ตอนที่แล้วเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 4
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 6

เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 5


<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 5>

***********

ครึกๆๆๆ

รถไฟใต้ดินสั่นสะเทือนเบา ๆ ขณะแล่นผ่านอุโมงค์

<สถานีต่อไป………… กรุณาเดินออกทางประตูด้านซ้าย>

เธอได้ยินเสียงประกาศของรถไฟใต้ดินแล้วลืมตาขึ้น

ดูเหมือนเธอจะเผลอหลับไป

อาจเป็นเพราะทำงานล่วงเวลาจนดึกหรือเปล่า?

กึก

ประตูซ้ายปิดลง รถไฟใต้ดินที่จอดอยู่ที่สถานีเริ่มเคลื่อนตัว

เธอดูหน้าจอสมาร์ทโฟน ตอนนี้เกือบตี 1 แล้ว

นี่เป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายของสายนี้

“เฮ้อ…”

เธอถอนหายใจ

เหนื่อยจัง

ช่วงนี้เธอต้องทำงานล่วงเวลาติดๆกันหลายวัน

เธอเลิกงานตรงเวลาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะ?

‘อยากลาออกจัง’

เธอส่ายหัว

ลาออกเหรอ….ไม่มีทาง

เธอและครอบครัวต้องการเงิน

จริงๆ แล้ว เธอมีเงินเก็บจำนวนมหาศาลอยู่ในบัญชีลับ

แต่เธอตัดสินใจที่จะไม่ใช้มัน

มันคือทางเลือกสุดท้าย

ถ้าเธอใช้เงินนั้นไป

ถ้าใช้ไปแล้ว…… เธอรู้สึกว่าความฝันในยามค่ำคืนของเธออาจจะหายไป

ใช่ มันคือความฝัน

ต่อให้เธอเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ

เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเกม 'พิกมีอัพ!' ที่ตอนนี้ถูกลืมไปแล้ว

“…….”

เธอสัมผัสรูปปั้นเล็ก ๆ ที่ห้อยอยู่กับสมาร์ทโฟนของเธอ

เหตุการณ์นั้นผ่านไปหลายปีแล้ว

จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรพิเศษ

มีผู้ชายคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นฮีโร่ในเกมมาหาเธอ พวกเขาคุยกันครู่หนึ่ง แล้วเขาก็บอกว่าจะกลับไปยังที่ที่จากมา

ตอนนี้ การพบกับชายคนนั้นกลายเป็นเพียงภาพลวงตาที่เลือนลาง

เธอรู้

เธอรู้ว่ามันจบลงแล้ว

ตัวละครในเกมมาหาเธอเนี่ยนะ? ใครได้ยินก็ต้องคิดว่าเธอเพี้ยนแน่ ๆ

แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น จริง ๆ แล้ว เธอยังคงคิดอยู่บ่อย ๆ ว่ามันเป็นความฝันหรือเปล่า และถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงและเป็นความจริงล่ะ……

‘ก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี?’

ยังไงพวกเขาก็อยู่กันคนละที่

เขาอยู่ที่ของเขา

เธออยู่ที่ของเธอ

ตอนนั้น เขาก็บอกว่าเขามาหาเธอได้ยากมากเพราะต้องสละเวลามากมาย

เขาบอกว่าเขายุ่งอยู่กับการทำสงคราม

ชายคนนั้นใช้ชีวิตที่ยากลำบากอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเทียบกับเธอที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขทำงานออฟฟิศอยู่บนโลก

เส้นทางของพวกเขาเป็นเส้นขนาน

ดังนั้น มันจบลงแล้ว

การพบกันครั้งนั้นเป็นปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย

‘แต่ไม่เป็นไรหรอก’

อย่างน้อยที่สุด

เธอสามารถเก็บความทรงจำของตัวเองไว้เพื่อนำติดตัวไปด้วยเมื่อเธอใกล้ตาย

เรื่องราวที่เธอไม่สามารถบอกใครได้

เธอยิ้มและปล่อยมือจากรูปปั้นเล็ก ๆ บนสมาร์ทโฟน

ความทรงจำก็คือความทรงจำ ความจริงก็คือความจริง

เธอต้องรีบกลับบ้านไปนอนเพื่อที่จะได้ไปทำงานพรุ่งนี้

<เมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันนี้ มีวัตถุไม่ทราบชนิดระเบิดเหนือน่านฟ้ากรุงโซล มีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาจเป็นดาวเทียมที่ถูกปลดประจำการแล้วตกลงมา…….>

เธอหันไปมอง

ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับที่เธอนั่ง

เด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังดูข่าวอยู่โดยเปิดเสียงสมาร์ทโฟนดังมาก

เขาดูเหมือนเด็กชายวันประถมมากกว่าเด็กชายวัยมัธยม

<แต่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนแย้งว่าไม่น่าจะใช่ดาวเทียม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวอ้าง ต่อไปนี้เป็นวิดีโอที่คุณโมอิถ่ายไว้ได้ มาดูกันครับ….>

เสียงดังจัง

เขาน่าจะอายุประมาณประถมถึงมัธยมต้น

เด็กชายหน้าอ่อนกำลังขยับเท้าไปมาขณะดูข่าวอย่างตั้งใจ

‘เขาเป็นคนต่างชาติหรือเปล่านะ?’

