เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 9
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 9>
***********
วันถัดมา ณ เขตหนึ่งของกรุงโซล
ถนนที่เคยคึกคักไปด้วยผู้คนและรถราในตอนกลางวันกลับว่างเปล่าอย่างน่าขนลุก ร้านค้าปิดไฟ รถยนต์จอดเกะกะบนถนน และไม่มีผู้คนสัญจรไปมาบนทางเท้า เสียงไซเรนดังระงมไปทั่ว
"วี๊ว วูววว! วี๊ว วูววว!"
เสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนสำหรับชาวโซลที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุข
มันคือเสียงเตือนภัย
เสียงของผู้ประกาศข่าวแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงไซเรน
<สถานการณ์ฉุกเฉิน! ผู้ก่อการร้ายอยู่ที่ใจกลางกรุงโซล?!>
<ยังไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่า ผู้ก่อการร้ายจะมาปฏิบัติการใจกลางกรุงโซลของเกาหลีใต้แบบนี้ มันเป็นไปได้ยังไงกันครับ? ประชาชนยังคงสงสัยในความเป็นจริงของข่าวนี้>
ข่าวนี้กำลังออกอากาศทางโทรทัศน์จอใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวีเครื่องข้างๆ ก็ฉายข่าวเดียวกัน ร้านค้าปิดไฟ มีเพียงทีวีเท่านั้นที่เปิดอยู่และกำลังถ่ายทอดข่าวฉุกเฉิน
และไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว
ป้ายโฆษณาบนดาดฟ้าตึก ป้ายโฆษณาที่ป้ายรถเมล์ ทุกที่ที่สามารถฉายภาพได้ต่างก็ฉายข่าวเดียวกันนี้
<ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพอีกด้วยครับ แค่ระเบิดลูกนี้ลูกเดียวก็ปล่อยแก๊สพิษกระจายไปได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร นี่มันเรื่องจริงเหรอครับ?>
ผู้ประกาศข่าวในทีวีถามผู้ชายข้างๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แขกรับเชิญข้างๆ เป็นชายวัยกลางคนที่ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญพูดอย่างจริงจัง
<ถึงจะไม่อยากเชื่อ แต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงครับ เราละเลยภัยคุกคามจากการก่อการร้ายมานานเกินไป การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ>
<งั้นเหรอครับ 'เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้' งั้นเหรอครับ?>
ผู้ประกาศข่าวพยักหน้า
ใช่แล้ว
การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพใจกลางกรุงโซล
แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลจึงออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน
ประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเขตอันตรายต่างอพยพออกจากพื้นที่ตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า
และมีการตั้งสิ่งกีดขวางอย่างแน่นหนารอบเขตอันตราย
เพื่อที่จะจับกุมผู้ก่อการร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ข้างใน
<หากพบเห็นบุคคลต่อไปนี้ โปรดแจ้งตำรวจทันที ขณะนี้จะเปิดเผยรายชื่อผู้ก่อการร้าย>
ใบหน้าของคนต่างชาติปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของหน้าจอ
มีทั้งหมดห้าคน
<พวกเขามีระเบิดที่บรรจุสารเคมีไม่ทราบชนิด และมีจุดประสงค์ร้ายแรงในการเข้ามาที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้>
<พวกเขายังจับตัวประกันหนึ่งคนและข่มขู่เอาชีวิตอีกด้วย พวกเขาอันตรายมากเลยนะครับ>
<ถูกต้องครับ เราต้องจับพวกเขาให้เร็วที่สุด>
ผู้ประกาศข่าวและผู้เชี่ยวชาญกำลังถกเถียงกัน
ถนนในตอนกลางวันว่างเปล่า
เด็กนักเรียนชายมัธยมปลายคนหนึ่งที่กำลังดูข่าวอยู่ในตรอกซอกซอยแค่นเสียงเยาะเย้ย
"การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพเรอะ?"
เด็กหนุ่มหน้าตาเกเรหัวเราะพลางพิงกำแพงในตรอก
"ไร้สาระ"
มันเป็นไปไม่ได้
การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ?
แล้วระเบิดที่ไม่ทราบชนิดนั่นมันอะไรกัน?
"มันอะไรกันวะ ทุกคนโดนสะกดจิตหรือไง"
สถานการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล
แต่ทันทีที่ 'ข่าว' นี้ออกอากาศ ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ตื่นตระหนกราวกับว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริงและรีบอพยพออกจากพื้นที่
ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย
"นั่นมันก็ไม่ใช่ช่องข่าวปกติด้วยซ้ำ"
เด็กนักเรียนมัธยมถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความหัวเสีย
ไม่ใช่ช่องโทรทัศน์สาธารณะทั่วไป เขาไม่เคยเห็นช่องนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นผู้ประกาศข่าวคนนี้มาก่อน และผู้เชี่ยวชาญคนนั้นก็น่าสงสัยสุดๆ
แล้วจะเชื่อข่าวที่คนพวกนี้พูดและหนีออกไปเนี่ยนะ
แล้วทำไมต้องเอาข่าวขยะแบบนี้ไปออกอากาศทุกช่องด้วย
เหมือนทั้งกรุงโซลถูกหลอกให้ไขว้เขว
ตำรวจก็ออกมาตามข่าว และดูเหมือนว่ากองทัพก็เตรียมพร้อมแล้วด้วย
เพื่อนๆ และครอบครัวของเขาก็รีบร้อนอพยพหนีไป
ถ้ามีสติสักหน่อยก็คงจะรู้ว่ามันไม่สมเหตุสมผล
มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ยังมีสติ
หรือว่าทุกคนโดนสะกดจิตหมู่กันหมดแล้ว
"น่าหงุดหงิดชะมัด"
บ้าที่สุด
การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพบ้าบออะไรกัน
ด้วยความรู้สึกต่อต้าน เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจอยู่ที่นี่คนเดียว
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ต้องมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างแน่ๆ
ในขณะที่เด็กนักเรียนชายกำลังจะก้าวออกไปบนถนน
"วู้ววววว!"
เสียงเครื่องยนต์คำรามดังมาจากที่ไหนสักแห่ง
และแล้ว รถเปิดประทุนสีดำก็ปรากฏขึ้นและพุ่งทะยานไปตามถนน
"....?!"
.
.
.
.
วู้วววว!
เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่น
แรงปะทะของลมที่พัดเข้ามาทำให้รู้สึกได้ถึงความรุนแรง
ถ้าไม่ได้ใส่แว่นกันแดด คงมองอะไรไม่เห็นแน่ๆ
'แบบนี้ใช่ไหมนะ?'
ไรก็ได้ถอนเท้าออกจากคันเร่ง เหยียบเบรก และหักพวงมาลัย
พร้อมกับเปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาอย่างรวดเร็ว
เอี๊ยดดด!
แบล็ค ธันเดอร์ลื่นไถลไปบนพื้นยางมะตอย และทิ้งรอยไหม้ไว้บนพื้น
"ว้ากกกกกกก!"
แรงเฉื่อยอย่างรุนแรง
นิฮาคุที่นั่งอยู่ด้านหลังกรีดร้อง
สีหน้าของอารอนที่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ข้างๆ ซีดเผือด
แบล็ค ธันเดอร์ พุ่งทะยานไปบนถนนที่ว่างเปล่า
แต่ถึงจะเป็นทางตรง แบล็ค ธันเดอร์ก็ยังคงดริฟท์ทุกครั้งที่มีโอกาส
อารอนพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด
"จำเป็นต้องขับแบบนี้เหรอครับ?"
"ไม่ แบบนี้ถึงจะเพิ่มเกจบูสเตอร์ได้..."
นายท่านไรก็ได้ขับเรือเหาะแบบนี้
และไรก็ได้ในชีวิตก็ขับรถแบบนี้เช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอสอบใบขับขี่ไม่ผ่าน
"วู้ววว! วู้วววว!"
แบล็ค ธันเดอร์วิ่งไปตามถนน
เธอเคยกังวลว่าจะขับรถได้ไหมเพราะรถติด แต่พอเธอเริ่มขับรถ ถนนก็โล่ง
แค่ต้องระวังรถที่จอดเกะกะ ก็สามารถเร่งความเร็วได้อย่างสบาย
มันให้ความรู้สึกสดชื่นมาก
"แต่ทำไมถนนถึงโล่งแบบนี้...?"
"ก็เพราะว่าเราเป็นผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธชีวภาพไงล่ะครับ!"
"อะไรนะ?"
"ตอนนี้เรากลายเป็นบุคคลอันตรายที่จะจุดชนวนระเบิดชีวภาพที่ไม่สามารถระบุชื่อได้ใจกลางกรุงโซลครับ!"
ระเบิดชีวภาพ?
เหมือนเรื่องมิชชั่นอิมเอ็กซ์ซิเบิ้ล 3 อ่ะนะ?
"ระเบิดชีวภาพเหรอ?"
“ดูเหมือนเพื่อนๆ ของเรากำลังมาต้อนรับเราพอดีเลยครับ!”
ไรก็ได้มองไปที่กระจกข้าง
รถตำรวจหลายคันปรากฏขึ้นจากไหนไม่รู้และกำลังไล่ตามแบล็ค ธันเดอร์ มาติดๆ ข้างๆ ยังมีตำรวจที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามมาอีกด้วย
'ตำรวจ!'
ในที่สุดก็มาจนได้
เธอก็พอจะคาดการณ์สถานการณ์แบบนี้ไว้บ้างแล้ว
แต่ปัญหาก็คือมันไม่ได้มีแค่นั้น
'เอ๋?'
<ข่าวด่วน! ในที่สุดกลุ่มผู้ก่อการร้ายก็ปรากฏตัวแล้วครับ ไปดูสถานการณ์ ณ จุดเกิดเหตุกันเลย>
ภาพของไรก็ได้และพวกที่กำลังขับรถอยู่บนถนนถูกถ่ายทอดสดผ่านป้ายโฆษณาบนตึกที่เธอเห็นผ่านๆ
<ถ่ายทอดสด! การไล่ล่าผู้ก่อการร้าย!>
"ผู้ก่อการร้าย?"
เดี๋ยวนะ
ในขณะที่เธอกำลังสงสัย
คนขี่มอเตอร์ไซค์คนหนึ่งที่ขับตามมาด้านหลังหยิบวัตถุสีดำออกมาจากเสื้อ
มันคือปืนพก
"นี่มันอะไร…?"
ปัง! ปังๆ!
ประกายไฟแลบออกมาจากประตูข้างคนขับ
'เมื่อกี้ เขา..ยิงปืนใส่เหรอ?'
กลุ่มคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่สวมหมวกกันน็อคต่างชักปืนออกมาพร้อมกัน
หน้าของไรก็ได้ซีดเผือด
ถึงเธอจะพอจะนึกภาพการไล่ล่าออก แต่เธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการยิงกันแบบนี้
"กรี๊ดดดด!"
ไรก็ได้กรีดร้องและก้มตัวลง
แต่ในขณะเดียวกัน มือซ้ายที่จับพวงมาลัยและเท้าที่เหยียบคันเร่งก็ยังคงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
"ฮ่าๆ! ในที่สุดก็มาถึงแล้วสินะ!"
ปิ๊ง! ปิ๊ง!
วิถีกระสุนเฉียดไปทั่วรถ
นิฮาคุที่อยู่เบาะหลังหัวเราะเยาะและเปิดช่องเก็บของด้านหลัง
ข้างในนั้นเต็มไปด้วยปืน กระสุน และวัตถุระเบิดต่างๆ นานา ไรก็ได้หันไปมองแวบหนึ่งและเบิกตากว้าง
'ทำไมถึงมีของแบบนี้อยู่ในรถ?!'
แกร๊ก!
