เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 8
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 8>
***********
‘ทำไมถึงมีตำรวจ?’
มีไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองคัน
รถตำรวจเกือบสิบคันเข้ามาในอาคารและหยุดราวกับกำลังเร่งรีบ
ชายคนหนึ่งในชุดตำรวจถือโทรโข่งออกมาจากรถคันหน้าแล้วตะโกน
<นี่คือการประกาศถึงผู้ก่อการร้าย นี่คือการประกาศถึงผู้ก่อการร้าย พวกคุณถูกล้อมแล้ว! ถ้าพวกคุณยอมมอบตัวแต่โดยดี เราจะรับประกันความปลอดภัยของคุณ นี่คือการประกาศถึงผู้ก่อการร้าย! ยอมมอบตัวแต่โดยดีซะ!>
เธอเบิกตากว้างด้วยคำที่คาดไม่ถึง
"ผู้ก่อการร้ายงั้นเหรอ...."
"พวกเขาคงหมายถึงพวกเรา"
อารอนพูดขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงที่พังทลายแล้วมองลงไปข้างล่าง
พวกเขาอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคารร้าง
เนื่องจากบริเวณโดยรอบมืด ทั้งสามจึงไม่ถูกพบเห็นได้ง่าย
"ว้าว ดูเหมือนว่าหัวหน้าของพวกนั้นจะค่อนข้างจะทำงานเร็วนะเนี่ย"
"ครับ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคาดการณ์ได้ว่าเราจะมาที่นี่"
เธอมองไปที่พวกอันธพาลที่นอนครางอยู่
ไม่มีทางที่ตำรวจจำนวนมากขนาดนี้จะถูกส่งมาเพื่อจับกุมพวกอันธพาลเพียงไม่กี่คน
ในไม่ช้า รถตำรวจก็เข้ามาจอดเป็นแถว และตำรวจจำนวนมากก็กระโดดออกมา
พวกเขามีสีหน้าเคร่งขรึมและถืออาวุธอยู่ในมือ
มันคือปืนพกที่บรรจุกระสุนจริง
<ประกาศอีกครั้ง! พวกคุณถูกล้อมแล้ว! ปล่อยตัวประกันและยอมมอบตัวซะ! ไม่มีทางหนีแล้ว พวกคุณถูกล้อมแล้ว! ปล่อยตัวประกันและ....>
'มอบตัว? ตัวประกัน?'
ตัวประกันคงจะหมายถึงเธอ
แต่มันแปลก
ตอนนี้เธอไม่เข้าใจสถานการณ์
ไม่มีทางที่พวกอันธพาลและตำรวจจะร่วมมือกัน...
'หรือว่าตำรวจพวกนี้ก็โดนสะกดจิต?'
แต่การสะกดจิตตำรวจนั้นแตกต่างจากการสะกดจิตพวกอันธพาลทั่วไป
เธอรู้สึกเหมือนชีวิตประจำวันที่เคยสงบสุขของเธอพังทลายลง
"ไปเถอะครับ"
"คะ?"
"ถ้าเป้าหมายของพวกเขาคือพวกเรา พวกเขาจะไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ"
"นั่นมัน..."
ไม่รู้สิ
แต่คำพูดของอารอนมีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
ถ้าการลักพาตัวและตามหาเธอเป็นภารกิจหลัก พวกเขาคงไม่ปล่อยให้พวกอันธพาลจัดการเรื่องนี้
ถ้ามันสามารถสะกดจิตตำรวจได้ การควบคุมอำนาจของรัฐก็คงเป็นเรื่องง่าย
มันสามารถปลอมแปลงหลักฐานและจับเธอเข้าคุกได้
ไรก็ได้ไม่เข้าใจอะไรเลย สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเธอตกอยู่ในอันตรายที่สุดในชีวิต
"นี่เป็นโอกาสเดียวแล้วครับ ถ้าคุณอยู่กับพวกเรานานกว่านี้ พวกเขาจะต้องเล็งเป้าหมายมาที่คุณแน่ๆ"
เธอมองไปที่ตำรวจด้านล่าง
"..."
แม่ของเธอกำลังรอเธออยู่ที่บ้าน
มันดึกมากแล้ว
ท่านคงกังวลว่าเกิดอะไรขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่สามารถช่วยอะไรในการต่อสู้ครั้งนี้ได้
เพราะเธอเป็นแค่คนธรรมดา
'เธออาจจะเป็นตัวถ่วง'
แค่ไม่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนก็ดีแค่ไหนแล้ว
แต่
"ฉันจะไม่ไปไหน"
"ครับ?"
"ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ ฉันก็อยากจะช่วย"
เธอมองไปที่อารอนด้วยสายตาที่แน่วแน่
"มันอันตรายนะครับ"
ไรก็ได้ไม่พูดอะไร
ทั้งสองเงียบ
ในที่สุด อารอนก็เข้าใจความตั้งใจของเธอและผ่อนคลายสีหน้า
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงกลับมาเป็นนายท่านของทาวน์เนียอีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้น ผมขอฝากด้วยนะครับ"
"ก่อนอื่นเลยนะเด็กใหม่ เราต้องจัดการเรื่องข้างล่างก่อนไม่ใช่เหรอ?"
ด้วยคำพูดของนิฮาคุ ทั้งสองมองลงไปข้างล่าง
พวกเขากำลังใช้รถตำรวจเป็นเครื่องกีดขวางและเข้าใกล้อาคารร้าง
"รเด็กใหม่ นายรู้จักอาวุธที่เรียกว่าปืนหรือเปล่า? ถ้าโดนยิงตรงๆ มันอันตรายมากนะ"
อารอนพยักหน้า
ตอนนี้ พลังของอารอนและนิฮาคุถูกจำกัดเป็นสองเท่า
ประการแรกคือการเชื่อมต่อกับแกนกลางอ่อนแอลงเพราะอยู่ไกลจากวัลฮัลลา
ประการที่สองคือพวกเขาอ่อนแอลงเนื่องจากลักษณะเฉพาะของมิติโลก
ตอนนี้ ความสามารถทางร่างกายและพลังของทั้งสองถูกจำกัดอย่างมาก
แต่ก็ยังมีบางอย่างที่พวกเขาทำได้
โดยเฉพาะอารอนผู้ที่ควบคุม 'พลังแห่งกรรม'
ดวงตาของเขาจมลง
"ผมจะเป็นคนจัดการเอง"
อารอนกระโดดลงมาจากอาคาร 3 ชั้นทันที
<นี่คือการประกาศถึงผู้ก่อการร้าย ตอนนี้พวกคุณถูกล้อม....>
อารอนก้าวออกมาจากเงามืด
"เดี๋ยว! เชาไม่เป็นไรเหรอ?"
"เอิ่ม อย่าดูถูกเจ้าเด็กที่ฉันเลี้ยงดูมาเชียวนะคะ"
แกร๊ก!
ปืนหลายสิบกระบอกเล็งไปที่อารอน
"วางอาวุธและยอมมอบตัวซะ!"
อารอนจับด้ามไม้ถูพื้นแน่นขึ้น
ท่าทางของเขาเป็นหนึ่งในท่าพื้นฐานของการใช้หอก ท่าเตรียมโจมตี
"วางอาวุธเดี๋ยวนี้! ฉันจะไม่เตือนอีกเป็นครั้งที่สอง!"
ไฟหน้าจากรถตำรวจหลายคันส่องไปที่อารอนจากทุกทิศทาง
เงาของอารอนที่ทอดยาวเริ่มสั่นไหวเหมือนคลื่น
"อะไรนะ?!"
วี้~~~
เสียงเหมือนผึ้งกระพือปีกดังมาจากเงา
สีหน้าของตำรวจที่ล้อมรอบอารอนเปลี่ยนไป
"ยิง! ยิงมันเลย!"
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนและควันจากดินปืน
"บ้าเอ้ย! นั้นมันอะไรวะ?!"
"ยิง! ยิง!"
"ขะ ขอกำลังเสริมด่วน..."
พวกตำรวจต่างตื่นตระหนก
ปัง!
ปืน S & W M60 ลั่นไกออกมา
ในขณะเดียวกัน กระสุนขนาด .38 ที่พุ่งออกมาจากแรงระเบิดของดินปืนก็พุ่งเข้าหว่างคิ้วของอารอน
ทันใดนั้น คลื่นประหลาดก็ปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของอารอนและดูดซับกระสุนเข้าไป
"...?"
กระสุนที่ควรจะเจาะทะลุผ่านผิวหนัง กะโหลกศีรษะ และเข้าไปในสมองของเขา กลับหายไปในทันทีที่มันกระทบกับร่างอารอน
มันไม่ได้หายไป
มันอาจจะถูกดูดซับ
ไม่สิ บางทีมันอาจจะไม่ได้ถูกดูดซับด้วยซ้ำ
"อะไรน่ะ?!"
"ยิง ยิงมันเลย!"