ผมสีน้ำเงินเข้ม

เขาดูไม่เหมือนคนเกาหลีเลย

ถ้างั้นก็คงไม่รู้จักมารยาทในการขึ้นรถไฟใต้ดิน

โชคดีที่เป็นตอนเช้ามืดเลยไม่มีคน ถ้าเป็นตอนกลางวันเขาคงโดนด่าไปแล้ว

‘เราควรเตือนเขาไหมนะ?’

เด็กชายกำลังดูข่าวอย่างเปิดเผยและเสียงดัง

เขาไม่มีหูฟังเหรอ?

เธอหันไปมองรอบ ๆ ว่าพ่อแม่ของเขาอยู่ใกล้ ๆ หรือเปล่า แต่ในตู้โดยสารนี้มีแค่เธอกับเด็กชายเท่านั้น

‘เอาล่ะ ไปบอกเขาดี ๆ แล้วกัน’

เธอตัดสินใจแล้วและกำลังจะกระแอม

“พี่สาวครับ”

“หืม?”

“พี่สาวคิดยังไงกับข่าวนี้อ่ะ?”

เขาพูดภาษาเกาหลีได้คล่องมาก

เด็กชายยิ้มและยื่นหน้าจอสมาร์ทโฟนมาให้เธอ

“…….”

อะไรกัน

มีวิดีโอกำลังเล่นอยู่บนสมาร์ทโฟน

เป็นวิดีโอที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายไว้

“มันแปลกเกินไปสำหรับดาวเทียมที่ถูกปลดประจำการแล้วใช่ไหมล่ะ? ดูสิ ตรงนี้มีวิดีโอซูมด้วยนะ”

แป๊ะ!

ท้องฟ้าสีครามในวิดีโอ

มีบางอย่างระเบิดพร้อมกับแสงสีฟ้า

วัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุได้ถูกระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“พี่สาวคิดว่ามันคืออะไรครับ? หรือว่ามันจะเป็นยูเอฟโอจริงๆ เหรอ?”

เด็กชายยิ้มอย่างไร้เดียงสา

เธอพูดไม่ออก

‘ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้กับฉันล่ะ?’

แล้วตอนนี้ก็ตี 1 แล้วนะ

มันแปลกที่เด็กตัวแค่นี้จะขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย

ในตู้โดยสารนี้มีแค่เธอกับเด็กชายเท่านั้น

“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้เหมือนกัน”

เธอตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

“จริงเหรอครับ? น่าเสียดายจัง”

เด็กชายเริ่มดูข่าวต่อ

ฟู้ว

เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ครืน

รถไฟสั่นสะเทือนอีกครั้ง

กำลังจะถึงสถานีต่อไป

ที่นั่นคือสถานีที่เธอต้องลง

มีเสียงประกาศดังขึ้น

<~♪♬♩ ~♩♬♩~ ♬♬♩♩♪~>

เสียงประกาศบอกว่ารถไฟกำลังจะถึงสถานี

เธอเก็บของและเตรียมตัวลงจากรถ

<สถานีต่อไปคือ ไม่มี….และไม่มีประตูให้ลง>

“……?”

รถไฟเคลื่อนตัวออกไปอีกครั้งโดยที่เธอยังคงยืนงงอยู่

ในที่สุดเธอก็ต้องกลับไปนั่งที่เดิม

ข่าวจากสมาร์ทโฟนของเด็กชายยังคงดังอยู่

<พยานบางคนอ้างว่าเป็นยูเอฟโอแต่ยังไม่พบอะไรในจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ยูเอฟโอตก…….>

เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟใต้ดิน

มองไม่เห็นอะไรเลย

ไม่ใช่เพราะว่ามันมืด

เธอรู้จักวิวรถไฟใต้ดินตอนเช้ามืดดี

ต่อให้เป็นใต้ดิน ก็ต้องมีแสงไฟบ้าง

แต่ตอนนี้ข้างนอกมืด…… เพราะว่าไม่มีอะไรเลย

ตอนนี้รถไฟใต้ดินที่เธอนั่ง

เข้ามาอยู่ในอีกมิติหนึ่งแล้ว

“…….”

