้านพลังงานแน่นอน" ฉู่อี้พูดอย่างจริงใจ "เสี่ยวเฉิน...ผมฝากความหวังไว้กับคุณนะ!"
"ได้ครับ"
เฉินเสี่ยวซินตอบรับ
เมื่อวางสาย เฉินเสี่ยวซินถอนหายใจ มองปักกิ่งยามค่ำคืนเงียบๆ ในใจรู้สึกทุกข์และกังวล ไม่รู้ว่าการเลือกครั้งนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ไม่มีทางกลับแล้ว ได้แต่เดินหน้าต่อไป
ตอนนี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดที่อยู่ตรงหน้าคือ...ต้องรีบสร้างแม่เหล็กตัวนำยวดยิ่งแบบใหม่ออกมา แล้วพิสูจน์ว่าการหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้มีอนาคตที่สดใส เพราะในวงการวิทยาศาสตร์ ความเห็นนับพันของผู้มีอำนาจ ก็สู้การพิสูจน์อย่างสมเหตุสมผลของคนคนเดียวไม่ได้
"การหลอมรวมนิวเคลียร์แบบควบคุมได้ ตัวนำยวดยิ่งอุณหภูมิห้อง คอมพิวเตอร์ควอนตัม...ถ้าชุดนี้สำเร็จ" เฉินเสี่ยวซินเลียริมฝีปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พึมพำ "มนุษยชาติก็จะก้าวเข้าสู่ยุคทอง สามารถพิชิตกาแล็กซีทางช้างเผือกได้เลย ดวงดาวทั้งหลายก็จะสั่นสะเทือนตามเจตจำนงของมนุษย์"
จิตวิญญาณแบบวัยรุ่นลุกโชนในจินตนาการต่างๆ ของเขา มนุษย์สามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้แล้ว เหมือนในเกม Warhammer 40K สวมชุดเกราะพลังและเริ่มพิชิตกาแล็กซีทางช้างเผือก
"ทำอะไรอยู่น่ะ?"
"ฮิฮิฮิ ยิ้มโง่ๆ อยู่ได้"
ทันใดนั้นเสียงของเหยียนเสี่ยวซีก็ทำลายจินตนาการของเขา เฉินเสี่ยวซินที่ได้สติ...มองสาวน้อยในชุดนอนการ์ตูน กางแขนกอดเธอเบาๆ พูดเสียงนุ่ม "เพิ่งคุยกับผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลาสมาเสร็จ ยืนยันแผนขั้นต่อไป"
"อ้อ"
เหยียนเสี่ยวซีซบอยู่ในอ้อมกอดเขา ดวงตาจากใสกระจ่างกลายเป็นเลือนราง ม่านตาเต็มไปด้วยละอองน้ำ...ดูใสวาวมีเสน่ห์เฉพาะตัว เธอบิดร่างที่ธรรมดาๆ ของตัวเอง พูดเสียงหวานเยิ้ม "ไปนอนกันเถอะ นี่กี่โมงแล้ว"
"หา?"
"นอนเร็วจังเลยเหรอ?"
เฉินเสี่ยวซินอึ้งไป พูดอย่างระมัดระวัง "ที่รัก...เพิ่งสามทุ่มเองนะ"
"โอ๊ย"
"รีบหน่อยสิ"
"อืดอาดจังเลย ก่อนหน้านี้ชวนนอนทีไรก็รีบ ตอนนี้ช้าลงเรื่อยๆ" เหยียนเสี่ยวซีกลอกตา แล้วมองเขา ถามอย่างจริงจัง "นายกำลังหลบอะไรอยู่หรือเปล่า? ฉันรู้สึกว่านาย...นายกำลังหลบอะไรบางอย่าง"
เธอคิดยังไงล่ะ?