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ ตำรวจก็ยอมแพ้ที่จะคิด
พวกเขาแค่ตะโกนเหมือนคนบ้าและเหนี่ยวไก
'เฮ้อ'
อารอนถอนหายใจในใจ
ปฏิกิริยาพวกตำรวจเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด
ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้งเขาก็ไม่ชิน
"นี่มันอะไรกัน! รีบขอความช่วยเหลือจากผู้การเดี๋ยวนี้!"
อารอนเหวี่ยงหอกในแนวนอน
ในวินาทีนั้นเอง
ฟิ้ว!
เงาหลายสิบเงาพุ่งออกมาจากปลายหอกและปกคลุมกลุ่มตำรวจ
ครู่หนึ่งต่อมา
ตุบ!!!
เสียงตำรวจล้มลงพร้อมกัน
อารอนโยนด้ามไม้ถูพื้นทิ้ง
เขาไม่ได้ฆ่าพวกเขา
ไรก็ได้เบิกตากว้าง
'เมื่อกี้มันอะไรกัน?'
ทันทีที่เขาเหวี่ยงหอกในอากาศ ตำรวจก็ล้มลงพร้อมกัน
แม้แต่ตำรวจที่หลบอยู่หรือนั่งอยู่ในรถก็ไม่รอด
เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“อะไร อะไร เมื่อกี้นี้เกิกอะไรขึ้น?”
“แค่มองดูก็บอกไม่ได้เหรอ? จุ๊วูบ! แล้วก็ ปัง! ไงล่ะ”
"วูบแล้วก็ปัง?"
ถึงแม้ว่าเธอจะคิดว่าพวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไปเพราะไม่ได้มาจากโลกนี้
"รุ่นน้องของฉันคนนี้พิเศษมาก เขาสามารถใช้พลังได้บ้างแม้ไม่มีนายท่านอยู่ด้วย เอิ่ม นี่เป็นผลจากการฝึกฝนอย่างหนักของรุ่นพี่ที่เก่งกาจอย่างฉัน"
"ไม่มีเวลาแล้ว"
"โอ้ย!
ไรก็ได้ล้มลง
อารอนที่ยืนอยู่ข้างล่างเมื่อครู่นี้กลายร่างเป็นเงาดำแล้วขึ้นมาที่ชั้น 3 ในพริบตา
อารอนทำสีหน้าขมขื่น
"ขอ ขอโทษครับ! ผมไม่ได้ตั้งใจ..."
"ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว ยังไงก็ตาม ไปกันเถอะที่นี่อันตราย"
"แต่ว่าจะไปที่ไหนล่ะ?"
"ฐานลับ!"
"ฐานลับ?"
"จับให้แน่นๆ ล่ะ!"
"เอ๋?"
นิฮาคุคว้าตัวไรก็ได้ขึ้นมา
จากนั้น โลกก็หมุนติ้วๆ และเธอก็เห็นทิวทัศน์ภายนอก
นิฮาคุอุ้มไรก็ได้ไว้และกระโดดข้ามหลังคาตึก
"เอ๋?"
ความรู้สึกของการลอยตัวที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน
นั้นมันทำให้เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมา
.
.
.
ภายในโรงรถเก่าๆ
แสงสลัวส่องสว่างภายใน
"..."
ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
ไรก็ได้นั่งเหม่อลอยอยู่บนถังน้ำมันเก่า
'นี่มันอะไรกัน?'
เมื่อวานก็ยังใช้ชีวิตปกติดีอยู่เลย
ทุกอย่างเปลี่ยนไปในวันเดียว
หรือว่านี่เป็นความฝัน?
เธอลองหยิกแก้มตัวเอง….แต่มันก็แค่เจ็บ
'ทำไมฉันถึงเสนอตัวช่วยกันนะ'
เธอเข้าไปพัวพันกับเรื่องบ้าๆนั้นแล้ว
เธอเป็นแค่พลเรือนที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย
แม่ของเธอกำลังรอเธอกลับบ้าน
'เธอควรทำยังไงดี?'
คลิก
เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์
มีข้อความและสายที่ไม่ได้รับมากมาย
มาจากแม่และจิโฮ ลูกพี่ลูกน้องของเธอ
'ควรตอบกลับไหม? บอกว่าจะกลับบ้านช้าเพราะมีธุระ?'
ถ้าทำแบบนั้น ครอบครัวของเธออาจจะถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย...
ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด ทั้งสองคนที่ออกไปข้างนอกก็กลับมา
อารอนพูดกับเธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"นายท่าน"
"คะ คะ?"
