บทที่ 3 ยอมรับชะตา พี่ล่ำเป็นลูกชายฉัน
บทที่ 3 ยอมรับชะตา พี่ล่ำเป็นลูกชายฉัน
ซ่งต้าฟูเหรินพอรีบจูงสาวใช้เข้ามาในห้องของแม่สามี เธอก็เห็นสองผู้อาวุโสของบ้านกำลังจ้องตากันอย่างเงียบ ๆ ไม่ยอมใคร เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่สิ่งสำคัญคือแม่สามีฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ
เมื่อซ่งต้าฟูเหรินเห็นสภาพของคุณแม่สามีที่หายใจไม่ค่อยสะดวก นอนเอนพิงหัวเตียงโดยที่สติสัมปชัญญะครบถ้วน ก็รู้สึกดีใจจนแทบอยากจะลงกราบพระพุทธเจ้าเพื่อขอบคุณ
“ท่านแม่ ท่านตื่นแล้ว”
ซ่งซือหันไปมองหญิงงามวัยกลางคนอายุราว ๆ สามสิบปีที่ยืนอยู่ เธอดูสง่างามและมีความเมตตาในสายตา แม้ว่าใต้ตาของเธอจะบวมแดงและมีถุงใต้ตา หน้าตานี้คงจะเป็น "กู่ซื่อ"สะใภ้คนโตของร่างนี้สินะ?
ด้านหลังหญิงงามอีกคนที่ดูอายุน้อยกว่าและมีใบหน้าที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาด คงเป็นสะใภ้คนรอง "เจียงซื่อ"
เมื่อผู้คนมากมายเข้ามาในห้องทำให้บรรยากาศภายในห้องอึดอัดและมีกลิ่นอับ ซ่งซือรู้สึกหงุดหงิดและอึดอัดมากขึ้น
“เปิดหน้าต่างที ข้าอึดอัดเหลือเกิน”
ทันทีที่นางเอ่ยคำสั่งออกไป ก็มีคนรีบไปเปิดหน้าต่างให้ สายลมพัดกลิ่นหอมของดอกไม้เข้ามาภายในห้อง ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
หลังจากที่ซ่งซือตื่นขึ้น ไม่ว่าทั้งสะใภ้หรือบ่าวไพร่ต่างก็รุมล้อมนางเพื่อถามไถ่ อาบน้ำล้างหน้าเช็ดตัวให้นาง ส่วนซ่งคุนก็ดูเหมือนจะถูกทุกคนลืมไปเสียสนิท จนเขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
ในใจคิดว่า "ข้าก็เป็นหัวหน้าครอบครัวนะ!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกด้วยความกังวลจากด้านนอก
"ท่านแม่!"
ทุกคนหลีกทางให้ และพากันทำความเคารพ
"คารวะท่านเสนาบดี"
"ท่านพี่กลับมาแล้ว" ซ่งต้าฟูเหรินรีบออกมาต้อนรับ พร้อมทั้งรับหมวกของเขามาด้วยความตื่นเต้น "ท่านแม่ฟื้นแล้วเจ้าค่ะ"
ซ่งซือยังไม่ทันได้เห็นหน้าชายคนนี้ชัด ๆ แต่กลับมีมือใหญ่และอบอุ่นมาจับมือนางไว้ เมื่อมองขึ้นไป นางถึงกับอึ้ง
ชายวัยกลางคนที่ดูหล่อเหลา มีหนวดเคราเล็กน้อยและสง่างาม บุคลิกของเขาเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและสง่างามในฐานะผู้มีอำนาจเต็มเปี่ยม ชายที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ กลับมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยน
ซ่งซือรู้สึกเคลิบเคลิ้มอยู่พักหนึ่ง
"นี่มันผู้ชายในฝันของผู้หญิงทุกคนชัด ๆ"
“ท่านแม่ พวกเราตกใจแทบแย่”
คำว่า "ท่านแม่!" ดึงสติซ่งซือกลับมา นางรู้สึกเหมือนโลกพังทลาย
ใช่แล้ว... ร่างนี้เป็นแม่ของเขา เป็นแม่ของพี่ล่ำคนนี้...
“โอ้ย ข้าจะร้องไห้แล้ว”
ซ่งจื้อหยวนมองแม่ของเขาที่น้ำตาเอ่อล้นและดูเหมือนจะร้องไห้ เขารู้สึกกังวลทันที "ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป? เจ็บปวดที่ไหนหรือไม่? รีบไปเอาตราของข้า เรียกหมอหลู่มาเดี๋ยวนี้!"
มีคนรีบออกไปตามหมอ
ซ่งซือจ้องมองไปที่ซ่งจื้อหยวน แล้วในใจนางก็พูดกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่า "นั่นลูกฉัน นั่นลูกฉัน ฉันต้องเล่นบทตามบทนี้ให้ดี"
หลังจากพูดกับตัวเองอยู่พักหนึ่ง นางก็พูดออกมาช้า ๆ ว่า "ข้าไม่เป็นไร ข้าแค่แก่แล้ว ไร้เรี่ยวแรง ครั้งนี้ทำให้พวกเจ้าต้องกังวล ข้าเสียใจจริง ๆ"
คำพูดของนางทำให้ทุกคนตกใจ
ซ่งจื้อหยวนและซ่งต้าฟูเหรินต่างตัวสั่นด้วยความตกใจจนถึงขั้นคุกเข่าลงต่อหน้าแม่ "ท่านแม่ ท่านพูดอะไรเช่นนี้ ท่านคิดจะทำร้ายจิตใจพวกเราอย่างนั้นหรือ? ความผิดครั้งนี้เป็นของพวกเราเองที่ดูแลท่านไม่ดี ไม่ใช่ความผิดของท่านเลย"
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านแม่ หากลูกสะใภ้ทำอะไรผิด ท่านบอกลูกสะใภ้ได้เลย แต่ได้โปรดอย่าเก็บไว้ในใจ” ซ่งต้าฟูเหรินพูดด้วยความกลัวเกรง ในใจนางหวาดกลัวมากว่าแม่สามีที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจะกล่าวโทษสิ่งใดออกมา
ซ่งซืออึ้งไป นางแค่พูดไปตามมารยาทธรรมดาๆ แล้วทำไมถึงได้คุกเข่าขอโทษกันขนาดนี้?
“ไม่ต้องคุกเข่า ทำไมถึงคุกเข่าลงกันเล่า?”
“ท่านแม่...”
"ลุกขึ้น ๆ ... *แค่กๆ* " ซ่งซือเริ่มไอขึ้นมาด้วยความกังวล
และหลังจากนั้นทุกคนในห้องก็พากันวุ่นวายอีกรอบ...