นิฮาคุหยิบปืนกลมือสองกระบอกออกมา ถือไว้ในมือทั้งสองข้าง และเริ่มยิงตอบโต้
"เชื้อโรคต้องกำจัดด้วยยาฆ่าเชื้อออออ!"
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง !
เข้าเป้า
คนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาข้างหลังล้มลงไปกองกับพื้น
"เขา..ตายแล้วเหรอ?"
"เขาไม่เป็นไรหรอก!"
"ไม่เป็นไรตรงไหน! คนตายทั้งคนนะ...!"
ปากของไรก็ได้อ้าค้าง
ควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านหลังของคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ที่ล้มลงกับพื้น และร่างของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ราวกับว่าเหลือเพียงแค่เสื้อผ้า ส่วนคนข้างในหายไป
พวกนั้นน่าสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว
หมวกกันน็อคที่ปิดบังใบหน้าทั้งหมดและชุดที่ปกปิดร่างกายมิดชิด
พวกมันไล่ล่าแบล็ค ธันเดอร์ต่อราวกับว่าไม่สนใจที่เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งล้มลงไป
'อะไรกันน่ะ?'
พวกนั้นเป็นมนุษย์หรือเปล่า?
คนหรือว่าควัน?
ฟิ้ว!
"โอ้ย!"
ไรก็ได้ตัวหดหลบเมื่อกระสุนเฉียดผ่านศีรษะเธอไป
นักขี่มอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาประกบข้างๆ กำลังระดมยิงใส่แบล็ค ธันเดอร์
ปัง ปัง ปัง ปัง!
แต่ไม่นาน นิฮาคุก็ยิงปืนกลมือทั้งสองข้างใส่พวกมันจนล้มลงไปหมด
โครม! ตู้ม!
มอเตอร์ไซค์บางคันก็ระเบิดเพราะโดนยิง
แต่พวกมันไม่ตาย
ไม่มีใครตาย
มีเพียงควันสีดำพวยพุ่งออกมาแทนเลือดและเนื้อ
"กรี๊ด!"
ไรก็ได้กรีดร้องและเหยียบคันเร่งราวกับเสียสติ
วู้วววว!
ก่อนที่จะรู้ตัว แบล็ค ธันเดอร์วิ่งทะลุอุโมงค์ออกมาแล้ว
วู้วววว!
นักขี่มอเตอร์ไซค์และรถตำรวจยังคงไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ
"กินนี่ซะ!"
แกร๊ก!
นิฮาคุดึงสลักระเบิดมือจำนวนมากและโยนไปด้านหลัง
โครม!
รถตำรวจที่โดนแรงระเบิดแหลกละเอียดและเศษชิ้นส่วนกระจายไปทั่ว
"ฟู่ว!"
นิฮาคุยิ้มกว้างอย่างสดชื่น
"เป็นแบบนี้นี่เองเหรอ? ที่ผ่านมาปล่อยฉันไว้ที่นั้น เธอ นายท่าน และก็ยูเน็ตก็ไปสนุกกันสามคนสินะ?"
"อะไรเนี่ย?!"
ก็จริงอยู่ว่าตอนนั้นก็มีการไล่ล่ากับตำรวจ!
และมันก็ดุเดือดพอตัว!
แต่มันก็ไม่ได้มีฉากยิงกันหรือระเบิดแบบนี้สักหน่อย!
'นี่มันอะไรกัน'
ภาพยนตร์กับความจริงมันต่างกัน
ไรก็ได้รู้สึกเหมือนจะบ้า
ภาพชีวิตประจำวันที่สงบสุขของเธอผ่านเข้ามาในหัว
แต่ถึงอย่างนั้น มือของเธอก็ยังคงบังคับพวงมาลัย เหยียบคันเร่ง เหยียบเบรก และเปลี่ยนเกียร์ไม่หยุด
วู้ววว!
แบล็ค ธันเดอร์วิ่งทะลุอุโมงค์สั้นๆ ออกมาและดริฟท์อย่างรุนแรง ก่อนจะเลี้ยวไปทางขวา
ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามบอกตัวเองว่าจะไม่ตกใจอีกแล้ว แต่ไรก็ได้ก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ณ สี่แยก
'นั่นมัน..รถถังหรือเปล่า?'
สิ่งที่เธอเคยเห็นแต่ในหนังและรูปภาพ
ราชาแห่งสงครามภาคพื้นดินยุคใหม่ที่มาพร้อมกับเกราะหนาและปืนใหญ่
ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่?
ที่นี่มันกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้นะ?
แกร๊ก!
ปากกระบอกปืนยาวเล็งไปที่ แบล็ค ธันเดอร์
ไรก็ได้รู้สึกเหมือนสติกำลังจะหลุดลอย
แต่ถึงอย่างนั้น แบล็ค ธันเดอร์ ก็ยังคงเคลื่อนที่หลบหลีก
เอี้ยดดดดดดด!
แบล็ค ธันเดอร์ หมุนครึ่งรอบบนถนนสี่เลนและเลี้ยวออกด้านข้าง
ตูม!
กระสุนปืนใหญ่จากรถถังยิงเข้าเป้าที่แบล็ค ธันเดอร์ เคยอยู่
แรงระเบิดและคลื่นกระแทก เศษยางมะตอยและซากต้นไม้กระจัดกระจายไปทั่ว
ถึงจะหลบทัน แต่แรงลมก็ทำให้คอของไรก็ได้เกือบหัก เธอรู้สึกเหมือนจะสติแตก
'แย่แล้ว มีอีกคัน!'
มีรถถังจอดอยู่สองคันที่สี่แยกข้างหน้า
หลบจากคันแรกได้ แต่คันที่สองล่ะ
ในขณะที่รถถังคันที่สองกำลังจะยิง
มีบางอย่างสีขาวร่วงลงมาจากดาดฟ้าตึก
ปัง!
เงาสีขาวร่วงลงมาบนส่วนบนของรถถังจากความสูงหลายสิบเมตร เงาสีขาวนั้นยกมือซ้ายขึ้นและแทงทะลุเข้าไปในเกราะเหล็กหนาของรถถัง
"....?"
วูบ!
และภาพที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ลูกไฟพวยพุ่งออกมาจากส่วนป้อมปืนที่มือของใครบางคนแทงเข้าไป รถถังทั้งคันละลายเหมือนเนย ปืนใหญ่เหล็กบิดงอเหมือนไม้ขีดไฟ เกราะหนาๆ อ่อนยวบลง
แต่ถึงอย่างนั้น รถถังอีกคันก็ยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการยิงครั้งต่อไป
ผู้หญิงที่เปลี่ยนรถถังคันหนึ่งให้กลายเป็นเศษเหล็กดึงมือซ้ายออกและฟาดไปที่ส่วนบนของรถถังอีกคัน
โครม!
ปากกระบอกปืนที่กำลังจะพ่นไฟถูกบี้แบนเหมือนกระป๋อง
และแล้ว
โครม!
กระสุนปืนใหญ่ที่ระเบิดภายในระเบิดส่วนบนของรถถัง
รถถังทั้งสองคันหยุดทำงาน
"......."
ไรก็ได้กระพริบตาช้าๆ
ผู้หญิงคนนั้นสวมผ้าคลุมไหล่ปิดบังไหล่ขวาและปิดตาข้างหนึ่ง เธอมองมาทางนี้แวบหนึ่งก่อนจะหายตัวไปราวกับสายลม
ในขณะเดียวกัน ไฟในระบบนำทางข้างๆ พวงมาลัยก็สว่างขึ้น
<เลี้ยวขวาข้างหน้า 50 เมตร>
เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย
ถึงจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว แต่ก็ไม่มีทางลืมได้
เสียงนั้นดังออกมาจากระบบนำทาง
<ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะนายท่านไรก็ได้>
"......."
<เอาล่ะค่ะ ไว้ค่อยมาสนุกกับการพบกันใหม่ของเราหลังจากเสร็จงานแล้วกันนะคะ>