ตอนที่ 118 อ้วนสุดทุ่มสุดตัว(ฟรี)
ติดกับอีกแล้ว!
แค่สองประโยค หยานเซียงก็ดึงดูดความสนใจของอ้วนสุดได้สำเร็จ
“เจ้าบอกว่ากองทัพเราติดกับ?”
อ้วนหวนตัวสั่น
“ท่านหยาน ท่านบอกว่าไป๋หลี่หมิงไม่ได้อยู่กับทหารม้า?”
“เป็นไปไม่ได้!”
แต่พอเขาพูดจบ หยานเซียงก็หันหลังกลับและพูดด้วยความโกรธ
“อ้วนเหยาชิง อ้วนเหยาชิง ข้าคิดว่าเจ้าฉลาด ทำไมเจ้าถึงโง่ขนาดนี้!”
“ถึงตอนนี้เจ้ายังไม่พบอะไรผิดปกติอีกเหรอ!”
“เจ้าเอาแต่บอกว่าไป๋หลี่หมิงอยู่กับทหารม้า!”
“ข้าขอถามเจ้า เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าเขาไม่ได้บัญชาการทหารม้า?”
“นี่...เป็นไปไม่ได้!”
อ้วนหวนรีบพูด
“วันนั้น ทหารม้ามาช่วยและโจมตีค่ายของพวกเรา มันคือการต่อสู้ที่ไป๋หลี่หมิงบัญชาการ!”
“นี่หมายความว่ามันเป็นคนนำทหารม้า!”
“ใช่!”
อ้วนสุดขมวดคิ้ว
“ท่านหยาน ตอนที่เหยาชิงพูด ท่านก็เห็นด้วย!”
“ทำไมตอนนี้ ท่านถึงบอกว่าไป๋หลี่หมิงไม่ได้อยู่กับทหารม้า!”
หยานเซียงยิ้มแห้งตอนได้ยิน
“ทั้งสองคนยังคิดไม่ออกอีกเหรอ?”
“วันนั้นไป๋หลี่หมิงอยู่กับทัพม้าจริงๆ!”
“แต่พวกเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าไป๋หลี่หมิงเป็นคนบัญชาการทหารม้า?”
“ใช่ ถ้าหากมันอยู่กับทหารม้า พวกเราก็ต้องไล่ตามมัน!”
“แต่ถ้าหากตอนนี้ มันเข้าไปในเมืองโซ่วชุนแล้ว งั้นสิ่งที่พวกเรากำลังทำก็ไร้ประโยชน์ใช่ไหม?”
“...”
พอได้ยิน อ้วนสุดกับอ้วนหวนก็ตกใจ
ถ้าหากเป็นแบบนี้ งั้นพวกเขาก็เสียเวลาไป 3 วัน
พอคิดแบบนี้ อ้วนสุดก็ร้อนใจ
“ท่านหยาน ท่านบอกว่าไป๋หลี่หมิงเข้าไปในเมืองโซ่วชุนแล้ว ท่านมีหลักฐานอะไร?”
อ้วนหวนขมวดคิ้ว
“ตอนที่กองทัพเรายืนยันว่าไป๋หลี่หมิงอยู่กับทหารม้า พวกเราก็รีบส่งทหารออกไป เตรียมพร้อมสำหรับการล้อม!”
“และพอกองทัพเราส่งทหารออกไป ทหารม้าก็รีบหนีไป!”
“ถ้าหากไม่ใช่ไป๋หลี่หมิงเป็นคนบัญชาการ ใครจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้?”
“หลังจากนั้น กองทัพเราก็ไล่ล่าทหารม้านี้ ส่งสายลับไปสืบทั่ว เว้นแต่ว่าไป๋หลี่หมิงจะกล้าออกจากกองทัพคนเดียว!”
“ไม่งั้น มันก็ไม่มีโอกาสเข้าเมือง!”
“ไม่ มันมีโอกาส!”
หยานเซียงพูดอย่างมั่นใจ
“พวกท่านสองคนลืมไปแล้วเหรอว่า ตอนแรกที่กองทัพเราส่งทหารออกไป แม่ทัพจางซวินมารายงานว่ามีทหาร 3,000 นายเข้าไปในโซ่วชุน?”
“กองทัพนั้นไม่ใช่กำลังเสริมจากลู่เจียง!”
“มันคือทหารราบที่ไป๋หลี่หมิงพามาตอนที่มันนำทหารขึ้นเหนือ!”
“เพราะข้าถามแล้ว กองทัพนั้นไม่ได้เอาสัมภาระมาด้วย!”
“ถ้าหากไม่มีสัมภาระ กองทัพนี้จะมาจากลู่เจียงได้ยังไง?”
“ความเป็นไปได้เดียวก็คือกองทัพนี้อยู่ที่นี่ตอนที่ไป๋หลี่หมิงนำทหารม้าขึ้นเหนือ!”
“ครั้งนี้ มันทำเป็นพาทหารม้ามา แต่จริงๆ แล้ว มันพาทหารราบ 3,000 นายมาด้วย!”
“วันนั้น กองทัพเราคิดว่ามันอยู่กับทหารม้า ก็เลยคิดว่ามันพาทหารม้ามาอย่างเดียว”
“พบทหารม้าจากไป กองทัพเราก็คิดว่าไป๋หลี่หมิงไปกับทหารม้า!”
“จริงๆ แล้ว มันคงจะรู้ว่ากองทัพเราต้องตามมา มันเลยให้ทหารม้าดึงดูดความสนใจ ส่วนมันก็อยู่ที่เดิม!”
“หลังจากที่กองกำลังหลักของพวกเราจากไป มันก็นำทหารราบไปโซ่วชุน!”
พอพูดถึงตรงนี้ หยานเซียงก็รีบโค้งคำนับอ้วนสุด
“นายท่าน!”
“พวกเราโดนไอ้ไป๋หลี่หมิงหลอก!”
“ทหารม้าของมันพยายามจะพาพวกเราไป ถ่วงเวลาและให้เมืองมีโอกาสได้พักหายใจ!”
“ผ่านไป 3 วันแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ไป๋หลี่หมิงสร้างป้อมปราการอะไรไว้ในเมือง!”
“ถ้าหากตอนนี้ กองทัพเรากลับไปก็ยังมีโอกาส!!”
“ถ้าหากพวกเราไม่กลับไปตอนนี้ พอมันเตรียมป้องกันเสร็จ กองทัพเราก็จะไม่มีโอกาสบุกเมือง!”
“เป็นไปไม่ได้!”
พอหยานเซียงพูดจบ อ้วนหวนก็ยืนตัวตรง
ไป๋หลี่หมิงไม่ได้อยู่กับทหารม้า?
แต่มันนำทหารราบกลับไปที่เมือง?
ใช้ทหารม้านำทหารราบขึ้นเหนือ แล้วนำทหารราบกลับไปที่เมืองเพื่อเสริมกำลัง?
ใครจะคิดแบบนี้!
อีกอย่าง พอรู้ว่าพวกเขากำลังล้อม มันก็รีบตัดสินใจปล่อยทหารม้าไป ส่วนมันก็อยู่ในป่า ใช้กลอุบายหลอกล่อพวกเขา
มันไม่รู้เหรอว่า ตอนนั้น พวกเขามีทหารหมื่นนายล้อมมันอยู่?
มันไม่รู้เหรอว่า ถ้าหากมันถูกพบ ทหาร 3,000 นาย ต้องตายแน่?
ใครจะกล้าทำแบบนี้?
แต่มันทำ!
และหลังจากที่พวกเขาจากไป มันก็ค่อยๆ เดินไปที่เมืองโซ่วชุน ไม่สนว่าพวกเขาจะรู้เรื่องนี้ไหม!
มันฉลาดและเด็ดขาดมาก!
มันกล้าหาญมาก!
พอคิดแบบนี้ เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
ที่ผ่านมา พวกเขาต่อสู้กับคนแบบนี้เหรอ?
ตั้งแต่แรก พวกเขาก็โดนมันหลอก!
บนโลกนี้ จะมีคนแบบนี้ได้ยังไง?