เธอไม่คุ้นเคยกับการถูกเรียกว่านายท่าน
เธอตอบอย่างลนลาน
"เรื่องต่อไปนี้อาจจะค่อนข้างอันตรายนะครับ"
"อะ อันตรายเหรอ?"
"ผมลองคิดดูอีกทีแล้ว ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของอีกฝ่าย ถ้าพวกเขาต้องการใช้คุณเป็นเหยื่อล่อพวกเรา พวกเขาก็คงไม่ระมัดระวังตัวขนาดนี้ นิฮาคุ คุณคิดว่าไงครับ?"
"เรียกฉันว่ารุ่นพี่ ไม่ใช่ 'คุณ' "
"...รุ่นพี่นิฮาคุคิดว่าไงครับ?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
นิฮาคุตอบอย่างร่าเริง
"การใช้สมองไม่ใช่จุดแข็งของพวกเรา ทำไมเราต้องพยายามอย่างหนักด้วยล่ะ?"
"แต่ว่า ที่นี่มีแค่พวกเราสองคนเองนะ..."
"ก็แค่เรียกรุ่นพี่คนอื่นๆ มาสิ"
เรียกสมาชิกคนอื่นๆ
อาโรนก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
แต่จะทำยังไงล่ะ?
สมาชิกที่เหลือกระจัดกระจายไปตอนที่พวกเขาหนีออกจากเรือเหาะ พวกเขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
"ถ้าเราสร้างความวุ่นวาย พวกเขาจะมาเอง ไม่ใช่เหรอ?"
"สร้างความวุ่นวาย?"
"ก็แค่ทำอะไรให้มันอลังการ ปัง! แว้บ! ตู้ม! กลางเมือง พวกเขาก็จะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน"
"ครับ?"
อาโรนอ้าปากค้าง
ไรก็ได้ไม่สามารถตามบทสนทนาของพวกเขาได้
จริงๆ แล้ว เธอค่อนข้างที่จะสับสนกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยซ้ำ
'งั้นก็…'
ระหว่างทางกลับบ้าน เธอถูกลักพาตัวโดยเด็กผู้ชายแปลกๆ
คนที่ช่วยเธอไว้คือฮีโร่ในเกม
แล้วเธอก็ถูกขอร้องจากฮีโร่ในเกม ให้มาอยู่ในโรงรถแปลกๆ แห่งนี้และร่วมวางแผนแปลกๆใช่ไหม?
‘มันดู...ไม่สมจริงเลย'
แต่เธอเป็นคนตอบตกลงเอง
เธอปล่อยให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยแรงกระตุ้นที่ไม่รู้จัก
"......."
ดูเหมือนว่านิฮาคุจะอธิบายแผนการให้อารอนฟัง
ในที่สุด อารอนก็แสดงความลำบากใจหลังจากฟังแผนทั้งหมด
"มันไม่ใช่วิธีที่อันตรายเกินไปเหรอครับ?"
"ไม่เป็นไรหรอก! ฉันแน่ใจว่าเซริสกับยูเน็ตรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่"
"คุณรู้ได้ยังไงครับ?"
"ก็แค่รู้สึก!"
"ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ"
อารอนส่ายหน้า
แล้วเขาก็มองไปที่ไรก็ได้
"นายท่าน มีบางอย่างที่คุณต้องทำครับ"
"อื้อถ้าเป็นสิ่งที่ฉันทำได้นะ.."
"สิ่งที่นายท่านต้องทำนั่นก็คือ..."
"นี่ไง!"
นิฮาคุชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงรถ
มีรถยนต์รุ่นเก่าจอดอยู่ที่นั่น
"ถ้าเราขับรถคันนี้ไปทั่วเมืองอย่างบ้าคลั่ง ผู้คนจะต้องหันมามอง ไม่ใช่เหรอ?"
"...?"
ไรก็ได้ถึงกับพูดไม่ออก
"เราจะขับรถคันนี้ไปทั่วเมือง ทำให้คนสนใจ แล้วทีมเราก็จะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ประมาณนี้แหละ"
"งั้นก็คือ…."
เธอคิดอะไรไม่ออก
"คุณบอกว่าให้ฉันขับรถคันนี้ไปทั่วเมืองอย่างบ้าคลั่งเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนงั้นเหรอ?"
"ใช่แล้ว ต้องทำให้คนเห็นเยอะๆ ด้วยนะ แบบ ขับย้อนศรหรือดริฟท์? เหมือนในเกมขโมยรถสุดเจ๋งไง!"
