ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1318 ดาบของสามัญชน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1320 ปิดเกม

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1319 พระสูตรส่งวิญญาณ (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1319 พระสูตรส่งวิญญาณ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

ราวกับลูกบอลระเบิด แสงสีแดงกับแสงสีทองพุ่งออกไปรอบๆ

ภาพลวงตาภูเขา แม่น้ำ และทะเลสสาบที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเลือนหายไปทันที

รอยแตกร้าวเติมเต็มอากาศเหนือภูเขาศีรษะมังกร ใยแมงมุมสีดำแผ่ขยายไปทั่ว มันเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวังหยก สิ่งปลูกสร้างหินขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านผ่านกาลเวลามานับพันนับหมื่นปีบนยอดเขาพังทลายลงราวกับประติมากรรมทรายบนชายหาดถูกคลื่นซัด

อย่างไรก็ตามแสงสีแดงค่อยๆลดความสว่างไสวลงโดยถูกแสงสีทองกลืนกิน

หลี่ฉิงซานคือราชาปีศาจที่เผชิญหน้ากับสวรรค์และถูกสาปแช่งโดยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แล้วเขาจะต่อสู้กับพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่เช่นนั้นได้อย่างไร

ก่อนที่เขาจะรู้ตัว รอยแตกร้าวก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาแล้ว แต่เขาไม่แยแสมันเลย ทุกชิ้นส่วนที่ร่วงหล่นลงลุกเป็นไฟ แต่เขายังพุ่งเข้าไปในแสงสีทองและตรงไปหาซื่อหลง

ดาบและกระบี่ปะทะกันสร้างเสียงดังกึกก้อง ดวงตาของหลี่ฉิงซานกับซื่อหลงสบกัน ดวงตาคู่หนึ่งเหมือนไฟ ขณะที่อีกคู่เหมือนทองคำ ทั้งสองไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามทองแท้มีความทนทานต่อไฟ ขณะที่ไฟจะดับลงในวันหนึ่ง

ร่างของหลี่ฉิงซานพังทลายลงอย่างกะทันหันและกลายเป็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้น

ดาบจุดจบบุปผาคลั่งกระเด็นออกไปและปักลงบนยอดเขาโดยมีรอยกระบี่ฝังลึกอยู่บนใบมีด

เขาต่อสู้ตั้งแต่วังหยกมาจนถึงตอนนี้ เขาเผชิญหน้ากับมังกรทองก่อนจะเอาชนะนาวาเหินจักรพรรดิมังกร ร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดมานานแล้ว หลังจากทำลายหม้อทั้งแปดใบ ร่างกายของเขาก็เกือบพังทลายแล้ว แต่เขายังต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่าเกรงขามของซื่อหลง ดังนั้นเขาจึงระเบิดพลังทั้งหมดออกมา มันอาจอธิบายได้ดีกว่าด้วยการกล่าวว่าเขาเผาร่างกายของตัวเอง ไม่ใช่การถูกฟันด้วยกระบี่

บาดแผลปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของซื่อหลงขณะที่เลือดไหลลงมาเป็นสาย อย่างไรก็ตามเขาไม่สะทกสะท้านเลย เขาจ้องมองเปลวไฟและยกกระบี่บาปอมตะขึ้นมาอีกครั้ง

เสี่ยวอันพยายามทุกวิถีทางเพื่อควบคุมกระบี่บาปอมตะแต่มันกลับไม่ตอบสนอง นางกังวลมาก “พาข้าไป!”

“ใจเย็น เชื่อมั่นในพวกเขา หากพวกเราถูกโจมตี เราคงตายกันหมด” กู่เยี่ยนหยินกล่าวอย่างจริงจัง

แม้นางจะมีความเร็วของคุนเผิง แต่นางก็ไม่สามารถหลบหนีหากนางพุ่งเข้าหาซื่อหลงและปล่อยให้การโจมตีของซื่อหลงล็อกเป้ามาที่นาง

ด้วยเสียงกรีดร้องของวิหคเพลิงอมตะ เปลวเพลิงควบแน่น และหลี่ฉิงซานก็กำเนิดใหม่ อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะสามารถใช้ความสามารถโดยกำเนิดใดๆ พลังที่มองไม่เห็นก็จับตัวเขาไว้

ดวงตาของซื่อหลงส่องประกายด้วยแสงสีทองขณะที่เขาฟาดกระบี่ลงมาอีกครั้ง

“กระบี่มังกรแท้ของบุตรแห่งสวรรค์มอบความสงบสุขให้กับโลก!”