ข้างๆ อ้วนหวน อ้วนสุดตาแดงก่ำและหายใจหนัก
ถ้าหากสิ่งที่หยานเซียงพูดถูกต้อง เวลาที่ใกล้ชิดกับไป๋หลี่หมิงมากที่สุด ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ไล่ล่า!
แต่เป็นหลังจากที่เขาส่งทหารออกไป และทหาร 70,000 นายบุกไปที่ทะเลสาบ
เพราะตอนนั้น ไป๋หลี่หมิงมีทหารอยู่แค่ 3,000 นายและไม่มีการป้องกัน!
แค่เขาพบมัน เขาก็สามารถจับไป๋หลี่หมิงได้!
บ้าเอ๊ย!
พอคิดแบบนี้ เขาก็รู้สึกเจ็บคอ
ทำไมตอนนั้นเขาถึงหาไม่เจอ?
ทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่คิดจะมองเข้าไปในป่า?
ผลก็คือเพราะความประมาท ไป๋หลี่หมิงเลยหนีไป!
แล้วมันยังใช้ทหารม้ามาทรมานเขา 3 วัน?
ซวบ!
ด้วยความโกรธ อ้วนสุดชักดาบยาวออกมา และฟันโต๊ะที่อยู่ข้างหน้า เขาคำรามลั่นด้วยเสียงสั่นเครือ
“กลับไปที่ค่าย! กลับไปที่ค่ายเดี๋ยวนี้!”
“ข้าอยากจะหั่นไป๋หลี่หมิงเป็นชิ้นๆ!”
“รีบกลับไปที่ค่าย!”
พอตะโกนจบ เขาก็วิ่งออกจากกระโจมพร้อมดาบยาว
พอเห็นแบบนี้ หยานเซียงก็รีบเดินตามอ้วนสุดไป
เหลือแค่ อ้วนหวนที่ยืนอยู่ที่เดิม
หลังจากที่อ้วนสุดตัดสินใจ เขาก็นำทหาร 70,000 นายกลับไปที่โซ่วชุนในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ครั้งนี้ อ้วนสุดไม่ได้สนใจเรื่องอื่น!
เขาอยากจะยึดครองเมืองโซ่วชุนให้ได้!
ในเวลาเดียวกัน ในค่ายที่ห่างจากค่ายของอ้วนสุด 10 ลี้
“รายงาน! ท่านจูล่ง!”
“ศัตรูถอยทัพแล้วครับ!”
“ตอนนี้ พวกมันกำลังถอยไปโซ่วชุน!”
“โอ้?”
“ศัตรูถอยทัพ?”
จูล่งที่ดูเหนื่อยล้า พอได้ยิน เขาก็ผ่อนคลายทันที
ในที่สุด ศัตรูก็รู้ตัว!
ต้องบอกว่า ถึงแม้ว่าวันที่ผ่านมา เขาจะเป็นฝ่ายทรมานอ้วนสุด แต่เขาก็ไม่ต่างกัน!
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนนำทัพ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นการทรมานทั้งสองฝ่าย!
แต่ตอนนี้ ศัตรูถอยทัพแล้ว!
จูล่งมองไปที่โซ่วชุน และพูดในใจว่า ท่านกุนซือ ข้าทำเต็มที่แล้ว!
ต่อไป ก็ขึ้นอยู่กับท่าน!
พอคิดแบบนี้ เขาก็รีบกระโดดขึ้นม้า
“ทหารทุกนาย ฟังคำสั่ง เตรียมตัวออกเดินทาง!”
“ท่านแม่ทัพ พวกเราจะไล่ล่าไหม?”
“ไม่!”
จูล่งส่ายหัว
“ไปหรูหนาน!”
ขณะพูด เขาก็มองไปที่หรูหนาน
ต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำก็คือตัดเสบียงของอ้วนสุด!
ตอนนี้ ในเหอเฟย จิ่วเจียง กองทัพขนาดใหญ่ก็กำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ
“เร็วๆ เข้า! เร่งความเร็ว!”
ซุนเกี๋ยนนำแม่ทัพและทหารเกือบ 40,000 นายไปทางเหนือ
“นายท่าน กองทัพเราเดินทัพเร็วมาก สัมภาระและเสบียงตามไม่ทัน!”
ฉินซ่งขี่ม้ามาข้างซุนเกี๋ยนและแนะนำ
“ทำไมไม่ชะลอความเร็วลงหน่อยแล้วรอทัพหลังละขอรับ!”
นับตั้งแต่ที่ไป๋หลี่หมิงขึ้นเหนือ วันรุ่งขึ้น ซุนเกี๋ยนก็ได้นำทหารทั้งหมดในตันหยางขึ้นเหนือ
จนถึงตอนนี้ พวกเขาเดินทัพมา 7 วันแล้ว และเดินทัพมาทั้งหมด 460 ลี้
“เหวินเปียว ถ้าหากเดินทัพด้วยความเร็วนี้ จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะไปถึงโซ่วชุน?”
“ถ้าหากไม่ชะลอความเร็วก็คงจะใช้เวลา 2 วันครับ!”
“แต่นายท่าน ตอนนี้ กองทัพเรากำลังเดินทัพเร็วมาก ถ้าหากไม่ชะลอความเร็ว สัมภาระและเสบียงก็จะตามไม่ทัน!”
“ไม่ต้อง!”
ซุนเกี๋ยนพูดเสียงเข้ม
“วันนี้พอเลิกเดินทัพ พวกเราก็ทิ้งขบวนสัมภาระไว้ข้างหลังเลย ให้พวกเขาค่อยๆเดินทัพขึ้นเหนือ คนอื่นๆ ก็เอาเสบียง 5 วัน และกระโจมติดตัวไปพอ พวกเราจะรีบเดินทัพต่อ!”
“เสบียงแค่ 5 วัน?”
ฉินซ่งตกใจมาก
“นายท่าน กองทัพเรากำลังเผชิญหน้ากับกองทัพของอ้วนสุด ที่มีทหารแสนนาย!”
“ถึงแม้ว่าช่วงนี้มันจะแบ่งทหารไปป้องกันเมือง แต่มันก็มีทหารอย่างน้อยแสนกว่านาย!”
“กองทัพเรามีทหารแค่ 40,000 นาย ถ้าหากเอาเสบียงไปแค่ 5 วัน แล้วหากกองทัพเราเข้าเมืองไม่ได้ใน 2 วัน พวกเราก็จะไม่มีเสบียง!”
ซุนเกี๋ยนได้ยินก็ขมวดคิ้ว
“ดั่งคำกล่าวที่ว่า ความเร็วคือแก่นแท้ของสงคราม พวกเราจะยึดติดกับความรู้ทั่วไปได้ยังไง?”
“ตอนนี้ หรัวจงขึ้นเหนือแล้ว กำลังต่อสู้กับอ้วนสุด ถ้าหากกองทัพเราถึงเร็วขึ้น พวกเราก็สามารถเอาชนะอ้วนสุดได้เร็วขึ้น!”
“ถ้าหากล่าช้า กว่ากองทัพเราจะมาถึง โอกาสก็จะหายไป!”
“ทหารทุกนาย ฟังคำสั่ง เดินทัพเต็มที่!”
“กองทัพเราต้องไปถึงโซ่วชุนภายใน 3 วัน และเอาชนะกองทัพของอ้วนสุดให้ได้!”
หลังจากนั้น เขาก็ขี่ม้าออกไป
นายท่านกับท่านกุนซือนี่กล้าหาญจริงๆ!
วิธีต่อสู้ของพวกเขาก็เหมือนกัน!
ทิ้งสัมภาระและเดินทัพอย่างรวดเร็ว?
มีแค่ซุนเกี๋ยนเท่านั้นที่กล้าทำแบบนี้!
ถ้าหากเป็นคนอื่น คงจะไม่กล้า!
แต่หลังจากถอนหายใจ ฉินซ่งก็กัดฟันและรีบขี่ม้าตามไป
ไม่มีทางเลือกแล้ว พวกเขาเจอนายท่านกับท่านกุนซือคู่นี้ ทั้งหมดที่ทำได้คือเชื่อฟังคำสั่ง!