ตอนที่แล้วตอนที่ 348 ความคิดที่ยังไม่บรรลุ แต่เริ่มสุกงอมขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 350 คนเดียวคือ ตระกูลที่ร่ำรวย และทรงอิทธิพล

ตอนที่ 349 เพิ่มผู้ติดตามอีกสองสามร้อยคน?


เย่เฉิน แค่พูดถามอย่างหยั่งเชิงไปตามมารยาทเท่านั้น

แต่ในใจเขาไม่ค่อยอยากจะเจอสถานการณ์ผู้หญิง 3 คนรวมตัวเป็นละครโรงใหญ่เหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว

“ตกลง”

อย่างไรก็ตาม พอ เย่เฉิน พูดจบ จ้าว ซูซวน ก็ตอบตกลงทันที

เนื่องจากครั้งนี้ไม่ใช่แค่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ที่ออกมาเที่ยวเล่น ยังมี ซู หลิงเอ๋อร์ อีกคนหนึ่งด้วย

ดังนั้นเพิ่มเธอเข้าไปอีกคนก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร

“ผมจะจองตั๋วเครื่องบินให้ ชั้นหนึ่งนะ”

เมื่อพี่สาวตอบตกลง เย่เฉิน ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวอย่างกระตือรือร้น

“นี่แหละถึงจะสมกับเป็นน้องชายที่ดีของฉัน”

จ้าว ซูซวน พูดเสริม

หลังจากวางสาย เย่เฉิน ก็จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวเช้าของวันพรุ่งนี้ให้ จ้าว ซูซวน แล้วส่งข้อความบอกเธอ

หลังจากนั้นเขาก็พบว่ามีข้อความแจ้งเตือนจากเกมเข้ามา

เย่เฉิน รีบเปิดเกมขึ้นมาดู

[ติ๊ง]

[ภารกิจท้าทาย : เชิญ จ้าว ซูซวน มาเที่ยวซูเฉิงด้วยกัน พร้อมกับเผชิญหน้า และรับมือกับสถานการณ์ผู้หญิง 3 คนรวมตัวเป็นละครโรงใหญ่อีกครั้ง]

[รางวัลภารกิจ : หุ้น 15% ของบริษัท Patek Philippe]

เย่เฉิน ตะลึงเมื่อเห็นเนื้อหาของเกม ใบหน้าของเขาพลันเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน

เกมนี้ช่างเข้าใจผู้เล่นเสียจริงๆ

ดูเหมือนว่าภารกิจท้าทายจะเปิดขึ้นตอนที่พี่สาวของเขาโทรมาหาเขา

ถ้าไม่มองที่รางวัล ความท้าทายนี้ก็ยากพอสมควร

แต่หุ้น 15% ของบริษัท Patek Philippe ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 พันล้านหยวนนั้น มัน..ช่างยั่วยวนใจจริงๆ

เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นนี้ ภารกิจนี้ดูจะไม่ยากเลย ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ

และการเชิญพี่สาวมาร่วมทริปด้วยดูเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ

เพียงแค่การตัดสินใจนี้ ทำให้ เย่เฉิน ได้รับมูลค่ากว่า 3 พันล้านหยวนมาได้อย่างง่ายดาย

พี่สาวคนนี้ของเขาช่างเป็นคนดีมากจริงๆ!

หากไม่ใช่เพราะเธอโทรมา ภารกิจนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน เคยได้รับหุ้นบางส่วนของ Patek Philippe ผ่านทางภารกิจ และร้านค้าภายในเกมมาบ้างแล้ว

หากเพิ่ม 15% นี้เข้าไป เย่เฉิน จะถือหุ้นของ Patek Philippe ประมาณ 40% กว่าๆ แล้ว

ถ้าเขาได้หุ้นเพิ่มอีกหน่อย แล้วใช้ [การ์ดบังคับซื้อมูลค่าหมื่นล้านหยวน] ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้เป็นเจ้าของ Patek Philippe เต็มตัว

และกลายเป็นผู้ควบคุมแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกอย่างแท้จริง

เมื่อนั้น Patek Philippe ก็จะกลายเป็นของตระกูล ‘เย่’

คุณลองนึกภาพการเป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกเช่นนี้ ความรู้สึกนั้นคงจะยอดเยี่ยมมากๆ

เครือข่ายความสัมพันธ์ของ เย่เฉิน ก็คงจะขยายตัวอย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน

เย่เฉิน เริ่มรู้สึกตื่นเต้น และตั้งตารอคอยวันนั้นอย่างมากแล้ว

หลังจากเที่ยวเล่นสนุกกันมาทั้งบ่าย ตอนเย็น เย่เฉิน และทั้งสองสาวก็กลับบ้าน

เช้าวันต่อมา ทั้งสามคนไม่ได้รีบออกไปไหน พวกเขารอการมาถึงของ จ้าว ซูซวน

เมื่อเกือบถึงเวลา เย่เฉิน ก็ขับรถ Rolls-Royce Cullinan ของเขาตรงยังไปสนามบินเพื่อรับเธอ

ประมาณ 20 นาทีต่อมา จ้าว ซูซวน ที่ลากกระเป๋าใบใหญ่เดินออกมาจากสนามบิน

หลังจากเธอเห็น เย่เฉิน แล้วจึงรีบเดินตรงไปหาเขา

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เฉิน และจ้าว ซูซวน ก็กลับมาถึง ‘เย่เยวียน’

ทันทีที่พบกับ ซู หนิงซวง จ้าว ซูซวน รีบพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า :

“หนิงซวง หลิงเอ๋อร์ เมื่อเร็วๆ นี้ฉันเพิ่งไปเจอรองพื้นขวดหนึ่งมา ใช้ดีมากๆ เลย”

“จริงเหรอ ยี่ห้ออะไรน่ะ?”