โห เหมือนซูเปอร์ไซย่าเลย! เฉินเสี่ยวซินแม้จะกลัวมาก แต่ปากแข็ง พูดอย่างหยิ่งผยอง "ฉันหลบเหรอ? ฉันแค่กลัวเธอทนไม่ไหว ฉันจะบอกเธอนะ ถ้าฉันเร่งเครื่องเต็มที่ ก็...ก็เหมือนเครื่องจักรกลเคลื่อนที่ได้ตลอดเลย โครมครามๆ ทั้งวันทั้งคืนไม่มีหยุด"
คุยโวเสียงดังไปหน่อย แต่ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ เรื่องอื่นคุยกันได้ แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่คุยไม่ได้
"ฮึ่ม"
"วันไหนนายหมดแรง ทั้งตัวคงอ่อนปวกเปียกไปหมด แต่ปากนี่แข็งจริงๆ" เหยียนเสี่ยวซีมองเขาอย่างขุ่นเคือง พูดอย่างหงุดหงิด "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าทำไมนายถึงต้องแอบไปห้องน้ำระหว่างทาง"
"โอ๊ย...ปวดท้องจริงๆ นะ" เฉินเสี่ยวซินตอบอย่างกระอักกระอ่วน "ฉันกินที่บ้านป้าใหญ่มาแล้ว แล้วยังมากินหม้อไฟกับเธออีก ต้องอิ่มแน่นอนสิ"
พูดจบ เขาก็อุ้มสาวน้อยในอ้อมกอดขึ้นมาเบาๆ แบบอุ้มเจ้าหญิง...เดินเข้าห้องไป
ส่วนเหยียนเสี่ยวซีก็โอบคอเขาอย่างว่าง่าย ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนหวานของสาวน้อยและความคาดหวังของภรรยาสาว... โครม------
โยนสาวน้อยลงบนเตียงทันที "โอ๊ย!"
เหยียนเสี่ยวซีเกือบจะบาดเจ็บภายใน รีบลุกขึ้นนั่ง มองเขาด้วยความโกรธ ตะโกนว่า "นายอยากตายเหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าของมีค่าต้องจับเบาๆ วางเบาๆ?"
ตอนนี้เฉินเสี่ยวซินถอดเสื้อคลุมอาบน้ำหนาๆ ออกแล้ว กระโดดขึ้นเตียงทันที แต่เกือบจะทำให้เหยียนเสี่ยวซีกระเด็นออกไป
"เฉิน! เสี่ยว! ซิน!"
"ฉันจะสู้กับนายให้ตายไปข้างหนึ่ง!!!" …
วันนี้เป็นวันที่สามที่สอนทีมเทคนิคของศาสตราจารย์หม่า
หลังจากความพยายามของเฉินเสี่ยวซินและการอธิบายอย่างละเอียด คนส่วนใหญ่ก็เรียนรู้ได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว แน่นอน...แค่ในด้านการคำนวณเท่านั้น ส่วนหลักการที่แท้จริง ไม่มีใครเรียนรู้ได้เลย แม้แต่กระบวนการพิสูจน์พื้นฐาน...ก็ไม่มีใครเข้าใจเลย
"เอาล่ะ..."
"ก็จบแค่นี้นะ"
เฉินเสี่ยวซินปิดสมุดบันทึก พูดอย่างจนใจ "พวกคุณได้รับอิสระแล้ว ผมก็หลุดพ้นแล้ว แต่...ยังมีการทดสอบง่ายๆ รออยู่ ไม่ต้องกังวลนะ แค่สามคำถามเท่านั้น ล้วนเป็นพื้นฐานและง่ายมาก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเป็นพรุ่งนี้บ่ายสองโมง"
แย่แล้ว ในที่สุดการทดสอบก็มาถึง!
ทุกคนในที่นั้นต่างหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
หลังจากนั้นเฉินเสี่ยวซินก็ออกจากที่นั่นทันที กลับโรงแรมไปหาสาวน้อยของเขา เมื่อกลับถึงห้อง เขาก็อาบน้ำก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด แล้วไปบ้านคุณลุงใหญ่(ญาติฝ่ายพ่อ)กับสาวน้อย
พอทั้งสองลงจากรถ เฉินเสี่ยวซินก็รู้สึกถึงความสง่างามและน่าเกรงขามที่พุ่งเข้ามา แม้ว่าเขาจะใจเย็นเสมอ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย
"ไปสิ"
"ยืนงงอะไรอยู่?" เหยียนเสี่ยวซีมองเขาที่ยืนเหมือนไก่ตาแตก หลุดขำออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาตื่นเต้นนะ
"อ่า"
เฉินเสี่ยวซินตอบรับ ให้สาวน้อยจูงแขนพาเข้าไปในคฤหาสน์
การลงทะเบียนและตรวจสอบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แม้ว่าเหยียนเสี่ยวซีจะมีสถานะพิเศษ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนเหมือนกัน เมื่อเสร็จแล้วก็มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง คนที่มาเปิดประตูเป็นสตรีวัยกลางคน อายุราวห้าสิบกว่า
"โอ้โฮ!"
"หลานสาวเสี่ยวซีที่รักของป้า"
คุณป้าใหญ่กอดหลานสาวตัวน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความรัก พูดว่า "ป้าคิดถึงหนูจังเลย"
"คิกคิก~"
เหยียนเสี่ยวซียิ้มหวาน พูดว่า "หนูก็คิดถึงป้าใหญ่ค่ะ คิดถึงอาหารที่ป้าใหญ่ทำ อ้อ นี่คือหลานเขยของป้าค่ะ"
"จุๆๆ"
"ช่างหล่อเหลาสมกับเป็นคนมีความสามารถจริงๆ!"
คุณป้าใหญ่มองเฉินเสี่ยวซิน พยักหน้าอย่างพอใจ
"สวัสดีครับคุณป้าใหญ่"
"มาเยี่ยมครั้งแรก...แต่มือเปล่า รู้สึกเกรงใจนิดหน่อย ที่จริงอยากซื้ออะไรมาฝาก แต่เสี่ยวซีบอกว่าบ้านคุณป้าไม่ขาดอะไร" เฉินเสี่ยวซินพูดอย่างนอบน้อมแต่แฝงความมั่นใจ
"การที่หนูมาเยี่ยมพวกเรา ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว" คุณ้าใหญ่ยิ้ม "เข้ามาๆ อย่ายืนอยู่หน้าประตูเลย เข้ามานั่งกันเถอะ"
เมื่อเข้าไปข้างใน เฉินเสี่ยวซินได้เจอกับคุณป้าใหญ่ในตำนาน ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น...แค่บุคลิกก็รู้ว่าเป็นผู้นำระดับสูงมาก
จะทำยังไงดี? ไม่แน่อีกเดี๋ยวคงจะทดสอบผมแน่ๆ!
เฉินเสี่ยวซินใจเต้นตึกตัก รีบเปิดหน้าต่างระบบ หาทักษะ "การเมืองและความคิด" จากคลังทักษะ
[ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะ "การเมืองและความคิด"]
[การเมืองและความคิด (ระดับ 1): เพิ่มความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและความคิด]
[ต้องการอัพเกรดทักษะ "การเมืองและความคิด" หรือไม่? (ระดับ 1 --- ระดับ 2)]
[ค่าใช้จ่าย: 30,000 (คะแนนเกียจคร้าน)]
[ยินดีด้วย: ทักษะ "การเมืองและความคิด" อัพเกรดเป็น (ระดับ 1 --- ระดับ 2)]
[ต้องการอัพเกรดทักษะ "การเมืองและความคิด" หรือไม่? (ระดับ 2 --- ระดับ 3)]
[ค่าใช้จ่าย: 100,000 (คะแนนเกียจคร้าน)]
[ยินดีด้วย: ทักษะ "การเมืองและความคิด" อัพเกรดเป็น (ระดับ 2 --- ระดับ 3)]
พออัพเกรดเสร็จก็เสียใจ เพราะเขาไม่เคยอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้อง ความรู้ด้านการเมืองจึงถูกซีล แต่ความคิดของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก
เขากลายเป็นยักษ์ใหญ่ทางความคิดอย่างแท้จริง!