หลี่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นเพียงเพื่อที่จะเห็นกระบี่ฟาดลงมา เสียงเตือนภัยดังขึ้นในใจเขา เขารู้ว่าซื่อหลงตั้งใจสังหารเขาด้วยการโจมตีนี้

หากเขาตายอีกครั้ง เขาจะกลายเป็นไข่นก เมื่อถึงเวลานั้น ซื่อหลงอาจไม่จำเป็นแม้แต่ต้องสะบัดกระบี่เป็นครั้งที่สาม เพียงพลังที่เหลือจากการโจมตีครั้งที่สองก็เพียงพอที่จะทำลายมันได้แล้ว

การต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมาทำให้ซื่อหลงตระหนักถึงบางสิ่ง หากเขาไม่ทำลายล้างหลี่ฉิงซานจนสิ้นซาก การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด ตราบเท่าที่เขาฆ่ากบฏคนนี้ได้ ศัตรูก็จะไม่เป็นภัยคุกคามของเขาอีกต่อไป

แม้จะอยู่ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย หลี่ฉิงซานก็ไม่รู้สึกกลัว เขาคำรามและกำลังจะรับการโจมตีด้วยหมัด แต่ทันใดนั้นร่างหนึ่งกลับปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

“เสี่ยวหมิง!”

เทพราหูเสี่ยวหมิงไขว้แขน มันก่อให้เกิดความมืดมิดที่กัดกินการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

อย่างไรก็ตามด้วยความแตกต่างระหว่างการบ่มเพาะ แม้แต่บุตรของเทพอสูรก็ยังไร้พลัง

ในชั่วพริบตา ความมืดก็แตกสลาย เขาหันกลับไปและพยักหน้าให้หลี่ฉิงซาน จากนั้นเขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาใช้ตัวเองเป็นโล่เนื้อให้กับหลี่ฉิงซาน

หลี่ฉิงซานระเบิดเสียงคำรามด้วยความโกรธ เขากางปีกและพุ่งเข้าหาซื่อหลง เขาถือแผ่นดินงอกของสวรรค์ทั้งเก้าเอาไว้แน่นและปลดปล่อยสนามแม่เหล็กโลกอีกครั้งเพื่อดึงพวกเขาเข้าหากัน

แววตาชั่วร้ายฉายผ่านดวงตาของซื่อหลง เขาใช้แรงดึงดูดนี้ฟาดกระบี่ลงไป

กระบี่บิดเบี้ยวราวกับสายฟ้าสีทองแทงลึกเข้าไปในอกของหลี่ฉิงซาน พลังของกระบี่พุ่งทะลุทะลวงร่างกายของเขาและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

อย่างไรก็ตามไม่เพียงหลี่ฉิงซานจะไม่พยายามหลบเลี่ยง แต่เขายังยินดีรับมัน เขากางแขนและโอบกอดซื่อหลงเอาไว้อย่างแน่นหนาโดยใช้ผิวหนังปีศาจวัวจับกระบี่ จากนั้นเขาก็อ้าปากใหญ่และกัดลงบนลำคอของซื่อหลง เขี้ยวสี่ซี่ที่เหมือนใบมีดหักลงเมื่อพวกมันปะทะเกล็ดมังกร แต่ฟันซี่อื่นของเขาสามารถเจาะเกล็ดมังกรเข้าไปและดึงเลือดมังกรออกมา

กู่เยี่ยนหยินรีบพุ่งลงไปพร้อมกับเสี่ยวอันที่อยู่ในอ้อมแขนและมาถึงด้านหลังซื่อหลงในทันที กระบี่สังหารพระพุทธเจ้าพุ่งไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ

ซื่อหลงขมวดคิ้ว เขายื่นแขนไปด้านหลังเพื่อคว้ากระบี่ด้วยนิ้วทั้งห้าของเขา

ด้วยความเร็วของกู่เยี่ยนหยินและแรงผลักของเสี่ยวอัน กระบี่ทะลุผ่านกรงเล็บและพุ่งไปที่แผ่นหลังของซื่อหลง แต่มันยังถูกขัดขวางโดยเกล็ดมังกรทองและไม่สามารถขยับไปข้างหน้า

เวลาราวกับหยุดเดิน หลี่ฉิงซานได้รับบาดเจ็บสาหัส ซื่อหลงเพียงต้องหลบออกไปและเขาก็จะอยู่ในจุดที่ไม่อาจเอาชนะได้อีกครั้ง

ในชั่วขณะนั้นเสียงของเสี่ยวอันก็ดังขึ้นในหูของซื่อหลง มันฟังดูเหมือนเสียงสวดมนต์แต่กลับไม่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่เลย ตรงข้าม มันเต็มไปด้วยบรรยากาศของความตายและการดูหมิ่นพระพุทธเจ้า

ผ้าห่อศพส่งวิญญาณที่ลอยอยู่กลางอากาศตลอดเวลาพุ่งลงมาห่อหุ้มคนทั้งสี่เอาไว้

จากนั้นร่างหนึ่งก็กระเด็นออกมาจากห่อผ้าและลงจอดบนภูเขาศีรษะมังกรที่พังทลายไปแล้ว มันคือหลี่ฉิงซาน เลือดไหลออกจากทุกรูเปิดบนใบหน้าของเขา ขณะที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรูพรุน แม้แต่กระบี่บาปอมตะก็ยังปักอยู่ที่หน้าอกของเขา

ไม่นานหลังจากนั้นกู่เยี่ยนหยินกับเสี่ยวอันก็พุ่งออกมาจากห่อผ้าเช่นกัน

หลี่ฉิงซานผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาต้องการยืนขึ้นและสู้ต่อไป แต่เขาไม่สามารรถทำได้ อวัยวะภายในของเขาแหลกสลาย เส้นลมปราณของเขาขาดสะบั้น กล่าวได้ว่าร่างกายของเขาสามารถพังทลายลงได้ทุกเมื่อ หากเขาปล่อยให้ซื่อหลงแทงเขาอีกแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะกลายเป็นไข่นกอย่างแน่นอน

นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขา และเขาาก็ไม่รู้เลยว่ามันจะจบลงด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว

ห่อผ้าลอยขึ้นสู่อากาศอย่างต่อเนื่อง เสี่ยวอันประสานฝ่ามือ ริมฝีปากของนางเปิดและปิดอย่างรวดเร็วขณะที่นางสวดมนต์ ระฆังปลุกวิญญาณที่เอวของนางสั่นไหวไปพร้อมกัน ราวกับนางกำลังทำพิธีชำระล้างบาปให้ศพในห่อผ้า

ห่อผ้าหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็กลายเป็นชุดคลุมนักบวชสีขาวบนร่างของซื่อหลง มันมีกระทั่งสร้อยลูกประคำสีขาวแขวนอยู่รอบคอของเขา ราวกับโอรสสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นผู้ปฏิบัติธรรมอย่างกะทันหัน

ชุดคลุมนักบวชสีขาวคือผ้าห่อศพส่งวิญญาณ และสร้อยลูกประคำสีขาวก็คือลูกประคำหัวกะโหลก

เสียงสวดมนต์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เสียงระฆังดังกังวาลและกึกก้อง ลูกประคำหัวกะโหลกส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ขณะที่ตัวอักษรบางอย่างไหลเวียนอยู่บนชุดคลุมนักบวชและส่งเสียงพึมพำเหมือนนักบวชท่องพระสูตรออกมา

เสียงทั้งหมดหลอมรวมเป็นหนึ่ง มันวุ่นวายและดังมาก

หากเสียงพึมพำของสิ่งมีชึวิตทั้งหมดดังขึ้นขณะที่ซื่อหลงฟาดกระบี่มังกรแท้ของบุตรแห่งสวรรค์ เสียงนี้ก็เหมือนเสียงโหยหวนของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ตายในเพลิงสมาธิสีขาว มันร้องเรียกเขา “จงมากับเรา เจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป นี่คือสรวงสวรรค์!”

แม้แต่หลี่ฉิงซานก็ยังรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อได้ยินเสียงนี้ เขาต้องใช้เต่าจิตวิญญาณปราบปรามจิตใจของเขาอย่างเร่งด่วน

“เงียบซะ!”

ซื่อหลงยกมือขึ้นปิดหูขณะที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง อสรพิษนรกเลื้อยออกมาจากใต้เกล็ดของเขา พวกมันเงยศีรษะไปทางเสี่ยวอัน ราวกับพวกมันกำลังตั้งใจฟังการแสดงพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างเงียบๆ

โลกเปรียบเสมือนทะเลเพลิงที่แผดเผา มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทรมาน ทะเลแห่งความทุกข์ไร้ขอบเขต แล้วผู้ใดจะไม่อยากไปถึงฝั่ง

“อย่าบอกว่านี่คือพระสูตรส่งวิญญาณของพระโพธิสัตว์กระดูกขาว!?”