"แต่ว่า ฉัน... ไม่มีใบขับขี่นะ"
ไรก็ได้ทำหน้าเศร้า
ใบขับขี่
เธอเคยพยายามจะสอบใบขับขี่
แต่ก็ล้มเหลว
เธอได้คะแนนเต็มในภาคทฤษฎี แต่ตกในภาคปฏิบัติ
เธอขับรถบรรทุกฝึกหัดในสนามฝึกด้วยวิธีแปลกๆ เช่น เบรกกะทันหัน เร่งความเร็วกระทันหัน หรือแม้แต่ดริฟท์เป็นรูปตัว S ในเส้นทางโค้งธรรมดาๆ ทำให้ครูฝึกที่นั่งข้างๆ ตกใจ
"แล้วนี่มันรถที่จะถูกทิ้งแล้ว มันคงสตาร์ทไม่ติดหรอก"
รถที่ถูกทิ้งไว้ในโรงรถเก่า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งานได้
รถในโรงรถเต็มไปด้วยฝุ่น
แน่นอนว่าไม่มีน้ำมัน
“จิ้! จิ้! จิ้!”
นิฮาคุส่ายนิ้วชี้เบาๆ
"และนี่คือตอนที่รุ่นน้องเข้ามา"
"..."
"หรือว่า นายทำไม่ได้?"
"ไม่ ผมจะลองดู"
อารอนถอนหายใจยาวๆ แล้วก็ยกมือขวาขึ้น
พลังแห่งกรรมที่เปลี่ยนภาพลวงตาให้เป็นจริง
มันต้องเป็นไปได้
"...?!"
ไรก็ได้ที่มองดูอยู่ก็ตกใจ
มือของอาโรนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ
บางอย่างเหมือนเงาดำเริ่มสั่นไหว
อาโรนเอามือใส่เข้าไปในช่องเติมน้ำมันของรถที่ถูกทิ้ง
พรึ้บ!!
จากนั้น เงาจากมือของเขาก็เริ่มซึมเข้าไปในรถ
“อะแฮ่มๆๆ เป็นไงพลังแห่งกรรมของรุ่นน้องสามารถทำอะไรก็ได้! นี่เป็นผลจากการสอนอย่างดีของรุ่นพี่ที่เก่งกาจอย่างฉัน”
ดวงตาของไรก็ได้เบิกกว้าง
เงาปกคลุมรถและรูปลักษณ์ของมันก็เริ่มเปลี่ยนไป
การควบคุมความเป็นจริง?
เวทย์มนตร์?
เมื่อไรก็ได้ได้สติ กลับมีรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหนึ่งอยู่ตรงหน้าเธอ
“เติมพลัง!”
นิฮาคุแตะข้างรถ
เปรี๊ยะ!
ฟ้าผ่าสีเหลืองรุนแรงพุ่งออกมาจากด้านข้างของรถ
"ชาร์จเสร็จแล้ว!"
"..."
"ชื่อว่า แบล็กธันเดอร์!"
แบล็ก ธันเดอร์?
"ไป ลองขึ้นไปดูสิ!"
นิฮาคุยิ้มและผลักไรก็ได้ไปที่เบาะคนขับ
ตุบ
สัมผัสที่นุ่มสบายของเบาะ
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อครู่นี้มันเป็นแค่รถเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่น
เธอวางมือบนพวงมาลัย
ความรู้สึกเย็นและหนักแน่นนี้
มันนานมาแล้ว
'แต่ว่า'
ถ้าเธอขับรถคันนี้ไปทั่วเมืองอย่างที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพูด ชีวิตของเธอคงจบลง ไม่ใช่เหรอ?
เธอใช้ชีวิตที่สงบสุขและน่าเบื่อมาตลอด
ไม่สิ คนเกาหลีส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น
วันธรรมดาไปทำงาน บริษัท เสาร์อาทิตย์ก็นอนอยู่บ้าน
ชีวิตธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษ
แต่ถ้าเธอทำแบบนี้ล่ะ?
ถ้าเธอขับรถอย่างบ้าคลั่งบนถนนที่รถติดในโซล?
'ชีวิตของฉันคงจบลง ไม่ใช่เหรอ?'
ถึงแม้ว่าเธอจะช่วยฮาน แต่มันจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
มันคุ้มค่าที่จะเอาชีวิตของเธอไปเสี่ยงเหรอ?
เธอครุ่นคิด
"..."
แล้วเธอก็ถามว่า
"รถคันนี้อัตราเร่งเท่าไหร่?"