เธอค่อย ๆ หายใจเข้าลึก ๆ

ใจเย็น ๆ

ถึงจะโดนลากเข้าถ้ำเสือ ถ้ามีสติก็รอดได้

“พี่สาว แล้วพี่สาวคิดว่าไง? เรื่องยูเอฟโอเนี่ยมันมีจริงหรือเปล่า?”

“นาย……เป็นใครกันแน่?”

“ตอบคำถามของผมก่อนสิ”

เด็กชายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

อึก….

เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก

‘ใจเย็น ๆ ไว้สิ’

เธอพยายามควบคุมสติที่กำลังจะเลือนลาง

“คือ…… คำถามของนาย…….”

“ดูข่าวนี่สิ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ? มีวัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตกลงมาจากท้องฟ้า เขาบอกว่าเป็นดาวเทียมที่ถูกปลดประจำการแล้ว แต่ใครจะไปเชื่อล่ะ”

“แล้ว……ทำไมถึงถามฉันล่ะ?”

“พี่สาวรู้เรื่องพวกนี้ดีนี่นา”

“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ”

“จริงเหรอ ไม่รู้อะไรเลยจริงๆเหรอ?”

“ขอโทษจริง ๆ ฉันไม่รู้อะไรเลย”

“ทั้ง ๆ ที่มีคำใบ้อยู่ตรงนี้นะ?”

เด็กชายยื่นสมาร์ทโฟนให้เธอ

เธอไม่อยากดูก็ต้องดู

<ตรงนี้ ถ้าซูมวิดีโอเข้าไป จะเห็นว่ามีลวดลายจาง ๆ อยู่บนชิ้นส่วนที่ระเบิด ผู้เห็นเหตุการณ์บางคนบอกว่าลวดลายนี้เป็นหลักฐานของยูเอฟโอ…….>

นี่ไม่ใช่ข่าวจริง

มันเหมือนข่าวปลอมมากกว่า

เป็นช่องเคเบิลทีวีที่ออกอากาศเรื่องไร้สาระเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ระดับของมันใกล้เคียงกับช่องยูทูปมากกว่ารายการโทรทัศน์

ก็เป็นเรื่องไม่น่าแปลกที่จะมีข่าวว่ามีการระเบิดเหนือน่านฟ้ากรุงโซล

แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นทฤษฎีสมคบคิดเรื่องยูเอฟโอ

พวกเขากำลังใช้วิดีโอของผู้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือเปล่าเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ชม

เธอมองไปที่หน้าจอสมาร์ทโฟน

ยูเอฟโอเหรอ? ไม่มีทางมีจริงหรอก

ลวดลายบนชิ้นส่วนนั้นน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของดาวเทียม

อาจจะเป็นของอเมริกาหรือจีน…….

“……!”

แทบจะแยกไม่ออกระหว่างท้องฟ้ากับชิ้นส่วน

แต่เธอก็ยังพอจะมองเห็นรูปร่างได้

ตามที่ผู้เห็นเหตุการณ์อ้าง ชิ้นส่วนของวัตถุบินได้ที่ถูกไฟไหม้มีลวดลายติดอยู่

เป็นสีดำ

รูปร่างน่าจะเป็นใบหน้าของสัตว์

แพะ ดูเหมือนแพะมาก

‘แพะสีดำ’

เธอเคยเห็นลวดลายนี้ที่ไหนมาก่อน

แต่ไม่ใช่ในโลกความเป็นจริง

เธอเคยเห็นมันในเกม 'พิกมีอัพ' ที่เธอเคยเล่นเมื่อหลายปีก่อน

แพะดำตัวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้เล่นคนหนึ่งที่โด่งดังในเกม

ผู้เล่นคนนั้นชื่อโลกิ

เขาเป็นนายท่านของเนลม์ไฮมฟ์

‘ทำไมมันถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ล่ะ?’

เธอสับสน

เธอก็พอรู้เกี่ยวกับตัวตนของโลกิอยู่บ้าง

เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธอพบเขา ยูเน็ตผู้ช่วยของเขาได้อธิบายให้เธอฟังคร่าว ๆ

“พี่สาว ที่แท้ก็โกหกนี่นา บอกว่าไม่รู้อะไรเลย โธ่เอ๊ย ผู้ใหญ่สมัยนี้มันเชื่อถือไม่ได้เลยจริง ๆ”

“…….”

“แล้วนั่นมันคืออะไรล่ะ?”

หลังจากนั้น

เธอหายใจเข้าลึก ๆ

ถ้าเธอหลงไปตามเกมของเด็กคนนี้ มันจะอันตราย

“……นายเป็นคนทำสินะ”

เธอไม่ปิดบังอีกต่อไป

เด็กชายยิ้มเยาะ

“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”

“ฉันไม่อยากคุยกับนาย ปล่อยฉันไป”

“ถ้าไม่ล่ะ?”

เด็กชายหัวเราะเยาะ

จากนั้นเขาก็ล้วงกระเป๋าหยิบซองบุหรี่ออกมาด้วยท่าทางงัวเงีย

“ห้ามสูบบุหรี่ในรถไฟใต้ดินนะ”

“ครับ~ ครับ~”

เด็กชายคาบบุหรี่และสูบอย่างสบาย ๆ

“ไม่คิพวกนั้นดว่าจะมา…โชคดีจริง ๆ”

เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว

เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในรถไฟใต้ดินลึกลับ

มีเด็กผู้ชายยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้า

ตัวตนของเด็กชายคนนี้คือ…… ศัตรูของฮาน

ฮาน อิสรัต

เขาเป็นฮีโร่ที่เธอเลี้ยงดูมาด้วยความรักมากที่สุดในเกมพิกมีอัพ

และวัตถุที่ระเบิดบนท้องฟ้าน่าจะเป็นเรือเหาะ

เป็นพาหนะหลักในการเดินทางในเกมพิกมีอัพ

มันสามารถบินบนท้องฟ้าและเดินทางข้ามมิติได้

เรือเหาะลำนั้นถูกโจมตีระหว่างเดินทางมายังโลก

และฮีโร่ที่เธอรู้จักก็น่าจะอยู่บนเรือเหาะลำนั้น

คนที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้น่าจะเป็นเด็กชายคนนี้

“ถ้ามันหลบอยู่เฉย ๆ ผมเองก็คงลำบาก แต่พวกมันดันออกมาเองแบบนี้ ต้องขอบใจจริงๆ”

ฟู้ว.

เด็กชายพ่นควันออกมาเป็นรูปโดนัท

“แล้วพี่สาวมีค่าแค่ไหนสำหรับโลกิกันนะ? ผมควรจะไว้ชีวิตพี่สาวดีไหม? หรือว่าฆ่าทิ้งดี? ผมไม่ชอบฆ่าคนโดยไม่จำเป็นหรอกนะ ผมอยู่ฝ่ายยุติธรรมน่ะ”

“…….”

“แต่ไอ้หมอนั่นมันเป็นวายร้ายตัวแสบ ทำลายความสงบสุขของจักรวาลตามใจตัวเอง ไม่แน่ อาจจะมีหลายมิติที่วุ่นวายเพราะไอ้หมอนั่นก็ได้ น่ากลัวจริง ๆ แล้วพี่สาวล่ะ คิดว่าไง? ผมควรจะไว้ชีวิตพี่สาวหรือฆ่าทิ้งดี?”

เธอจับรูปปั้นม้าทหารบนสมาร์ทโฟนแน่น

และจ้องมองเด็กชาย

‘ฉันไม่กลัว’

เหมือนกับที่ฮีโร่ของเธอเป็น

เธอจะไม่ถอยและจะสู้เท่านั้น

“……น่าเบื่อจริง”

เด็กชายดับบุหรี่ อาจเป็นเพราะปฏิกิริยาของเธอไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง

“เอาเถอะๆ เดี๋ยวจะบอกอะไรให้ฟังอย่างนึงเพื่อรักษาหน้าพี่สาวก็แล้วกัน ผมชื่อ……ไนอัล เอาล่ะ แค่นี้แหละสำหรับการแนะนำตัว ไม่ต้องกังวลไปหรอก เร็ว ๆ นี้เราจะได้เจอกันอีก”

เจอกันอีกเหรอ?

ก่อนที่เธอจะตอบ เด็กชายก็ดีดนิ้วพร้อมกับยิ้ม

ปิ้ง!

"....!"

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง

รถไฟมันเริ่มสั่นสะเทือน

ครืนๆ

นี่ไม่ใช่เสียงสั่นของรถไฟใต้ดิน

เก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่กำลังสั่น

เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ทำไม่ได้

แต่เก้าอี้กลับสั่นอย่างรุนแรง

“อะไรวะ น่ารำคาญจริง ทำให้เงียบหน่อยสิ!”

".....นี้!"

“เฮ้อ ทำอะไรไม่ได้เลย”

ชายสวมหน้ากากเดินเข้ามาแล้วมัดเธอให้แน่นขึ้น

ปากของเธอถูกปิดด้วยเทปกาวหลายชั้น

เธอมองไปรอบ ๆ

ตอนนี้เธออยู่ในอาคารร้าง

ลมพัดผ่านช่องว่างของกำแพงที่พังทลาย

มีกลุ่มคนที่ดูเป็นอันธพาลยืนอยู่ข้างหน้า

‘นี่ เธอโดนลักพาตัวงั้นเหรอ?’

ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด