บรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 13 [18+]
บรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 13 [18+]
เสี่ยวฟางอธิบายแผนการขายเรือนร่างของเขาให้กับสตรี แต่บอกนางว่าจะต้องดำเนินการในทางลับ
“นั่นไม่ใช่ขายตัวหรือไร? ข้าไม่เคยเจอบุรุษที่น่ารังเกียจอย่างเจ้ามาก่อนเลย เจ้าคิดว่าใครจะอยากทำแบบนั้นกับเจ้ากัน” ตั้งแต่ที่นางเรียนรู้การช่วยตัวเอง นางไม่จำเป็นต้องรอให้เสี่ยวฟางมาหลับนอนด้วยอีกต่อไป แต่ลึกๆแล้ว นางก็ยังเพลิดเพลินกับความทรงจำเหล่านั้น ยามที่ร่างกายของพวกเขาเชื่อมผสานกัน
เสี่ยวฟางเอามือลูบไล้บริเวณจุดอ่อนไหวของนาง และลูบส่วนล่างของนาง เมื่อเห็นเช่นนี้ นางจึงรีบหุบขาทั้งสองข้างเพื่อพยายามไม่ให้มือของเขาสัมผัสกับจุดเร้นลับนั้น แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว สิ่งที่นางทำอยู่กลับทำให้มือเลื่อนลงมามือของเขาเขี่ยเม็ดไข่มุกน้อยๆที่อยู่ใต้กางเกงชั้นในผืนบางของนาง
"อื้ม~" นางครางโดยใช้มือปิดปากไม่ให้ดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆ
“เสี่ยวฟาง หยุดนะ ไม่เอาในชั้นเรียน” นางอ้อนวอน
เสี่ยวฟางหยุดมือของเขา แต่ขาของนางกลับไม่อ้าออก ราวกับว่าร่างกายของนางกำลังบอกใบ้ให้เขารุดหน้าต่อ ทว่าสุดท้ายเขาก็ชักมือของเขากลับมา
“ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม? ซุนเว่ย อย่าลืมศิษย์ที่ข้าฝึกฝนด้วยในวันนี้ ค้นหาพวกนาง แล้วบอกพวกนางว่าเจ้าสามารถลอบนัดเวลากับข้าได้ แต่จะต้องเสียแต้มผลงาน 15 แต้ม”
“นั่นเทียบเท่ากับภารกิจระดับกลาง ที่อาจต้องใช้เวลาทั้งวันจึงจะหาได้” นางกล่าว
“ข้ารู้ ทุกหนึ่งคนที่เจ้าหามาให้ข้า ข้าจะให้แต้มผลงาน 3 แต้มเป็นการตอบแทน”
“ข้าปฏิเสธ” นางตอบทันที
“แล้ว 5 ล่ะ” นางไม่มีรายได้ใด เพราะนางไม่ได้ทำภารกิจใดๆ เลยจนถึงตอนนี้ ดังนั้นข้อเสนอนี้จึงทำให้นางเกิดความหวั่นไหว
“ข้า—” นางเริ่มคิดคำนวณ
"ลองคิดดูว่าถ้าเจ้าหาสตรีมาให้ข้าได้ 20 คนต่อวัน นั่นเท่ากับว่าเจ้าจะได้แต้มผลงาน 100 แต้มต่อวัน"
นางไม่ได้ยึดติดเรื่องแต้มผลงานเหมือนคนส่วนใหญ่ แต่ความคิดที่ว่านางจะสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่นางต้องการทำให้นางเริ่มวาดฝัน แม้ว่าจะไม่แสดงมันออกมาทางสีหน้าก็ตาม
“ข้าอยากให้เจ้าสัญญากับข้าอย่างหนึ่งด้วย ทุกครั้งที่เจ้าฝึกฝนกับศิษย์พี่ชุนฮัวของข้า ข้าก็อยากให้เจ้าทำมันกับข้าด้วย นี่เป็นเงื่อนไขที่ข้าสามารถขอได้ทุกเมื่อ” นางกล่าวโดยไม่กล้ามองเขา เพราะกลัวว่าเขาจะมองออกว่านางรู้สึกประหม่าและเขินอายปานใด
“ตกลง” เขารับปากก่อนที่นางจะตั้งเงื่อนไขอื่นอีก
“ที่นี่มีสตรีอย่างน้อย 10 คนที่ข้าฝึกฝนด้วย ถ้าพวกนางตกลงราคาได้ก็นัดเวลาและสถานที่ตั้งแต่พรุ่งนี้ได้เลย” เมื่อเสี่ยวฟางลุกขึ้นยืน ศิษย์หลายคนรู้สึกว่าหัวใจของพวกนางเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดว่าเขายังคงไม่หายอยาก แต่พวกนางก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเขาจากไปคนเดียว
..................
..................
..................
ที่สนามหลังบ้านของหลี่เหลียน หลังจากฝึกฝนพลังหยินทั้งหมดที่เขาได้รับมาในวันนั้น เขาก็เริ่มฝึกฝนวิชากระบี่เทวะของเขา: 'ตัดเหล็ก'
โดยการฝึกฝนทักษะกระบี่เทวะ เท่ากับว่าเขาได้ฝึกฝนร่างกาย และด้วยการบ่มเพาะพลังหยินในร่างกาย ก็เท่ากับบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาด้วย
ในที่สุดกลางคืนก็มาถึง เขายังคงฝึกซ้อมจนกระทั่งพบเห็นร่างคุ้นเคยกำลังกลับบ้านหลังจากทำภารกิจ
“หลี่เหลียน!” เขาคิดในใจขณะรีบวิ่งไปที่ประตูเหมือนสุนัขที่กำลังรอคอยเจ้าของ แม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้เห็นนาง แต่ดูเหมือนว่านางจะอารมณ์เสีย
“เสี่ยวฟาง ทำไมข้าถึงได้ยินว่าเจ้าไปยุ่งกับสตรีอื่น เจ้าอยากตายใช่ไหม?!” เสียงอันนุ่มนวลของนางค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งนางตวาดออกมาในที่สุด
"อ๋อ เจ้าได้ยินแล้วหรือ ข้าแค่กำลังฝึกฝนกับพวกนางเท่านั้น"
“แค่ฝึกฝนเหรอ? แค่ฝึกฝนงั้นเหรอ?!!!!” นางตวาดด้วยความโกรธ นางกระโจนเข้าหาเสี่ยวฟางและเริ่มตบตีเขาไปทั่ว
"เจ้ามันไร้ยางอายจริงๆ ข้าเกลียดเจ้า ข้าเกลียดเจ้า เจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าก็กำลังฝึกฝนกับข้าด้วยงั้นสินะ?!"
"ไม่ ไม่ใช่ โอ๊ย! หยุด หยุดตีข้าเถอะ เจ้าแตกต่าง เจ้าแตกต่าง โอ๊ย!"
"ถ้าข้าแตกต่างก็เลิกยุ่งกับสตรีอื่นซะ!"
“ถ้าทำอย่างนั้นแล้วข้าจะบ่มเพาะจนเข้าสำนักในได้อย่างไร?”
“ข้าจะหาเคล็ดวิชาอื่นให้เจ้า” นางตอบแทบจะทันที
“ข้าขอปฏิเสธ มารดาของข้ามอบวิธีการบำเพ็ญคู่นี้ให้กับข้าด้วยความหวังดี ข้าไม่อาจทรยศความหวังดีนั้นได้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูชอบธรรม ราวกับว่าเขาเพียงแค่ทำตามหน้าที่ด้วยความกตัญญูกตเวที
แต่นางไม่เชื่อแม้แต่น้อย นางตีเขาไม่ยั้งด้วยดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
เสี่ยวฟางจงใจปล่อยให้ตัวเองโดนตบและกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง หลี่เหลียนหยุดร้องไห้แล้วก้มมองมือของนาง ราวกับกำลังตกตะลึงว่านางไปเอาเรี่ยวแรงมากเพียงนี้มาจากที่ใด
เสี่ยวฟางแสดงท่าทางดราม่าอย่างหน้าด้านๆ เขาลุกขึ้นเดินกะเผลกไปที่ประตูก่อนเบนหน้ามองข้ามไหล่ของเขากลับมาด้วยท่าทางน่าสงสาร เขาดูคล้ายกับคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่าทางของเขาดูน่าเวทนายิ่ง ทว่านางเพียงแค่นเสียงเบาๆก่อนจะกระแทกประตูปิดใส่หน้าเขา เขานั่งลงข้างถนน และมองไปทางบ้านของนาง นางมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าเผยความสะใจ จากนั้นจึงปิดม่านอย่างแรง
เสี่ยวฟางเอนตัวลงนอนบนพื้นหญ้านอกบ้านของนาง สายตาทอดมองท้องฟ้ายามค่ำคืน
"มีคนบอกว่าถ้าเล่นกับสตรีมากกว่า 1 คน ไฟจะไหม้สวนหลังบ้าน ดีที่ข้าเป็นคนไร้บ้าน อุวะฮ่าๆ" เขาหัวเราะกับมุกตลกแย่ๆของตัวเอง
"ไม่รู้ว่านางจะเจอผ้าปิดตาของข้าหรือยัง? อากาศเริ่มหนาวแล้ว"
-
-
-
ขณะเดียวกันภายในห้องของหลี่เหลียน นางพลิกตัว พลิกตัว และหมุนตัว แต่นางก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้ลง
“อ๊ากกกกก! เสี่ยวฟางทำให้ข้าโกรธมาก! ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนไร้บ้าน ข้าคงเผาบ้านเขาทิ้งทั้งหลังแน่!!”
นางเอาหัวซุกหมอนแล้วเตะเท้าอย่างโกรธเคืองเหมือนเด็กน้อยน่ารัก แม้จะโกรธเขาปานใด แต่ลึกๆแล้ว...นางรู้สึกแย่ที่ทำให้เขาต้องนอนตากลมข้างนอก นางลุกขึ้นเพื่อไปดูว่าเขาได้ไปที่บ้านของหญิงสาวคนอื่นที่เขาเล่นด้วยหรือเปล่า เมื่อนางเห็นเขานอนตัวสั่นอยู่บนสนามหญ้าของนาง หัวใจของนางก็ดิ่งวูบ แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น "สมน้ำหน้า หวังว่าเขาจะหิวจนตาย พอกลายเป็นผีแล้วก็หิวตายต่อไป ฮึ่ม! ดูซิว่าข้าจะสนใจไหม"
นางทิ้งตัวลงบนเตียง ซุกหน้าลงในหมอน และเริ่มเตะขาอีกครั้งในขณะที่นางเริ่มร้องไห้
เสี่ยวฟางสามารถมองเห็นได้แม้กำลังหลับตา ดังนั้นเมื่อเขาทราบว่านางกำลังมองดูอยู่ เขาก็เริ่มสั่นสะท้านเพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“บ้าจริง ทำไมนางเย็นชาจัง ข้าไม่เชื่อเลยว่ามันจะไม่ได้ผล ข้าต้องพัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดีขึ้นอีกสักหน่อยแล้ว” เขาคิด
ตัดกลับมาที่ห้องของหลี่เหลียน นางมองผ้าปิดตาที่อยู่ในมือของนาง
“ทำไมเขาถึงมอบสิ่งนี้ให้ข้า” นางคิด นางไม่แน่ใจว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่ว่ามันถูกวางอยู่ใต้หมอนของนาง
“บางทีข้าอาจจะเข้มงวดกับเขาเกินไป” นางลุกขึ้นเพื่อดูว่าเขายังอยู่ที่นั่นหรือไม่ แต่สิ่งที่นางเห็นทำเอาหัวใจนางหล่นวูบ
“เสี่ยวฟาง ไม่นะ!!” นางวิ่งไปที่ประตูเพื่อจะออกไปข้างนอก
เสี่ยวฟางถือมีดสั้นไว้ในมือ คล้ายว่าเขากำลังเตรียมจะฆ่าตัวตาย แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการแสดงที่เขาเริ่มทำเมื่อเขารู้ว่านางกำลังมองดูอยู่
“บ้าเอ๊ย บ้าเอ๊ย มันได้ผลดีกว่าที่คิดซะอีก” เขาคิด ในฐานะมือกระบี่ เขารู้ว่าต้องฟันตรงไหนเพื่อฆ่า และต้องฟันตรงไหนเพื่อสร้างความเสียหายดุจลายนิ้วมือของเขา เขาแทงมีดสั้นเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
ประตูบ้านของหลี่เหลียนเปิดออกทันทีที่เขาลงมือ เป็นเวลาเดียวกันกับที่เขาแทงมีดใส่ตัวเอง จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาจากตัวเขา นางเริ่มร้องไห้หนักขึ้น
นางหยิบยาเม็ดฟื้นฟูออกมาและใส่ปากของเขา หากแต่มีเลือดไหลออกมาเต็มปาก "เสี่ยวฟาง ไม่นะ! ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ เจ้าอย่าตายนะ" นางร้องไห้
“ห...เหลียนเอ๋อร์ ....เป็นเจ้าใช่ไหม” เขายื่นมือไปแตะใบหน้าของนาง
นางเอามือเขาแนบแก้มที่เปียกด้วยน้ำตาของนาง
“เจ้ายังงดงามเหมือนตอนที่ข้าได้เห็นครั้งแรกเลย” ในใจเสี่ยวฟางสบถด่าวาจาน้ำเน่านี้ พวกเขารู้จักกันยังไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ! อย่างไรก็ตาม หลี่เหลียนรู้สึกว่าคำพูดของเขากระแทกใจนางอย่างแรง
เขาทำให้ตัวเองร้องไห้ นางป้อนยาให้เขาอีกครั้ง
“หลี่เหลียน ข้าช่างไร้ประโยชน์จริงๆ แม้แต่ฆ่าตัวตายก็ยังทำไม่ได้ โลกนี้ช่างโหดร้ายนัก ที่บังคับให้ข้าเลือกระหว่างคนรักกับความหลงใหลในการบำเพ็ญ หากข้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ข้าก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีก”
“อย่าพูดแบบนั้นนะ ข้าให้อภัยเจ้า ข้าให้อภัยเจ้า ดังนั้นอย่าทำอะไรโง่ๆ เข้าใจไหม?”
“หนาวจัง” ศีรษะของเขาค่อยๆเอนไปข้างๆ ขณะที่ดวงตาของเขาปิดลง นางโอบกอดร่างของเขาไว้ราวกับว่าเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขา และร้องไห้ออกมาอย่างที่นางไม่เคยร้องมาก่อน
นางอุ้มเขาเข้าไปข้างในและวางเขาลงข้างเตาผิง เลือดที่ไหลนั้นหยุดไหลแล้ว และร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แต่นั่นเป็นเพราะร่างกายของเขามีระดับบ่มเพาะที่สูง เดิมทีนางคุกเข่าอยู่ข้างๆร่างที่กำลังพักฟื้นของเขาและดูแลเขา แต่สุดท้ายนางก็หลับไปโดยเอาหัวพิงไว้บนหน้าอกของเขา
เสี่ยวฟางรู้สึกว่าในที่สุดนางก็หลับไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นและอุ้มนางไปที่เตียง เขากอดนางแน่นเหมือนเช่นเคย โดยเอาหัวซุกเข้าไปในผมของนางที่มีกลิ่นหอมอันคุ้นเคยซึ่งเขาชอบ เขายิ้มอย่างมีความสุขขณะที่ค่อยๆผล็อยหลับไป
-
-
-
ในช่วงหลายวันต่อมา นางจะยังคงโจมตีเขาในตอนกลางคืนด้วยการตบตีไม่ยั้ง ทุกครั้งที่ได้ยินว่าเขาไปฝึกฝนกับสตรีอื่น แต่อย่างน้อยตอนนี้นางก็ไม่ได้ให้เขาออกไปนอนข้างนอกอีกแล้ว