พอได้ยินเรื่องเครื่องสำอาง ซู หลิงเอ๋อร์ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ซู หนิงซวง เองก็ตาลุกวาวเช่นกัน

หลังจากนั้นไม่นานนัก ทั้งสามสาวก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเมามันเกี่ยวกับเรื่องเครื่องสำอาง

เย่เฉิน ที่รู้สึกคอแห้งก็เข้าไปหาเครื่องดื่มในครัว

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เขาดื่มน้ำเสร็จ และเดินออกมา เขาก็ต้องยืนงงมองสาวๆ ทั้งสามที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไปด้วยความรู้สึกสับสน ..ทันที

นี่มัน...รวดเร็วจริงๆ

สมแล้วที่เป็นรางวัลภารกิจที่มีมูลค่ากว่า 3 พันล้าน มันไม่ได้ได้มาง่ายๆ อย่างที่คิด

และมันยังคงมีความท้าทายเล็กน้อยอยู่

เย่เฉิน เลือกที่จะเมินเฉยต่อการสนทนาของทั้งสามสาว แม้ว่าเขาจะมีความรู้ในหลายๆ เรื่อง แต่เรื่องเครื่องสำอางนี่เขาไม่มีความรู้อะไรเลยจริงๆ

“ไปกันเถอะ”

เย่เฉิน พูดขัดจังหวะการสนทนาของพวกเธอ

ไม่นานนัก ทั้งสี่คนก็ออกเดินทาง

หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงกว่าๆ พวกเขาเดินผ่านนักร้องสาวคนหนึ่งที่ร้องเพลงอยู่กลางแจ้ง

เธอเพิ่งร้องจบไปหนึ่งเพลง และกำลังเตรียมที่จะหยุดพัก

“พี่สาว พวกเราขอร้องสักเพลงได้ไหมคะ?”

จ้าว ซูซวน ถามขึ้นทันที

“ได้สิคะ”

นักร้องสาวยื่นไมโครโฟนให้กับ จ้าว ซูซวน

“ขอบคุณค่ะ”

จ้าว ซูซวนรับไมโครโฟนแล้วกล่าวขอบคุณ

เธอไม่ได้ร้องเพลงมานานแล้ว เลยอยากจะโชว์เสียงสักหน่อย

หลังจาก จ้าว ซูซวน ร้องเพลงไปหนึ่งเพลง ซู หนิงซวง และซู หลิงเอ๋อร์ ก็ผลัดกันร้องคนละเพลงด้วย

“พี่เขย ร้องบ้างสิ?”

หลังจาก ซู หลิงเอ๋อร์ ร้องจบ เธอยื่นไมโครโฟนให้กับ เย่เฉิน

“ได้”

ในเมื่อทั้งสามสาวร้องไปแล้ว เย่เฉิน ก็ไม่อาจปฏิเสธได้

“อืม... งั้นขอร้องเพลง ‘ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว’ ละกัน” (孤勇者 (Lonely Warrior))

เย่เฉิน คิดอยู่สักพักก่อนจะเลือกเพลงนี้

‘ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว’ เป็นเพลงประกอบธีมจีนจากแอนิเมชันซีรีส์ Arcane ที่ดัดแปลงมาจากเกม League of Legends เขาเพิ่งฟังเพลงนี้เมื่อไม่นานมานี้ และค่อนข้างชอบ เลยฟังมันอยู่หลายครั้ง

ด้วยความสามารถของ ‘ฉายาอัจฉริยะด้านการเรียนรู้’ ที่เขาเพิ่งได้รับมาก่อนหน้านี้ เย่เฉิน สามารถจดจำเนื้อเพลงได้หลังจากฟังมันไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ไม่นานนัก เสียงดนตรีก็ดังขึ้น

ขณะที่ เย่เฉิน กำลังเตรียมร้องเพลง ซู หลิงเอ๋อร์ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เกิดไอเดียขึ้นมาทันที

เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าช่อง B(Bilibili) ของเธอไม่ได้อัปเดตมานานแล้ว

เธอเป็นถึงอินฟลูเอนเซอร์ตัวยงที่มีเหล่าแฟนๆ ผู้ติดตามอยู่หลายร้อยคนเลยนะ

เธอรู้ดีว่าพี่เขยของเธอร้องเพลงเพราะมาก

ถ้าเธอถ่ายวิดีโอพี่เขยร้องเพลงแล้วอัปโหลดลงไป อาจจะเพิ่มผู้ติดตามได้สักสองสามร้อยคนเลยก็ได้?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด