บทที่ 152 มีคนติดตามเราอยู่
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 152 มีคนติดตามเราอยู่
ไม่นาน กู่เฉินหนานก็ขับรถออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู่โดยมี โฮชิโนะ คันนอนนั่งอยู่ข้าง ๆ
ตามที่ตกลงกันไว้ กู่เฉินหนานจะต้องไปเดทกับโฮชิโนะ คันนอน
อย่างไรก็ตาม กู่เฉินหนานรู้สึกเฉย ๆ กับเรื่องนี้
พวกเขานอนด้วยกันแล้ว เห็นและทำทุกอย่างแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะไปเดทหรือไม่ก็ไม่สำคัญเท่าไหร่
แต่ โฮชิโนะ คันนอนไม่ยอมปล่อยผ่าน เธอให้ความสำคัญกับเดทครั้งนี้มาก
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่สาว ๆ เรียกว่าความรู้สึกทางพิธีการก็ได้
"ไปไหนดี? สวนสนุก? ม้าหมุนกับชิงช้าสวรรค์อีกแล้วเหรอ?"
ในรถกู่เฉินหนานถามพลางหมุนพวงมาลัย
"เอ่อ ไปสวนสนุกก่อน แล้วค่อยไปโลกใต้น้ำ!" โฮชิโนะ คันนอนพูดอย่างตื่นเต้น
"ตกลง" กู่เฉินหนานพยักหน้า ก่อนจะเหยียบคันเร่งและขับรถออกไป
แต่ในขณะนั้น กลุ่มชายหนุ่มหลายคนก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ใกล้กับคฤหาสน์ตระกูลกู่
"ในที่สุด พวกมันก็เผยจุดอ่อนออกมา!"
"เร็ว รีบรายงานท่านอาจารย์ ครั้งนี้เราต้องล้างแค้นให้พี่ชายปู้ฟาน!"
ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น พวกเขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลี่รู่เฟิง
"ท่านอาจารย์ กู่เฉินหนานออกจากคฤหาสน์ไปแล้วครับ!"
"ใช่ ถูกต้อง ครั้งนี้เขาไม่ได้มากับพวกบอดี้การ์ด มีแค่เด็กสาวสวยคนหนึ่งเท่านั้น"
"เข้าใจแล้ว!"
หลังจากวางสาย ศิษย์คนหนึ่งก็ยิ้มเยาะ ยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและพูดว่า "พวกเราไปตามกู่เฉินหนานก่อน ท่านอาจารย์จะมาถึงในไม่ช้า ขึ้นรถ!"
"ครับ!"
...
ณ สวนสนุก
กู่เฉินหนานจอดรถและซื้อขนมสายไหมก้อนโตก่อนจะเดินไปหาโฮชิโนะ คันนอน
"นี่"
"ฉันไม่ได้บอกให้คุณซื้อสักหน่อย"
"เธอไม่ได้บอกเหรอว่าครั้งหน้าที่เราไปเดท เธอยังอยากจะแบ่งขนมสายไหมกับฉันอีก? ลืมแล้วเหรอ?"
กู่เฉินหนานยิ้ม
โฮชิโนะ คันนอนตกตะลึง แก้มของเธอแดงระเรื่อและดวงตาของเธอหรี่ลง "ฉัน... จำได้"
"เขินเหรอ?"
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าคำพูดของ โฮชิโนะ คันนอนจะฟังดูเกินจริงแค่ไหน เธอก็ไม่เคยหน้าแดงหรือรู้สึกประหม่า แต่ตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็ทำตัวเหมือนเด็กสาวขี้อายเป็นบางครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง รอยแดงที่แผ่กระจายไปทั่วสันจมูกของเธอดูสวยงามเป็นพิเศษ
มันทำให้กู่เฉินหนานอยากจะแกล้งเธอ
"แน่นอนว่าไม่" โฮชิโนะ คันนอนเงยหน้าขึ้นอย่างดื้อรั้นและแสร้งงอนเหมือนเด็ก
"ไม่เขิน แล้วทำไมหน้าแดง?"
โฮชิโนะ คันนอนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบหันหน้าหนี "มัน... ไม่ได้แดง"
"ให้ฉันดูหน่อย!" กู่เฉินหนานหรี่ตาลงอย่างขี้เล่น
"ไม่!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"
กู่เฉินหนานหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะลดเสียงลงและแกล้งแหย่ "ใครจะไปคิดว่าหนึ่งใน 'สิบสองนกฮูก' จะหน้าแดงแบบนี้"
โฮชิโนะ คันนอนจ้องมอง กู่เฉินหนาน" เมื่อคืนนายก็เห็นทุกอย่างแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"เมื่อคืนก็คือเมื่อคืน วันนี้ก็คือวันนี้ มันต่างกัน นอกจากนี้ เมื่อคืนมันมืด ฉันมัวแต่มองที่อื่นจนไม่มีเวลามาสังเกตหน้าเธอหรอก"
ปัง!
เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อกำปั้นของ โฮชิโนะ คันนอนกระแทกเข้าที่หน้าท้องของกู่เฉินหนาน
"โอ๊ย จะฆ่าผัวหรือไง ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นมันสำคัญกับพวกผู้ชายแค่ไหน"
โฮชิโนะ คันนอน พูดอย่างช่วยไม่ได้ "ฉันหมายถึงตอนที่คุณล้างหน้าเมื่อคืนต่างหาก!"
"โอ๊ะ โอ๋ ขอโทษที" กู่เฉินหนานหัวเราะแก้เก้อ "ไปกันเถอะ วันนี้เธออยากทำอะไร"
โฮชิโนะ คันนอน กัดสายไหมเข้าปากหนึ่งคำ แล้วก็ยื่นไปตรงหน้ากู่เฉินหนาน "ทำทุกอย่างเลย!"
[แย่แล้ว!]
หน้าผากของกู่เฉินหนาน ขมวดเป็นปม
[เธอจะเล่นแบบนี้อีกแล้วเหรอ คราวที่แล้วขึ้นรถไฟเหาะ ฉันเกือบจะอ้วกออกมาเป็นถุงน้ำดีอยู่แล้ว!]
ได้ยินความคิดของกู่เฉินหนาน โฮชิโนะ คันนอน ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดเสริม "วันนี้เราจะขึ้นรถไฟเหาะสามรอบ!"
[เธอจะฆ่าฉันหรือไงเนี่ย?!]
ดวงตาของกู่เฉินหนานเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
...
ด้านนอกสวนสนุก
หลี่หรูเฟิงและลูกน้องของเขาจ้องมองกู่เฉินหนานที่กำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่ไกล ๆ ด้วยความตกตะลึง
"กู่เฉินหนานพาผู้หญิงไปนั่งรถไฟเหาะทำบ้าอะไรของเขาวะ?"
"นี่เป็นรอบที่สามแล้วนะ เขาจะขึ้นไปบรรลุธรรมบนนั้นหรือไง?"
"อาจารย์ แล้วเราจะลงมือเมื่อไหร่ดีครับ?"
หลี่หรูเฟิงละสายตาออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"สมัยก่อนฉันก็เป็นคนมีความสามารถนะ พาสาวสวยไปเที่ยวเล่นบ่อย ๆ "
"แต่ตอนนี้..."
"ฉันอิจฉาเขาจริง ๆ !" หลี่หรูเฟิงพึมพำออกมาโดยไม่ตั้งใจ
"อา... อาจารย์ครับ?"
เหล่าศิษย์กระพริบตาด้วยความสับสน
เมื่อรู้สึกถึงสายตาของพวกเขา หลี่หรูเฟิงก็ได้สติกลับคืนมาทันที
"เอ่อ! กู่เฉินหนานเจ้าสำราญนี่ล่อลวงหญิงสาวผู้บริสุทธิ์อีกคนแล้ว พฤติกรรมไร้ศีลธรรมของเขายิ่งกว่าเดรัจฉาน!"
เหล่าศิษย์มองหน้ากันด้วยความรู้สึกอึดอัด "อาจารย์ พวกเรากำลังถามว่าเราควรจะลงมือเมื่อไหร่..."
"อ้อ ใช่..."
หลี่หรูเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "รออีกหน่อย รอบๆ นี้มีคนเยอะเกินไป ถ้าเราลงมือตอนนี้ จะทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วเมือง"
เขาเสริมว่า "วันนี้อาจจะไม่ได้ลงมือ พวกเรามาที่นี่แค่เพื่อทวงความยุติธรรม เข้าใจไหม?!"
"ครับ อาจารย์!"
สิ่งที่หลี่หรูเฟิงคิดนั้นเรียบง่าย วันนี้เขาพาลูกศิษย์มาเพื่อทวงความยุติธรรมจากกู่เฉินหนาน ไม่ว่ากู่เฉินหนานจะขอโทษหรือจ่ายค่าชดเชยก็ได้
ตราบใดที่เขาได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ชื่อเสียงของหลี่หรูเฟิงในซูหังก็จะได้รับการกอบกู้
กลุ่มคนซ่อนตัวอยู่หลังเสาในลานจอดรถหมอบอยู่ข้างถนนเหมือนพวกสตอล์กเกอร์ จับตาดูกู่เฉินหนานในสวนสนุกอย่างใกล้ชิด
เอี๊ยด!
รถไฟเหาะหยุด
กู่เฉินหนานลงจากรถทันทีและนั่งยอง ๆ อยู่ข้างถนน "อุ้ก... อุ้ก... อุ้ก..."
โฮชิโนะ คันนอน ยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง เดินเข้าไปหากู่เฉินหนาน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสัญชาตญาณของนักฆ่ามืออาชีพ เธอสัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องพวกเขาอยู่
"มีคนสะกดรอยตามเรา" เธอยื่นทิชชู่ให้กู่เฉินหนาน
กู่เฉินหนานเช็ดปาก ล้างปากด้วยน้ำแร่ แล้วถามว่า "กี่คน?"
โฮชิโนะ คันนอน มองไปรอบ ๆ "สิบเอ็ดคน"
"สิบเอ็ด..." กู่เฉินหนานทวนคำ กำลังจะหันไปมอง แต่โฮชิโนะ คันนอนก็เอื้อมมือไปจับหน้าเขาให้หันกลับมาหาเธอทันที
"อย่ามอง พวกนั้นกำลังจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเรา"
ปกติกู่เฉินหนานไม่เคยระมัดระวังตัวขนาดนี้ ด้วยนิสัยของเขา เขาคงจะเดินตรงไปถามพวกนั้นว่าต้องการอะไร
แต่ในฐานะนักฆ่ามืออาชีพ โฮชิโนะ คันนอนกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
"เธออยากทำอะไร?" กู่เฉินหนานเลิกคิ้วถาม
โฮชิโนะ คันนอนแสร้งทำเป็นมองไปทางถนน ยืนยันจำนวนอีกครั้ง "ไม่มีอะไรหรอก เรามาดูกันว่าพวกนั้นต้องการอะไร"
กู่เฉินหนานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "โอเค ฉันจะทำตามที่เธอว่า"
"ไปนั่งม้าหมุนกันเถอะ" โฮชิโนะ คันนอนกลับมาเป็นปกติทันที โอบแขนกู่เฉินหนานแล้วชี้นิ้วไปที่ม้าหมุนใกล้ ๆ ที่กำลังส่งเสียงเพลงหวาน พร้อมกับส่งกลิ่นอายความเป็นสาวน้อยแสนหวานออกมา
"เอ่อ..."
ริมฝีปากของกู่เฉินหนานกระตุก "เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ?"
"ไม่ได้ คุณต้องไปกับฉัน" โฮชิโนะ คันนอน ส่ายแขนกู่เฉินหนานและส่งเสียงคราง
"โอเค โอเค ฉันจะไปก็ได้"
กู่เฉินหนานยืดอก ทำสีหน้ายอมจำนนขณะที่เดินไปทางม้าหมุนที่กำลังบรรเลงเพลงหวาน